เมื่อเท้ามันคัน อะไรมันๆ จะเกิดขึ้น
Group Blog
Italy
Kenya
Africa
Asia
Europe
Home Cuisine
English and whatnot
For the Sake of Complaining
Misc
<<
เมษายน 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
3 เมษายน 2553
เคนยา : เมาท์ลองโกน็อต เม้าท์แตกกลางภูเขาไฟ ถอดใจไปหลายรอบ (ภาค 1)
All Blogs
เคนยา : วัดแขกอินเดียในเคนยา ที่พึ่งทางใจพุทธศาสนิกชนยามไร้วัดพุทธ
เคนยา : เทศกาลดอกจักกะรันดาบาน
เคนยา : สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่าโบสถ์ อนุสรณ์เชลยสงครามโลกครั้งสุดท้าย
เคนยา : Hells Gate ไต่ มุด ล่อง
เคนยา : ซัมบูรู ถิ่นนักรบที่แม้ไม่ใช่มาไซ แต่ก็ใกล้เคียง (ตอนจบ)
เคนยา : ซัมบูรู ถิ่นนักรบที่แม้ไม่ใช่มาไซ แต่ก็ใกล้เคียง (ตอนเริ่ม)
เคนยา : คนดีตกน้ำไม่ไหล แต่เปียกและอาย
เคนยา : ตามหานกฟลามิงโกสีชมพูไปจนสุดขอบเลค
เคนยา : Lake Elementaita เป็นเอดส์มายังสู้หาย
เคนยา : ล่องแก่งเบียดเสียด จะเครียดไปไหน
เคนยา : Kisumu เมืองปลานิล
เคนยา : เกาะพระจันทร์เสี้ยว สองเลี้ยวก็ถึง
เคนยา : Paradise Lost สวรรค์ที่หายไปแล้วไม่น่าหาเจออีก
เคนยา : ภารกิจพิชิต Mt. Kenya (วันที่ 4)
เคนยา : ภารกิจพิชิต Mt. Kenya (วันที่ 3)
เคนยา : ภารกิจพิชิต Mt. Kenya (วันที่ 2)
เคนยา : ภารกิจพิชิต Mt. Kenya (วันที่ 1)
เคนยา : อเบอร์แดร์ สวยแท้ดั่งภาพวาด
เคนยา : โรงงานทำแก้วจากของเหลือใช้ reuse หรือ recycle
เคนยา : Mount Suswa ภูเขาไฟดับแล้วที่ไม่ต้องปีน
เคนยา : ทะเลสาบมากาดิ แดดร้อน น้ำพุร้อน คนก็ใจร้อน
Hells Gate : ประตูสู่นรกกับการได้ไปที่ชอบที่ชอบ
Ngong Forest แค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ แต่ถูกสาดด้วยความรู้
เคนยา : ไร่ชาของคุณป้าผู้ดี
เคนยา : อึ้ง น้ำตก 7 สาวน้อยยังมีฝาแฝด คนไทยค้นพบน้ำตก 14 สาวน้อยที่เคนยา
เคนยา : พาไปปีนเขาให้เมื่อยตุ้มเล่น
เคนยา : ดำน้ำดูปลา เคนยาเขาก็มี
เคนยา : มอมบาซา เมืองท่า เมืองเที่ยว
เคนยา : นากูรู ในป่ามีนก ในเมืองมีตึก ในสนามกีฬามีทอง
เคนยา : Lake Naivasha Country Club หนีความวุ่นวาย สายๆ ก็มาถึง
เคนยา : ประสบการณ์ตรงจาก(ปาก)ผู้เดินทางมาท่องเที่ยว
เคนยา : กุหลาบจะสวยไปไหน สวยไม่เผื่อแผ่ใคร สวยไม่บันยะบันยัง
เคนยา : ประพฤติตัวเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีบ้างไรบ้าง....
เคนยา : นกกระจอกเทศยังไม่ทันกินน้ำ
เคนยา : ภัยใกล้ตัวที่ใกล้เข้ามาจนเกือบชิด
เคนยา : อยู่ไม่เป็นสุขเหมือนเจ้าไม่มีศาล
เคนยา : จะขอผ่านเข้าเมือง โปรดชำเรืองสักนิด
เคนยา : เมาท์ลองโกน็อต เม้าท์แตกกลางภูเขาไฟ ถอดใจไปหลายรอบ (ภาค 2)
เคนยา : เมาท์ลองโกน็อต เม้าท์แตกกลางภูเขาไฟ ถอดใจไปหลายรอบ (ภาค 1)
เคนยา : Mount Kenya สูงกว่า ไกลกว่า แพงกว่า เสล่อกว่า
เคนยา : รถมือสอง ลองมาขับ จับไม่กลัว
เคนยา : Do you ride an elephant to work?
