|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
ทูตรัตติกาล : นางฟ้า
ทูตรัตติกาล : นางฟ้า ยามค่ำคืนขณะที่รัตติสูรกำลังเตรียมที่จะปิดร้าน สายตาคมกล้าของเขาก็แลเห็นหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังวิ่งอย่างสะเปะสะปะด้วยน้ำตานองหน้าแต่ไกล และเขาก็มองเห็นไอบางอย่างที่ปกคลุมร่างของหล่อน ลูกค้าอีกราย อายุอานาม 20 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยของรัฐบาลที่อยู่หอพักเพียงลำพัง มีเพื่อนน้อยคน พ่อแม่และน้องชายอยู่ต่างจังหวัด ที่สำคัญหล่อนกำลังมีปัญหา
ร้ายแรงเสียด้วย ชายหนุ่มรำพึง ในใจอย่างหยั่งรู้พร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก และดวงตาสีเหล็กที่เปล่งแสงเรื่อเรือง
ด้วยกระแสอำนาจของเขา หญิงสาวร่างท้วมก็วิ่งรี่มาที่ร้านเล็กๆที่ชื่อ In The Dark ที่อยู่ในตรอกซอย แคบๆราวกับมีแม่เหล็กขนาดใหญ่ดึงดูดหล่อนกระนั้น พอรู้สึกตัวอีกที หล่อนก็เดินเข้ามาในร้านเสียแล้ว
ยินดีต้อนรับครับ รัตติสูรเปิดยิ้มกว้าง
ประโยคทักทายของเขาทำให้หญิงสาวจ้องมองใบหน้าของอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกหลากใจ หากน้ำตายังคงไหลริน
ว่าไงครับ ชายหนุ่มถามเสียงเรียบเรื่อย
ขะ
ขอโทษค่ะ น้ำเสียงแปร่งปร่าเอ่ยออกมาอย่างยากเย็น
คนฟังหัวเราะน้อยๆก่อนบอกกับหล่อนว่า
ขอโทษเรื่องอะไรครับ
ก็
น้ำทะเล่อทะล่าเข้ามา หล่อนบอกด้วยความกระดากอาย
ท่าทางคุณจะมีเรื่องไม่สบายล่ะสิครับ คนพูดเอ่ยถามง่ายๆ
วารีรัตน์หรือน้ำนิ่วหน้า
น้ำตาของคุณบอกเล่าทุกอย่างเป็นอย่างดีทีเดียว พูดจบชายหนุ่มก็ควักผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋าเสื้อแล้วบรรจงซับหยาดน้ำใสๆที่อาบสองแก้มของหล่อนอย่างนุ่มนวล
เรื่องที่ไม่สบายใจบางทีถ้าเราระบายให้ใครสักคนฟัง อาจช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้น สุ้มเสียงของคนพูดอ่อนโยน
หากหล่อนกลับเม้มปากด้วยดวงตาวาววับและน้ำตาก็พาลจะไหลอีกระลอก
ถ้าคุณไม่อยากจะเล่าก็ไม่เป็นไร แต่รบกวนช่วยผมปิดร้านหน่อยได้ไหมครับ รัตติสูรขอร้องด้วยน้ำเสียงที่แฝงเร้นอำนาจอย่างประหลาดทำให้วารีรัตน์ต้องกระทำตามคำขอของเขา
ใช้เวลาอยู่เป็นนานคนทั้งคู่ก็เก็บของและปิดร้านจนเสร็จ ชายหนุ่มใจดีชวนหล่อนให้อยู่ทานอาหารกับเขา หนำซ้ำเขายังเป็นฝ่ายทำอาหารและชวนคุยเรื่อยเปื่อยเป็นระยะๆ ทว่าหญิงสาวก็พูดน้อยคำ และบางครั้งที่รัตติสูรเงียบเสียงลง หล่อนก็จะกวาดสายตามองข้าวของรูปร่างแปลกๆในร้านของเขาด้วยความใคร่รู้ ผู้ร่วมโต๊ะย่อมสังเกตเห็นอากัปกิริยาของหล่อน เขาจงใจปล่อยให้หล่อนสำรวจตรวจตราจนพอใจ
