เมื่อเท้ามันคัน อะไรมันๆ จะเกิดขึ้น
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2558
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
13 กรกฏาคม 2558
 
All Blogs
 

Le journal d’un garcon aux cheveux longs (Ep.3)

12/07/98, Paris

วันนี้ทานเช้าเสร็จ ออกมา Versailles 


เดินชมวังพร้อมฟังคำอธิบายจาก guide สาวสวยจนถึงบ่ายก็ปล่อยมาทานข้าวเที่ยงแบบ pique-nique ที่นี่กว้างใหญ่ไพศาล ลมพัดแรง ดีที่วันนี้แดดออก ทำให้อากาศดี มีน้ำพุสวยงาม ดอกไม้และสวนสวยงามตา ทะเลสาบก็ใสสะอาด ข้างในหรูหราอลังการ รู้เลยว่า Louis XIV ผู้สร้างใช้เงินมากมายนาดไหนกว่าจะรังสรรค์มหาราชวังออกมาได้งดงามขนาดนี้


ตอนนี้เพิ่งกินข้าวเสร็จ นั่งอบแดดอยู่ริมทะเลสาบหลังพระราชวัง มองขึ้นไปเห็นพระราชวังทั้งหมด สวยงามดีจัง ทะเลสาบ (grand canal) มีเรือให้ถีบด้วยแต่คงจะจ่ายแพง เสร็จแล้วก็นั่งรถมา dîner ที่ FIAP ขึ้นมานอนได้ครึ่ง ชม. ก็ลงไปทาน dîner วันนี้ทานไก่ อร่อยดี อิ่มแล้วขึ้นมาเขียนบันทึก เดี๋ยวจะออกไปเดินลอยชายแถว Champs Elysées พร้อมทำท่าแอนนา คงจะซื้อของฝากติดไม้ติดมือมาบ้าง ไม่รู้จะซื้ออะไรดี ตามโปรแกรมจะต้องไปดูรอบ finale ที่ écran géant แต่ไม่บังคับ คนบางกลุ่มขอพักผ่อนด้วย เลยได้โอกาสออกไปร่อนก่อนกลับ แม้จะเหนื่อยมากแล้วก็ยังสู้

แต่งตัวพร้อม มี petit plan de Paris อยู่ในมือ ออกเดินทางอย่างมั่นใจ อยากจะไปซื้อของและถ่ายรูปที่ L'Arc de Triomphe เดินออกจาก FIAP เห็นคนนั่งจ้องหน้าจอทีวีกันใหญ่ อีกสักพักควจะมีถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ออกไปตามถนนค่อนข้างเงียบเพราะไปดูบอลกันหมด ขึ้น métro ที่สถานี Glacière เดินออกไปจากที่พักนิดเดียว ค่าตั๋วใบละ 8 francs พี่ป๋อมบอกว่ามาเมื่อก่อนแค่ 4 francs เอง แต่ก็ใช้ได้จนคุ้มจนกว่าจะขึ้นมาจากสถานี นั่ง métro กับพี่ป๋อมสองคนมี plan ของปารีสอยู่ ไม่ต้องกลัว นั่งไปเรื่อยๆ ไปต่อตามขั้นตอน ไม่ต้องรีบร้อน ไม่มีอะไรน่ากังวลเลย บางสถานีคนแน่นมาก แน่นกว่ารถเมล์บ้านเราอีก คงจะเดินทางไป Stade de France กันหรือไม่ก็นัดรวมตัวกันตามสถานที่สำคัญต่างๆ มาโผล่สู่โลกภายนอกหน้าพิพิธภัณฑ์ Louvre พอดี พี่ป๋อมจะซื้อของที่ร้าน Benlux เป็นร้านปลอดภาษีและเคยมีคนแนะนำให้มาซื้อของ มีพนักงานเป็นคนไทย เราเลยเสี่ยงเข้าไปดู กลัวเหมือนกันว่าร้านจะไม่เปิดเพราะเป็นวันอาทิตย์  จริงด้วยร้านรวงไม่เปิดกันเลย แถมปวดฉี่อีกต่างหาก เลยลง métro ย้อนกลับมา Champs Elysées เพราะคนที่ FIAP บอกว่ามีร้านหนึ่งเปิดทุกวัน วันละ 24 ชม. และใกล้ L'Arc de Triomphe 

