ชื่อขนมชนิดนี้ ผ่านๆตามาบ้าง แต่ป้าอิ๋วก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เนื่องจากไม่เคยทานค่ะ จนกระทั่ง ได้อ่านรีวิว การเดินเที่ยวตลาดของคุณแหม่ม บล๊อก narellan ที่อธิบายการเดินชมตลาดพร้อมทั้งชนิดของอาหารต่างๆมากมาย ชัดเจนประหนึ่งได้ไปเที่ยวเองเลยค่ะ อธิบายรสชาดและส่วนประกอบของอาหารหลายอย่างที่เธอลองชิม หนึ่งในนั้นคือ บาเยียค่ะ ป้าอิ๋วเลยหาข้อมูลเรื่องขนมชนิดนี้ มีหลายเวปได้เขียนอธิบายวิธีทำไว้บ้าง แต่บังเอิญว่าบล๊อกคุณแหม่ม narellan ก็เคยรีวิว การทำบาเยีย ไว้ด้วย ก็ลองอ่านดู ซึ่งเธอเขียนวิธีทำที่ค่อนข้างละเอียดและเห็นภาพเลยค่ะ แต่สิ่งที่ทำให้ป้าอิ๋วสนใจบาเยียคือ เป็นของว่างที่ไม่มีเนื้อสัตว์ ทำง่าย และอีกอย่างป้าอิ๋วมีเครื่องเทศทุกอย่างที่ใช้ปรุง ขาดแต่ถั่วเขียวซีก เมื่อตัดสินใจทำแล้ว ตอนบ่ายวันนั้น มีตลาดท้องถิ่น ป้าอิ๋วก็เลยตัดสินใจไปตลาด หาซื้อถั่วเขียวซีกที่เรียกกันว่า ถั่วทอง (ที่ใช้ทำไส้ขนมลูกชุบหรือเม็ดขนุนน่ะค่ะ) มาเลยค่ะ แต่แปลกใจอย่างหนึงค่ะ ในบล๊อกคุณแหม่มเขียนว่าถั่วเหลืองซีก แต่รูปเป็นถั่วเขียวซีก หรือว่าคุณแหม่มเรียกชื่อตามสีของถั่ว รึปล่าวนะ ป้าอิ๋วเกือบจะใช้ถั่วเหลืองซีกเหมือนกันค่ะ ชนิดนั้นเขาใช้ทำน้ำเต้าหู้ค่ะ ป้าอิ๋วดูถั่วเขียวซีกที่ป้าอิ๋วเรียกน่ะค่ะ ที่ข้างถุงเขียนว่า ถั่วเขียวเลาะเปลือกค่ะ จากรูปนะค่ะ
เอ๊าๆๆ กลายเป็นหลายชื่อเข้าไปอีก เพราะฉะนั้น การเรียกชื่อของชนิดเดียวกันเนี่ย ก็แล้วแต่ใครจะเรียกนะคะ ไม่มีผิดถูกค่ะ ขอให้เป็นของชนิดเดียวกันก็พอค่ะ ป้าอิ๋วดูจากรูปของคุณแหม่มค่ะ นี่เป็นข้อดีของการมีรูปประกอบค่ะ
คราวนี้มาดูวิธีทำ บาเยียของป้าอิ๋ว แต่เป็นสูตรที่ได้จากคุณแหม่มกันค่ะ ดัดแปลงเล็กน้อยค่ะ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน คือตัวแป้งบาเยีย และส่วนน้ำจิ้มค่ะ
เครื่องปรุง
ถั่วเขียวเลาะเปลือก 100 กรัม แช่น้ำ 1 คืน จะได้น้ำหนัก 225 กรัมค่ะ
น้ำมันสำหรับทอด
พริกแห้งทอด เป็นเครื่องเคียง
เครืองเทศ
เกลือป่น เล็กน้อย
กระเทียม ไทย 7 กลีบ
พริกไทย 15 เม็ด
ลูกผักชีป่น 1 ช้อนชา
ยี่หร่าป่น 1 ช้อนชา
ขมิ้นสด 1 ท่อนเล็กๆ (แทนขมิ้นป่น)
น้ำจิ้ม
น้ำตาล น้ำเปล่า น้ำมะขามเปียก พริกสดตำ เกลือ แป้งมันละลายน้ำ (ส่วนน้ำจิ้ม ไม่มีสัดส่วนค่ะ ใช้กะๆเอาค่ะ)
วิธีปรุง
เริ่มจากทำน้ำจิ้มก่อนค่ะ เอาน้ำเปล่ากับน้ำตาลเคี่ยวเข้าด้วยกัน และเติมน้ำมะขามเปียก หรือใครจะเคี่ยวน้ำตาลทรายกับน้ำมะขามเปียกเลยก็ได้ค่ะ แล้วเติมพริกตำ และเกลือ สุดท้ายก็ใส่แป้งมันละลายน้ำ ค่อยๆใส่และคนดูให้ได้ลักษณะข้นๆ หนืดๆ ค่ะ คล้ายๆน้ำจิ้มลูกขิ้นทอดค่ะ เอ๊ะ หรือว่าอย่างเดียวกันก็ไม่ทราบนะคะ
