เคนยา : ทะเลสาบไนวาชากับชีวิตสุดฮิป (โป)
มีปัญหาเรื่องอินเตอร์เน็ตให้ปวดหัวอยู่พักใหญ่ กว่าจะเขียนบล็อกต่อได้ ก็คงต้องทำใจเหมือนเรื่องอื่นๆ อีกหลายเรื่องสำหรับการใช้งานอินเตอร์เน็ตในประเทศนี้ ก็เป็นเรื่องธรรมดาละครับ มีอะไรดีๆ แปลกๆ น่าสนใจเยอะแล้ว ก็ย่อมต้องมีอะไรขัดใจวัยรุ่นอยู่บ้าง
ที่สัญญาไว้ว่าจะพาไปดูทะเลสาบของเขาด้วย ก็เลยจะเอามาลงให้ดูกันรอบนี้ ชื่อทะเลสาบไนวาชา (Naivasha Lake) เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ห่างจากไนโรบีประมาณ 90 กม. ขับรถสองชั่วโมงถึง ด้วยขนาดที่ใหญ่มาก เราจึงขับลัดเลาะรอบๆ อยู่เกือบชั่วโมงเพื่อหาทางเข้าไปให้ถึงทะเลสาบ ทางเข้าเกือบทุกช่องต้องผ่านรีสอร์ทและที่พัก ซึ่งก็คือเจ้าของที่ริมทะเลสาบนั่นเอง
เข้ามาปุ๊บ ลงรถปั๊บ ก็จะมีคนมาสอบถามเรื่องจำนวนคนและราคาเรือที่จะพาชมรอบๆ ทะเลสาบในเวลา 1 ชม. ถ้าคิดว่าแพงไม่ถูกใจก็ไปหาที่ใหม่ ไม่ว่ากัน คณะของผมไปตกลงใจที่รีสอร์ทชื่อ Marina ไม่ได้สวยงามอะไรมาก แต่ขี้เกียจหาแล้ว ราคาเรือนั่งได้ 8 คน จ่ายไปประมาณ 1,250 บาท จ่ายเงินเรียบร้อย ก็จะได้รับเสื้อชูชีพคนละตัว กระโดดลงเรือพร้อมออกเดินทาง
เสียงเครื่องยนต์เรือพาเราออกมาช้าๆ ออกมาจากท่าได้ไม่นาน เห็นท่อนไม่ลอยเกลื่อนไม่น่าดู คนขับเรือเฉลยเลยถึงบางอ้อว่า นั่นมันครอบครัวฮิปโปโปเตมัส 1 ครอบครัว เขาอยู่ด้วยกันเป็นฝูงเล็กๆ แยกกันไป บริเวณนั้นเห็นอยู่สามฝูง
พอเรือเข้าไปใกล้ถึงเห็นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ตัวเล็กตัวน้อยที่อยู่ใต้น้ำก็โผล่ขึ้นมาหายใจ เขาจะอยู่ใต้น้ำได้ประมาณ 5 นาที ตัวใหญ่สุดน่าจะเป็นตัวที่แข็งแรงที่สุดและน่าจะเป็นจ่าฝูง กลางวันร้อนเขาจะมานอนแช่น้ำกัน กลางคืนถึงขึ้นฝั่งไปกินหญ้า เป็นสัตว์กินพืชแต่ทำร้ายคนได้ถ้าไปรบกวน ผมเลยบอกคนขับว่าไปต่อ กลัวจ่าฝูงจะดำน้ำมาโผล่กลางลำเรือ
ลัดเลาะทะเลสาบไปเรื่อย มีนกน้ำมากมายหลายชนิดซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่รู้จัก อาทิ นกเพลิแกน เคยเห็นในการ์ตูน ห่าน และอื่นๆ ทำให้คิดถึงที่ท่องเที่ยวทางใต้บ้านเรา ทะเลน้อย เป็นทะเลสาบ มีเรือนั่งออกไปดูนกน้ำ นกเยอะกว่านี้อีกแต่เป็นนกขนาดเล็ก
