Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
24 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 

๐ ... จันทร์ครึ่งดวง ... ๐ ( บทที่ 21 )




บทที่ 21





วิ่งได้สักพักมีเสียงรถมอเตอร์ไซค์ไล่หลังมา



“ฮึ!” ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นกัน เณรเร่งความเร็วขึ้นอีก ให้เร็วกว่าลม ให้หูอื้ออึง ให้ไม่คิดถึงอะไรนอกจากสองแขนสองขาที่แกว่งไกว

แม้จะได้ขึ้นแท่นรับเหรียญทองแต่ก็ต้องแพ้ความเร็วของมอเตอร์ไซค์ที่แซงขึ้นจอดดักขวางหน้า

“จะหนีไปไหนอีก?” กันอยู่ในบ็อกเซอร์ตัวเดียว เท้าเปลือยเปล่าเพราะความรีบร้อน

“ไม่!” เณรหัวทิ่มเข้าหาทั้งๆ ที่เบรกไว้แล้ว

“ดูซินี่..ออกอย่างนี้” กันลงจากรถคว้าตัวไว้ได้ทัน

“ไม่!..” เณรดิ้นหลุดจากวงแขนแต่ก็ถูกตะครุบไว้อีก “อึ๊..” แรงน้อยใจแรงผิดหวังทำให้เขาไม่หยุดดิ้น..ทั้งคู่กอดปล้ำกัน

“พล๊อก!” เณรเหวี่ยงกำปั้นเข้าใส่อย่างแรง กันคิดไม่ถึง ไม่ทันระวังตัว เซถลา

“กัน!..” ต่อยออกไปแล้วกลับนึกเสียใจ “กันมีคนใหม่แล้ว” คือคำอธิบาย คือข้ออ้างที่ทำร้าย

“คนใหม่ที่ไหน..เพื่อนคนเก่าที่เณรเคยเห็นไง..” กันกุมคางเดินเข้าหา “ไม่มีอะไรสักหน่อย..ก็เณรไปจากผม” ข้ออ้าง ข้อแก้ตัว

“ผมเห็นคุณกอดกันจะว่าไม่มีอะไรได้ไง..” ถ้าเป็นเมื่อก่อนเณรคงเชื่อ แต่เพราะสองสามเดือนที่ผ่านมาได้พบเห็นได้เผชิญกับความต้องการทางเพศของคนหลายประเภททำให้เขาเข้าใจ..กันก็คือคนประเภทหนึ่ง ถึงจะเป็นคนดีแต่เกี่ยวกับเรื่องเพศย่อมมีเหมือนๆ กัน..ใครก็ห้ามมันไม่ได้

“แต่ผมรักเณรคนเดียว อยากดูแลปกป้องตลอดไป” กันดึงขอบบ็อกเซอร์โย้เย้ให้เข้าที่ ยืนประจันหน้ากับเณร

“ฮึ๊!” แม้จะอยู่ในอารมณ์เครียด แต่ภาพเกือบเปลือยของกันบนถนนข้างมอเตอร์ไซค์ทำให้เณรเกิดความรู้สึกแปลกๆ กึ่งขำ กึ่ง..ไม่แน่ใจความรู้สึกนั้นคืออะไรแต่คงยิ้มออกมา อย่างน้อยก็คงคลายบึ้งตึง

“เณร..” กันฉวยโอกาสคืบเข้าใกล้ “ผมขอยืนยันว่าจะดูแลเราตลอดไป” แล้วร่างทั้งสองก็สัมผัสกัน ไม่มีแรงขัดขืนต้านทานอย่างไร..ร่างหนึ่งหอมสะอาดแม้มีเม็ดเหงื่อ อีกร่างสกปรกมอมแมมมีกลิ่นไม่ดี แต่ทั้งสองก็แนบแน่นด้วยความเต็มใจซึ่งกันและกัน



“กัน..กัน..” มีเสียงเรียกพร้อมร่างๆ หนึ่งวิ่งมาตามถนน “เกิดอะไรขึ้น?”