ของที่ผมขายอาจจะมีรูปร่างไม่น่าชื่นชม แต่คุณสมบัติของมันล้ำลึก เขาเอ่ยทำลายความเงียบสงบ
คุณสมบัติแบบไหนคะ วารีรัตน์หลุดปากถาม
คุณจะเอาแบบไหนล่ะ เขากลับย้อนถาม
คนฟังย่นหัวคิ้วด้วยความขุ่นเคืองใจเพราะคิดว่าอีกฝ่ายเจตนาพูดจายียวนกวนประสาท
ผมเปล่าจะยั่วโมโหคุณ คนพูดบอกอย่างรู้เท่าทันความคิดของหญิงสาว
ที่ผมพูดน่ะจริง และสิ่งของจะเป็นผู้เลือกคนที่เหมาะที่จำเป็นต้องใช้มัน เขาพูดต่อ
ยิ่งฟังก็ยิ่งงงค่ะ
อย่างคุณ
ที่กำลังเป็นทุกข์แสนสาหัส บังเอิญหรือที่เข้ามาในร้านของผม บางทีอาจเพราะคุณกำลังมองหาอะไรสักอย่างที่จะใช้เพื่อตัวคุณเอง ชายหนุ่มยิ้มเย็นด้วยดวงตาเป็นประกายแวววามทำให้คนมองรู้สึกสันหลังเย็นวาบขึ้นมาเฉยๆ
ถ้าคุณอิ่ม ผมก็อนุญาตให้คุณเดินเลือกสินค้าสักชิ้นที่ถูกตาต้องใจคุณ
คุณปิดร้านแล้วนี่คะ
อย่าลืมครับว่าคุณย่างก้าวเข้ามา คุณก็นับเป็นลูกค้าของผม
งั้น น้ำอิ่มละล่ะค่ะ ขอพิจารณาของของคุณใกล้ๆได้ไหมคะ
ตามสบายครับ อ้อ ผมชื่อรัตติสูรครับคุณน้ำ และถ้าคุณสนใจสินค้าชิ้นไหนเป็นพิเศษก็ขอให้บอกกับผมก่อน เพราะผมไม่มีคู่มือให้จึงจำเป็นต้องอธิบายวิธีการใช้งานให้คุณรู้ด้วยตัวเอง
ค่ะ หล่อนรับคำก่อนจะเดินดูข้าวของในตู้กระจกที่วางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ
รัตติสูรมองตามแผ่นหลังของหล่อน จนถึงบัดนี้ไอที่เขามองเห็นแต่แรกก็ยังคงอยู่ มันเป็นไอที่เกิดจากความรู้สึกที่เข้มข้นและรุนแรงของหล่อน หากก็เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับตัวเขาเพราะนี่คือสัญลักษณ์ที่บ่งชี้ตัวลูกค้า
หลังจากที่วารีรัตน์เดินดูสิ่งที่อยู่ในตู้กระจกตู้แล้วตู้เล่าอยู่พักใหญ่ สายตาของหล่อน ก็สะดุดเข้ากับวัตถุชิ้นหนึ่งที่มีความสวยงามระคนกับความน่าหวาดหวั่นอย่างแทบจะแยกกันไม่ออก มันเป็นวัตถุสีโลหิตขนาดเท่าผลลำไยที่มีรูปทรงรูปร่างและองค์ประกอบคล้ายกับดวงตาของมนุษย์ ภายในบรรจุสิ่งเล็กๆที่หล่อนต้องเพ่งมองอย่างยิ่ง ยิ่งหล่อนขยับมองใกล้ๆ สิ่งที่อยู่ข้างในก็ยิ่งชักนำให้หล่อนจมดิ่งลึกลงไปสู่สิ่งๆนั้นโดยไม่รู้ตัวราวกับต้องมนต์สะกด และก็ทำให้หล่อนสามารถมองเห็นร่างจิ๋วร่างหนึ่งที่มีปีกนกงอกออกจากกลางหลัง ทั้งในมือของร่างจิ๋วก็มีชิ้นส่วนสีแดงเข้มซึ่งเปล่งแสงวาบสอดคล้องกับจังหวะการเต้นของหัวใจอย่างน่าอัศจรรย์ หญิงสาวตกอยู่ในห้วงแห่งภวังค์ด้วยความรู้สึกสอดคล้องอย่างเคลิบเคลิ้มระคนพิศวง นานเท่าใดหล่อนก็สุดรู้ หากเสียงเลื่อนเปิดตู้กระจกก็ปลุกให้สติสัมปชัญญะของหล่อนกลับคืน
