Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2557
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
28 พฤษภาคม 2557
 
All Blogs
 
..กระถินกลิ่นขี้ควาย.. บทที่ 9



บทที่ 9




และแล้ววันแห่งความวุ่นวายก็มาถึง


“พ่อครับ!..พ่อครับ!..”
ต๋องวิ่งหน้าตื่นมาจากท้ายไร่

“อะไร?..” ถิ่นกระโดดจากครัว

“เป็นอะไรนายต๋อง!..” ตาใบตกใจที่เห็นลูกชายกระโจนขึ้นบันได

“หมูป่วยหรือ?” ยายถามจากในบ้าน

“เป็ด!..” หยุดหอบ “เป็ดหายครับ”

“คราวนี้กี่ตัวล่ะ” ตาไม่ค่อยทุกข์ร้อน มีเป็ดหายบ่อยๆ ทั้งจากขโมยและงู

“มะ..” ยังไม่คลายตื่นตระหนก “มะ หมดเล้าครับ”

“นายเล็กล่ะ..” ตาลงจากบ้าน ตามด้วยทุกคน “ทำไมไม่มารายงาน”

“นายเล็กหายไปครับ หายไปทั้งครอบครัว..” มองถิ่นด้วยสายตาแปลกๆ “ไอ้ป๋องและเมียมันก็หายไปด้วยครับ”


เป็ดร้อยกว่าตัวหายไปอย่างไร้ร่องรอย พบแต่รอยตีนย่ำในนาอ้อมไปทางถนนใหญ่ กระต๊อบของนายเล็กก็ไม่เหลืออะไรเป็นหลักฐาน..ต๋องและถิ่นเข้าไปค้นดู

“เป็ดมันเชื่องคนเลี้ยง พาไปไหนก็ไป..” ตาบ่น “คนของเราก็ไม่ได้เรื่อง..” ตาหมายถึงพี่เบิ้มที่ได้รับมอบหมายให้คุมนายเล็กอีกที “ถึงอยู่ก็คงช่วยอะไรไม่ได้ ป้อสาวไปวันๆ”

“คุณทองใบนี่น้า..” ยายเดินตามตากลับบ้าน “ทำโน่นทำนี่มากมายทั้งที่ไม่มีกำลังคนพอ ลำพังจ้างเขา นานๆ จะพบที่ดีสักคน”

“ลูกเรามีตั้งหกคนน่าจะช่วยได้บ้าง” ตาแย้ง

“อย่าลืมว่าเรามาจากกรุงเทพฯ พื้นเพไม่ใช่ชาวไร่ชาวนา ลูกๆ ก็เหมือนกัน”

“คนเราถ้าตั้งใจทำอะไรพื้นเพไม่ใช่เรื่องสำคัญ”

“อีกอย่างเจ้าเบิ้มก็ถูกทหาร ว่ามันก็ไม่ถูกต้อง”

“ตามใจคุณ”



“ดูอะไรนี่!..” ต๋องยื่นแผ่นกระดาษยู่ยี่ให้ถิ่น

“อะไร?..” ถิ่นง่วนบีบด้วงกุหลาบอยู่ที่กอไอเฟลทาวเวอร์ตรงโคนบันไดบ้าน

“อ่านสิ!..” ต๋องจี้ไฟในลงบนตัวหนังสื่อโย้เย้

“อ่านไม่ออก”

“เรารู้ว่านายอ่านออก..” ต๋องเลิกเซ้าซี้ อ่านให้ถิ่นฟัง “ถ อิ นอ ไม้เอก ถิ่น..” เอากระดาษแปะบนกึ่งจมูกกึ่งปากถิ่น “ชัดยัง?”

“อะไรของนาย..” ถิ่นเริ่มรู้สึกทะแม่งๆ “จะทำงานน่า” ปัดมือต๋อง

“เห็นเหน็บอยู่ที่ฝากระต๊อบไอ้ป๋อง..” บีบคางถิ่นเงยขึ้นจากกอกุหลาบ “มันคงอยากเขียนต่อว่าที่รัก แต่เขียนไม่เป็น..ฮะ..ฮะ..”


หนึ่งปีแล้วนับจากวันที่ป๋องตกปลาช่อนตัวใหญ่ให้ถิ่น..ไม่มีการติดต่อพูดคุยอะไรอีก ต่างคนต่างอยู่รับภาระหน้าทีของแต่ละคน ลูกๆ ของตาก็เช่นกัน พี่เบิ้มถูกทหาร พี่ริดขึ้นปีสองนักเรียนเตรียมทหาร พี่ตั้มเข้าเรียนอาชีวะแห่งหนึ่ง ต๋องทุยและจ้อยเรียนที่เดิม ถิ่นได้เรียนรู้หนังสือบ้างจากทุกคนในบ้านทั้งโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ

จริงๆ แล้วถิ่นอดใจหายไม่ได้กับการกระทำของครอบครัวป๋อง เห็นๆ อยู่ว่าป๋องเป็นคนดีคนหนึ่งแต่ทำไมจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น..ความรู้สึกส่วนตัวของป๋องที่ต๋องนำมาแฉนั้นถิ่นไม่มีส่วนรู้เห็นอะไรด้วย อาจเป็นว่าป๋องเองก็นึกอยากเรียนหนังสือเหมือนกัน แจ่มเมียของป๋องอายุมากกว่าและเคยเรียนหนังสือมาก่อนคงสอนเขาเขียน ไม่แน่ถ้าต๋องค้นหาให้ทั่วอาจมีข้อความอื่นๆ อีกนอกจากชื่อถิ่น



“คิดถึงมันมากละซี้..” ต๋องตามราวีทุกเช้าที่ถิ่นไปเก็บเบ็ดราว “ทำไมไม่เถียง?”

