Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
7 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 

เสน่ห์ จามริก : หมดเวลาตั้งคำถาม คนกับป่าอยู่ด้วยกันได้หรือไม่?


อ. เสน่ห์ จามริก






เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ศ.เสน่ห์ จามริก ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้เดินทางมาให้กำลังใจแก่ขบวนธรรมชาติยาตราที่เดินเท้ามาถึงที่วัดเกาะแก้ว ต.จอมทอง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งออกเดินเท้ามาจาก อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. เป็นต้นมา โดยตั้งจิตปณิธานว่า จะเดินทางถึงกรุงเทพฯ เพื่อรณรงค์ให้คนทั้งประเทศเห็นความสำคัญของการดูแลรักษาป่าผืนสุดท้ายที่เหลืออยู่ ไม่แต่เฉพาะชุมชนเท่านั้นที่จะร่วมดูแลรักษา หากแต่คนทั้งประเทศก็สามารถมีส่วนช่วยกันปกปักรักษาป่าชุมชนด้วย โดยตั้งจิตภาวนาให้กฎหมายป่าชุมชนฉบับประชาชนเป็นรูปร่าง ไม่ให้ผิดเพี้ยนไปจากเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ



ศ.เสน่ห์ได้กล่าวปาฐกถาเพื่อให้กำลังแก่ขบวนธรรมชาติยาตราในครั้งนี้ด้วย พร้อมกับเน้นย้ำว่า ป่าชุมชนคือแหล่งทรัพยากรความหลากหลายทางชีวภาพที่จะต้องรักษาไว้ ที่คนทั้งประเทศจะต้องร่วมมือร่วมใจรักษาไว้ ไม่แต่เฉพาะเพื่อรักษาอดีตไว้เท่านั้น แต่หากหมายถึงการรักษาไว้เพื่ออนาคตของคนทั้งประเทศด้วย



....................................

ผมได้รับคำเชิญให้มาร่วมงานธรรมชาติยาตราเพื่อป่าชุมชนคนทั้งประเทศ และผมได้อ่านข้อแถลงเหตุผลในการที่เรามาร่วมธรรมชาติยาตราตรงนี้ มีคำหนึ่งที่ผมติดใจ แล้วก็รู้สึกสบายใจที่บอกว่าการคิดเรื่องป่าชุมชน ไม่ใช่เรื่องของคนในชุมชน แต่เป็นปัญหาของคนทั้งประเทศ ตรงนี้ผมว่าเป็นหลักคิดที่เป็นคุณูปการอย่างสูง เป็นจุดที่จะทำให้เกิดแนวทางที่มีความถูกต้องชอบธรรมและน่าจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนับสนุนร่วมมือของคนในวงกว้างต่อไปอีก



ปัจจุบัน พอเราพูดถึงทุน เรามักจะนึกถึงเงิน แต่ต้นทุนของชุมชน คือ ภูมิปัญญา เป็นจิตวิญญาณและความรู้สึกนึกคิดร่วมกันที่จะอนุรักษ์ปกป้องทรัพยากรที่เป็นต้นทุนชีวิต ถือเป็นต้นทุนชีวิตที่แตกต่างจากคนทั่วประเทศและคนทั้งโลกด้วย ป่าของประเทศไทยไม่ใช่ป่าธรรมดา หรือเป็นป่าผืนเล็ก ๆ แต่เป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์มาก



สมัยก่อนฝรั่งแผ่อำนาจเข้ามาเพื่อที่ครอบครองดินแดนและตักตวงทรัพยากรธรรมชาติ มองทรัพยากรเป็นเพียงต้นไม้ วิธีการที่มาครอบครองคือการเอาไม้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ การเข้ามาครอบครองดูแลและใช้ประโยชน์จากทรัพยากร ก็อ้างหลักเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ แต่เป็นวิทยาศาสตร์ในแง่การตักตวงผลประโยชน์มากกว่า



สำหรับชุมชน ป่าไม่ใช่แค่เนื้อไม้ แต่มีทรัพยากรความหลากหลายทางชีวภาพ ในทางตรงกันข้ามชาวบ้านที่ดูแลรักษานั้นมีความรู้ ภูมิปัญญาในการจัดการป่าอีกแบบหนึ่ง จะใช้ประโยชน์จากป่าอย่างไร ส่วนใหญ่เป็นการใช้ประโยชน์ในเรื่องปัจจัยพื้นฐานสำหรับการดำรงชีวิต เช่นเรื่องของอาหารการกิน ที่อยู่ โดยเฉพาะยารักษาโรคเท่านั้นเอง ขณะที่ผู้นำประเทศมองป่าในแง่ของการตักตวงผลประโยชน์ไม่ต่างจากการครอบงำจากภายนอก



