|
|
|
|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ไดอารี่ขัดตาทัพ
กำลังเบลอๆ มึนๆ อยู่ว่าจะเอาเรื่องอะไรมาใส่บล็อคดี ไม่อยากดองค้างไว้นานเกิน กลัวว่าลูกค้าประจำ (เอ่อ... มีกับเค้าด้วยเหรอ...) พลัดหลงเข้ามาอ่านแล้วจะผิดหวัง ขณะที่กำลังหันรีหันขวางอยู่ก็ให้บังเอิญไปพบบันทึกเก่าๆของเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เขียนรวมๆไว้ได้ประมาณ 7 วัน (2 ปี เขียนบันทึกได้ 7 วัน!!! บ้าแล้ว อะไรจะขี้เกียจขนาดนี้...) อ่านดูแล้วก็ตลกดี (ชีวิตมันช่างไร้สาระเหลือเกิน) เลยเอามาลงขัดตาทัพไว้ก่อน ไม่รู้จะเกริ่นอะไรให้มากมายไปกว่านี้แล้ว (ชักเริ่มรู้สึกอาย) อัพเลยแล้วกัน ฮึ้บๆๆ...
21 กันยายน 2548: วันพุธ
วันนี้เป็นวันแรกที่จะลองเขียน Diary ด้วยคอมฯดูบ้าง เพราะไม่ประสบผลสำเร็จในการเขียนด้วยลายมือเอาซะเลย มันขี้เกียจบรรจง ขี้เกียจลบยังไงบอกไม่ถูก ไม่รู้กลายเป็นคนขี้เกียจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เวลาเขียนด้วยลายมือถ้าเขียนออกมาไม่สวยเราก็ไม่ชอบ แต่จะให้ตั้งใจบรรจงเขียนให้สวยตลอดมันก็ไม่ไหว คิดไปคิดมาก็เลยเขียนด้วยคอมฯนี่ละวะ น่าจะเวิร์คสุดแล้ว ไม่เมื่อย แถมเวลาไม่พอใจอยากจะเขียนใหม่ก็แสนง่าย โอ้... ช่างเป็นวิธีที่เหมาะกับคนสันหลังยาวแต่อยากเขียนบันทึกได้ทุกวันอย่างเราซะเหลือเกิน ฮ่าๆๆ แต่วันนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรจะเขียนเท่าไหร่แฮะ เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการ Orientation พนักงาน วันนี้มากันตั้ง 46 คน ส่วนใหญ่จะเป็นพวกพนักงาน Temp ที่เคยมาทำงานที่บริษัทฯกันบ้างแล้ว มีคนใหม่จริงๆอยู่ไม่กี่คน บรรยากาศโดยรวมก็ถือว่าสนุกสนานเฮฮาดีทีเดียว สำหรับตัวเองแล้วก็ค่อนข้างพอใจกับการบรรยายในวันนี้นะ เราว่ามันทำให้การ Orientation อันแสนจะน่าเบื่อหน่ายมันผ่านไปอย่างเพลิดเพลินใช้ได้เลย แต่ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะวันนี้มีพนักงานที่คุ้นเคยกับบริษัทอยู่หลายคน ทำให้ลดความเกร็ง และผ่อนคลายกันไปได้เยอะ นี่ถ้ามีแต่พนักงานหน้าใหม่เราก็คงจะเหนื่อยเอาการอยู่เหมือนกัน เฮ้อ... ทักษะในการเป็น Trainer ยังไม่ถึงขั้นจริงๆนะเนี่ย... พรุ่งนี้ก็ยังมีงานรออยู่เป็นกระบุงเลย เอาวะ สู้ๆ (เอ...ทำไมวันนี้เขียนบันทึกได้หน่อมแน้มยังงี้วะ อ่านแล้วยังกับ Diary เด็กม.ต้น...)
