อียิปต์ เอาเรื่องมาเล่า เอารูปมาฝาก..(2)
วันที่สองในอียิปต์ วันนี้เราต้องตื่นกันตั้งแต่ตีสอง หลังจากที่เมื่อคืนหลับๆตื่นๆบนเครื่องบินมาเก้าชั่วโมง มันช่างเป็นการเที่ยวที่โหดร้ายจริงๆหนอ พอไปถึงสนามบิน หันไปมองรอบๆตัวก็ได้ขำ นักท่องเที่ยวมากมายหน้าตางัวเงีย คงมีชะตากรรมเดียวกับเรา แต่ละคนก็มีกล่อง breakfast เบ้อเร่อเบ้อร่าอยู่ในมือ ทางโรงแรมเหมือนจะต้องจัดให้นักท่องเที่ยวจนคุ้นชิน มันเป็นกล่องใส่อาหาร buffet ที่จัดเป็น breakfast ให้กับแขกที่มาพัก เค้าจัดมาให้อย่างละชิ้น ดีนะไม่มีไข่ดาวมาด้วย มีแต่ไข่ต้ม น้ำผลไม้กล่องนึง (ในอียิปต์ดูเหมือนจะมีน้ำผลไม้อยู่ยี่ห้อเดียว) แล้วก็โยเกิร์ตอีก 1 ถ้วย (นี่ก็มียี่ห้อเดียวเหมือนกัน) นอกนั้นก็เป็นขนมปังสารพัดแบบ เอามาอย่างละชิ้น อ้อ แล้วก็เป็นผลไม้อีกคนละลูก อร่อยดี อะไรก็ไม่รู้ แต่คือว่ากล่องมันใหญ่และหนักมากน่ะ แล้วก็เป็นกล่องกระดาษ มันก็ทุลักทุเลน่าดู ขาดๆหลุดๆ ถือลำบากๆ ตอนนั้นกำลังสะลึมสะลือ ไม่งั้นจะถ่ายรูปมาให้ดู เพื่อลดน้ำหนักของกล่องอาหารเช้าเรา ก็เลยเปิดมากินเลย คิดดูแล้วกัน กินอาหารเช้าตอนตีสาม ที่สนามบินเนี่ย โอ้ย...แหวะ
เครื่องบินไปที่อาบูซิมเบล แปลกตรงที่เที่ยวบินในประเทศของเค้าวิเศษมาก ทั้งๆที่มันก็สายการบินเดียวกันนั่นแหละ สงสัยเพราะมีแต่นักท่องเที่ยวจริงๆ แต่มันแย่ตรงที่เค้าไม่ให้เข้าห้องน้ำ ตลกดีเหมือนกัน จะเข้าเค้าก็บอกว่าจะลงแล้วๆ ทั้งๆที่อีกตั้งเกือบชั่วโมง สงสัยคุณๆแอร์กะสจ๊วตจะขี้เกียจทำความสะอาด ผู้โดยสารทั้งลำเลยต้องมาต่อคิวเข้าห้องน้ำกันที่สนามบิน ลำบากหน่อยโดยเฉพาะผู้หญิงเพราะมันมีอยู่แค่สองห้องเอง
ตอนเครื่องลงมองลงมาข้างล่าง มันมีแต่ทรายกับทรายเท่านั้น
มีหงุดหงิดกับเรื่องห้องน้ำเล็กน้อย คือว่าที่อียิปต์จะมีธรรมเนียมว่าเข้าห้องน้ำต้องให้ทิป ก็นิดๆหน่อยๆซัก 1 ปอนด์อียิปต์ก็พอ (ประมาณ 5-6 บาท) แต่ว่าตอนนั้นเรามีแต่เงินดอลล่าร์ติดกระเป๋า เพราะว่าคุณไกด์บอกว่าไม่ต้องแลก เราก็เลยไม่ได้แลก พอเราไม่มีให้ เค้าก็บอกว่างั้นขอ ปากกา ก็ไอ้อันที่ติดกระเป๋าเสื้อนั่นแหละ โผล่ออกมาให้เขาเห็น นี่ขนาดมีติดป้ายบอกว่า no tip นะเนี่ย จะว่าไป หน้าที่ของพนักงานในห้องน้ำที่นั่นมันก็แปลกๆดี