หล่อนละสายตาจากวัตถุที่พึงใจในจังหวะเดียวกับรัตติสูรที่กำลังหยิบสินค้าออกจากตู้
ขอโทษที่ทำให้คุณตกใจครับ เขาบอกยิ้มๆ
เอ่อ น้ำไม่ได้ยินเสียงคุณเลยค่ะ หล่อนสารภาพตามตรง
ผมเป็นคนเดินเบา แต่แคล่วคล่องว่องไวครับ
คุณน้ำสนใจชิ้นนี้ใช่ไหมครับ เขาถามต่อโดยไม่ปล่อยให้หล่อนติดใจสงสัยใดๆอีก
ใช่ค่ะ
ตอนที่คุณเพ่งพินิจพิจารณาเจ้านี่ คุณคิดว่าคุณเห็นอะไรครับ
คนตัวจิ๋วในนั้นคงเป็นนางฟ้า มีบางอย่างอยู่ในมือเธอด้วยค่ะ วารีรัตน์ตอบเขา แต่สายตาของหล่อนกำลังถามเขาเพื่อขอคำยืนยันที่ทำให้หล่อนรู้สึกมั่นใจกับสิ่งที่หล่อนมองเห็น
สิ่งที่คุณเห็น
เป็นสิ่งที่คุณรู้คำตอบดีที่สุด ฉะนั้น โปรดอย่าถามผม อ้อ และเจ้าสิ่งนี้ก็ไม่มีชื่อเรียกเสียด้วย
คนฟังทอดถอนใจก่อนบอกอย่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า
ไร้ชื่อยังไม่เท่าไร แต่นางฟ้ากับไอ้ที่อยู่ในมือไม่เข้ากันสักนิด น้ำว่าถ้าเป็นปีศาจหรือซาตานอะไรเทือกนี้จะเหมาะกว่าค่ะ
คนฟังเพียงหัวเราะในลำคอหึๆ
ตกลงคุณต้องการมันไหมครับ
ค่ะ
ทีนี้ผมคงต้องบอกวิธีใช้ เขาเว้นจังหวะนิดหนึ่ง
คุณสามารถขอสิ่งที่คุณปรารถนาจากเจ้านี่ และยามที่คุณอธิษฐาน
ขอให้คุณกุมมันไว้ในตำแหน่งของหัวใจ มันจะช่วยให้คุณสมปรารถนา ขอให้จำไว้ให้แม่นมั่นว่าคุณต้องยอมแปลกเปลี่ยนกับสิ่งที่มันเรียกร้อง
โดยไร้หนทางหลีกหนี
คะ ดวงตาของหล่อนเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อถือกับสิ่งที่อีกฝ่ายบอกเท่าใดนัก
รอยยิ้มที่ชวนให้คนมองรู้สึกหนาวเยือกปรากฏบนริมฝีปากของชายหนุ่ม เขาเพียงเอ่ยว่า
ลองทดสอบ
คุณก็จะรู้เอง
หญิงสาวชั่งใจอย่างใช้ความคิดอยู่หลายนาที ยิ่งมองสิ่งที่อยู่ในมือของอีกฝ่าย ความต้องการที่เร้นลึกก็ยิ่งกระตุ้นให้หล่อนอยากได้ใคร่ลอง ที่สุดหล่อนก็ถามเขา
เท่าไหร่คะ
ไม่คิดมูลค่าเป็นเงินครับ คุณเอาไปเถอะ ส่วนมูลค่าที่คุณต้องจ่ายให้กับผม คุณก็จะรู้เองในภายหลัง น้ำเสียงกังวานและทรงอำนาจราวกับดังมาจากที่ที่ไกลแสนไกลบอกกับหล่อน
วารีรัตน์รับของชิ้นนั้นมาจากเขาตั้งแต่เมื่อใดความทรงจำของหล่อนก็เลือนจนสิ้น รู้ตัวแต่ว่าหล่อนถือถุงพลาสติกขนาดเล็กติดมือจนกลับถึงหอพักซึ่งมีสองชั้นและลักษณะเหมือนห้องแถวยาว
