พระธารณะปริตรคาถา
พระธารณะปริตรคาถา
(๑). พุทธานัง ชีวิตัสสะ นะ สักกา เกนะจิ, อันตราโย กาตุง ตถา เม โหตุ * อันพระชนม์ชีพของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย บุคคลใดไม่อาจกระทำอันตรายได้ฉันใด ขออันตรายทั้งปวงจงอย่ามีแก่ข้าพเจ้าเช่นเดียวกัน
(๒). อตีตังเส พุทธัสสะ ภควโต อัปปฏิหะตัง ญานัง,
อนาคะตังเส พุทธัสสะ ภควโต อัปปฏิหะตัง ญานัง,
ปัจจุปปันนังเส พุทธัสสะ ภควโต อัปปฏิหะตัง ญานัง, * พระพุทธองค์ผู้ทรงสมบูรณ์ด้วยบุญ ๖ ประการ* * ทรงมีพระญาน ทั้งอดีต อนาคต และปัจจุบัน * ที่ไม่มีเครื่องกระทบ ไม่มีการปิดกั้น ถดถอย
อิเมหิ ตีหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภควโต * ทรงเป็นผู้มีพระคุณ สมบูรณ์ด้วยพระญานทั้ง ๓ ดังกล่าวแล้วนี้ (* บุญทั้ง ๖ ประการ คือ อิสลริยะ ธัมมะ ยสะ สิริ กามะ และปยัตตะ)
(๓). สัพพัง กายะกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง ญาณานุปริวัตตัง,
สัพพัง วจีกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง ญาณานุปริวัตตัง,
สัพพัง มโนกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง ญาณานุปริวัตตัง, * พระพุทธองค์ผู้ทรงสมบูรณ์ด้วยบุญ ๖ ประการ* * กายกรรมทั้งปวง วจีกรรมทั้งปวง มโนกรรมทั้งปวงของพระองค์ ทรงมีพระญาณเป็นเครื่องนำ เป็นไปตามลำดับพระญาน
อิเมหิ ฉะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภควโต * ทรงเป็นผู้มีพระคุณสมบูรณ์ด้วยพระญาณทั้ง ๖ ดังกล่าวแล้วนี้ (* บุญทั้ง ๖ ประการ คือ อิสลริยะ ธัมมะ ยสะ สิริ กามะ และปยัตตะ)
(๔). นัตถิ ฉันทัสสะ หานิ, * อันว่าความเสื่อมลงของคุณธรรมทั้ง ๖ นี้ ย่อมไม่มีแก่พระพุทธเจ้า ผู้ทรงสมบูรณ์ด้วยบุญ ๖ ประการ* * คุณธรรม ๖ นี้ได้แก่ ความเสื่อมถอยลงของพระพุทธประสงค์ ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
นัตถิ ธัมมะเทสะนายะ หานิ, * ความเสื่อมถอยลงของการแสดงธรรม ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
นัตถิ วีริยัสสะ หานิ, * ความเสื่อมถอยลงแห่งความเพียร ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
นัตถิ วิปัสสะนายะ หานิ, * ความเสื่อมถอยลงของวิปัสสนาญาน ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
นัตถิ สมาธิสสะ หานิ, * ความเสื่อมถอยลงของสมาธิ ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
นัตถิ วิมุตติยา หานิ, * ความเสื่อมถอยลงของความสุขในอรหัตผล ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
อิเมหิ ทวาทะสะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภควโต * พระพุทธองค์ทรงเป็นผู้มีพระคุณ สมบูรณ์ด้วยคุณธรรมทั้ง ๑๒ ประการ ดังกล่าวแล้วนี้
(๕). นัตถิ ทวา, นัตถิ รวา, * พระพุทธองค์ผู้ทรงสมบูรณ์ด้วยบุญ ๖ ประการ* ชื่อว่า * การหัวเราะสรวลเสเฮฮา ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์ * การพูดพลั้งเผลอโดยขาดสติ ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์ (* บุญทั้ง ๖ ประการ คือ อิสสริยะ ธัมมะ ยสะ สิริ กามะ และปยัตตะ)
