วัดเจดีย์คีรีวิหาร อุตรดิตถ์--------------------------เจดีแห่งแรกในลับแล
LubLae
วัดเจดีย์คีรีวิหาร เดิมมีชื่อว่าวัดป่าแก้ว สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 1519 สร้างขึ้นโดยเจ้าฟ้าฮ่ามกุมารปฐมกษัตริย์ผู้ครองนครลับแลทูลขอแบ่งพระบรมสารีริกธาตุจากพระมหาชินธาตุเจ้า(พระธาตุดอยตุง) จังหวัดเชียงราย และสร้างเจดีย์ขึ้น อัญเชิญมาบรรจุไว้ในเจดีย์ที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น โดยเจดีย์แห่งนี้เป็นเจดีย์แห่งแรก ในอำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ (ปัจจุบันกรมศิลปากร สังกัดกระทรวงวัฒนธรรมได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นโบราณสถาน) และในกาลเวลาต่อมานานนับพันปีเจดีย์แห่งนี้ก็ทรุดโทรมลงตามกาลเวลา แต่ปัจจุบันเจดีย์แห่งนี้ได้รับการบูรณะซ่อมแซมเจดีย์จนอยู่ในสภาพเดิมทุกประการ
LubLae
ประวัติวัดเจดีย์คีรีวิหาร วัดเจดีย์คีรีวิหารเดิมชื่อวัดป่าแก้ว สร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. 1519 ขณะที่เจ้าฟ้าฮ่ามกุมาร ครองเมืองลับแล พระองค์มีใจฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่งมีพระราชดำริที่จะสร้างเจดีย์ เพื่อเผยแผ่บำรุงส่งเสริม เชิดชูพระพุทธศาสนาจึงเสด็จไปเฝ้าพระเจ้าเรืองธิราช กษัตริย์แห่งโยนกนคร กราบทูลขอแบ่ง พระบรมสารีริกธาตุจากพระธาตุดอยตุง จังหวัดเชียงราย อัญเชิญมาบรรจุที่เจดีย์วัดป่าแก้ว (วัดเจดีย์คีรีวิหาร ปัจจุบัน) เจดีย์นี้เป็นเจดีย์แห่งแรก ของอำเภอลับแล ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ (ปัจจุบันนี้กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้ ) และมีผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ฟังว่า ถึงวันศีลวันธรรม จะมีดวงไฟสุกสว่างลอยขึ้นเหนือเจดีย์อยู่เป็นประจำ กาลเวลาล่วงเลยมานาน อาคาร ก็ทรุดโทรมวัดป่าแก้วกลายเป็นวัดร้าง เจดีย์ชำรุดพังลงไป จนปี พ.ศ. 2453 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้เสด็จประพาสภาคเหนือ มาประทับที่วัดทุ่งเอี้ยงซึ่งอยู่ห่างจากวัดป่าแก้วไม่มากนักพระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นเจดีย์เก่าอยู่จึงตรัสถามพระครูธรรมฐิติวงศ์คีรีเขตร เจ้าอาวาสวัดทุ่งเอี้ยง ขณะนั้น ดำรงตำแหน่งเข้าคณะแขวงเมืองพิชัยว่า นั่นเป็นวัดหรือย่างไร เห็นเจดีย์เก่าแก่อยู่ พระครูธรรมฐิติวงศ์คีรีเขตรจึงกราบทูลว่าเป็นวัดร้างมานานแล้ว ชาวบ้านเรียกว่าวัดป่าแก้ว สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส จึงตรัสกับพระครูธรรมฐิติวงศ์คีรีเขตร ว่า วัดร้างนั้นอยู่ในทำเลที่ดี อยู่ในที่เป็นเนินสูงไม่มากนัก พร้อมทั้งมีเจดีย์เก่าอยู่ข้าพเจ้าเข้าใจว่า คงเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่ง ท่านเป็นเจ้าคณะแขวงเมืองอำเภอพิชัย น่าจะบูรณะซ่อมแซมและไปอยู่ที่นั่น ถ้าท่านไปบูรณะและไปอยู่จริง ข้าพเจ้าจะตั้งชื่อวัดให้ใหม่ว่า วัดเจดีย์คีรีวิหาร หลังจาก สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรส เสด็จกลับแล้ว ปี พ.ศ. 2454 พระครูธรรมฐิติวงศ์คีรีเขตร และคณะศรัทธาก็ได้ร่วมกันบูรณะซ่อมแซมเจดีย์คงคืนสภาพเดิม มีขนาดวัดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 วา สูง 13 วา ขณะที่ซ่อมแซมเจดีย์และอุโบสถ (หลังเก่า) นั้นได้พบแผ่นศิลาจารึก 1 แผ่นตัวอักษรในแผ่นศิลาจารึกนั้นอ่านไม่ออก (ไม่ใช่ภาษาไทย) ข้าหลวงอุตรดิตถ์ (ผู้ว่าราชการจังหวัด) ได้ส่งไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติแล้ว เมื่อซ่อมแซมเจดีย์และอุโบสถเสร็จแล้วก็ได้สร้างกุฏิและศาลาการเปรียญ (หลังเก่า) ขึ้นอีก 1 หลัง เมื่อสร้างเสร็จแล้วพระครูธรรมฐิติวงศ์คีรีเขตร ก็ได้ย้ายมาจากวัดทุ่งเอี้ยงมาอยู่จำพรรษาที่วัดเจดีย์คีรีวิหาร ซึ่งเป็นนามที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวชิโรรสทรงตั้งชื่อไว้เป็นชื่อวัดมาจนปัจจุบัน
การเสด็จมาของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ ครั้งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2521 สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน)ได้เสด็จไปประทับที่วัดเจดีย์คีรีวิหาร ทางวัดได้สร้างตำหนักถวายแด่สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ท่านตั้งนามตำหนักนี้ว่า ตำหนักคีรีรมย์
LubLae
ลักษณะเจดีย์ รูปทรงเจดีย์เป็นทรงลังกาครอบ มีซุ้มคูหา4ฐาน มีเจดีย์องค์เล็กอยู่ทั้ง4ด้าน โดยรวมเจดีย์มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 วา สูง 13 วา
LubLae
สถานที่สำคัญภายในวัด อุโบสถเก่าแก่ของวัด อุโบสถใหม่ของวัด ศาลาการเปรียญหลังเก่าของวัด ศาลาการเปรียญหลังใหม่ของวัด ศาลาเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ 9 ตึกธรรมฐิติวงศ์ ตำหนักคีรีรมย์ หอระฆังของวัด เจดีย์เก่าแก่ของวัด รูปหล่อเหมือนหลวงปู่บุญใหม่ พระประธานศิลปะสุโขทัย
LubLae
การเดินทาง ห่างจากตัวจังหวัด 10 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 1043
ข้อมูล //th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3
Create Date : 12 พฤศจิกายน 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2552 18:41:00 น. |
Counter : 1861 Pageviews. |
|
|
|