นั่งรถมาโผล่กลางถนน Champs Elysées และเดินย้อนขึ้นมาทาง Arc พร้อมสอดส่ายสายตามองหาห้องน้ำ ตอนนี้รถที่วิ่งมาบนถนนก็ต่างบีบแตร บ้างก็โบกธงชาติปลิวสะบัด ริมถนนเต็มไปด้วยผู้คนที่จับกลุ่มกันอยู่หน้าร้านที่มีทีวีเพื่อชมฟุตบอล บางคนวาดหน้าเป็นธงชาติฝรั่งเศสและบราซิล บางจุดประทัด ดอกไม้ไฟ เสียงดังรบกวนโสตประสาทมาก เหมือนเขาเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยมาก ตำรวจเต็มถนนไปหมด เดินไปสักพักก็แวะเข้าห้าง Virgin เป็นร้านขายเทปและหนังสือ พี่ป๋อมไม่พลาดอยู่แล้ว ด้านบนของร้านมีบาร์เล็กๆ มีคนเต็มไปหมด เดินเลือกเทปไปได้สักพักคนในร้านก็โห่ร้องดีใจกันยกใหญ่ ไม่ต้องหันไปดูทีวีก็รู้ว่าฝรั่งเศสยิงเข้า ข้างนอกไม่ต้องห่วง อึกทึกครึกโครมอย่างยิ่ง เสร็จเรียบร้อยออกเดินกันต่อ เห็นประตูชัยใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทั้งรถทั้งคนเริ่มเยอะ ฟ้าเริ่มมืด มองเห็นร้าน Drugstore ที่ตามหาแล้วอยู่ใกล้กับประตูชัยเลย ระหว่างรถติดไฟแดง เราแอบประดิษฐ์แอนนากลางถนนไป 1 รูป


เสี่ยงตายแทบแย่ ประดิษฐ์เสร็จก็วิ่งเข้าร้าน Drugstore เลย เข้าไปปั๊บมุ่งตรงไปแผนก parfumeries เป็นร้านใหญ่พอสมควร มีน้ำหอมทุกยี่ห้อ เดินดูอยู่สักพัก พี่ป๋อมไปถามหาน้ำหอมสำหรับผู้ชายยี่ห้อหนึ่ง ปรากฏว่าไม่มี ด้วยความไม่รู้เลยขอให้พนักงานแนะนำน้ำหอมดีๆ สำหรับผู้ชาย ปรากฏว่าเธอไม่สามารถแถมยังทำวีนใส่อีกก็เลยเชิดใส่ ก่อนออกจากร้านแอบไปโทรศัพท์กลับบ้าน รู้ว่าเตี่ยต้องดูฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอยู่แน่ๆ เตี่ยบอกตอนนี้ฝรั่งเศสนำไป 1 - 0 แล้ว ออกจากร้านเดินไปถ่ายที่ประตูชัยอีก 2 - 3 รูป เสี่ยงตายอยู่เหมือนกันนะ ตรงนี้เป็นวงเวียน ดีไม่ดีถูกรถชนได้ ถ่ายใกล้ๆ เสร็จ ให้พี่ป๋อมถ่ายท่าแอนนากลางถนนให้อีกรูป กลัวจะไม่ได้เอาไปโชว์อย่างที่คุยไว้ เสร็จเรียบร้อย หันไปดูรอบข้าง คนเริ่มหนาแน่น รถติด บีบแตร โบกธงสนั่นหวั่นไหว เลยมีความรู้สึกว่าต้องรีบกลับ ขืนรอให้บอลแข่งเสร็จ มีหวังไม่ได้กลับแน่ รีบมุดลง métro ในรถใต้ดินสอบถามคนที่ที่เพิ่งขึ้นมานั่งข้างๆ ว่าฝรั่งชนะหรือเปล่า คำตอบคือ Oui พอรู้คำตอบก็ยินดีปรีดา อีพวกบ้าบราซิลคงน้ำตาร่วงคราวนี้ หัวเราะทีหลังดังกว่าจริงๆ นั่ง métro ผ่านหอไอเฟลสวยมาก ยามราตรีสีสันสดใส กะจะชักรูปแต่มันติดกระจกรถ เลยชมด้วยตาแล้วเก็บไว้เป็นความทรงจำดีกว่า กลับมาถึง FIAP เห็นพวกเชียร์ฝรั่งเศสเต้นแร้งเต้นกากันสุดฤทธิ์ คงจะดีใจกันมาก คราวนี้ฝรั่งเศสจะได้ฉลองงานวันชาติกันอย่างยิ่งใหญ่ แอบเห็น Karyma กับ Zaza เต้นแสดงความยินดีอย่างออกหน้าออกตา สงสัยใส่หน้ากากชัวร์ ก็มันทั้งคู่ชอบทีมบราซิลยังกะอะไรดี เสียดายยังไม่ได้เห็นน้ำตาพวกบราซิลที่น่าเกลียดเลย ไม่รู้หายหัวไปไหนกันหมด

