|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ที่สุดของการตามหารักแท้
คำพูดนี้ คิดว่า ใคร ๆ ก็คงพูดได้ และ รู้จักเอาไว้ปลอบใจคนอื่น
"จะทุกข์ จะสุข ก็อยู่ที่ใจของเรานั้นแหละ"
พูดง่ายนะคะ แต่จะให้ทำจริง ๆ สิ ยากเสียยิ่งกว่ายาก
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าถ้าเราสามารถควบคุมจิตใจตัวเองได้
เราก็แทบจะไม่ต้องทุกข์อะไรยาวนานเลย
ผู้ชายคนเดิม สิ่งรอบตัวเดิม ๆ แค่ใจที่เปลี่ยนไป ความสบายใจกลับผุดขึ้นมา
แบบที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนว่า เค้าก็คือเค้า เราก็คือเรา ไม่ได้เอาใจไปยึด
ว่าเค้าต้องเป็นของเราตลอดไป หรืออยากได้เค้าไว้ในครอบครองตลอดไป
ตาม กิเลส ของตัวเอง เพราะยังไง ๆ มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
แม้เค้าจะมาเป็นของเรา วันนึง เค้าก็ต้องเปลี่ยนไป วันนึง ไม่จากเป็น
เราก็ต้องจากตายกันอยู่แล้ว ... วันนึง เราก็ต้องร้องไห้เพราะเค้าอยู่ดี
จริงนะคะ ผลของความรัก ก็คือ ความไม่สบายใจ ที่จะตามมา
ทั้ง ๆ ที่ความรัก ให้ความชุ่มชื่นกับหัวใจ แล้วก็ ทำให้คน ๆ นึงยิ้มได้ทั้งวัน
แต่เมื่อเทียบกับความไม่สบายใจต่าง ๆ ที่จะตามมาแล้ว
ไม่ว่าจะเป็น ความกลัวที่เค้าจะเป็นของคนอื่น กลัวที่เค้าจะจากไป
ความระแวง ความคิดถึงที่ไม่เป็นตามที่ใจต้องการ ฯลฯ ความสุขอันน้อยนิด
ที่คนเรา ขวนขวาย อยากจะได้กันนั้น มันดูช่างน้อยนิดยิ่งนัก ...
การที่จะตัดต้นเหตุแห่งความทุกข์ไปเลย ไม่ใช่ว่าต้องห่าง ๆ กันไป
ไม่เจอกัน เพื่อให้ใจมันสบาย เพราะมันเหมือนกับ ก้อนหินทับหญ้า
ซึ่งวันนึง ถ้าลมพัดมา ก้อนหินน้อย ๆ นั้นก็ต้องปลิวไป
ขอแค่เพียง คิดได้ และ ทำใจได้ จริง ๆ ย้ำว่า จริง ๆ นะคะ
เลิกเอาก้อนหินมาทับหญ้า แต่ ตัดหญ้าทิ้งไปเลย แทน
ก็จะไม่เหลืออะไรให้ทุกข์ ให้ไม่สบายใจ อีกต่อไป ^ ^
เป็นปีเหมือนกันนะคะ ที่มัวแต่เอาก้อนหินมาทับหญ้าอยู่นั่น
จนเพิ่งไม่กี่วันมานี้เอง ที่ได้ไปอ่านประวัติ พระอานนท์ ที่มีผู้หญิงมาหลงรัก
แค่นั้นแหละ ค่ะ ทุกอย่าง จบเลย ... คิดได้ขึ้นมาทันที ...
และการคิดได้ครั้งนี้ ไม่เหมือนกับการคิดได้ครั้งที่ผ่าน ๆ มา
เพราะนี่ไม่ใช่การเอาก้อนหินมาทับหญ้าแล้วค่ะ
ไม่กลัวอีกต่อไป ว่ามันจะผุดขึ้นมาได้อีก เพราะเข้าถึงรากของมัน
และถอนมันขึ้นมาเรียบร้อย ,, หรือนี่คือ ความหมายที่แท้จริง ของ การตัดใจ
-----------------------------------------------------------------------------
ถ้าถามว่า อยากได้เค้ามา เพราะว่าอะไร ??
เมื่อก่อนอาจจะตอบรวม ๆ ว่า ... อยากได้เค้ามา เพราะเค้าเป็นเค้า
ชอบในทุก ๆ อย่างที่เป็นเค้า อยากได้คน ๆ นี้ โดยบอกไม่ถูกว่าอะไรกันแน่
แท้ที่จริงแล้ว คือ ความเห็นแก่ตัว บนคำปลอม ๆ ที่เราเรียกว่า ความรัก นั่นเอง
ไม่ได้คิดถึงปัจจัยภายนอกเลยว่า
เพราะอะไรเค้าถึงเป็นคนที่ขนาดว่าเราอยากครอบครองไว้
ชอบเค้าที่ตรงไหนกันแน่ หน้าตา นิสัย ??