นัตถิ อัปผุตัง, * พระธรรมที่มิได้สัมผัสด้วยพระญาน ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
นัตถิ เวคายิตัตตัง, * การหุนหันพลันแล่น ขาดวิจารณญาน ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
นัตถิ อัพยาวะฏะมโน, * การปล่อยใจเหม่อลอย ขาดสติ ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
นัตถิ อัปปฏิสังขานุเปกขา, * การเพ่งเฉยโดยปราศจากการพิจารณา ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
อิเมหิ อัฏฐาระสะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ * พระพุทธองค์ทรงเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยคุณธรรมทั้ง ๑๘ ประการ ดังกล่าวแล้วนี้
พุทธัสสะ ภควโต นโม สัตตันนัง สัมมาสัมพุทธานัง * ข้าพเจ้า ขอน้อมไหว้พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้ง ๗ พระองค์ (พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้ง ๗ พระองค์ อันมีพระวิปัสสี พระสิขี
พระเวสสภู เป็นต้น)
(๖). นัตถิ ตถาคะตัสสะ กายะทุจจะริตัง,
นัตถิ ตถาคะตัสสะ วจีทุจจะริตัง,
นัตถิ ตถาคะตัสสะ มโนทุจจะริตัง, * การประพฤติไม่ดี ที่เรียกว่า กายทุจริต วจีทุจริต และมโนทุจริต ย่อมไม่มีแก่พระพุทธเจ้าซึ่งเป็นผู้เสด็จมาดีแล้ว เหมือนดังพระพุทธเจ้า
องค์ก่อนๆ
นัตถิ อตีตังเส พุทธัสสะ ภควโต ปฏิหะตัง ญาณัง,
นัตถิ อนาคะตังเส พุทธัสสะ ภควโต ปฏิหะตัง ญาณัง,
นัตถิ ปัจจุปปันนังเส พุทธัสสะ ภควโต ปฏิหะตัง ญาณัง,
* พระญานที่เป็นไปในส่วนอดีต อนาคต และปัจจุบัน ซึ่งมีการปกปิด กีดกัน ถดถอย ไม่มีแก่พระพุทธเจ้า ผู้ทรงสมบูรณ์ด้วย บุญทั้ง ๖
ประการ* * (* บุญทั้ง ๖ ประการ คือ อิสลริยะ ธัมมะ ยสะ สิริ กามะ และปยัตตะ)
นัตถิ สัพพัง กายะกัมมัง ญาณาปุพพังคมัง ญานัง นานุปริวัตตัง,
นัตถิ สัพพัง วจีกัมมัง ญาณาปุพพังคมัง ญานัง นานุปริวัตตัง,
นัตถิ สัพพัง มโนกัมมัง ญาณาปุพพังคมัง ญานัง นานุปริวัตตัง, * กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ที่ไม่มีพระญานเป็นประธาน ไม่เป็นไปตามพระญาน ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
อิมัง ธาระนัง อะมิตัง อะสะมัง, * พระธารณะปริตรที่ได้สาธยายเป็นประจำนี้ ไม่มีอะไรเสมอเหมือน
สัพพะสัตตานัง ตาณัง เลณัง, * เป็นที่พึ่งพึงอาศัยของสรรพสัตว์ทั้งหลาย
สังสาระภยะภีตานัง อัคคัง มหาเตชัง. * ผู้กลัวภัยในวัฏสงสาร
อิมัง อานันทะ ธารณะปริตตัง, * ดูก่อนอานนท์ เธอจงท่องสาธยายพระธารณะปริตรนี้
ธาเรหิ วาเจหิ ปริปุจฉาหิ, * จงสอนและให้สอบถามพระคาถาอันประเสริฐยิ่ง มีเดชมากนี้เถิด
ตัสสะ กาเย วิสัง นะ กเมยยะ อุทะเก นะ ลัคเคยยะ, * ผู้สวดมนต์นี้เป็นประจำไม่ตายด้วยพิษงู พิษนาค
อัคคิ นะ ฑเหยยะ, นานาภยะวิโก, * ไม่ตายในน้ำ ในไฟ เป็นผู้พ้นภัยนานา
นะ เอกาหาระโก, นะ ทวิหาระโก, นะ ติหาระโก,
นะ จตุหาระโก, * ใครคิดทำร้ายวันเดียวไม่สำเร็จ สองวัน สามวัน สี่วันก็ไม่สำเร็จ
นะ อุมมัตตะกัง, นะ มูฬหะกัง, * ไม่เป็นโรคบ้าฟุ้งซ่าน ไม่หลงสติ