เคนยา : ซาฟารีพาร์ค สมใจอยาก กินไม่หยุดปาก
เคนยา : มาไซมาร่า...สามเดือนผ่านไป ไฉไลกว่าเดิม (ตอน 2)
เคนยา : มาไซมาร่า...สามเดือนผ่านไป ไฉไลกว่าเดิม (ตอน 1)
เคนยา : มาไซ ชนเผ่ามาทำไม ตอน 2
เคนยา : มาไซ ชนเผ่ามาทำไม ตอน 1
เคนยา : ขึ้นไปเป็นเจ้าหญิงลงมาเป็นพระราชินี
เคนยา : Thomson’s Falls น้ำตกจากนรกสู่สวรรค์
เคนยา : ซาฟารีใหญ่กลางใจเมือง
เคนยา : เอนเตอร์เทนเมนต์และแหล่งมั่วสุมของฆาตกร (ฆ่าเวลา)
เคนยา : สงกรานต์แบบไทยในแอฟริกา
เคนยา : คิลิมันจาโร ยอดหิมะสูงระฟ้า (2)
เคนยา : คิลิมันจาโร ยอดหิมะสูงระฟ้า (1)
เคนยา : ช่วยลูกช้างด้วย...เจ้าประคู๊ณ
เคนยา : อยู่อย่างคนไม่ไร้ที่ซุกหัวนอน
เคนยา : นากูรู เช้าตรู่ ฟลามิงกู สีชมพู น่าดู
เคนยา : พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เชยๆ แบบทันสมัย
เคนยา : Giraffe Center จูบแรกกับน้องยีราฟ
เคนยา : Karen Blixen แหม่มผิวขาวที่คนเคนยารู้จักมากที่สุด
เคนยา : ของขึ้นหน้าขึ้นตาที่ไม่ใช่สิว
เคนยา : Hell's Gate ประตูสู่นรก ?
เคนยา : ทะเลสาบไนวาชากับชีวิตสุดฮิป (โป)
เคนยา : The Rift Valley รอยแยกแห่งกาฬทวีป
เคนยา : เมาท์ลองโกน็อต เม้าท์แตกกลางภูเขาไฟ ถอดใจไปหลายรอบ (ภาค 1)
แฟนประจำที่ชอบบล็อกพาเที่ยวเคนยาคอมเพลนกันว่า ช่วงนี้ไม่ได้พาออกไปชมธรรมชาติในเคนยาเลย มีแต่โชว์ทำอาหารอยู่กับบ้าน ต้องขออภัยด้วยครับ ผมเองอยากออกไปเที่ยวใจจะขาด แต่ด้วยเรื่องงานปวดสมอง เตรียมย้ายบ้านพัก เตรียมลาพักร้อนกลับไทย และเรื่องจิปาถะต่างๆ นาๆ แล้ว ทำให้ไม่สามารถไม่มีเวลาและอารมณ์ออกไปไหน จนมีมิตรสหายจากเมืองไทยมาเยี่ยมเยียนเนี่ยแหละถึงได้ออกไปไหนมาไหนกับเขาบ้าง
สหายทั้งสามจากไทยประทับใจเคนยามาก ประมาณว่าครั้งหนึ่งในชีวิตและหาไม่ได้อีกแล้ว ที่ไม่ค่อยประทับใจแต่คงจำไปได้อีกนานก็มีอยู่สองสามเรื่อง ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับประเทศกำลังพัฒนาแถมยังอยู่ในแอฟริกาอีก เช่น คนขี้โกง ไม่มีมารยาท และสนนราคาค่าท่องเที่ยวที่สูงที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยไปกันมา คิดดูว่ามาอยู่ประมาณสิบกว่าวันหมดเงินไปคนละแค่แสนกว่าบาทเท่านั้นเอง นี่ขนาดไม่มีต้องจ่ายค่าที่พักเพราะมาพักกับผม และอาหารก็ซื้อของมาทำทานกันเองเสียส่วนใหญ่ ถ้าไม่มีเงินเก็บหรือรายได้เดือนละหลายหมื่นบาทคงต้องรอถูกหวยถึงจะมาเที่ยวได้ สหายกลุ่มนี้กลับไปคงได้ทานมาม่าแทนข้าวกันสักพัก อะไรก็แพงไปหมดแต่คนท้องถิ่นก็จนเอาจนเอา ของแพงแต่คนจน ก็คงไม่แปลกที่อาชีพปล้นจี้และลักขโมยจะได้รับความนิยม งานสบาย เงินดี ปลอดภาษีอีกต่างหาก
อย่าเพิ่งเบื่อครับ เข้าเรื่องแล้ว เพื่อนมาอยู่เป็นสิบวันนะครับ แต่ก็มีอยู่วันเดียวล่ะที่ผมได้ออกไปผจญภัยกับเขาโดยการปีนเขาลองโกน็อต (Mt. Longonot) สมความตั้งใจเสียที ผ่านมาผ่านไปหลายรอบไม่มีโอกาส มาคราวนี้ เพื่อนก็มี วัยก็ใกล้เคียงกัน