“ปล่าว” ถิ่นไม่โต้ตอบอะไรเพราะรู้ดีว่าจะถูกกล่าวหาไม่สิ้นสุด

“ฮึ่ม!..หมั่นเขี้ยวนัก..” ต๋องทำท่าเข้าขย้ำ “รู้ไหม..” เปลี่ยนเรื่องพูด “ลูกภารโรงคนหนึ่งอ้วนจ้ำม่ำ พวกเราแกล้งตีแกล้งหยิกก็นิ่ง ตีอีกก็นิ่ง เลยถูกรังแกทุกวัน”

“แล้วไง?..” ถิ่นเผลอถามต่อเพราะอยากรู้ชะตากรรมของเจ้าหนู

“นายอยากโดนอย่างเจ้าเด็กนั้นใช่ไหมจึงนิ่งๆๆ อย่างนี้”

“มือตีนเด็กยังเล็กสู้นายไม่ได้..” ถิ่นชูกำปั้น “แต่ของเราไม่เล็กแน่”

“แน่ใจ๋?..” ต๋องโถมเข้าใส่แต่ถูกกำปั้นถิ่นหงายหลัง..กลับเข้าไปใหม่ก็ถูกอีก..น่าแปลกที่ไม่เป็นฝ่ายทำ มีแต่ถิ่นที่ไม่ยั้งมือ



“เลิกคิดถึงไอ้ป๋องหรือยัง” อีกเช้าหนึ่ง

“ยัง” ถิ่นแกล้งตอบ..ความจริงถิ่นยังคิดถึงป๋องแต่ไม่ใช่ในความหมายที่ต๋องถาม..อีกเหตุผลเพราะไม่อยากเป็นสาเหตุให้ต๋องเข้ามากอดฟัด ไม่อยากทำร้ายต๋องที่โดนเข้าเต็มๆ ทุกครั้ง

“ถ้าคิดถึงมากก็ไปอยู่ที่กระต๊อบมันสิ” ต๋องแกล้งประชด แต่ต้องอึ้งเมื่อได้ยินคำตอบจากถิ่น

“เราว่าจะไปขออนุญาตยายเหมือนกัน นายจะได้ใช้ห้องเราเป็นห้องส่วนตัวของนาย”



“อยู่ที่นั่นคนเดียวได้หรือ?” ยายบุญศรีถามเมื่อถิ่นขออนุญาต

“ผมโตแล้วครับ อีกอย่างเห็นต๋องอยากมีห้องส่วนตัว ถ้าผมย้ายออกเขาจะได้มีห้อง” เป็นครั้งแรกที่ถิ่นพูดโกหกกับยาย

“ก็จริง ต๋องมันเป็นหนุ่มเกินตัว นอนดิ้นใส่น้องทุกคืน”



กระต๊อบไม่สะอาดนัก ถิ่นต้องทำความสะอาดอย่างหนัก ซ้ำมีกลิ่นสาบเป็ดโชยเป็นระยะ แต่อีกหน่อยคงจางลง ถิ่นหอบขยะทั้งหมดข้ามไปเผาทิ้งในนา

“ทำไมยังอยู่อีก..” ต๋องดักถาม มืออุดจมูก “เหม็นสาบเป็ด”

“พรุ่งนี้ไปแน่ ยายอนุญาตแล้ว..” ถิ่นยกแขนขึ้นดม “เหม็นจริงๆ ด้วย..” ยื่นหน้ายั่ว “จะได้ไม่มีใครเข้าใกล้”

“พล๊อก!..” จู่ๆ ต๋องต่อยเข้าที่คางถิ่น “เหลืออดแล้วนะ..” เข้าสวมกอด “เหม็นอย่างไรก็จะกอด..” รัดแน่นเข้า “คืนนี้ให้ตายกันไปเลยข้างหนึ่ง!”


ถิ่นไม่โต้ตอบปล่อยให้ต๋องกอดฟัด เขาพอจะเข้าใจความรู้สึกของต๋อง ถึงอย่างไรคงไม่ตาย ถ้าความต้องการของต๋องจะทำให้ยุติเรื่องเหลวไหลที่ถูกกล่าวหา..ถิ่นยอม





Create Date : 28 พฤษภาคม 2557
Last Update : 28 พฤษภาคม 2557 11:47:11 น. 0 comments
Counter : 546 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.