ขึ้นมาห้องหิวน้ำเลยลงไปซื้อโค้กแคน 11 francs ดูทีวีสักพัก คนทั่ว Paris ร่วมกันฉลองอย่างยิ่งใหญ่ มีการชุมนุมโห่ร้องตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะ Champs Elysées รถวิ่งไม่ได้เลย นึกดีใจที่ตัดสินใจกลับมาก่อน ไม่งั้นคืนนี้ไม่ต้องนอนแน่  ทีวีมีถ่ายทอดสดพิธีปิดและการแสดงร่วมกันระหว่างเกาหลีกับญี่ปุ่น เจ้าภาพฟุตบอลโลก 2004 เขียน journal ไปจะหลับเสียให้ได้ งั้นก็พอแค่นี้ ข้างนอกเริ่มสงบแล้ว ได้เวลานอนเสียที พรุ่งนี้จะไปเที่ยว Sorbonne และมะรืนจะเป็นวันสุดท้ายในเมืองฟ้าอมรนี้ วันที่ 15 ก็ต้องเดินทางกลับสู่โลกแห่งความจริงที่เต็มไปด้วยงาน การบ้าน และข้อสอบ

13/07/98, Paris

วันนี้ไม่ได้ทานข้าวเพราะอีตา Boris เอา ticket มาให้ตอน 09.00 น. แต่โรงอาหารปิด 08.45 น. ในหมู่คนไทยตูนได้กินคนเดียวมั้ง เสร็จแล้วก็ลงไปเอาถุงปิกนิกที่ชั้นล่าง ออกไปข้างนอกฝนตกปรอยๆ ตอนแรกกะไม่เอา jacket ไปด้วยซ้ำ เดินไปขึ้นรถบัสไป Sorbonne ไม่ทันถึงป้ายฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก เสื้อเอาไม่อยู่ ส่วนเสื้อกันฝนของ Air France ยังไม่อยากแกะออกมาใช้ แต่ความประทับใจมาเยือนเพราะความมีน้ำใจของคนๆ หนึ่ง เขา คือ Nabil ครูของ Butros ผู้มีหัวใจแห่งความเป็นครูที่แท้จริงและน่าประทับใจ เขาถอดเสื้อกันฝนให้เราใส่ บอกกลัวเราจะไม่สบาย ส่วนเขาเอาหมวกมาใส่แทน ซึ้งน้ำใจจริงๆ เลยขอบคุณไปยกใหญ่ ไปถึง Sorbonne มีการตรวจ passport ก่อนเข้าด้วย แปลกดี ที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และไฮโซในเวลาเดียวกัน


เข้าไปนั่งในห้อง lecture ขนาดมหึมาตกแต่งอย่างงดงามสไตล์ยุโรป มีธงของทุกชาติตั้งเรียงราย โชคดีธงไตรรงค์อยู่นอกสุดเลยเข้าไปถ่ายรูปง่ายหน่อย พอทุกคนเข้าที่ Bernard Pivot ผู้อ่าน dictée มหาหินก็โผล่ออกมา มีวีดิโอที่ถ่ายพวกเราในกิจกรรมต่างๆ ที่ผ่านมา แต่ไม่มีคนไทยโผล่ในจอเลย มีแต่ผิวขาว สนุกกันใหญ่ ถ่ายคนนั้น สัมภาษณ์คนนี้ ดูจบก็เริ่ม dictée เลย โดย M. Pivot จะอ่านก่อน 1 รอบ รอบสองก็เริ่มเขียนเลย เขาอ่านช้าๆ ซ้ำ ฟังชัดเจน แต่ศัพท์หลายคำเป็นศัพท์ยาก ไม่เคยได้ยินมาก่อน เลยเขียนส่งเดชไปงั้นแหละ พอเขียนจบมีคนมาเก็บและปล่อยให้ไปทานอาหารเที่ยงและ shopping มาเจอกันอีกที 4 โมงเย็น