ออกเดินทางออกจากไนโรบีตอนประมาณ 7 โมงครึ่ง เพื่อให้ไปถึงอุทยานแห่งชาติเมาท์ลองโกน็อตตอนสายๆ เวลาปีนจะได้ไม่ร้อนเกินไป ใช้เส้นทางตรงจากไนโรบีไปทางทิศตะวันตก ถนนเพิ่งตัดใหม่สองเลนแต่ก็วิ่งรถได้สบาย มีช่วงสั้นๆ เท่านั้นที่รถบรรทุกหนาแน่น
แค่วิวสองข้างทางก็ตะลึงแล้ว จินตนาการว่ากำลังขับรถบนถนนที่ตัดข้ามรัฐในอเมริกาที่เคยเห็นในหนัง ถนนเส้นตรงยาว สองข้างทางเป็นภูเขาและทุ่งหญ้าสีเหลือง
ขับรถอยู่เกือบสองชั่วโมงก็เริ่มมองเห็นจุดหมายปลายทางชัดขึ้น เหมือนไม่สูงมาก เอาเข้าจริงไม่ธรรมดาเลย
ขับรถกินลมชมวิวประมาณสองชั่วโมงก็มาถึงอุทยานแห่งชาติ จอดรถ เข้าห้องน้ำ และเอาเสบียงต่างๆ ที่เตรียมกันมาใส่เป้สะพายหลัง ต้องไปทานอาหารกลางวันกันบนนั้น ทางเข้ามีสำนักงานของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเก็บเงินค่าเข้าอุทยาน นักท่องเที่ยวคนละ 20 เหรียญ หรือประมาณ 600 บาท ส่วนแบบผมคนละ 500 ชิลลิ่ง หรือประมาณ 200 บาท
ผ่านประตูมาก็มองเห็นภูเขาตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ทางเดินดูเหมือนราบเรียบ ไม่น่าจะมีปัญหาในการปีนแต่อย่างใด
หมดช่วงทางเรียบ เริ่มมีจุดที่ต้องปีนป่าย แต่ยังคึกคักกระฉับกระเฉง
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เสื้อเริ่มชุ่มเหงื่อทั้งที่อากาศไม่ร้อนอะไร แวะพักกันเกือบทุกห้านาที
ลูกเล็กเด็กดำที่โรงเรียนเขาพามาทัศนศึกษาก็แซงหน้าผมไปเฉย มาสังเกตว่า เขาเดินตัวเปล่ากันเกือบทั้งนั้น อย่างดีก็มีน้ำขวดเล็กขวดนึงกับแซนด์วิช 1 ชิ้น
ดูเป้พวกเราเสียก่อน ธรรมดาที่ไหน ผมว่าไม่ต่ำกว่าห้ากิโล แม้ฟังดูไม่หนักมากในทางเรียบ แต่ทางชันที่อากาศเบาบางเนี่ย ทำเอาผมหายใจเกือบไม่ทันหลายครั้ง ใจนึงอยากจะทิ้งสัมภาระไว้ตรงนั้น แต่ไม่อยากอดข้าวกลางวันเพราะข้างบนคงไม่มีกะเพราไก่ไข่ดาวขาย
ยอมรับว่าเหนื่อยที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต ทั้งปีน ทั้งลาก ทั้งดัน ทั้งไถ แต่ก็ไม่วายถ่ายรูปสวยๆ ระหว่างทาง
ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งก็ขึ้นมาถึงยอดเขา เสื้อเปียกเหงื่อเกือบทั้งตัว (ป้ายนี้แปลว่าห้ามทิ้งขยะ)
ขึ้นมาถึงก็มีแรงกระโดดโลดเต้นถ่ายรูปได้อีกพักใหญ่
ภูเขาลองโกน็อตเป็นภูเขาไฟดับแล้ว ปะทุล่าสุดเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว ปัจจุบันในปล่องก็มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมทั่วไป มีสัตว์พวกม้าลายและยีราฟอาศัยอยู่ด้วย แต่ผมตาลายมองไม่เห็นอะไรสักกะตัว
ยอดเขามีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณเกือบ 3 กิโลเมตร ไม่สูงมากถ้าเทียบกับคิลิมานจาโร แต่เจอทางชันเข้าไป อยากจะเนรมิตให้มันมีรถรางไฟฟ้าแบบดอยสุเทพเดี๋ยวนั้นเลยจริงๆ
