เมื่อเท้ามันคัน อะไรมันๆ จะเกิดขึ้น
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
18 มีนาคม 2555
 
All Blogs
 
เคนยา : Kisumu เมืองปลานิล

คิซูมูใหญ่เป็นอันดับสามรองจาก แน่นอน เมืองหลวงอย่างกรุงไนโรบี (Nairobi) และเมืองท่องเที่ยวริมทะเลอย่างมอมบาซา (Mombasa) เป็นเมืองที่ก่อนหน้านี้ ผมก็ไม่รู้อะไรมาก รู้แค่ว่าเป็นเมืองใหญ่เมืองหนึ่ง อยู่ติดทะเลสาบวิกตอเรีย ทะเลสาบที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกาและมีพรมแดนติดต่อกับหลายประเทศ อากาศดีไม่หนาวไม่ร้อนจนสุดโต่ง เป็นเมืองที่ไม่มีวันที่สามีจะยอมให้ภรรยาทำร้ายเหมือนหลายเมืองในเคนยา ทราบแค่นี้แหละครับ เรื่องอื่นๆ มาทราบเอาระหว่างทางหรือตอนไปถึงแล้วเสียส่วนใหญ่

ด้วยระยะทาง 270 กม. อยู่เบื้องหน้าเราและจากประสบการณ์ของเพื่อนร่วมเดินทางคนหนึ่งที่ทำให้ทราบว่าถนนเบื้องหน้าไม่ดีมากนัก เราจึงออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าตรู่ ประมาณหกโมงเช้า ระยะทางอาจจะดูเหมือนไม่ไกลมากถ้าถนนดี บ้านเราระยะทางขนาดนี้ให้อย่างมากสองชั่วโมงครึ่ง แต่ที่นี่ต้องเผื่อเวลามากหน่อย ยิ่งต้องเดินทางไปกลับในวันเดียวด้วยแล้ว


วิ่งไปตามถนนเลขที่เท่าไหร่ไม่ทราบ แต่ก็ผ่านจุดชมวิว Rift Valley ผ่านเลี้ยวเข้าเมืองนรก ผ่านเมืองมายมาฮิว เรื่อยๆ มาผ่านเขาลองโกน็อต ทะเลสาบไนวาชา เมืองไนวาชา ทะเลสาบเอเลเม็นไตตา จนถึงเมืองนากูรู ช่วงนี้นั่งรถค่อนข้างสบาย ได้เอนหลังงีบไปบ้างเพราะตื่นเช้าและถนนก็ลาดยางตลอดเส้น


จนเลยเมืองท่องเที่ยวที่คนเคยนิยมมาดูนกฟลามิงโกสีชมพูอย่างนากูรูมาได้เล็กน้อย ตอนใกล้ๆ ถึงเมือง Kericho (ถ้าท่านอยู่เคนยาและดื่มชาจะรู้จักเมืองนี้ดี เป็นชื่อชายี่ห้อดังซึ่งปลูกที่เมืองชื่อเดียวกันนั่นเอง) ถนนซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างตลอดระยะทางหลายสิบกิโลเมตร ทำให้ผมต้องตื่นตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


ท่านลองจินตนาการถนนที่รื้อผิวยางมะตอยออกเพื่อจะทำใหม่ ถนนที่มีรถบรรทุกวิ่งกันคึกคัก ถนนที่มีทางเบี่ยงเกือบทุกครึ่งกิโลเมตร ถนนที่จะขับรถเก่งแค่ไหนก็หลบหลุมไม่พ้น ในขณะเดียวกันเราต้องรักษาความเร็วให้ได้มากที่สุด เพื่อให้การเดินทางเป็นไปตามแผนและไม่กลับถึงไนโรบีดึกดื่นจนเกินไป งานนี้นอกจากสงสารผู้โดยสารแล้ว ยังสงสารรถด้วย ดีที่ไม่ใช่รถตัวเอง


ระหว่างที่ลุยถนนลูกรังเกรดต่ำผ่านเมืองเคริโชนั้น พวกเรายังมีโอกาสได้ชื่นชมไร่ชาที่ปลูกเป็นแนวไปตลอดทางที่ผ่านเมืองนี้