หญิงสาวเหลือบแลมองนักศึกษาชายหญิงหลายคนซึ่งมีวัยไล่เลี่ยกับหล่อน บ้างจับกลุ่มพูดคุยกัน บ้างพูดคุยอยู่กับแฟน บ้างก็กำลังกลับเข้าหอตรงกันข้ามกับ บางคนหรือบางกลุ่มที่กำลังจะออกไปข้างนอก หลายกิจกรรมที่หล่อนเห็นจนเคยชิน ทว่าวันนี้หล่อนกลับไม่กล้าสู้หน้าใครๆ
วารีรัตน์ก้มหน้าลงต่ำพร้อมกับเร่งฝีเท้าของตนให้เร็วขึ้น
นี่ๆ รู้อะไรไหม ยัยนั่นที่เขาพูดกันน่ะ เสียงของเพื่อนร่วมหอพักคนหนึ่งดังเข้าสู่โสตของหล่อนโดยบังเอิญ และเสียงซุบซิบนินทาก็ดังไล่หลังอย่างกรีดแทงใจของคนฟังยิ่ง
ร่างท้วมเปลี่ยนจากเดินเป็นวิ่งขึ้นไปยังชั้นบน พอถึงห้องหล่อนก็ล้วงหยิบกุญแจในกระเป๋าสะพายด้วยมืออันสั่นเทา แล้วทำนบน้ำตาก็ทลาย หล่อนปิดประตูตามหลังก่อนที่จะกอดสองแขนรัดร่างของตนอย่างสั่นเทิ้มด้วยแรงสะอื้นพร้อมๆกับทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างคนหมดสิ้นเรี่ยวแรง และภาพแห่งความโหดร้ายก็ฉายซ้ำในหัวของหล่อน
วารีรัตน์
หญิงสาววัยสดใสที่เป็นเด็กเรียน หล่อนไม่เคยมีแฟนกับใครเขา เพราะหน้าตาที่ธรรมดา รูปร่างที่ท้วม แต่สมส่วน หากก็ไร้จุดเด่น หล่อนจึงมุมานะอยู่กับการเรียนตั้งแต่เล็กจนโต
จนกระทั่งเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ใครบางคนก็ทำลายปราการที่หล่อนสร้างขึ้นเพื่อปกป้องตัวเองจากความผิดหวังที่หล่อนรู้และยอมรับสภาพแท้จริงของตน ซึ่งใครคนนั้นได้เข้ามานั่งอยู่ในหัวใจของหล่อน
ตะวันเป็นรุ่นพี่ต่างคณะ ชายหนุ่มมีรูปร่างหน้าตาและฐานะทางบ้านดี แต่การเรียนอยู่ในระดับปานกลาง เขาถือเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่สาวๆในมหาวิทยาลัยต่างพากันคลั่งไคล้ใหลหลงถึงกับมีกลุ่ม คนรักตะวัน ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเขาโดยเฉพาะ แน่ล่ะ สมาชิกส่วนมากล้วนเป็นผู้หญิง ส่วนน้อยคือผู้ชายที่ใจเป็นหญิง
หญิงสาวรู้จักกับตะวันเพราะเขาเป็นฝ่ายเข้ามาทำความรู้จักกับหล่อนเอง และเขาก็เพียรข้องแวะกับหล่อนอยู่หลายครั้งหลายคราด้วยท่าทีที่สนิทสนมและเป็นกันเอง สำหรับหล่อน
ทุกอย่างเหมือนกับความฝันที่กลายเป็นความจริง และเปลือกที่ห่อหุ้มจิตใจของหล่อนก็กะเทาะออกจนหมดเมื่อตะวันเอ่ยปากขอเป็นแฟนกับหล่อน
