มะลิไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Group Blog
 
 
สิงหาคม 2553
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
13 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add มะลิไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 

วันที่แปดเก้า เที่ยวบาหลีอีกวันก่อนกลับ

วันนี้มีนัดกับคนขับรถว่าจะไปเที่ยวสถานที่ที่เหลือกัน แต่ปรากฏว่าฝนตกตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่ยอมหยุดอีก แต่ก็ตกแค่ตกลงเม็ดเท่านั้น ตัดสินใจออกไปเที่ยวตามแผนที่วางไว้ เดินไปเจอคนขับรถที่เดิม คนขับรถบอกว่าเราตัดสินใจถูกแล้วที่ออกไปเที่ยวเพราะถ้าจะรอฝนหยุดตกคงไม่ได้ไปไหนกัน เพราะที่อูบุดฝนตก 90% แต่พอออกไปข้างนอกจะไม่มีฝน แล้วก็เป็นจริงอย่างที่เขาว่า เพราะพอเราไปแวะที่แรกคือวัดถ้ำช้าง ฝนก็เกือบหยุดแล้ว สามารถเดินเล่นได้โดยไม่ต้องกางร่มแล้ว ค่าตั๋วที่นี่ 15,000 ต่อคน ที่นี่นอกจากจะมีวัดให้ชมแล้ว ยังมีธรรมชาติที่สวยงาม สดชื่นด้วย ใช้เวลาที่นี่ประมาณ 45 นาที แล้วออกเดินทางต่อไปยังวัดกุนนุงกาวี ซึ่งคนขับรถบอกว่าเป็นวัดที่เขาชอบมากที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะไม่เหมือนวัดทั่ว ๆ ไป ค่าเข้าก็ 15,000 ต่อคน ที่นี่ต้องเดินขึ้นและลงเขา วัดก็จะเป็นลักษณะการเจาะถ้ำ และสกัดหินภูเขาเข้าไป ซึ่งก็เป็นจริงตามที่คนขับรถโฆษณา เพราะเป็นอีกที่ที่เรารู้สึกประทับใจมาก ๆ ทั้งวัด และบรรยากาศทั่ว ๆ ไปที่เป็นธรรมชาติมาก ๆ หลังจากนั้นก็เดินทางต่อไปยังวัดน้ำพุศักสิทธิ์ พอมาถึงที่นี่ก็เกือบบ่ายโมงแล้ว เราเลยตัดสินใจกินข้าวกลางวันที่ร้านอาหารหน้าวัดเสียเลย เพื่อตัดปัญหาเรื่องที่ต้องไปถูกบังคับให้กินบุฟเฟ่ต์ที่คินตามณี ตามที่รีวิวข้อมูลมา กลัวว่าจะต้องจ่ายเงินเยอะโดยไม่เต็มใจอีก ราคาอาหารที่ร้านนี้เป็นราคาปกติเหมือนที่กินทุวันที่อูบุด รสชาติก็อร่อยด้วย หลังจากนั้นจึงเดินชมวัด เป็นวัดที่ได้เห็นพิธีกรรม ความเชื่อของคนอินโดนีเซีย ที่มาทำเพื่อความเป็นสิริมงคลแต่ตนเองและครอบครัว การมาอาบน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ในบ่อเดียวกัน จะว่าไปถ้าไม่คิดอะไรมากน้ำก็ดูใสสะอาดดี แต่พอดีเราเห็นหลายคนบ้วนน้ำลายลงไปในบ่อ บางคนก็มีลักษณะขากเสมหะลงไปด้วย เห็นแล้วก็คิดว่าศรัทธามักอยู่เหนือเหตุผลเสมอ เราใช้เวลาอยู่ที่วัดนี้ประมาณชั่วโมงกว่า หลังจากนั้นต้องเดินทางต่อไปยังคินตามณี ซึ่งอยู่บนที่สูง มีวิวภูเขาไฟและทะเลสาบ โดยจะมีร้านอาหารที่สามารถมองเห็นวิวได้ขณะรับประทานอาหาร แต่เราไม่สนใจเพราะอิ่มแล้ว อีกอย่างวิวที่เราเห็นก็ไม่ได้สวยมาก คงเป็นเพราะเราได้เห็นวิวภูเขาไฟที่สวยกว่ามาแล้วจากเกาะชวา เราใช้เวลาเดินเล่น หาซื้อส้มกินเพราะที่นี่เป็นที่สูงอากาศหนาว และเห็นมีสวนส้มมากมาย ซึ่งส้มถุงละ 35 บาท คงประมาณกิโลกรัมกว่า ๆ รสชาติก็ใช้ได้ หลังจากนั้นเดินทางกลับลงมา ที่สุดท้ายที่จะแวะเที่ยวคือนาขั้นบันได ทาลาลาลัง ตอนแรกเรานึกภาพว่าคงเป็นท้องนาธรรมดาแล้วเราก็ไปเดินถ่ายรูป แต่พอไปถึงจึงรู้ว่าเค้าทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวมีร้านค้านั่งดูวิวท้องนา มีของที่ระลึกขายเยอะแยะเลย เราไปนั่งเล่นที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง บรรยากาศดีมาก ๆ ช่วงประมาณสี่โมงเย็น แดดไม่แรงมาก อากาศเย็นสบาย นั่งเล่นประมาณ 45 นาที ก็เดินทางกลับเข้าไปอูบุด วันนี้ถึงที่พักยังไม่มืด เลยมาเดินเล่นในเมืองและแวะตลาดท้องถิ่นอีกนิดหน่อย รับประทานอาหารแล้วเข้าที่พัก เตรียมเก็บของเดินทางกลับบ้านวันพรุ่งนี้ โดยรถเช่าเจ้าเดิม เขาบอกราคา 180,000 เราต่อเหลือ 160,000 แต่หากว่าเราจะนั่งรถ shuttle bus กลับก็ได้ ราคา 60,000 ต่อคน ออกเป็นเวลาเที่ยวแรก 8.00-8.30 น. ซึ่งที่แรกก็กะว่าจะนั่งเหมือนกัน แต่พอคุยกับคนขับรถแล้วก็ตัดสินใจเสียเงินมากหน่อย เช่ารถไปเลยดีกว่า เพราะไม่ต้องเร่งรีบอะไร แล้วก็เป็นการอุดหนุนคนขับรถด้วย
ตื่นเช้าก็เก็บของที่เหลือ รับประทานอาหาร แบบสบาย ๆ ไม่เร่งรีบอะไร ประมาณ 9 โมงเช้ารถเช่าก็มารับ ถึง โรงแรม แล้วยังต้องขับไปอีกไกลกว่าจะถึงสนามบิน ใช้เวลาร่วมชั่วโมงครึ่งทีเดียว ได้เวลาเดินทางกลับโดยสายการบินแอร์เอเชียเจ้าเดิมแล้วจ๊ะ อย่างลืมเตรียมเงินไว้จ่ายค่าภาษีสนามบินคนละ 300,000 นะ ส่วนใครยังพอมีเงินอินโดนีเซียเหลืออยู่ก็เอาไปใช้ซื้อของกินบนเครื่องบินได้อีก ลาก่อนชวาและบาหลี
































































 

Create Date : 13 สิงหาคม 2553
0 comments
Last Update : 13 สิงหาคม 2553 23:40:49 น.
Counter : 1340 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.