คือเขาไม่ค่อยจะทำความสะอาดห้องน้ำเท่าไหร่หรอก แต่ว่าคอยดึงกระดาษทิชชู่ส่งให้น่ะ แล้วก็รับทิป ทำให้ตอนอยู่ที่นั่นมันจะไม่ค่อยอยากเข้าห้องน้ำสักเท่าไหร่ ไม่ค่อยอยากจะเจอกับความช่างขอของคนดูแลพวกนี้เท่าไหร่ ถ้าจำเป็นต้องเข้า ก็จะก้มๆหน้าเข้าไป เขาส่งกระดาษให้ก็ไม่รับ คือว่าบางทีเราก็รู้สึกผิดเหมือนกันแหละ ที่ไม่มีทิปให้เขา มีอยู่ครั้งนึงที่ห้องน้ำพิพิธภัณฑ์ เขาก็มาขอทิปอีก เราก็เลยกลับหลังหัน ไม่เข้าก็ได้ เรื่องของเรื่องคือเราไม่มีทิปเนี่ยแหละ กลายเป็นว่าพอเราทำอย่างนั้นเขากลับกลัวนะ สงสัยกลัวเราเอาไปฟ้อง รีบวิ่งมาง้อเราใหญ่ว่าให้เข้าห้องน้ำเถอะนะ นอกเรื่องไปไหนแล้ว เอ้า! กลับมาที่อาบูซิมเบลต่อ
อันนี้คือป้ายบอกว่า นี่แหละสนามบิน
ตอนนี้เราจะไปดูวิหารอาบูซิมเบลกัน เป็นวิหารคู่คือวิหารใหญ่ของฟาโรห์รามเสสที่ 2 กับวิหารเล็กที่สร้างให้มเหสี พระนางเนเฟอร์ตารี ที่วิหารใหญ่มีรูปสลักของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ในวัยที่ต่างกัน 4 องค์
ทางเดินมหาโหด
รูปสลักของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ในวัยที่ต่างกัน 4 องค์
วิหารนี้อยู่เลียบแม่น้ำ จริงๆแล้วตรงที่ตั้งนี่ไม่ใช่ของเดิม แต่ว่าถูกย้ายขึ้นมาให้สูงขึ้นจากน้ำ เพราะว่าการก่อสร้างเขื่อนอัสวานกั้นแม่น้ำไนล์ จะทำให้วิหารนี้จมอยู่ใต้น้ำ การเคลื่อนย้ายทำโดยการตัดหินเป็นชิ้นๆ แล้วใส่เบอร์ไว้ แล้วก็ขนขึ้นมาสูงๆ แล้วก็ประกอบกลับเข้าไป (ทำยังกะตัวต่อจิ๊กซอว์ 3 มิติ ผิดกันแต่ว่าจิ๊กซอว์พวกนี้ทำจากหิน!)
อันนี้เป็นลวดลายสลักบนผนังตรงฐานรูปปั้น สังเกตดีๆจะมีทั้ง เฮียโรกลิฟฟิค และ กราฟฟิตี้
อันนี้คือด้านหน้าของวิหารพระนางเนเฟอร์ตารี
ซูมใกล้หน่อย
เสียดายที่เค้าไม่ให้ถ่ายข้างใน ข้างในมันก็จะมีห้องต่างๆ แล้วก็มีลวดลายคล้ายๆกับผนังด้านนอก
แล้วก็จะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับพลังและอำนาจของฟาโรห์ แล้วก็มีรูปปั้นอยู่ข้างในด้วย แต่จะว่าไป มันก็คล้ายๆกันหมดนะ
ดูๆเสร็จก็เดินกลับ ไปบนทางเดินมหาหิน (และทราย)
ถึงจะอยู่ติดน้ำ
แต่ก็ดูว่าจะไม่ช่วยอะไรนัก