ความสัมพันธ์ของตะวันกับหล่อนดำเนินไปอย่างรวดเร็วชนิดก้าวกระโดดเพียงอาทิตย์เดียวชายหนุ่มก็ขออนุญาตถูกเนื้อต้องตัวหล่อน ด้วยความที่มีใจให้เขาอยู่ก่อนวารีรัตน์จึงโอนอ่อนผ่อนตามโดยง่าย เพื่อนๆของหล่อนก็พยายามพูดเตือนสติ แต่หล่อนหน้ามืดตาบอดไปกับความรักความหลงจนไม่แม้แต่จะรับฟังถ้อยคำของเพื่อนผู้หวังดี ที่สุดเพื่อนๆก็พากันคิดว่าหญิงสาวหลงเงาตัวเอง คิดว่าตัวเองมีดีที่ทำให้ชายหนุ่มมาชอบพอและเห็นตะวันดีกว่าเพื่อน พวกเพื่อนๆต่างตีตัวออกห่างและปล่อยให้วารีรัตน์จมปลักอยู่กับตะวันเพียงสองคน
เมื่อย่างเข้าสู่อาทิตย์ที่สาม ชายหนุ่มก็พยายามป้อนคำหวานเพื่อโน้มน้าวชักจูงใจหล่อนให้ยอมเป็นของเขา และหญิงสาวผู้อ่อนต่อโลกอย่างวารีรัตน์ก็ตกลงปลงใจอย่างง่ายดาย
หลังจากนั้นความสัมพันธ์ที่หวานชื่นก็จืดชืดสนิท ทุกอย่างแปรเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ตะวันพยายามตีตัวออกห่างจากหญิงสาว ถ้อยคำหวานที่เขาเคยพูดก็หมดไปอย่างสิ้นเชิง ภายในเดือนเดียวชายหนุ่มบอกเลิกหล่อนอย่างสิ้นเยื่อขาดใย ทั้งที่หล่อนไม่มีความผิด แม้วารีรัตน์จะอ้อนวอนอย่างไรตะวันก็ไม่รับฟัง ครั้นพอหล่อนหวนกลับไปหากลุ่มเพื่อน เพื่อนๆก็ไม่ไยดีหรือแม้แต่สงสารเพราะคำยุแยงของคนบางกลุ่มที่ชิงชังหล่อนในฐานะคู่ควงของตะวัน สภาพจิตใจของหล่อนบอบช้ำและรานร้าว หากยังไม่ถึงที่สุด
เช้าวันหนึ่งซึ่งก็คือวันนี้วารีรัตน์เดินผ่านหลังตึกเรียนและได้ยินถ้อยคำสนทนาของพวกผู้ชายที่จับกลุ่มกันโดยบังเอิญ
ตะวัน นายไม่สนยัยอ้วนนั่นจริงง่ะ เสียงหนึ่งเอ่ยถาม
หึ ที่ฉันจีบหล่อนก็เพราะพนันกับพวกนายไว้ไม่ใช่หรือไง เราพนันกันว่าถ้ายัยอ้วนตกลงเป็นแฟนกับฉัน พวกนายจะให้คนละห้าร้อย และถ้ายัยอ้วนยอมนอนกับฉัน พวกนายจะให้คนละพัน
น่าสงสารเหยื่อของนายชะมัด สุ้มเสียงเดิมบอกอย่างเย้ยหยันขัดกับถ้อยคำที่พูดออกมา
ช่วยไม่ได้ที่กิตติศัพท์ร่ำลือด้านการเรียนเป็นเลิศแถมยังปลอดผู้ชายของยัยอ้วนจะทำให้ฉันเลือกหล่อน แถมน้องนภาก็สนับสนุน
หล่อนจดจำชื่อของเพื่อนร่วมเรียนได้ดี นภา
หญิงสาวหน้าตาสะสวยที่ชายหนุ่มหลายคนเฝ้าหมายปอง
ทำไมน้องนภาถึงเจาะจงสนับสนุนเพื่อนร่วมคณะของตัวเองล่ะ อีกเสียงถามอย่างใคร่รู้
น้องเขาบอกหมั่นไส้เด็กคงแก่เรียน
อิจฉาที่ผลการเรียนของยัยอ้วนดีกว่าล่ะมั้ง เสียงแรกบอกอย่างคาดเดา
น้องนภาเขาร้ายฉันก็รู้ แต่แบบนี้สิถึงจะน่าสนใจ มันเร้าใจผิดกับยัยอ้วนเยอะ พวกนายรู้ไหม ยัยอ้วนน่ะแค่จูบก็ยังไม่เป็น พอฉันประกบปาก ยัยนั่นก็ตัวแข็งอย่างกับท่อนไม้ ที่สำคัญนะ ยัยอ้วนเป็นคู่นอนที่ไม่เอาอ่าวที่สุดที่ฉันเคยนอนด้วยเลยว่ะ สิ้นเสียงของตะวัน ผู้ชายทั้งกลุ่มก็ประสานเสียงหัวเราะอย่างเห็นเป็นเรื่องขบขัน