23 กันยายน 2548: วันศุกร์
งานยุ่งและเยอะกว่าที่คิด ไอ้ที่ตั้งใจว่าจะทำให้ได้เจ็ดแปดอย่าง เอาเข้าจริงทำได้ไม่ถึงครึ่ง ชักเริ่มเครียดแล้วนะเนี่ย งานที่ต้องทำให้เสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ก็ยังไปไม่ถึงไหนเลย ถึงเวลาประเมินผลงานปลายปีจะเอาอะไรไปเขียนวะกู ช่วงเย็นสงสัยเรากับแฟนจะมีอะไรขุ่นมัวอยู่ในใจเหมือนๆกัน ดูพูดจาไม่ค่อยเข้าหูกันซะเลย หงุดหงิดกับอะไรง่ายๆพอๆกัน เรื่องที่ปกติดูน้อยนิดน่าเอ็นดูก็กลับดูขวางหูขวางตาไปซะยังงั้น อันที่จริงก็ไม่ได้ขัดอกขัดใจจนถึงขั้นทะเลาะกันใหญ่โตหรอก เพียงแต่มันมีการกระทบกระทั่งเล็กๆน้อยๆที่ทำให้บรรยากาศมันหม่นๆไปบ้าง เฮ้อ! นี่เราล้ำเข้าไปพื้นที่ของเค้ามากไปหรือเปล่านะ
24 กันยายน 2548: วันเสาร์
ช่วงนี้อากาศดีมากๆเลย แดดเปรี้ยงจนแสบตา ตอนเช้าออกไปซื้อข้าวยังต้องหาหมวกมาใส่ กลัวฝ้าจะขึ้นหน้า เดี๋ยวไอ้ที่ขี้เหร่อยู่แล้วมันจะยิ่งไปกันใหญ่ เฮ้อ! เกิดมาไม่หล่อนี่มันลำบากจริงๆ นอกจากไม่สามารถทำให้ตัวเองดูดีได้แล้วยังต้องคอยระวังไม่ให้มันแย่ลงไปกว่าเดิมอีก คิดแล้วเศร้าว่ะ วันนี้ไม่ได้ออกไปไหนเลย นอนกลิ้งดูทีวีอยู่กับบ้านทั้งวัน ตอนบ่ายแม่ออกไปเรียนคอมฯหลังจากที่ตั้งท่ามานาน ตอนแรกเราจะสอนเองแต่ด้วยความที่เป็นแม่-ลูกกันทำให้มีปัญหาอยู่พอสมควร ดีไม่ดีจะพาลทะเลาะกันซะเปล่าๆ ออกไปเรียนกับคนอื่นนั่นแหละ ดีที่สุดแล้ว สบายเราด้วย (สรุปว่าขี้เกียจนั่นเอง) ได้ดู Swing Girls แล้ว ไม่สนุกเท่าที่คิดแฮะ อ่านจากหนังสือหนังทั้งหลายแหล่นี่บรรยายไว้ซะ โคตรน่าดูเลย... เอาเข้าจริงเราว่ามันก็งั้นๆนะ น่ารักก็ไม่เท่าไหร่ ขำก็แค่เล็กน้อย นี่ยังเหลือ be with you อีกเรื่องที่กำลังจะดู หวังว่าคงจะดีกว่านี้นะ
25 กันยายน 2548: วันอาทิตย์
หลังจากจดๆจ่อๆชั่งใจมานาน ในที่สุดวันนี้เราก็ตัดสินใจไปถอยอุปกรณ์ออกกำลังมาใช้ ชื่อของมัน คือ Sit up Board ฮ่าๆๆ เดี๋ยวก็รู้ว่าจะเสียตังค์เปล่า หรือหุ่นจะเฟิร์มสมใจ รอดูไปอีกประมาณ 6 เดือน (ถ้าเล่นเต็มที่ก็น่าจะเห็นผลนะ) โปรแกรมออกกำลังที่คิดไว้มีดังนี้ 1. วิดพื้นวันละ 50 ครั้ง 2. Sit up วันละ 50 ครั้ง ทำอย่างนี้ทั้งเช้า-เย็นเป็นเวลา 1 เดือน เดือนต่อไปค่อยเพิ่มจำนวนครั้งให้มากขึ้น จะทำได้อย่างที่ตั้งใจมั๊ยน้อ...
28 กันยายน 2548: วันพุธ
ไม่ได้! ... ที่สุดแล้วก็ทำไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ หลังจากวิดพื้นไปราวๆ 30 ครั้ง Sit up ไป 40 ที ตอนแรกก็ดู ชิล ชิล ดีอยู่ แต่พอรุ่งขึ้นอีกวันนี่สิ โอย... ระบมไปทั้งตัว คงต้องขอพักก่อนจนกว่าอาการจะทุเลา แล้วเดี๋ยวค่อยกลับมาฟิตกันใหม่... (แล้วเมื่อไหร่พุงมันจะยุบวะเนี่ย?) เย็นนี้แวะซื้อหนังมาใหม่อีกเรื่อง A World without Thieves หนังจีนฟอร์มดีของเฮียหลิว เข้าฉายบ้านเราไปอย่างเงียบๆ นี่ถ้าไม่ใช่คนอ่านนิตยสารเกี่ยวกับหนังเป็นประจำก็คงไม่รู้จักหนังเรื่องนี้หรอก แต่เกลียดทรงผมพี่หลิวเรื่องนี้จริงๆเลย ให้ตายเถอะ... มันไม่มีวิธีเปลี่ยนคาแรคเตอร์อย่างอื่นแล้วใข่มั๊ยเนี่ย....
