Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
26 กรกฏาคม 2557
 
All Blogs
 
..กระถินกลิ่นขี้ควาย..บทที่ 21




บทที่ 21





โชคดีที่วันต่อมาญาติของจันมาเยี่ยมไม่อย่างนั้นถิ่นคงต้องรับหน้าที่รับใช้ครอบครัวเบิ้มต่อไป


“นายเป็นใครน่ะ?”
สำเนียงไม่มีคารวะพอกับหน้าเหร่ๆ ของเด็กคนหนึ่ง

“เจ้าของบ้าน” ถิ่นแกล้งตอบ

“เห่ย..บ้านนี้เป็นของพี่จันต่างหาก”

“เฮ้ย!..” ทุยเข้าผลักอก “เอ็งล่ะเป็นใคร?”

“ชั้นเป็นญาติของพี่จันเมียเจ้าของบ้าน กำลังจะมาอยู่ที่นี่”

“ไรวะ!” เลือดขึ้นหน้าทุย

“ช่างเถอะทุย..” ถิ่นเข้าห้าม..ตบหัวเด็กห่ามอายุไม่เกินสิบปี “ไอ้ต้อยมาเป็นคนใช้ให้ครอบครัวพี่เบิ้ม ดีใช่ไหมล่ะเราจะได้ไม่ต้องคอยเอาผ้าเปียกขี้ของแจ๋วไปทิ้ง”

“ฮะ..ฮะ..” ทุยกอดไหล่ถิ่น โยกไปที่ทางเดินหลังไร่ “ที่แท้ไอ้เด็กเช็ดขี้..ฮะ..ฮะ..ฮา..”

“ดีเหมือนกัน..” ความคิดหนึ่งผุดขึ้น..ถิ่นชี้ไปทางดงไม้ริมขอบฟ้า “กำลังวุ่นกันอยู่ เราไปเที่ยวที่คุ้งลิบๆ โน้นดีกว่า”

“แล้วพี่เบิ้มล่ะ?” ทุยอดเป็นห่วงพี่ชายไม่ได้

“เมื่อกี้เห็นอุ้มลูกอวดใครต่อใคร..หายดีแล้วนี่”

“ที่แท้มารยาให้เราทำงานให้..งั้น..ไปกัน..โลด!”




“แวะกินขนมจีนก่อนนะ..” ทุยนั่งลงบนเก้าอี้ยาวใต้เพิงปากทางเข้าวัดอ้อมบุญ “ตกลงถิ่นจะไปไหนแน่ เราเดินมาไกลแล้วนะ กว่าจะกลับอีก”

“ป้าครับ..” ถิ่นนั่งลงข้างทุย “ขนมจีนน้ำยาสองชาม เสร็จแล้วขอลอดช่องน้ำกะทิอีกสองด้วยนะ”

“มาจากไหนกันละนี่..” ป้าแม่ค้าหยิบขนมจีนลงชาม “ไม่ใช่คนบ้านนี้แน่ไม่เคยเห็นหน้า”

“แหมป้า!..” ทุยต่อว่าเมื่อชามขนมจีนอยู่ตรงหน้า “ให้ใบแมงลักนิดเดียวเอง”

“ผมมาจากบ้านริมถนนแถวๆ เกือบถึงวัดสำราญศีล..” ทุยตักขนมจีนเข้าปาก “อร่อยเหมือนกัน..ขออีกสองดีกว่า”

“เอ้า!..ป้าให้ใบแมงลักหนุ่มช่างต่อว่าคนนี้หมดเลย”

“ยายปลูกเองสิครับ ที่ไร่ผมมีต้นแมงลักเยอะแยะ วันหลังจะถอนมาให้” ถิ่นปากหวาน

“โอ๊ย!..” ขนมจีนเต็มปากทุย “จะมาอีกเหรอ เดินตั้งไกล แดดร้อนอีกต่างหาก”

“ฮึ!..” คนแก่ค้อน “บ้านอยู่ไหนป้าไปเอาเองก็ได้”

“ว่าแต่..” ถิ่นเปลี่ยนเรื่อง “วัดดงขนุนอยู่อีกไกลไหมครับ”

“อีกสองเท่าที่หนุ่มเดินมากระมัง”

“หือ!..” ถิ่นชะโงกจากเพิงดูท้องฟ้า “วันนี้คงไปไม่ทัน”

“โอ๊ย!..” ทุยร้อง

“ร้องแต่โอ๊ย โอ๊ย..” ถิ่นขัดคอก่อนทุยจะพูดต่อ “ถามป้าดูซิ ตั้งแต่นั่งกินนายร้องกี่โอ๊ย”

“คิก..คิก..” คนแก่ปิดปากหัวเราะ

“ยังไงเราไม่ไปกับนายหรอก ทำบุญที่วัดอ้อมก็ได้บุญมากโขแล้ว”

“วัดไหนๆ ก็ไม่ไป..” ถิ่นแกล้งไม่พอใจ เพราะที่จริงไม่ได้อยากมาทำบุญแต่อยากไปหาพระป๋องที่วัดดงขนุน “กลับบ้าน!”