คำพูดถากถางและนินทาลับหลังทำให้คนที่ยืนฟังถึงกับร้องไห้โฮด้วยความสะเทือนใจและอับอายอย่างเหลือแสน และข่าวคาวที่อื้อฉาวก็แพร่สะพัดราวกับไฟลามทุ่ง ในเวลาเพียงวันเดียวเกือบทั้งมหาวิทยาลัยก็รู้เรื่องของหล่อน
ทุกๆที่ที่หญิงสาวเดินผ่านจะมีสายตาที่มองมาอย่างเหยียดหยาม ซ้ำร้ายยังมีคนพูดจาเยาะหยันซึ่งมีทั้งแฟนคลับของชายหนุ่มทั้งเพื่อนร่วมสถาบันการศึกษา และเพื่อนร่วมเรียน
เป็นไงล่ะยัยอ้วน คิดว่าตัวเองเป็นหงส์สิท่า รู้ตัวไว้เถอะ หล่อนน่ะก็แค่ของแปลกที่พี่ตะวันเขาอยากลองเท่านั้น พอเขาเบื่อก็ทิ้ง แถมยังทิ้งแบบให้เป็นข่าวน่าขายหน้าเสียด้วย นภาเหยียดยิ้มด้วยสายตาดูแคลน
วารีรัตน์มองหาความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ทว่ากลับเหลือหล่อนเพียงคนเดียว สิ่งที่หล่อนเผชิญหนักหนาสาหัสจนเกินจะทานทน หญิงสาววิ่งถลันออกจากห้องเรียน หล่อนวิ่งอย่างไร้จุดหมาย ความรู้สึกหลากหลายจู่โจมอย่างไม่ทันให้หล่อนตั้งตัว ขณะที่วิ่งหล่อนก็คิดเรื่องตาย หากก็สงสารพ่อแม่ที่สู้อุตส่าห์ส่งเสียให้ร่ำเรียน และความเคืองแค้นก็ไล่หลังความเศร้าโศกมาติดๆ กับทั้งกระแสบางอย่างก็ชักนำหล่อนให้เข้าไปที่ร้านเล็กๆของชายหนุ่มหน้าตาคมคาย
หล่อนนั่งนิ่งปล่อยให้ความทุกข์ใจมีอิทธิพลเหนือความคิดอื่นใดอยู่นาน หล่อนร้องไห้จนน้ำตาเหือดแห้ง พอจะลุกยืนหล่อนก็ไม่ลืมที่จะหยิบถุงพลาสติกที่ตัวหล่อนเป็นคนปล่อยให้ตกพื้นขึ้นมา และสิ่งที่หล่อนรับมาก็กำลังทำหน้าที่ของมันด้วยการชักจูงหล่อนให้หยิบมันออกมาเพ่งพิจารณาอีกครั้ง เสียงจากความเงียบงันที่เชื้อเชิญราวกับดังมาจากที่ไหนสักแห่ง มันเย้ายวนใจให้หล่อนอยากทดลองใช้สิ่งที่อยู่ต่อหน้า ยิ่งเพ่งมองเสียงหัวใจที่เต้นสอดประสานที่อยู่ในอกข้างซ้ายของหล่อนกับสิ่งที่อยู่ในมือของนางฟ้าตัวจิ๋วก็ยิ่งส่งเสียงดังอย่างชัดเจน
เป็นจังหวะที่ไพเราะ ทว่าเยียบเย็น
หญิงสาวใช้มันตามวิธีการที่รัตติสูรบอก หล่อนหลับตาพริ้มและเริ่มอธิษฐานด้วยความมุ่งมั่น หากด้วยความปรารถนาที่แรงกล้าของตัวหล่อนเองเป็นหลักซึ่งใน
สภาวะราวกับคนหลับฝัน หล่อนก็มองเห็นรอยยิ้มสดใสของนางฟ้าก่อนที่อีกฝ่ายจะเอ่ยถามหล่อน
เจ้าปรารถนาสิ่งใด
ฉันอยากเป็นคนสวยที่ใครๆพากันรุมรักและฉันอยากให้ทุกๆคนลืมฉันคนเก่าที่น่ารังเกียจ
นางฟ้ายิ้มอีกครั้ง
ข้าจะทำให้ความปรารถนาของเจ้าเป็นจริง แต่ต้องแลกด้วยหัวใจของเจ้า เจ้า จะยอมมอบให้ข้าหรือไม่ นางฟ้าพูดพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งชี้นิ้วไปที่ร่างท้วมของหญิงสาว