หากได้มาเมืองนี้หลังจากนี้สักปีหนึ่งหรือกี่ปีก็ตามที่ถนนสร้างเสร็จแล้ว คงเป็นเมืองที่น่าขับรถกินลมชมวิวเมืองหนึ่งของเคนยาเลยทีเดียว ไร่ชาเขียวขจีผสมฝุ่นสีแดง


มีบ้านชาวไร่ชาเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ นึกถึงสารคดีประเทศสังคมนิยมที่เคยดูที่รัฐบาลเข้ามาควบคุมทุกอย่าง แม้กระทั่งการตั้งถิ่นที่อยู่อาศัย ดูหน้าตาเป็นระเบียบเช่นนี้แล


สลับกับความเขียวชอุ่มของไร่ชา ก็มีฉากอุบัติเหตุให้เห็นเป็นเพื่อนคลายเหงาและทำให้ตื่นตัวไปตลอดทาง ก็ถนนแบบนี้กับมารยาทในการขับรถของคนที่นี่ซึ่งอย่าบรรยายเลย ภาพอุบัติเหตุจึงค่อนข้างเป็นภาพที่ชินตา


หลังจากห้าชั่วโมงของการนั่งรถที่ไม่ใคร่จะสบายนัก นี่แค่เป็นผู้โดยสาร นึกถึงคนขับที่ต้องบังคับพวงมาลัยรถผ่านพื้นที่แบบนี้แล้วก็เหนื่อยแทน แต่คนขับเขาอึด ไม่เป็นไร ครับ หลังจากห้าชั่วโมงของการเดินทาง เราก็เดินทางมาเกือบถึงเมืองคิซูมูแล้ว ก่อนถึงเราเริ่มทำกิจกรรมหลักอย่างหนึ่งของการเดินทางในครั้งนี้ก่อน คือ การค้นหาปลาพันธุ์ท้องถิ่นตามบึงน้ำข้างทาง ซึ่งน่าจะหาจับยากด้วย อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เสื้อผ้าหน้าผมถูกจัดเตรียมมาอย่างพร้อมเพรียง


ครั้งแรกๆ ที่ผมได้ใส่รองเท้าบูทจับปลาแทนที่จะลุยน้ำท่วม


เพียงไม่ถึงห้านาทีที่เราก้มลงช้อนปลาอย่างขะมักเขม้น เงยหน้าขึ้นมาอีกที ไม่รู้มีเด็กและเยาวชนจากไหนมามุงดูกันอย่างสนอกสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งห้านาทีก่อนหน้านี้ มีแค่เราสามคนกับหนองน้ำเท่านั้น


ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นาๆ หลายคนพยายามเข้ามาพูดภาษาจีนด้วย แต่ผมก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร เพราะจะถึงบอกว่าเป็นคนไทยมาจากไทยแลนด์ พวกเขาก็ไม่รู้จักอยู่ดี


หลังจากบึงแรกไม่ประสบความสำเร็จ เราตระเวนไล่จับปลาในบึงตามเส้นทางไปจนถึงเมืองคิซูมูรวมทั้งขากลับ รวมๆ แล้วน่าจะเป็นสิบบึงนะ


บึงแรกๆ ผมก็ลงกับเขาด้วยนะ สนุกตื่นเต้นและลุ้นดีมาก แต่หลังๆ ขอรอลุ้นอยู่ในรถเสียเป็นส่วนใหญ่


ปลานี่ก็จับได้อยู่บ้างนะ แต่ยังไม่ใช่ปลาประเภทที่ต้องการ


มาถึงตัวเมืองคิซูมูจริงๆ ตอนประมาณเที่ยงครึ่ง ก็ขับรถผ่านเมืองตรงไปยังทะเลสาบวิกตอเรีย เพื่อหาอะไรใส่ท้องสำหรับมื้อกลางวัน ระหว่างทางมีร้านอาหารท้องถิ่นริมทะเลสาบเป็นเพิงมากมาย แต่เรามุ่งตรงไปยังร้านที่บรรยากาศดีที่สุด จำชื่อร้านไม่ได้ แต่บรรยากาศดี ติดริมทะเลสาบ ลมเย็นสบาย