(ทั้ง ๆ ที่ทั้งหน้าตา ทั้งนิสัย ทั้งความเป็นตัวเค้าทั้งหมดที่เราว่าชอบนั้น
เป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืน ไม่คงอยู่ตลอดไป และนำมาซึ่งความไม่สบายใจเป็นที่
สุดท้ายที่ใจเราจะไป ก็แค่นั้น)
หรือ สิ่งที่ทำลงไปนั้น มันจะขัดกับศีลธรรมรึป่าว
ขอเพียงว่า ขอความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นั้น ฉันก็พอใจ
แต่ถ้ามองดูจริง ๆ จะเห็นว่ามันเล็กน้อยซะจน ไม่คุ้มเลยกับการแลกนี้
แลกกับความไม่สบายใจต่าง ๆ นานาที่จะตามมาทั้งหมด
พระพุทธองค์บอกไว้ว่า ...
ถ้าละสะพานไม่ได้ ... ก็ต้องชักสะพานทิ้ง
นี่แหละมั้ง คือ ความหมายที่แท้จริง ที่ตัวเองเท่านั้นจะเข้าใจได้เอง
พระองค์ทรงเมตตาชี้ทางให้เดินแล้ว อยู่ที่เราจะเดินไปหรือไม่
จะเอาพระธรรมของพระพุทธองค์มาใช้เป็นตะเกียงเดินไปในที่มืดรึป่าว
หรือว่า จะลองผิดลองถูก ไปเอง โดยไม่สนใจ แผนที่ หรือแม้จะตะเกียง
ที่วางอยู่ตรงหน้านี้ ขอเพียงแต่ให้ฉันได้เดินด้วยตัวเอง
แล้วก็ปล่อยให้ตัวเองหลงทาง หลงป่า หลงชีวิต อยู่ต่อไป
ไม่จริงเลยค่ะ กับ คำว่า "อกหัก ดีกว่า รักไม่เป็น"
เพราะอกหักแต่ละที ไม่ได้คุ้มเลยกับความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ได้มา
คิดถึงทีไรก็เจ็บปวดเมื่อนั้น ...
แล้วจะเรียกว่า เราเลือกที่จะจำแต่สิ่งดี ๆ ได้ยังไงกัน
-----------------------------------------------------------------------------
พอถึงเวลาที่ เราไม่ได้อยากจะรักใคร แล้ว
ความรักก็มักจะวิ่งตามเรามา เหมือนแกล้งกัน
ตอนที่เราไขว่คว้า ต้องการความรักจากใครซักคน มันกลับไปอยู่ไหนไม่รู้
แต่พอเราจะไม่เอามัน ... ธรรมชาติ ก็มักจะส่งบททดสอบมาให้เราลองใจ
-----------------------------------------------------------------------------
ขอให้ใครก็ตาม ที่ผ่านมาอ่าน คิดได้ บ้างนะคะ
ถ้ายังทุกข์เรื่องนี้ เรื่องการตามหารักแท้กันอยู่นี่
-----------------------------------------------------------------------------
ปล. ประวัติพระอานนท์ที่มีผู้หญิงมาหลงรัก อ่านได้ที่บลอกนี้ในหัวข้อ
"ความรักในมุมมองของผู้เจริญ" ทั้งสามตอนก่อนหน้าบลอกนี้นะคะ
ขออนุโมทนาแก่ทุกท่านที่ให้ความสำคัญกับคำสอนของพระพุทธองค์ค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------
Create Date : 16 กรกฎาคม 2551 |
|
6 comments |
Last Update : 16 กรกฎาคม 2551 14:26:45 น. |
Counter : 674 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: กรวี IP: 125.25.205.11 16 กรกฎาคม 2551 12:53:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: VICT 16 กรกฎาคม 2551 13:30:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: thitare 17 กรกฎาคม 2551 14:03:42 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ให้เธอสัมผัสความคิดที่ฉันทิ้งไว้ อาจะไม่เห็นได้ด้วยตา ฉันได้ฝากเอาไว้อยู่บนพื้นดิน และ ท้องฟ้า มันเป็นความคิดที่กระซิบว่า ...
|
|
|
|
|
|
|
อยากคิดให้ได้อย่างนี้ ทำให้ได้อย่างนี้
แต่ก็ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้างคะ
จะลองไปอ่านประวัติ พระอานนท์ บ้าง