ฝรั่งตัวใหญ่ๆ ยังต้องหลับเอาแรง
ชีวิตนี้จะมีโอกาสปีนเขาปีนดอยกับเขาก็ครั้งนี้ละครับ บนยอดสามารถเห็นปล่องได้ชัดเจนมากและ (หากยังมีเรี่ยวแรง) สามารถเดินได้รอบปล่อง
อีกด้านก็เป็นทะเลสาบไนวาชาที่มีฮิปโปอาศัยอยู่จำนวนมาก ซึ่งผมเคยเล่าไปแล้วในบล็อกเก่า และปล่องเล็กอีกหนึ่งปล่อง
จุดที่สูงที่สุดของปากปล่องภูเขาไฟ ดูท้าทายให้ไปต่อ ใช้เวลาทำใจอยู่นานก่อนตัดสินใจเดินต่อไป ไม่ไปเดี๋ยวจะว่ามาไม่ถึง กะว่าถึงยอดนั้นแล้วจะเดินกลับมาทางเดิม คำนวณแล้วไม่มีพละกำลังพอที่จะเดินรอบปล่องได้
เดินไม่ทันถึงก็ได้เวลาทานข้าวเที่ยง หาที่เหมาะๆ แล้วเอาสำรับอาหารออกมา จึงได้เห็นว่าอะไรมันถ่วงหลังอยู่ตลอดเวลา กินกันอลังการสไตล์คนไทย กินไม่หมดก็ต้องแบกใส่หลังต่อไป
ใครเดินผ่านไปมาตรงนั้นก็คงงงว่าเอาอาหารกันมาจากไหนมากมาย แต่เมื่อเห็นเสื้อพวกเราที่ชุ่มเหงื่อก็คงเข้าใจ
กินอิ่มหนำสำราญ ร่างกายมันอยากพักมากกว่าเดินต่อ ขาแข้งที่เริ่มปวดเมื่อยและท้องที่อิ่มทำให้ลังเลและถอดใจถอยหลังกลับ จะมาเล่าต่อในภาค 2 นะครับว่าสุดท้ายแล้วสู้หรือถอย
Create Date : 03 เมษายน 2553
Last Update : 3 เมษายน 2553 6:25:28 น.
7 comments
Counter : 3739 Pageviews.
Share
Tweet
สวยมากค่ะ
โดย: ไหม IP: 125.25.200.75 วันที่: 3 เมษายน 2553 เวลา:11:09:57 น.
โดย:
thanitsita
วันที่: 3 เมษายน 2553 เวลา:13:35:53 น.
ท้องฟ้าสีสวยมาก วิวก็สวย
ชอบ ลูกเล็กเด็กดำ ^^
เพื่อนจะพาเราไปปีนอีกมั้ยอ่ะ
โดย:
Nungkwak
วันที่: 3 เมษายน 2553 เวลา:13:35:56 น.
ดูภาพสวยมากเลยแต่ยังไม่เคยไปเก็บตังก่อนเดี๋ยวไปใหม่
โดย: srisangwarn IP: 113.53.201.152 วันที่: 4 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:17:45 น.
ความประทับใจท่ีไม่อยากลืมเลือน :)
โดย: Salisa Kanjchanapoomi IP: 110.168.100.98 วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:9:51:58 น.
โอ้ยยยยยยยย สับสนกับภาษาไทย จะบอกว่า ความประทับใจท่ีไม่ "อาจ" ลืมเลือน จ้ะ :)
โดย: Salisa Kanjchanapoomi IP: 110.168.100.98 วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:9:56:09 น.
เห็นแล้วอยากไปจัง ถ้าจะไปจะต้องเดินทางเส้นทางไหนจ๊ะ ใครก็ได้ช่วยบอกที ที่รู้มาว่าเดินรอบป่องภูเขาไฟลองกอน๊อตนั้นจริงหรือเปล่าจ๊ะ
โดย: เด็กบ้านพลอยไนโรบี IP: 196.201.217.252 วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:23:31:31 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Thaisoloclub
Location :
Rome Italy
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [
?
]
Friends' blogs
nungkwak
Qingqing
Webmaster - BlogGang
[Add Thaisoloclub's blog to your web]
Links
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.