ร้านกว้างขวางโอ่โถง มีคนนั่งกันเกือบเต็มทุกโต๊ะ โดยเฉพาะโต๊ะติดริมทะเลสาบ คงเพราะเป็นวันอาทิตย์ด้วย หลังเสร็จกิจกรรมที่โบสถ์ ชาวเมืองคงพาครอบครัวออกมาทานอาหารข้างนอกกัน


หลังจากเลือกโต๊ะริมน้ำ พนักงานมารับออเดอร์เครื่องดื่มแล้ว ก็มาเชิญเราไปเลือกปลาเพื่อประกอบอาหาร ตอนแรกคิดว่าคงมีปลาเลี้ยงอยู่ในตู้ให้เราเลือกเอา เมื่อเห็นปลากลับประหลาดใจเล็กน้อย เพราะยังมีปลาให้เลือกอยู่


เพียงแต่เป็นปลาที่ชำแหละเรียบร้อยแล้ว แขวนเรียงเป็นราวตากผ้าเลย


ชอบตัวไหนใหญ่เล็กก็เลือกเอา หลังจากแหวกดูเหงือก ดมกลิ่นและถ่ายรูปแล้ว จึงสรุปกันว่าปลาสดจริงๆ เพราะเป็นปลานิลมาจากทะเลสาบ เขาเรียกปลานิลในภาษาท้องถิ่นว่า Tilapia เราเลือกกันสองตัวสำหรับผู้หิวโหยสามคนเพื่อให้เขาปรุงตรงนั้นเลย


ตัวหนึ่งให้ทอดกรอบ อีกตัวให้ทำแบบราดซอส ไม่ถึง 20 นาที ปลาทั้งสองสูตรก็ถูกนำมาเสิร์ฟตรงหน้า


เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งทอดและแป้งข้าวโพดกวน ซึ่งเป็นอาหารหลักที่ชาวเคนยาและแอฟริกาอีกหลายประเทศบริโภคแทนข้าว เขามีชื่อเรียกน่ารักๆ ว่า อูกาลี่ (Ugali) ได้กินแล้วอิ่มนานนักแล


แล้วก็ถึงเวลาลงมือแบบลงมือจริงๆ ทานปลาก็ต้องทานด้วยมือซิครับ โต๊ะข้างๆ เขาก็ทานด้วยมือกันหมด จึงไม่ต้องเคอะเขิน แม้รสชาติจะไม่จัดจ้านเข้าเนื้อเหมือนปลาบ้านเรา แต่ก็ทานไปเสียเต็มคราบ เพิ่มรสชาติอีกนิดด้วยน้ำแจ่วที่เตรียมกันมาเอง

ร้านดี บรรยากาศสบาย อาหารอร่อย มาตกม้าตายเหมือนร้านอาหารหลายๆ ร้านในเคนยา ห้องน้ำโสโครกมาก ผมกำลังปวดหนัก ถึงกับวิ่งออกมาแทบไม่ทัน ลำบากเพื่อนๆ ต้องขับรถหาห้องน้ำที่พอจะเข้าได้ในโรงแรมแห่งหนึ่งอีกพักใหญ่

หลังจากนั้น ก็ไปเดินตลาด Kibuye กัน เป็นตลาดขายของขนาดใหญ่กลางเมือง ทั้งอาหาร ผัก ผลไม้ เสื้อผ้า รองเท้า ของกิน ของใช้ ซึ่งค่อนข้างมั่นใจจากสิ่งที่เห็นว่าเป็นของเมดอินไชน่า ขออภัยไม่ได้ถ่ายรูปมาลง คนมันพลุกพล่านจนกระทั่งไม่กล้าหยิบกล้องออกมาจากกระเป๋า