“นัย!..” ร่างกันกระตุกออกจากเณร..ตกใจ นึกไม่ถึงว่าตัวต้นเหตุจะตามมา

“ฮึ๊!..” เณรถอยออกเมื่อเห็นว่าอะไรเป็นอะไร และอย่างไม่รีรอปลดเป้ออกจากหลัง กำสิ่งหนึ่งออกมา

“เณรจะทำอะไร!..” ตกใจมากกว่าเห็นเพื่อนหนุ่ม นึกเดาความร้อนกรุ่นในใจเณรไม่ถูกว่าจะออกมาในรูปใด “รู้ไว้นะ..ผมมีเณรคนเดียว” กันกอดร่างแข็งทื่อของเณรอีกครั้ง “เห็นไหม..ผมกอดเณร”

“อึ๊!” ทั้งเสียงทั้งลมร้อนพุ่งออกจากปากจมูกปะทะหน้ากัน กลิ่นคาวอารมณ์ร้ายกะทันหันกลายเป็นหอมชื่นสำหรับเขา..เณรจะรู้บ้างไหม?

“พลัก!” กันล้มลงไม่ห่างจากเณรด้วยแรงผลักมหาศาล...นัยวิ่งเข้าหา

“อย่านะ!..” เณรเสียงเกรี้ยวกราด “ขอร้อง..อย่ามาทำต่อหน้าผม..” ยื่นกำปั้นไปที่สองคน หินก้อนหนึ่งโผล่ออกมา “แค่นี้ก็เสียใจมากพอแล้ว”

“เราไม่ได้มีอะไรกันเชื่อผมสิ ผมรักเณรไม่รักใครทั้งนั้น” กันสะโพกเคล็ดลุกไม่ขึ้น กางเกงหลุดลุ่ย

“ใช่ๆ เราเป็นเพื่อนกันแค่นั้น..จริงๆ” นัยชี้แจงหนักแน่นเกิน..คงกลัวสิ่งที่อยู่ในกำปั้นเณร มันอาจเป็นด้ามปืนหรืออาวุธสักอย่าง

“หยุด!..ไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น..” เณรย่อตัวลงที่กัน ทำปั้นพุ่งหานัย สังเกตว่ากลัวสิ่งที่อยู่ในนั้น “ผมเชื่อสิ่งที่เห็น”

“ก็ผมกอดเณร ปฏิเสธเขาต่อหน้า..ไม่เห็นหรือ?” กันยื่นมือออกไขว่คว้า

“ไม่เห็น ไม่ได้ยิน..” เณรพูดดื้อๆ “คุณอาจแกล้งทำก็ได้ แต่คุณสองคนหน้าตู้เย็นคือของจริง”

เณรคว้ามือสองข้างของกันโอบรอบตัวเขา แก้มแนบแก้ม กระซิบพอได้ยินสองคน “ผมเพิ่งรู้ตัวว่ารักกันเดี๋ยวนี้เอง..” ไม่น่าเชื่อว่าเณรจะกล้าจูบแก้มกัน “แต่มันสายไปเสียแล้ว”

“ยังไม่สาย” กันเสียสั่น..ส่วนหนึ่งมาจากความในใจของเณรที่ได้รับรู้

“ผมอยากอยู่กับคุณเช่นกัน..” เณรลดกำปั้นลง ซุกเข้าระหว่างอกเขากับอกเปลือยเปล่าของกัน “ฝากหัวใจของผมไว้ด้วย..ถ้าคุณรักและต้องการ มันก็จะมั่นคงอยู่กับคุณตลอดไป”

“อะไรนี่!..” กันสะดุ้งกับความเย็นของหินก้อนนั้น..หินรูปหัวใจที่เณรบรรจงเจียรนัยไว้

“นายทำอะไร!” นัยก้มลงประคองกัน คิดว่าถูกเณรทำร้าย

“ฮึ๊!..” เณรพรวดขึ้นยืน จ้องมองกันที่พยายามลุกขึ้นจากการช่วยเหลือของนัย “ที่จริงผมยังเป็นเด็ก ไม่แน่ใจนักหรอกว่าความรักคืออย่างไร ที่ผ่านมาผมได้รับสิ่งดีๆ มากมายจากกัน..” เณรหยุดกลืนก้อนลมที่ขึ้นมาจุกลำคอ “ผมหนีไปเพราะไม่แน่ใจและไม่อยากทำความเดือดร้อนให้ ทั้งจากครอบครัวและเรื่องส่วนตัวของคุณ” เณรมองไปที่นัย..หยิบยาเม็ดหนึ่งเข้าปาก