ไม่ได้นอนทั้งคืน แถมยังมาตากแดดอีกทั้งเช้า ทรมานทรกรรมจริงจริ๊ง วันนี้ แต่ยัง...ยังไม่จบ เรากำลังเดินทางกลับไปที่สนามบินอาบูซิมเบล เพื่อบินไปยังเมืองอัสวาน นักท่องเที่ยวที่มาอาบูซิมเบลคงจะมีจุดหมายเพียงอย่างเดียว นั่นคือการมาเยี่ยมชมวิหารอาบูซิมเบลที่เราไปมานี้ จึงมีบริการ shuttle bus ไปกลับจากสนามบินกับวิหาร เป็นรอบๆ หลังจากแออัดยัดเยียดเป็นปลากระป๋องกันไปในรถ ก็ถึงสนามบินซักที ก็ต้องมาต่อคิวตรวจค้นอะไร ตื๊ดๆ นั่นอีก คราวนี้ขำมาก เพราะว่ามันมีช่องให้เราผ่าน ใช่มะ ตามปกติ ถ้าเดินผ่านแล้วตื๊ด เค้าก็จะมีไอ้แท่งๆมาลูบๆตามตัวเรา แต่ว่าที่นี่ไม่มีไอ้แท่งๆอันนั้นน่ะ พอไม่ได้ลูบเค้าก็เลยให้ถอด!!! ถึงว่าทำไมมัน น้านนนนน.....นาน คิวยาวเหยียด รอบแรกเราเข้าไป ตื๊ด.. เอ้าถอยหลัง ถอดแว่นกันแดด ลองใหม่ ตื๊ด.. เอ้าถอยหลัง ถอดเสื้อคลุมกันแดด ลองอีกที ตื๊ด..เอ้าถอยหลัง ถอดนาฬิกา ลองอีก (โว้ย เริ่มหงุดหงิด) ตื๊ด.. (แง่งงง!) ถอดเข็มขัด ลองใหม่ (เริ่มขำขึ้นมาตะหงิดๆ) ตื๊ด... (จะเอาอะไรกะกรู ) ถอดรองเท้า ลองใหม่ ทีนี้ระเบิดหัวเราะขึ้นมา ขำสุดฤทธิ์ เออผ่านเว้ย หวิดไปซะแล้ว นึกว่าจะต้องถอดหมดตัว แบบว่าไม่โมโหแล้วน่ะ คือว่ามันขำมากกกกก จนลืมโมโห ผ่านเข้าไปได้ ได้เวลาเครื่องบินออก แต่มันไม่ออกโว้ย ประตูให้ boarding ก็ยังไม่เปิด แล้วมันรออะไรของมัน เครื่องบินก็จอดอยู่ กัปตันก็นั่งอยู่ตรงประตูน่ะแหละ สอบถามได้ความว่าสนามบินอัสวานที่เรากำลังจะไป มันปิดอยู่ เฮ้ย!!!! อะไรเนี่ย มันปิดแล้วไงล่ะทีนี้ เค้าก็บอกว่า ก็รอมันเปิด (อะไรวะ) ล่วงเลยไปจนได้เวลาอาหารกลางวัน หิวแล้วนะเฟ้ย ในที่สุดสนามบินอัสวานก็เปิด เราก็ขึ้นเครื่อง ประทานโทษ พี่อียิปต์แกยังตรวจไอ้ตื๊ดๆอีกแน่ะ นึกว่าจะรักษาความปลอดภัยแน่นหนา แต่เปล่าหรอก พอถึงตอนนี้มันก็ตื๊ดทุกคนแหละ แต่ไม่เห็นจะตรวจอะไรเลย กว่าเครื่องจะออก เล่นเอาทั้งหมดแรง เพลีย หงุดหงิด แล้วก็ ...อยากกลับบ้าน.... เป็นการเที่ยวที่ทรมานจริงๆ เดี๋ยวขอหลับบนเครื่องก่อนนะคะ ถึงอัสวานแล้วจะมาเล่าต่อ ^__^
เอารูปมาล่อให้อยากดูติดตามค่ะ ที่อัสวาน ตอนล่องเรือเฟลุกกะ
Create Date : 31 พฤษภาคม 2550 |
|
9 comments |
Last Update : 14 มกราคม 2551 9:27:16 น. |
Counter : 1844 Pageviews. |
|
|
|
อลังการมากเลยค่ะ
เห็นแล้วอยากไปสัมผัสบ้างจังค่ะ