เดินย่าน St. Michel ได้ไม่กี่นาที เรา พี่ป๋อม จ๊ะเอ๋ ตัดสินใจมุดใต้ดินลง métroไป Louvre เพื่อซื้อของที่ร้าน Benlux เป็นร้านค้าปลอดภาษี ขึ้นไปชั้น 2 ตามคำแนะนำ เพราะมีพนักงานขายคนไทย แต่ด้วยความยุ่งของเธอ ลูกค้าเยอะ ไม่มีเวลาหาของให้พวกเรา รวมทั้งของที่พี่ป๋อมอยากได้ไม่มี เลยพากันออกมาเดินหาร้านใหม่แต่ก็ไม่เจอ จ๊ะเอ๋กับพี่ป๋อมเลยเดินย้อนไปร้าน Liz ติดกับ Louvre ปลอดภาษีเช่นกัน แต่เราเดินเล่นอยู่แถวนั้น ร้านขายของที่ระลึกเยอะดี เข้าร้านนั้นออกร้านนี้ ได้ของมาพอสมควร รวมทั้งชุดน้ำหอม 10 ขวดเล็ก ที่ระลึกฟุตบอลโลกด้วย เหมาะแก่การตั้งโชว์ที่บ้านเป็นอย่างยิ่ง แต่โครตเสียดายเลย เพราะมาพบว่าของอย่างเดียวกันที่ร้าน Liz ถูกกว่าตั้ง 40 francs เลยซื้ออีกชุด กะว่าจะเอาไปขายคนที่ฝากซื้อของแต่ไม่ฝากเงินมา เสร็จแล้วรีบนั่งรถไฟใต้ดินกลับมา Sorbonne ปรากฏว่าคนยังมาไม่ครบเลย เข้าไปนั่งที่เดิม ตอนเฉลย dictée มีการเอาภาพที่แอบถ่ายระหว่าง dictée มาประจานด้วย บางคนแอบหลับ บางคนลอกคนข้างๆ บางคนสับสนตัวเอง บางคนทำหน้าตลก ดูไปหัวเราะไป ตลกดีเหมือนกัน พอเฉลยทำให้รู้ว่าผิดเยอะมากๆ ฝีมือยังอ่อนเยาว์นัก มีการมอบรางวัลผู้ที่ได้คะแนนดีเป็น Atlas และเหรียญรางวัล ทั้งประเภทบุคคล ทีม เยอะเหมือนกัน หลายสิบคน

คนเอเชียที่ติดอันดับก็มีหนุ่มหน้าตี๋จากแดนอาทิตย์อุทัยคนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ Yoshi ส่วนประเภททีมรู้สึกว่าจะเป็น Roumanie ได้ไป อีตาผู้ชายผู้ร่วมทีมดีใจจนร้องไห้ เว่อร์จริง ทำเหมือนได้รับตำแหน่งนางงามจักรวาลไปได้ ก่อนเดินทางกลับรับของแจกอีกแล้ว นี่ยังไม่รู้เลยว่าจะขนกลับเมืองไทยไหวหรือเปล่า คราวนี้เป็น dict Larousse เสื้อ ปากกา หมวก เครื่องคิดเลข กล้องถ่ายรูป เป้ คราวนี้ได้รับการสนับสนุนจาก TV5 ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ของที่นี่ ออกมาจากมหาวิทยาลัยแห่งแรกของฝรั่งเศส แวะซื้อของเป็นเหรียญเงินแท้ที่ระลึกฟุตบอลโลกให้อาแปะ 14 francs คงถูกใจ กินข้าวเย็นเรียบร้อย มีการพาออกไปงานเต้นรำ เปิดเป็นเธคกลางแจ้ง