ตำแหน่งของหัวใจ
หล่อนนิ่งตริตรอง นางฟ้าจึงทวงคำตอบ และหล่อนก็ยอมรับข้อแลกเปลี่ยนที่ไร้หนทางแก้ไขด้วยแรงอารมณ์ที่ผลักดันให้ความต้องการโดดเด่นเหนือความคิดอื่นใด
เช้าวันใหม่วารีรัตน์ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกแปลกๆ และพอหล่อนเดินผ่านกระจกเงาหล่อนก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น รูปร่างของหล่อนเปลี่ยนไปอย่างที่หล่อนก็ยังไม่เชื่อสายตาของตัวเอง รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโก่งสวย ดวงตาคม จมูกโด่ง ริมฝีปากบาง นี่คือคำขอของหล่อน
หญิงสาวคนใหม่ที่รูปโฉมงดงาม
หล่อนออกจากห้องด้วยความรู้สึกแช่มชื่น และสายตาของคนที่พานพบหล่อนก็จับจ้องมองอย่างชื่นชมจนเหลียวหลัง ร่างบางยิ้มกริ่มอย่างภาคภูมิใจกับรูปโฉมของตน เรื่องที่แปลกกว่านั้นคือไม่มีใครจดจำวารีรัตน์คนเก่าได้แม้แต่คนเดียว หล่อนชื่อวารีรัตน์หรือน้ำ ทว่าทุกๆคนรับรู้แต่ตัวตนใหม่ของหล่อน หญิงสาวเมินเฉยต่อเพื่อนกลุ่มเดิม หล่อนเข้ากลุ่มใหม่และเจาะจงกลุ่มของนภา นภาก็ยอมรับหล่อนเข้ากลุ่มโดยง่าย แต่ความสวยของฝ่ายแรกกลับกลายเป็นความด้อยเมื่อมีหล่อนรวมอยู่ด้วย
ชายหนุ่มหลายคนแสดงออกถึงความพึงพอใจในตัวหล่อนแตกต่างกันไป หล่อนกลายเป็นเป้าหมายที่ชายหนุ่มต่างแย่งชิง และตะวันก็เป็นหนึ่งในนั้น หากวารีรัตน์กลับไม่สนใจไยดีเขาแม้สักนิด
รูปกายภายนอกเปลี่ยน จิตใจของหล่อนก็ผันแปรตาม หญิงสาวกลายเป็นคนรสนิยมสูง รักสวยรักงามและชอบหว่านเสน่ห์ หล่อนชอบที่จะคบเพศตรงข้ามหลายๆคนพร้อมกันในคราวเดียว และเริ่มใช้ความงามที่เหนือกว่ากดขี่ข่มเหงนภาให้ยิ่งตกต่ำ หล่อนกลายเป็นวารีรัตน์คนใหม่โดยสมบูรณ์ทั้งใจกาย
หนึ่งเดือนผ่านไปชีวิตของหญิงสาวยังคงดำเนินไปในแบบที่ทำให้หล่อนมีความสุขและสนุกสนานกับชีวิตอย่างเต็มที่จนหล่อนลืมสัญญาที่เคยให้ไว้ต่อนางฟ้าผู้ดลบันดาลความสุขให้แก่หล่อน
และแล้วค่ำคืนหนึ่งขณะที่หล่อนกลับจากเที่ยวกับเพื่อนชายหล่อนก็พบกับรัตติสูรโดยบังเอิญที่หน้าหอพัก
อ้อ คุณน่ะเอง วารีรัตน์เปิดยิ้มกว้าง
ดูเหมือนชีวิตของคุณเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เขาเอ่ยเสียงเรียบเรื่อย
ค่ะ ดีขึ้นจริงๆอย่างกับปาฏิหาริย์แน่ะ หล่อนหัวเราะร่วน
จริงสิ น้ำยังติดค้างคุณอยู่นี่นา หญิงสาวพูดต่อ
ครับ ทั้งผมทั้งนางฟ้า ชายหนุ่มยิ้มเย็นอย่างที่หล่อนเคยเห็นแล้วให้รู้สึกพรั่นพรึง