การที่กลุ่มผู้นำระดับประเทศกับพี่น้องในชุมชน รวมไปถึงนักวิชาการมีมุมมองในการมองป่าที่แตกต่างกัน จึงทำให้เป็นปัญหามาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี อาจจะตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ก็กลายเป็นเครื่องมือของผลประโยชน์ภายนอก เห็นชัดเจนว่าสังคมเรามีปัญหาช่องว่างอย่างมาก



ผมไปที่ไหนก็พูดว่าป่าไม่ใช่มีแต่ต้นไม้ แต่มีทรัพยากรชีวภาพอันหลากหลายด้วย มีส่วนประกอบสำคัญคือชุมชนที่ทำให้ความหลากหลายยังคงอยู่ คนกับป่าอยู่มาหลายชั่วคนแล้ว ผมเรียนรู้จาก อ.สมศักดิ์ สุขวงศ์ ผมก็รู้ว่าป่าทุกวันนี้ท่านเรียนว่าป่ารุ่น 2 หมายความว่าไม่ใช่ป่าดั้งเดิม ป่าที่ยืนยาวทุกวันนี้เกิดจากการฟื้นฟูและพัฒนาจากภูมิปัญญาของชุมชน



ทำไมป่ากับคนอยู่กับป่าจึงอยู่ด้วยกันได้ เพราะคนก็ใช้ป่าเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง มีปัจจัยสี่ครบครันหมด แต่ในขณะเดียวกันเราก็มีภูมิปัญญาที่จะบูรณะป่าให้มีความอุดมสมบูรณ์ขึ้น มีการขยายพันธุ์ ปลูกพืชพันธ์ใหม่ขึ้น เมื่อมีพืชก็จะมีสัตว์ที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่เวลามาตั้งคำถามแล้วว่าคนกับป่าอยู่ด้วยได้หรือไม่เพราะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็มีพระบรมราโชวาทว่าการที่กรมป่าไม้มาขีดเส้นบนป่าสงวน ตอนที่ออกกฎหมายป่าสงวนปี 2507 แล้วไล่คนออกจากป่าใครนั้นถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะกฎหมายนั้นมีไว้เพื่อทำให้คนมีความสงบสุข แต่ไม่ใช่มีไว้เพื่อบังคับคน ถ้ามาบังคับคนก็เป็นเผด็จการ ไม่มีความยุติธรรม



แท้ที่จริงนักวิชาการกรมป่าไม้ก็เป็นเหยื่อของการถ่ายทอดความรู้จากภายนอก ก็อยากให้เข้าใจและเห็นใจซึ่งกันและกัน และอยากให้พี่น้องนักวิชาการป่าไม้เคารพภูมิปัญญาของพี่น้องที่อยู่อาศัยในพื้นที่ด้วย



………………………………………



ปัจจุบัน ป่าชุมชนถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะทรัพยากรป่าของเราเป็นป่าเขตร้อนที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก เรามีภูมิปัญญาเป็นต้นทุน ทรัพยากรชีวภาพนี้กำลังเป็นที่หมายปอง และกำลังจะถูกช่วงชิงจากชาติมหาอำนาจ ดังนั้นการต่อสู้เพื่อรักษาป่าชุมชนจึงมิใช่แค่การต่อสู้เพื่อการดำรงวิถีชีวิตแบบเดิม ๆ เหมือนในอดีตเท่านั้น หากแต่ทั้งชุมชนและคนในสังคมก็จะต้องเห็นความสำคัญเพราะเป็นการปกป้องทรัพยากรชีวภาพที่เป็นสมบัติของชาติด้วย



หากเราเพิกเฉยก็จะมีคนอื่นเอาทรัพยากรของเราไปทำประโยชน์ เช่น นำสมุนไพรไปจดสิทธิบัตร และหาประโยชน์ได้สบาย หรือ มะละกอของเราตอนนี้อยู่ดีๆเขาก็เอามะละกอที่กลายพันธุ์ จีเอ็มโอมาให้ แล้วก็จะผูกขาดเมล็ดพันธ์ เราก็ต้องไปซื้อเมล็ดพันธ์จากเขา



ยา และอาหารกำลังเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ความจริงคุณทักษิณไม่ได้คิดขึ้นมาใหม่ แต่เขามีความสามารถที่จะทันโลกและนำมาใช้ประโยชน์ในประเทศ แต่ยังเป็นผลประโยชน์ในวงแคบ เราต้องทำให้เป็นผลประโยชน์ในวงกว้างและสร้างสรรค์ด้วย



ป่าบ้านเราไม่ได้แบ่งเป็นผืน ๆ แต่เป็นป่าเป็นผืนเดียวกัน เพียงแต่การปกครองพื้นที่มาแบ่งป่าเป็นตำบล อำเภอเท่านั้นเอง ความจริงเราร่วมสายน้ำเดียวกัน จุดแข็งเรื่องป่าชุมชนคือการสร้างเครือข่าย เราจึงต้องร่วมมือกัน คนกับป่าจึงมีส่วนเกื้อกูลกับสังคมภายนอกด้วย



คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกำลังทำโครงการใหญ่ที่จะกระตุ้นการกระจายอำนาจสู่ท่องถิ่นตามรัฐธรรมนูญ ผมรู้ว่าไม่มีการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแม้แต่มาตราเดียว ไม่มีใครที่จะทักท้วง เพราะทุกคนสยบต่ออำนาจหมด ป่าชุมชนถือเป็นตัวอย่างที่สะท้อนเรื่องนี้ได้ดี



ป่าชุมชนนั้นเราพูดมาเป็นเวลากว่า 15 ปี ผมเคยเขียนปฏิญญาว่าด้วยเรื่องสิทธิชุมชนเมื่อปี 2534- 2535 และระดมพี่น้องป่าชุมชนต่างๆ มาร่วมกันร่าง พ.ร.บ.ป่าชุมชนขึ้นเป็นครั้งแรก และดีใจที่มีการสืบสานเรียกร้องเรื่อง พ .ร.บ.ป่าชุมชนกันมาจนถึงวันนี้



การที่พี่น้องทำกิจกรรมธรรมชาติยาตราเพื่อป่าชุมชนถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะความรู้ทางวิชาการนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่ที่จะทำให้เป็นตัวตนขึ้นมาได้ก็ต้องอาศัยพลังของพี่น้อง ลำพังพี่น้องในชุมชนเดียวก็ไม่พอ จะรักษาป่าเฉพาะชุมชน หรือรักษาสายน้ำเฉพาะช่วงไม่ได้ เช่น โรงงานทำน้ำตาลที่ขอนแก่นปล่อยน้ำเสียออกมา ปลาก็เน่าทั้งแม่น้ำ



ผมคิดว่าเราต้องทำความรู้ให้เป็นพลังและขยายเครือข่ายขึ้น ขบวนการของป่าชุมชนนั้นเริ่มต้นมาดีอยู่แล้ว มีฐานความรู้ งานวิจัยที่หนักแน่น เราต้องทำให้เกิดความเข้มแข็งของขบวนการที่แท้จริง ปัญญาทางรัฐสภาเราอย่าไปกังวล เพราะรัฐสภาเป็นสถานที่ซึ่งคนเข้าไปใช้เพื่อสนองผลประโยชน์ส่วนตัวค่อนข้างมาก รัฐบาลไทยของเราเป็นรัฐบาลที่อ่อนแอ เห็นประโยชน์เฉพาะหน้า



ดังนั้นป่าชุมชนจึงอยู่ลำพังไม่ได้ ต้องประสานความร่วมมือกัน มองไปข้างหน้าเราไม่แค่พูดว่าคนอยู่กับได้หรือป่าอยู่กับคนไม่ได้ แต่สามารถพูดได้ว่าทั้งคนทั้งป่าสามารถเกื้อกูลต่อประเทศชาติได้ และป่าชุมชนเป็นของคนทั้งประเทศ.



......................................................

ที่มา //www.prachatai.com โดย : สำนักข่าวประชาธรรม วันที่ : 7/12/2548 ซึ่งเรียบเรียงจาก ปาฐกถา ศ.เสน่ห์ จามริก ณ วัดเกาะแก้ว ต.จอมทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก/ธรรมชาติยาตราเพื่อป่าชุมชนคนทั้งประเทศ / 1 ธันวาคม 2548





 

Create Date : 07 มิถุนายน 2550
0 comments
Last Update : 7 มิถุนายน 2550 11:00:41 น.
Counter : 1175 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Darksingha
Location :
สมุทรสงคราม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]





Click for use Graphics comment


Darksingha ที่แสดงถึงอำนาจและความมืดมัว ผมให้แทนคำว่า Age of Doubt หรือยุคแห่งความสงสัยก็แล้วกัน ดังนั้นBlogนี้จึงเป็นแดนสนธยาที่เต็มไปด้วยหมอกควันแห่งคำถาม และการละเล่น เพื่อแสวงหา ?


TV3 Live CH5 Live CH7 Live Modernine TV Live NBT LIVE - CH11 TPBS - Public Channel ASTV1 New11 - Online News 24 hours Nation Channel DMC.TV - Buddhistic Television ASTV5 - Suvarnbhumi ASTV7 - Buddhistic Television  True New 24 Channel  skynew  cnnibn Channel  cnn Channel  bbcnews_island Channel  cctv  Channel  bfmtv  Channel  ntv  Channel  fox8 Channel  foxnews5 Channel  cspan  Channel  france24 Channel  world_explorer Channel  discovery_channel Channel  nasa  Channel kimeng-channel dmc-channel ebr-channel research-channel utv-channel michigan-channel at-florida-channel islam-channel peace-usa-channel bbc-panorama-channel CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live

music is life

ชุมทางเพลงเพื่อชีวิต

Friends' blogs
[Add Darksingha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.