ก่อนกลับ หลังจากผิดหวังกับการจับปลาที่ต้องการของเพื่อนร่วมทริปและความเมื่อยล้าในการเดินทาง เราแวะนั่งพักผ่อน ห้อยขา ตากลมกันบริเวณจุดชมวิวริมทะเลสาบวิกตอเรีย ซึ่งก็มีชาวบ้านมาใช้ประโยชน์กันพอสมควร


แม้ไม่มีอะไรให้ทำมากนอกจากการนั่งตากลมจีบกัน แต่ยังดีที่เป็นพื้นที่สาธารณะ ไม่เสียสตางค์ ให้ชาวบ้านชาวเมืองได้มานั่งสงบจิตสงบใจ

ขับรถกลับไนโรบีเส้นทางเดิม นอกจากแสนหฤโหดไม่ต่างจากขามาแล้ว ยังต้องวิ่งรถในเส้นทางที่มืดสนิทแทบไม่มีแสงไฟอีกด้วย ปวดขาและเมื่อยตาไปพร้อมๆ กัน รวมระยะเวลาในการเดินทางไปกลับ 12 ชม. จึงมีเวลาเตร็ดเตร่ในเมืองประมาณ 3 ชม. เท่านั้น

ถ้าผมมีโอกาสได้ไปหรืออยากไปอีกครั้งหน้า การขับรถแบบไม่ต้องรีบร้อนและได้พักค้างคืนในเมืองสักคืน น่าจะเป็นทางเลือกที่ช่วยให้เอนจอยเมืองใหญ่อันดับสามของเคนยาเมืองนี้ได้มากขึ้น









Create Date : 18 มีนาคม 2555
Last Update : 19 มีนาคม 2555 2:18:46 น. 10 comments
Counter : 4058 Pageviews.

 
น่า สนุก จริงๆ ครับ


โดย: gb1977 วันที่: 18 มีนาคม 2555 เวลา:23:14:22 น.  

 
สุขสันต์วันเกิดค่ะ
ขอให้มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรงตลอดปี และตลอดไป

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: pantawan วันที่: 22 มีนาคม 2555 เวลา:0:54:23 น.  

 
HBD ขอให้มีความสุขตลอดไปนะครบ


โดย: eronthai วันที่: 22 มีนาคม 2555 เวลา:6:18:13 น.  

 
สุขสันต์วันเกิด





โดย: ต้นกล้า อาราดิน วันที่: 22 มีนาคม 2555 เวลา:8:56:17 น.  

 

ป้าเชิญนางฟ้า...มาอวยพรวันเกิดค่ะ
ขอให้พบแต่สิ่งดีๆ คนที่ดีมีจิตใจดี
เหตุการณ์ดีๆสุขภาพที่แข็งแรง
รวมทั้งความรัก
ที่ดีที่สุดในชีวิตนะคะ




โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 22 มีนาคม 2555 เวลา:13:45:42 น.  

 
สุขสันต์วันเกิด มีความสุขมากๆนะคะ^^


โดย: ChanPoy วันที่: 22 มีนาคม 2555 เวลา:19:47:09 น.  

 
ปลานิลน่ากินมากเลย


โดย: หนุ่ย IP: 41.212.104.27 วันที่: 3 เมษายน 2555 เวลา:14:02:00 น.  

 
ปลานิลน่ากินมากเลย


โดย: หนุ่ย IP: 41.212.104.27 วันที่: 3 เมษายน 2555 เวลา:14:02:31 น.  

 
แค่เห็นไร่ชา หนูก็ fin แล้ว :)


โดย: Madamzhu IP: 58.9.148.204 วันที่: 13 กันยายน 2555 เวลา:12:25:27 น.  

 
ralph lauren home //johnziegler.com/ralphlauren.asp ralph lauren femme
[url=//www.xa96716.com/polo.asp]ralph lauren femme[/url]


โดย: ralph lauren femme IP: 94.23.252.21 วันที่: 27 เมษายน 2558 เวลา:20:30:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Thaisoloclub
Location :
Rome Italy

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




Friends' blogs
[Add Thaisoloclub's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.