จริงอย่างคาด..ไม่มีใครสังเกตว่าถิ่นและทุยหายไปจากบ้าน จนกระทั่ง

“ผมซื้อขนมจีนมาฝากพี่เบิ้มกับพี่จัน”

“ไปไหนมา?..” พูดกับทุยแต่เขม้นมองถิ่น “ไม่อยู่ดูแลแขก..และพี่ตัวเอง”

“เห็นหายดีแล้ว..” ทุยโต้ หลังจากโดนถิ่นบีบหลังส่งสัญญาณ “ผมสองคนเลยออกไปเดินเที่ยว”

“ไปถึงวัดอ้อมบุญนี่นะ!” เบิ้มรู้ดีว่ามีร้านขายขนมจีนที่ปากทางเข้าวัด

“แค่วัดอ้อมบุญ..” ทุยมองถิ่นเหมือนจะถามว่า..ทำไมรู้วะ..”ใจถิ่นจะไปวัดดงขนุนด้วยซ้ำ ห่วงบ้านห่วงพี่เบิ้มละว้าถึงไม่ไป”

“ไอ้ถิ่น!..” เบิ้มตรงเข้าขยำคอถิ่น..ไม่มีวี่แววของอาการป่วย “จะไปหาไอ้ป๋องละซี”

“เฮ้ย!..รู้!..” ถิ่นยิ่งกว่าประหลาดใจ

“อะไร..ใครรู้อะไร” ทุยกระซิบถาม

“รู้ตั้งนานแล้วแต่ไม่อยากสนใจ..ไอ้คู่ตุ๊ด”

“เค้าเป็นพระ และไม่มีใครเป็นตุ๊ดอย่างพี่เบิ้มว่า”

“พระจอมปลอมนะสิ..อายุมากกว่าแกสักเท่าไหร่กัน สอง สามปี..สิบแปดสิบเก้าจะเป็นพระได้อย่างไร..” ลากคอถิ่นไปทางห้องน้ำ “ไอ้ตุ๊ด..ดูหน่อยสิว่าไม่ใช่”

“จะทำอะไรถิ่น..” ทั้งๆ ไม่เข้าใจ ทุยรั้งถิ่นจากมือเบิ้ม “พี่อย่ารังแกเด็กสิ ผมไม่รู้เรื่องอะไรหรอกนะ..เห็นแต่ว่าพี่กำลังจะทำร้ายถิ่น”

ในที่สุดถิ่นก็หลุดออกมาได้ทั้งจากแรงของทุยและตัวเอง




เถากระดังงาคลุมระเบียงชั้นบนส่งกลิ่นหอมอวล..เมื่อแรกปลูกใหม่ๆ ถิ่นคิดว่าคงนานเกินคอยที่เถากระดังงาจะเลื้อยขึ้นถึง..สามปีผ่านรวดเร็ว ไม่ต้องเฝ้าคอยอย่างที่คิด..บางอย่างเติบโตขึ้น บางอย่างเสื่อมโทรมลง..คนบางคนหายไปจากชีวิต บางคนเข้ามาใหม่ และคงผ่านไปเช่นกัน..ลางสังหรณ์บอกถิ่นว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายอันจะทำให้หลายอย่างหายไป..หายไปจากชีวิต..เหมือนไม่เคยพบ ไม่เคยเกิดขึ้นเลย

“ถิ่นเข้านอนเถอะ..” ทุยออกมาตามถิ่น “ดึกอย่างนี้อากาศเย็นเหมือนกัน”

“ทำไมยังไม่หลับอีก..” ถิ่นตามเข้าห้องอย่างว่าง่าย “ฮะ..ฮะ..เมื่อกี้เห็นหลับฟี้”

“ถิ่นทำเตียงยวบตอนลุกขึ้นเราก็เลยตื่น..” รั้งตัวถิ่นลงบนเตียง “บอกตามตรงว่ากลัวพี่เบิ้ม ไม่รู้ว่าทำไม”

“ทางที่ดีอย่าอยู่ห่างกัน..” ตบหัวบอนที่นอนเฝ้าหน้าเตียง “คอยช่วยพวกเราด้วยนะ”

“นอนเบียดกันอย่างนี้..” ทุยพลิกตัวกอดถิ่น “พี่เบิ้มทำอะไรไม่ได้แน่”

“หือ..” ไม่ใช่ทั้งคำถามคำตอบ..ถิ่นขืนตัวขึ้นมองทุย..ร่างกายสะอาด ใจสะอาด ผิวพรรณนุ่มนวล กลิ่นกระไอบริสุทธิ์..ผิดกับ..เบิ้ม..ไอ้พี่เบิ้มที่มีแต่กลิ่นเหงื่อและกลิ่นคาวราคะที่คลุ้งออกมากับลมหายใจ

“ถิ่นเป็นอะไร..” ทุยแปลกใจ “มองเรานานแล้ว..บางทีเหมือนยิ้ม บางทีเครียด"

“เห็นด้วยหรือ?..” ถิ่นยิ้มกับความช่างสังเกตของทุย “มืดอย่างนี้”

“เห็นสิ..” ทุยรั้งร่างถิ่นลง “มืดอย่างไรเราก็เห็น อีกอย่างพระจันทร์อยู่นอกหน้าต่างนั่นไง”

“จริงสิ..” สองแขนถิ่นกอดทุยแน่น “มัวแต่ระแวงเรื่องพี่เบิ้มจนเอ๋อ..” แนบหน้าบนแก้มทุย “วันหนึ่งเราจะจากกันไหม..ไม่นะ..สัญญานะว่าจะไม่จากกัน”

“อิ๊ออ..อี๊..งี๊ด..งี๊ด..” แม้บอนจะชินกับภาพที่เห็นแต่ยังส่งเสียงร้อง


บอนร้องเพราะอยากเตือนภัย..ไม่ใช่บอนตัวเดียว..ใครคนหนึ่ง..เบิ้ม..ผลุบโผล่อยู่หัวบันได กำลังถลึงตามอง..กรามขึ้นสัน..เส้นเลือดบนลำคอปูดโปน..เต้นตุบ





Create Date : 26 กรกฎาคม 2557
Last Update : 26 กรกฎาคม 2557 10:07:47 น. 0 comments
Counter : 663 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.