5 ตุลาคม 2548: วันพุธ
จำไม่ได้แล้วว่าอะไรทำให้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมามองนาฬิกา อากาศที่หนาวผิดปกติ อาการอยากเข้าห้องน้ำ หรือเป็นเพียงแค่ความบังเอิญที่ดันเหลือบตาขึ้นมาตอนนั้นพอดี แต่ในวินาทีที่มองเห็นตัวเลขดิจิตัล 06.00 แดงเปล่งปลั่งอยู่บนหน้าปัทม์นาฬิกา ร่างกายก็เกิดปฏิกิริยาตอบสนองโดยอัตมัติ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเคยใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัววันไหนได้เร็วกว่านี้ไหม รู้แต่ว่าใช้เวลาแค่เพียง 10 นาที ก็สามารถพาตัวเองไปนั่งอยู่บนรถบัสบริษัทได้ในสภาพดีกว่าคำว่าอุบาทว์นิดเดียว รอดจากการตกรถ (ซึ่งหมายถึงการขาดงาน) ไปอีก 1 วัน โชคดีจริงๆ
1 พฤษภาคม 2549: จันทร์
อาการเจ็บคอมันกลับมาอีกแล้ว เมื่อคืนก็มีไข้ นี่ตกลงกูดื้อยาอีกแล้วใช่มั๊ยนี่? ตอนสายๆแวะไปหาหมอประจำตระกูล (ที่เรียกแบบนี้เพราะคนบ้านเราทุกคนรักษากับหมอคนนี้เหมือนกันหมด) หมอทำท่าเซ็งๆปนเครียด คงหนักใจเพราะไม่รู้จะงัดยาอะไรมาใช้กับมันดี เล่นดื้อมันไปหมดซะทุกตัวแบบนี้ คราวนี้หมอเลยตกลงใจใช้วิธี Mix มันซะเลย ประมาณว่ากินมันไปหลายๆขนานในคราวเดียวนี่แหละ ไม่หายให้มันรู้ไป จ่ายยาเสร็จสรรพหมอก็ชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ต่อทั้งๆที่ข้างนอกมีคนไข้นั่งรออยู่อีกเป็นสิบ ต้องยอมรับว่าหมอมีจิตวิทยาดีจริงๆ ไปส่งแฟนซื้อของที่ Big C วันนี้คนเยอะเหมือนแจกฟรี สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้ออะไรเพราะไม่สามารถรอต่อคิวไหว เป็นนายและนางความอดทนต่ำกันทั้งคู่ ระหว่างที่อยู่ใน Big C โอ๋กับจิ๊บโทรฯมาบอกให้ซื้อกาแฟไปให้ด้วย พวกมันคงเข้าใจว่ารถเรามีที่วางแก้ว อืม... ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้พอจะบริการให้เพื่อนได้ ออกจาก Big C แล้วเราจึงตามไปสมทบกับเพื่อนๆอันประกอบไปด้วย โก้ โอ๋ และน้องจิ๊บแฟนโก้ ที่ร้านส้มตำสากทอง บทสนทนาในหมู่มิตรสหายวันนี้วนเวียนอยู่กับเรื่องธุรกิจ โก้กับน้องจิ๊บมีเม็กกะโปรเจ็คมานำเสนอ ฟังแล้วรู้สึกว่าไอเดียดีแต่ความเป็นไปได้ต่ำ เลยไม่มีใครซื้อ ก็ได้แต่หวังว่ามันทั้งคู่คงไม่ดันทุรังทำกันเอง ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะดิ้นรนทำให้ตัวเองลำบากกันไปทำไม เพราะอยากรวย หรืออยากได้ชื่อว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ ก็ไอ้เพราะความอยากอะไรแบบนี้นี่แหละ คนนู้นก็อยาก คนนี้ก็อยาก โลกมันถึงได้วุ่นวายกันไปหมด ทำไมวะ แค่มีงานให้ทำ วันหยุดก็นอนอยู่บ้าน หิวก็หาอะไรกิน เบื่อๆก็หาหนังมาดู หาหนังสือมาอ่าน สบายดีออก นิ่งๆไม่ชอบ ชอบวุ่นวายกันนัก หรือคนที่เค้าเจริญๆได้ดิบได้ดีเค้าคิดกันแบบนี้ อย่างเราชาตินี้ทั้งชาติก็คงจะไม่ไปไหน ต้องอยู่ดักดานมันไปแบบนี้แหละ (แล้วไงล่ะ ก็กูชอบของกูแบบนี้นี่หว่า...)
Create Date : 10 มีนาคม 2551 |
Last Update : 10 มีนาคม 2551 12:46:30 น. |
|
19 comments
|
Counter : 921 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 10 มีนาคม 2551 เวลา:18:30:02 น. |
|
โดย: ko IP: 117.47.154.218 วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:9:51:12 น. |
|
โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:12:41:07 น. |
|
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:14:10:50 น. |
|
โดย: อั๊งอังอา IP: 124.120.122.124 วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:9:32:16 น. |
|
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:16:51:18 น. |
|
โดย: พรเก้าประการ IP: 58.8.120.96 วันที่: 13 มีนาคม 2551 เวลา:17:32:03 น. |
|
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 18 มีนาคม 2551 เวลา:13:40:46 น. |
|
โดย: ลูกคุณพรทิพย์ IP: 125.26.123.35 วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:4:19:19 น. |
|
โดย: อั๊งอังอา IP: 124.120.116.59 วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:9:38:59 น. |
|
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:12:51:35 น. |
|
โดย: อั๊งอังอา IP: 124.120.120.97 วันที่: 28 มีนาคม 2551 เวลา:14:30:40 น. |
|
| |
|
แฟนผมตัวดำ |
|
|
|
|
เข้ากับอารมณ์บางอย่างที่คุณเขียนในไดอารี่ดีนะ