“ผมไม่เดือดร้อนอะไร ผมเป็นตัวของผม ตัดสินใจเลือกได้ด้วยตัวเอง” กันแย้งเชิงเกลี้ยกล่อม

“ใช่!..กันเป็นตัวของกัน และผมคงเป็นได้แค่ตุ๊กตาน้องชายที่น่าสงสารเท่านั้น”

“นายมันเห็นแก่ตัว..” นัยสอดขึ้น “ต้องการมากไป ต้องการเป็นเจ้าของทั้งหมดเพียงคนเดียว..ฉันรู้เรื่องนายกับกันมาตลอด นายมันไม่มีหัวใจ..ไอ้เด็กใจดำ!”

“ใครว่า!..นี่ไงหัวใจของผม..” เณรชูหินรูปหัวใจให้ดูชัดๆ “ตลอดเวลาที่ห่างกันผมคิดถึงคุณ แม้รู้ว่าไม่มีโอกาสพบคุณผมก็เพียรฝนหินก้อนนี้เพื่อระลึกถึงคุณ สักวันถ้าโชคดีจะได้มอบให้”

“ก็แค่หินก้อนหนึ่ง”

“จุ๊ๆ..” กันปรามนัย เขาพอจะรู้นิสัยของเณร

“กันเคยไปหาผมที่โรงงานนรกนั่น จำไม่ได้หรือ..” เณรเริ่มสับสน “คุณเห็นหัวใจดวงนี้ คุณชอบมัน รวมทั้งหัวใจดวงนี้ด้วย..” เณรก้มลงอีกครั้ง กระชากเสื้อตัวเองออกเผยให้เห็นแผ่นอกเนียนที่เริ่มมีกล้ามเนื้อ “คุณชอบมัน..” ดึงมือกันทาบอก “คุณอยู่กับมันทั้งคืน”

“เอ่อ..” กันกระพริบตา เอียงหัวด้วยความสงสัย..พอๆ กับนัย

“คุณกอดผม ผมกอดคุณ แลกเปลี่ยนความสุขให้กัน” มือเณรลามไล้ไปทั่วท่อนบน เลื่อนลงต่ำ กระชากบ็อกเซอร์..สิ่งเดียวที่อยู่บนร่างกันออก

“เฮ้ย!..” นัยตะครุบ รั้งมือเณร

“ปล่อยเขา..” กันกระซิบ หวังให้เณรบรรเทาความอัดอั้นใจ

“คุณรักผมคนเดียว..” เวลานี้เณรมองไม่เห็นอะไร ไม่เห็นใครแล้วนอกจากความฝันและจิตนนาการของเขาจากฤทธิ์ยา “จำไม่ได้หรือว่าเรามีความสุขกัน” เณรเริ่มเคลียคลอ จูบทั่วใบหน้า มืออยู่ไม่สุขลูบไล้ไปทั่วร่าง

ร่างเปลือยเปล่าโพลนอยู่ในความมืดข้างถนน ดีที่ร่างนั้นนิ่งเฉยไม่ได้มีปฏิกิริยาอย่างเดียวกับอีกร่างจึงดูไม่อุดจาดตานัก...แต่นัยกำลังจะหมดความอดทน

“คืนต่อมาคุณก็ไปหาผมอีก..ทำไมลืมเสียล่ะ” เณรเลื่อนลงต่ำ เงอะๆ เงิ่นๆ เหมือนถูกผีสิง

“เฮ้ย!” อีกครั้งที่นัยเอื้อมจับหัวเณรบนส่วนกลางลำตัวของกัน

“อย่าาา...” เสียงห้าม..กันเริ่มเห็นดีเห็นงามกับเณรเสียแล้ว

“เรารักกัน..ผมรักกัน” เสียงอู้อี้จากหน้าที่ฝังจมอยู่บนเนื้อ...เณรลดมือลงต่ำ ปลดตะขอกางเกงของตัวเอง

“เฮ้ย!” คราวนี้นัยไม่ฟังเสียงใครแล้ว เขาผลักเณรกระเด็นจากกัน...สองเสียงดังขึ้น

“นัย!”

