ทรงเจ้าของแม่เมื่อนานมาแล้ว(เท่าที่จำได้)
ที่บ้าน ทางสายแม่จะมีผีปู่ย่าหรือบรรพบุรุษอยู่ และจะเป็นผู้คุ้มครองลูกหลาน กาญจน์ฏีก็ไม่ได้ถามแม่ว่าทำไมที่บ้านเก่าที่แพร่ แม่ถึงทำหิ้งปู่ย่าไว้ กาญจน์ฏีรู้แต่ว่าเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ
แม่เป็นชอบทำบุญเข้าวัดเข้าวาและมีสัมผัสที่หก แล้วโอปปาติกะก็ชอบมาเข้าร่างของแม่บ่อยๆ แต่ปู่ย่าท่านประจำตัวเลย
เวลามีงาน... งานทรงเจ้าที่จังหวัดแพร่ เขาจะมีเทียบเชิญ เป็นกรวยดอกไม้ธูปเทียนโดยลูกศิษย์ลูกหาของเจ้าองค์นั้นๆ แล้วแม่ก็ไป
ในงานจะมีร่างทรงหลายเพศหลายวัย แต่งตัวตามแต่เจ้าองค์นั้นๆจะชอบ กาญจน์ฏีก็จะเป็นคนดูเฉยๆ พ่อจะเป็นคนช่วยหยิบจับผ้าหรือชุดให้ปู่ย่าแต่ง
ตอนไปงานแรกๆ แม่จะเข้าไปไหว้หิ้งพระและหิ้งเจ้าของเจ้าของงาน สักพักนึงแม่จะกระโดดแล้วล้มตึงเป็นสัญญาณว่าปู่ย่าเข้าทรงแล้ว
ส่วนใหญ่เจ้าต่างๆท่านก็จะฟ้อนรำ มีเป่ากระหม่อมหรือรักษาคนบ้างตามแต่ลูกศิษย์ลูกหาจะขออะไร
เวลางานจะนานพอประมาณ ตอนปู่ย่าออก ท่านจะกระโดดเหมือนตอนเข้าทรง จากนั้นแม่จะรู้สึกตัว
ระหว่างที่ทรงเจ้า ร่างทรงแต่ละคนจะไม่รับรู้เรื่องราวอะไรทั้งนั้น
นั่นนานมาแล้วที่เห็นจนชิน พอย้ายอยู่อุตรดิตถ์ แม่ก็บอกปู่ย่าให้ท่านกลับไปยังสถานที่ที่เคยสถิตย์ก่อนมาอยู่กับพวกเรา ที่อุตรดิตถ์จึงไม่มีหิ้งปู่ย่า
ระดับการเข้าทรงที่เคยรู้ก็คือ ถ้าโอปปาติกะระดับสูงท่านจะทรงเฉยๆโดยที่ร่างทำอะไรอยู่ก็จะไม่รู้สึกตัว ไม่มีการกระโดด เช่น นั่งๆอยู่ก็ทรงเลย
และร่างทรงที่ถูกคัดเลือกจะเป็นคนที่มีศีล จิตได้รับการขัดเกลา โอปปาติกะถึงจะเลือกคนๆนั้น ไม่ใช่เลือกใครก็ได้
เล่าแบบกระชับความนะคะเพราะเป็นเรื่องเท่าที่จำได้ แล้วก็นานมากแล้ว
อันนี้แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคนจ้า
Create Date : 04 ตุลาคม 2548 |
|
9 comments |
Last Update : 4 ตุลาคม 2548 13:45:57 น. |
Counter : 574 Pageviews. |
|
|
|