ไม่คาดว่าจะได้เห็นที่นี่แต่ก็มีให้ดู นกฟลามิงโก เพราะส่วนใหญ่จะชอบอยู่ทะเลสาบอีกแห่งหนึ่งห่างออกไปอีกเกือบร้อยกิโล นกฟลามิงโกชอบทะเลที่มีสารอินทรีย์เยอะๆ (soda lake) เพราะเขาจะหากินได้ง่าย เห็นอยู่ไกลๆ นะครับต้องซูมกล้อง เรือเข้าไปใกล้กว่านี้ไม่ได้เพราะน้ำบริเวณนั้นสูงแค่เข่า แต่แปลกที่มีฟลามิงโกจำนวนนับร้อยตัวมาหากินที่นี่ ปกติหาดูยาก แต่คนขับเรือบอกว่าถ้าไปที่ทะเลสาบนากูรู จะมีให้ดูเป็นล้านๆ ตัว และมีสีชมพูเข้มเพราะเขากินสาหร่ายและแร่ธาตุ นึกแล้วอยากไปขึ้นมาเชียว รอโอกาสเหมาะๆ
จุดเด่นอีกอันหนึ่งของทะเลสาบไนวาชา คือ เกาะพระจันทร์เสี้ยว (Crescent Island) เนื่องจากรูปร่างที่คล้ายพระจันทร์เสี้ยวและความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธ์และสัตว์ป่าซาฟารีมากมายทั้งที่เป็นเกาะกลางน้ำ ได้รับการบอกเล่าว่าสัตว์ชุดแรกถูกลำเลียงมายังเกาะนี้ตอนที่มีการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Out of Africa และสัตว์ที่ถูกนำมาปล่อยก็ออกลูกออกหลานจนมีจำนวนมากมายในปัจจุบัน สามารถขึ้นไปชมบนเกาะได้โดยต้องชำระค่าเหยียบเกาะอีกจำนวนพอสมควร เลยมองเอาจากบนเรือ
มองขึ้นไปทางถนนใหญ่จะเห็นอุทยานแห่งชาติอีกแห่งหนึ่ง อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนกับทะเลสาบนี่เอง เห็นว่าเป็นซาฟารีที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง มีชื่อเสียงเรื่องสัตว์ป่าที่หลากหลาย จุดตั้งแคมป์ กิจกรรมปีนเขา และภูมิประเทศที่สวยงามไม่เหมือนใคร แต่ชื่อไม่สวยงาม ไม่รู้ใครช่างตั้งชื่อว่า Hell’s Gate
ตื่นเต้นกันเล็กน้อย เมื่อมีนกสีขาวๆ 1 ฝูงบินตามเรือของพวกเรามาเกือบตลอดทาง บางตัวเข้ามาใกล้คนขับเรือมาก แทบจะลงมาจิกอยู่แล้ว อันนี้วิเคราะห์ได้ว่า พวกมันบินตามความอบอุ่นของเครื่องยนต์เรือ เสียงเครื่องยนต์ หรือกลิ่นตัวอันแรงฤทธิไกรของคนขับเรือก็เป็นได้ ดีว่าที่นั่งคนขับอยู่หลังสุด
สำหรับทะเลสาบไนวาชาคงจบลงด้วยภาพทะเลสาบ (ที่คิดว่าสวยแล้ว) เพียงเท่านี้ จริงๆ ก็ไม่มีอะไรตื่นเต้นมาก นอกจากฮิปโปที่ผมเคยเห็นแต่แม่มะลิที่สวนสัตว์ดุสิต ได้มาเห็นเป็นฝูงแบบประชิด และนกฟลามิงโกที่เห็นอยู่ไกลลิบ นอกนั้นนั่งเรือตากแดดชมทิวทัศน์เสียมากกว่า มาเช้าตรู่หรือเย็นย่ำน่าจะดีที่สุด
Create Date : 10 มกราคม 2552 |
|
10 comments |
Last Update : 10 มกราคม 2552 21:17:39 น. |
Counter : 2794 Pageviews. |
|
|
|