คนเยอะมากๆ ฉลองชัยฝรั่งเศสกันยกใหญ่ เต้นได้สักพักเริ่มหมดความสนุก มีแต่ความเหนื่อยเมื่อยล้า หายใจไม่สะดวกเข้ามาแทนที่ เลยชวนกันกลับ métro เดี๋ยวเดียวก็ถึง Glacière

14/07/98, Paris

วันนี้ออกเดินทางตั้งแต่เช้าเพื่อไปชมขบวนพาเหรดงานวันชาติบนถนน Champs Elysées อากาศตอนเช้าค่อนข้างหนาวเย็น ลมพัดแรง ไปถึงทาน croissant ไป ชิ้น บวกกาแฟอีกครึ่งถ้วย เสร็จแล้วเดินลัดไปสแตนด์เข้าชมพาเหรด พอดีมีที่นั่งว่างด้านหน้าเลยเสียบเลย ขบวนพาเหรดไม่มีอะไรมาก เกี่ยวกับทหารส่วนใหญ่ ไม่มีอะไรสวยงาม ขบวนบุปผาชาติบ้านเราสวยกว่าเยอะ ด้วยความตอแหลส่วนตัว คือ อยากเกล้าผมเป็นมวยกลมๆ เพราะเหลือบไปเห็นฝรั่งข้างหน้าทำผมสวยดี เลยพยายามอยู่พักใหญ่ แต่ไม่สำเร็จ


พอดีเขาหันมาเห็นเลยเสนอความช่วยเหลือ โดยให้ผู้ชาย คือ Stéphane ทำให้ก่อนแต่ไม่สำเร็จ เขาแอบถ่ายรูปเราไว้ด้วยแหละ เลยให้แฟนผู้หญิงชื่อLeedy ทำให้ เดี๋ยวเดียวก็เรียบร้อยเป็นทรงอย่างสวยงาม เลยได้โอกาสทำความรู้จักแลกของที่ระลึกเป็นการใหญ่ ดูเขาคงประทับใจอยู่เหมือนกัน บอกว่ามาฝรั่งเศสคราวหน้าพร้อมจะต้อนรับเรา Stéphane อายุเท่ากับเรา ส่วน Leedy เพิ่ง 18 ยังเรียนในโรงเรียนอยู่เลย ดูพาเหรดอันแสนจำเจเสร็จเกือบเที่ยง พากันออกเดินไปตามสถานที่ที่ได้รับเชิญ พอไปถึง (เดินไกลพอสมควร) Palais de l'Elysée มี réception อาหารนานาชาติจัดเลี้ยงพวกเราอย่างยิ่งใหญ่


รากับพี่ป๋อมกินอิ่มมากเพราะหน้าด้านมุดทุกซุ้มเลย สรุปได้ว่าอาหารตะวันออกอร่อยกว่าตะวันตกเพราะหอมเครื่องเทศ กินกันจนท้องจะแตกจึงได้หยุด อาหารน่ากินแต่คนก็เยอะเหมือนกัน สักพักมีนักบอลฝรั่งเศสที่ได้ครองแชมป์ฟุตบอลโลกออกมาโชว์ตัว แฟนบอลเบียดเสียดกันใหญ่ เสียงกรี๊ดกร๊าด คนแน่น แสงแฟลชแว่บติดต่อกันนานมาก กล้องเราก็ไม่มีฟิล์ม กล้องพี่ป๋อมก็ฟิล์มหมด คิดว่าจะอดถ่ายเสียแล้ว เพราะมี Chirac ด้วย เผอิญจ๊ะเอ๋โผล่มาเลยยื่นกล้องให้ เราก็ยื่นต่อให้คนที่เขาสะดวกถ่ายให้ 2 รูป เดี๋ยวค่อยมาขออัดที่เมืองไทย เสร็จเรียบร้อย