“ฮึ๊!..” เณรได้สติหลุดออกจากความฝัน แต่ไม่วาย “แก..พวกแกที่รุมข่มเหงฉันและเม่า..แก..ไม่ยอม..ฉันไม่ยอม” เณรเปลี่ยนทีท่าเป็นฮึดฮัด เหวี่ยงแขนขาต่อสู้อยู่คนเดียว

“เณรใจเย็นๆ..” กันดึงขอบบ็อกเซอร์จากข้อเท้าขึ้นบนเอว “ผมอยู่นี่” กอดเณรด้วยความเวทนา..เขาเดาได้ว่าเณรพบเจออะไรที่เลวร้ายมาบ้าง และที่เพ้อคลั่งก็เพราะอะไรบางอย่างที่โยนเข้าปากเมื่อครู่

“อย่าเข้ามานะ!..” เณรสะบัดตัวออก “พวกแกกำลังจะรุมข่มขืนฉัน”

“ไม่ใช่..นี่ผม..กัน” กันคว้าตัวเณรไว้อีก

“ออกไปโว้ย”

“พล๊อก!..พลัก!..” หมัดหนึ่งเข้าใบหน้า อีกหมัดเข้าลำตัว..กันงอลงบนพื้น

“มันจะมากไปแล้ว..” นัยเข้าขวาง “ไปให้พ้น ไปจากชีวิตกันซะทั้งตัวแกและไอ้หัวใจหินบ้าๆ นี้” นัยเตะหินก้อนนั้นไปที่เณร

“หัวใจของผม..” เณรก้มลงหยิบหัวใจหิน ท่าทางเบลอๆ “ผมเก็บหินมา..เจียรจนเป็นรูปหัวใจ..หัวใจของผมที่จะมอบให้คนที่รักผม..กันอยู่ไหนนะ..เณรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน ถอยหลังออกไปทีละก้าว “ผมอยากให้หัวใจกับกัน..ผมรักกัน..” น้ำตาเด็กหนุ่มซึมจากขอบตาแดงช้ำ “กันอยู่ไหน?”

“ผมอยู่นี่..” กันถัดเข้าหาเณรกอดขาทั้งสองไว้...ก็เด็กคนนี้ไม่ใช่หรือที่เขาช่วยให้หลุดพ้นจากความตาย..เฝ้ารักษาดูแล ถนุถนอมด้วยความรักและเอ็นดู..ขณะนี้กำลังได้รับบาดแผลทางใจอย่างใหญ่หลวงและอาจกำลังตกเป็นทาสยาเสพติด..หากเณรจะทำร้ายอีกเท่าใดเขาก็ยอม ขอเพียงได้ตัวไว้เพื่อนำไปเยียวยาครั้งใหญ่ ให้เณรเด็กดีคนเดิมกลับมา เด็กดีของเขา ของพ่อแม่และพี่สาว...แม้เณรจะไม่รักเขาอีกแล้วก็ตาม

“แกไม่ใช่กัน..” เณรบิดตัวดึงขาข้างหนึ่งออกถีบกันสุดแรง “ไอ้วายร้าย”

“ผมกัน..กันจริงๆ นะเณร” กันเถิบเข้าหาอีก

“อย่ามายุ่งกับกู” สองขาทั้งเตะทั้งถีบ

“พอเถอะกัน..พอแล้ว..” นัยเข้าขวาง รั้งตัวกันออกจากรัศมีเท้า “ปล่อยเขาไป”

“ขอหัวใจให้ผม..” กันเจ็บระบมทั้งตัวแทบขยับร่างกายไม่ได้ กระดูกสะโพกที่บาดเจ็บถูกใช้งาน ถูกทำร้ายซ้ำจนทนไม่ไหว..เขาคงหมดหนทางที่จะได้เณรกลับมา “ขอหัวใจให้ผมเถอะ” นั่นอาจเป็นสิ่งเดียวที่จะเตือนใจให้เขานึกถึงเด็กดีคนนี้ของเขาตลอดไป