มนุสเสหิ อะมนุสเสหิ นะ หิงสะกา. * มนุษย์ อมนุษย์ทั้งหลาย ไม่สามารถทำร้าย หรือเบียดเบียนได้
(๗). ตัง ธารณะปริตตัง ยะถา กตะมัง * อันว่าพระธารณะปริตรนี้ศักศิ์สิทธิ์อย่างไร
ชาโล, มหาชาโล, * มีอานุภาพ เหมือนพระอาทิตย์ ๗ ดวงขึ้นพร้อมกันในเวลาโลกาวินาศ * มีฤทธิ์เดชเหมือนตาข่ายเหล็กกางกั้นภัยจาก เทวดา นาคา ครุฑ ยักษ์ รากษส เป็นต้น
ชาลิตเต, มหาชาลิตเต, * สามารถป้องกันอันตรายที่เกิดจากน้ำ ไฟ พระราชา โจร ศัตรูทั้งหลาย * มีอานุภาพให้พ้นจากกัปทั้ง ๓ คือ โรคันตรกัป สัตถันตรกัป และ ทุพภิกขันตรกัป
ปุคเค, มหาปุคเค, * มีอานุภาพให้พ้นจากโรดต่างๆในขณะปฏิสนธิ คือเป็นใบ้ บอด หนวก เป็นบ้าฟุ้งซ่าน และไม่ตกต้นไม้ ตกเขา ตกเหวตาย
สัมปัตเต, มหาสัมปัตเต, * สามารถได้สมบัติที่ยังไม่ได้ ทรัพย์สมบัติที่ได้แล้วก็เจริญเพิ่มพูนขึ้น
ภูตังคัมหิ ตะมังคะลัง, * สามารถกำจัดความมืด ให้เข้าถึงความสว่างได้
(๘). อิมัง โข ปนานันทะ ธารณะปริตตัง สัตตะสัตตะติ สัมมาสัมพุทธะโกฏีหิ ภาสิตัง, * ดูก่อนอานนท์ พระธารณะปริตรนี้ อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ๗๗ โกฏิ ตรัสไว้ว่า:
วัตเต, อะวัตเต, คันธะเว, อะคันธะเว, * พึงทำประโยชน์ที่ดี ไม่พึงทำประโยชน์ที่ไม่ดี * พึงนำมาซึ่งกลิ่นรสแห่งธรรมะที่ดี ไม่นำมาซึ่งธรรมะที่ไม่ดี
โนเม, อะโนเม, เสเว, อะเสเว, * พึงน้อมนำมาซึ่งจิตใจดี ไม่น้อมนำมาซึ่งจิตใจร้าย * พึงสมาคมกับคนดี ไม่พึงสมาคมกับคนไม่ดี
กาเย, อะกาเย, ธาระเณ, อะธาระเณ, * พึงทำกายให้เป็นกายดี ไม่ทำให้เป็นกายร้าย * พึงนำมาแต่การกระทำที่เป็นฝ่ายดี ไม่นำมาซึ่งการกระทำไม่ดี
อิลลิ, มิลลิ, ติลลิ, มิลลิ, * พึงหลับฝันเห็นแต่สิ่งดี ไม่พึงหลับฝันร้าย * พึงเห็นอดีตนิมิตที่ดี ไม่พึงเห็นอดีตนิมิตที่ไม่ดี
โยรุกเข, มหาโยรุกเข, * ต้นไม้ที่ตายแล้วสามารถฟื้นคืนมาได้ * ต้นไม้ที่ยังเป็นอยู่ก็ทำให้เจริญงอกงาม
ภูตังคัมหิ, ตะมังคะลัง, * สามารถกำจัดความมืด ให้เข้าถึงความสว่างได้
(๙). อิมัง โข ปนานันทะ ธารณะปริตตัง นวะนวุติยา สัมมาสัมพุทธะโกฏีหิ ภาสิตัง, * ดูก่อนอานนท์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๙๙ โกฏิ ได้ตรัสแสดงไว้ว่า พระธารณะปริตรนี้ช่วยให้:
ทิฏฐิลา, ทัณฑิลา, * รู้ความคิดร้ายของผู้อื่น * แคล้วคลาดจากอาวุธ เครื่องประหารทุกชนิด
มันติลา, โรคิลา, * สามารถทำให้เวทมนต์คาถาศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น * กำจัดปัดเป่าอันตรายจากโรคต่างๆได้
ขะระลา, ทุพภิลา, * รอดปลอดภัยจากโรคร้ายแรง * หลุดพ้นจากเครื่องจองจำ พันธนาการได้
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ * ด้วยอำนาจแห่งสัจจะวาจานี้
โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา. * ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อเทอญ.
ขอบพระคุณ คุณหมอวัลลภ ด้วยนะครับที่รวบรวมและพิมพ์เอาไว้ //gotoknow.org/blog/talk2u/178881
Create Date : 24 มิถุนายน 2558 |
Last Update : 24 มิถุนายน 2558 10:34:05 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1339 Pageviews. |
|
|