ก่อนกลับดันทำเสื้อตัวโปรดของเฮียเซี้ยงหายอีก จริงๆ ไม่ได้ทำหายเองหรอก ฝากพี่เกกเอาไว้แต่เธอลืมตามประสาคนแก่ พาดไว้บนรั้ว พอนึกออกก็ไม่อยู่แล้ว แย่จัง ไม่ใช่เสื้อของตัวเองเสียด้วย ถามใครก็ไม่มีใครรู้ คนแถวนั้นก็ดี๊ดี อุตส่าช่วยกันเป็นธุระหาให้แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ถามตรงทางออกก็ไม่มีใครมามอบ คงต้องทิ้งไว้เป็นของที่ระลึกให้ M. Le Président เสียแล้ว เสร็จแล้วนั่ง métro กลับ FIAP ตอนเย็นทานอะไรไม่ค่อยลงเพราะยังอิ่มอยู่ พอตกเย็นหน่อยมีการไปรวมตัวกันข้างล่าง บางกลุ่มจะออกไปเที่ยวข้างนอก ตอนนี้แหละใครชอบใครก็ขอที่อยู่ ขอถ่ายรูป คนเยอะขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีกลุ่มอื่นมารวมด้วย พวงกุญแจหนังตะลุงของเราก็ได้แจกนะแต่ยังไม่หมด บางคนอยากรู้จักแต่ใจไม่ด้านพอ คนที่รู้จักส่วนใหญ่เป็นพวกเอเชีย ตลก Yoshi มาถามว่าตกลงเราเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เขาบอกว่าทุกคนคิดว่าเป็นผู้หญิงแต่พอได้ยินเสียงก็แปลกใจ หน้าเราเหมือนผู้หญิงมาก ว่าแล้วเขาก็ใจกล้าดี กล้าถามหน้าด้านๆ จริงใจตรงไปตรงมา พรุ่งนี้ต้องกลับดินแดนสวรรค์ของเราแล้ว ไม่อยากเลย

15/07/98, Paris

วันนี้ตื่นมาไม่มีอะไรมาก จัดของเสร็จเอาลงมา เดินไปเดินมา ไม่ได้ทำอะไรเป็นประโยชน์เลย เมาท์ไอ้พวกตากาล็อกที่ปล่อยตัวกับคนหล่อๆ เกินไป ก็ Brian กับพ่อ Leonardo เนี่ยแหละ จนกินเที่ยงเสร็จก็เลยไป shop กับพี่ป๋อม จะที่ไหนได้ล่ะ ก็แถบๆ Louvre นั่นแหละ ไป Benlux ของไม่มี เลยไปซื้อที่ Liz ตามเคย เราซื้อน้ำหอมฟุตบอลโลกและ Davidoff ที่นิ่มฝากซื้อ จะกลับไปชาร์จให้เข็ดเลย เสร็จแล้วกลับมาเตรียมตัวออกเดินทางไปสนามบิน


ขึ้นรถมาคันเดียวกับพวกเวียดนาม ฟิลิปปินส์ เดนมาร์ก (Brian กับ Leo) อยากเข้าไปทำความรู้จักใจจะขาด แต่ไอ้พวกฟิลิปปินส์ดูท่าทางหวงก้าง และมันสองคนก็ทำเป็นยโส ประมาณว่าคงรู้ตัวว่าหล่อ ลงรถที่ Charles de Gaulle ก็เล่นมาเลเซียไปหนึ่งรอบ โชว์หนุ่มสองหน่อนั่นแหละ ตอนนี้พวกหวงก้างเข้าสนามบินไปเรียบร้อยแล้ว เห็นจ๊ะเอ๋บอกว่าเขาแอบมองและหันมายิ้มใหญ่เลย อยากทักมากแต่จนแล้วจนรอดก็หยิ่งในความเป็นไทย เดินจากมาอย่างไม่มีเยื่อใย อย่างคนไม่รู้จักกัน เก็บไว้แค่ความประทับใจพอแล้ว เช็คของเรียบร้อย ขึ้นมานั่งบนเครื่อง พร้อมออกเดินทางกลับประเทศไทย  

+++++++++++++++++++++++++++

Le journal d’un garcon aux cheveux longs (Ep.1)

Le journal d’un garcon aux cheveux longs (Ep.2)






 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2558
0 comments
Last Update : 13 กรกฎาคม 2558 15:05:00 น.
Counter : 1817 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Thaisoloclub
Location :
Rome Italy

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




Friends' blogs
[Add Thaisoloclub's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.