“อยากได้นักหรือไอ้หัวใจบ้าบอนี้” เณรเดาะหินในมือเล่น..ฤทธิ์ยาทำให้เขาสับสน ประเดี๋ยวจำได้ว่ามันคือสิ่งแทนหัวใจที่งดงามของเขา เดี๋ยวเป็นเพียงก้อนหินธรรมดาเท่านั้น..ประเดี๋ยวคือกันที่เขารัก เดี๋ยวคือไอ้ตัวร้ายที่ข่มขืนเขา

“โป๊ก!” เสียงหัวใจหินกระทบหัวกันอย่างแรง

“โอ๊ย!..” กันกุมหัว ลิ่มเลือดทะลักออกมา ไหลเข้าตาเข้าปาก..หน้าซีกหนึ่งเต็มไปด้วยเลือด

“ไอ้เด็กเวร!” นัยก้มลงช้อนร่างกันขึ้นรถมอเตอร์ไซค์...นาทีนี้เขาไม่สนใจความบ้าคลั่งของเณรและความปรารถนาของกันแล้ว

“ฮะ..ฮะ..ฮะ..” เณรหัวเราะแล้วเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว “เลือด..เลือด..” เณรยังจำเลือดจากท่อนขาวายร้ายที่พุ่งชโลมร่างเขา “ฉันฆ่าคนตาย..ฉันฆ่าคนตาย..” เณรจ้องร่างโชกเลือดที่นัยอุ้มขึ้นรถ “เลือด..กันเลือดออก..ผมฆ่ากันตาย..โอ๊ย..โฮ..โฮ..กันตายแล้ว..ผมฆ่ากัน..โฮ..โฮ..ฮือ..”

“เณร..เณร..” เสียงครางแผ่วออกจากร่างที่ซบอยู่บนหลังนัย

“ทำใจดีๆ ไว้” นัยเอื้อมจับมือสองข้างของกันโอบเอวเขาและรวบไว้แน่น อีกมือหนึ่งจับแฮนด์ ค่อยๆ ออกรถอย่างระมัดระวัง

“กันไปไหน..กันอยู่ไหน..” เณรตาพร่ามัวเพราะม่านน้ำตา “เลือด..กันเลือดออก..กันตายแล้ว..ผมฆ่ากัน..ฮือ..ฮือ..โฮ..” เณรฟุบหน้าลงบนกองเลือด สะอื้นสั่นสะท้าน


ล้อรถวกกลับช้าๆ บดลงบนถนน..ทับลงบนหัวใจหิน..แตกเป็นสองเสี่ยง...





 

Create Date : 24 พฤษภาคม 2553
2 comments
Last Update : 24 พฤษภาคม 2553 19:38:21 น.
Counter : 692 Pageviews.

 

พระจันทร์เสี้ยวเลี้ยวลับพยับเมฆ
เปรียบเช่นเฉกเมฆคลุ้มคลุมใจหมอง
เหลียวหาใดไม่เห็นเช่นใจปอง
ได้แต่ครองน้ำตาคราอับจน

ไหลบ่าลามท่วมในใจดวงน้อย
ดาวก็พลอยอับแสงทุกแห่งหน
เดินทางไหนอ้างว้างช่างมืดมน
และจะทนแผ้วถางได้อย่างไร ?

เกินไปแล้วนะปู่

 

โดย: คุณแม่ใจดี 24 พฤษภาคม 2553 18:44:31 น.  

 

พระจันทร์เสี้ยวเลี้ยวลับพยับเมฆ
วังเวงวิเวกวังวนฉงนฉาย
เถอะ .. ครอบคลุมครึ้มมืดอย่าได้คลาย
อยากให้หายลับดับไปกับจันทร์

อาจเพราะกรรมทำไว้แต่ปางก่อน
จึงกลับย้อนยอกย้ำระกำสรร
จะฝืนทนรับชะตาไม่รำพัน
จนถึงวันวายร่างข้างจันทร์แรม ...


ปู่ทำเกินไปจริงๆ
แต่ผมไม่รู้เรื่องด้วยนะครับ ...

ดีน ...

 

โดย: ดาเรน (ดาเรน ) 24 พฤษภาคม 2553 19:59:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.