ถ้อยคำของรัตติสูรเรียกความทรงจำของหล่อนอย่างได้ผล เพราะความรู้สึกบางอย่างที่เกาะกุมหัวใจของวารีรัตน์ทำให้หล่อนรู้สึกเหมือนเลือดในกายเย็นเฉียบอย่างฉับพลัน ใบหน้าของหล่อนซีดเผือด ร่างกายของหล่อนสั่นสะท้านหนาวด้วยความหวาดกลัวจับขั้วหัวใจ
ของของคุณอยู่นี่ ชายหนุ่มพูดจบ ของที่ว่าก็ปรากฏจากอากาศธาตุให้หล่อนต้องตื่นตระหนกสุดขีด
เจ้าหนี้ของคุณก่อน เขาบอกง่ายๆ
นางฟ้าตัวจิ๋วก็ขยับกายและเคลื่อนออกจากวัตถุสีโลหิตด้วยร่างของหญิงสาวขนาดเท่าคนจริง
เจ้าใช้ชีวิตอยู่ด้วยความปรารถนาที่ข้ามอบให้พอสมควร ถึงเวลาที่ข้าควรได้รับสิ่งแลกเปลี่ยนเสียที
นางฟ้าแสยะยิ้มเผยให้เห็นเขี้ยวซี่แหลมเต็มปาก ดวงตาสดใสเปลี่ยนเป็นสีทับทิมวาวโรจน์ มือสองข้างมีเล็บยาวงอกออกมา
วารีรัตน์มองดูภาพที่ปรากฏแก่สายตาด้วยความสะพรึงกลัวระคนขนพองสยองเกล้า พร้อมกันนั้นร่างของหล่อนเหมือนถูกตรึงให้นิ่งอยู่กับที่ พออ้าปากก็ปราศจากเสียงเล็ดลอดออกมา
ข้าขอล่ะนะ สิ้นเสียงที่แปรเปลี่ยนเป็นแหบแห้ง มือข้างหนึ่งของนางฟ้าก็จ้วงแทงเข้าที่อกข้างซ้ายของหญิงสาวพร้อมๆกับความเจ็บปวดอย่างยิ่งยวดที่ก่อเกิด และสายธารสีเข้มก็ไหลทะลัก พอมือที่แข็งแกร่งราวกงเล็บกระชากเอาก้อนเนื้อที่เป็นสัญญาณแห่งชีวิตออกไป ลมหายใจของหญิงสาวก็หมดลง
วิญญาณนางเป็นของท่าน
รัตติสูรเหยียดยิ้มพลางกักเก็บเอาวิญญาณของลูกค้าไว้ในกายของเขาก่อนจะกำวัตถุสีโลหิตไว้ในอุ้งมือ ซึ่งบัดนี้สิ่งที่อยู่ในมือของนางฟ้ากำลังเต้นเป็นจังหวะ และแล้วร่างของเขาก็เลือนหายเพียงชั่วพริบตา.
Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2548 |
|
6 comments |
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2548 14:10:27 น. |
Counter : 992 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: k-14 IP: 61.19.32.119 15 กุมภาพันธ์ 2548 15:09:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: กาญจน์ฏี IP: 203.145.21.199 19 กุมภาพันธ์ 2548 22:43:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: creamsoda IP: 203.148.162.222 11 เมษายน 2548 8:14:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: กาญจน์ฏี IP: 203.145.22.226 13 เมษายน 2548 0:01:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: sao IP: 84.162.13.254 8 กรกฎาคม 2548 15:10:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: กาญจน์ฏี IP: 203.145.12.61 30 กรกฎาคม 2548 0:07:09 น. |
|
|
|
|
|
|
|