เสร็จแล้วป้าอิ๋วก็มาทอดพริกแห้งค่ะ มัวแต่จะถ่ายรูป เกือบไหม้แน่ะค่ะ
คราวนี้มาทำเครื่องเทศค่ะ โดยเอาทั้งหมดมาตำรวมกันค่ะ และเตรียมใส่ถ้วยไว้ ในรูปป้าอิ๋วลืมใส่กระเทียม เลยตำใส่ทีหลังค่ะ
จากสัดส่วนคุณแหม่ม ป้าอิ๋วไม่แน่ใจว่า ลูกผักชีและยี่หร่าที่บอกว่า 1 ช้อนโต๊ะน่ะ เป็นปริมาตรที่ยังไม่ป่นแน่เลย ป้าอิ๋วมีแบบป่นค่ะ เลยใช้ 1 ช้อนชาค่ะ ตอนตำเสร็จ หอมมากเลยค่ะ กลิ่นเดียวกับที่เดินผ่านร้านอาหารแขกเลยค่ะ อิอิ
มาถึงตัวแป้งบาเยียค่ะ ป้าอิ๋วตั้งใจจะบดให้ถั่วเขียวเป็นแบบละเอียดและหยาบ อย่างละครึ่ง แต่ป้าอิ๋วจะใช้เครื่องบดไฟฟ้า ซึ่งเมื่อแบ่งครึ่งบดแล้วมันน้อยเกินไป บดไม่ได้ เลยใส่ทั้งหมดเลย และบดไม่นาน กลายเป็นถั่วเขียวกึ่งละเอียดกึ่งหยาบ อย่างที่เห็นค่ะ และจับกันเป็นก้อนแล้วค่ะ
ตักมาใส่ชามผสมและใส่เครื่องเทศที่เราเตรียมไว้ลงไป คราวนี้สูตรเขาบอกให้หยอดน้ำนี่ค่ะ ป้าอิ๋วลืมค่ะ เห็นมันเป็นก้อนแล้ว หลังจากชิมโดยหยิบมาแตะๆลิ้นนิ๊ดหนึ่ง รสชาดพอดีแล้ว
ก็เลยปั้นและทอดเลยค่ะ โดยใช้ช้อนทานข้าว ตักมาประมาณ 1 ใน 3 ของช้อน และใช้ช้อนอีกอัน จัดๆให้เป็นรูปกลมๆ แบนๆ ดังรูปค่ะ และคิดว่าถ้าหยอดน้ำ มันคงเหลวเกินไปปั้นไม่ได้แน่นอนค่ะ นอกจากจะเพิ่มแป้งลงไป
ลองทอดชิมดู 3อันค่ะ ต้องไฟอ่อนๆนะคะ เพราะเขาเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเร็วมากค่ะ และรีบพลิกกลับด้านค่ะ
ลองเอามาชิมดู ข้างในสุกแล้ว และหอมลูกผักชียี่หร่ามากเลยค่ะ ทีนี้ป้าอิ๋วก็ทอดไปกว่าครึ่งค่ะ คิดว่า เหลือไว้ทอดทานร้อนๆ จะดีกว่า ส่วนที่ได้ เอามาเสริฟ พร้อมพริกทอด และน้ำจิ้มค่ะ
ลองกับน้ำจิ้มดู อืม อร่อยมากเลยค่ะ หอมเครื่องเทศ ความเค็มกำลังดี และอย่างที่คุณหม่อมว่าจริงๆ ค่ะ ถ้าทำน้ำจิ้มอร่อย บาเยียก็จะอร่อยมากขึ้น และทานแกล้มกับพริกทอด ทานคำหนึง กัดพริกทอด 1 คำเล็กๆ อร่อยเข้ากันมากเลยค่ะ ใครไม่รู้ช่างคิดจังเลยค่ะ ป้าอิ๋วมีผักชี เลยเอามาทานแก้เลี่ยน ก็ยิ่งอร่อยเข้าไปอีกค่ะ
ป้าอิ๋วรู้สึกว่า สูตรอาหารของคุณแหม่มถูกโฉลกป้าอิ๋วมากเลยค่ะ นี่เป็นเมนูที่ 2 แล้วค่ะ ที่ทำแล้ว ประสบผลสำเร็จ อร่อยเกินความคาดหมายค่ะ ขอบคุณสูตรบาเยียของคุณแหม่ม narellan ที่เผยแพร่สูตรอร่อยๆ แบบนี้ให้เพื่อนๆได้ทำทานกัน รวมทั้งขอบคุณที่ตอบคำถามหลังไมค์ป้าอิ๋วเกี่ยวกับอาหารประเภทนี้ตั้งหลายเรื่อง และป้าอิ๋วต้องมีรีวิวการทำอาหาร (แขกๆ) ต่อไปอีกหลายตำรับที่มาจากคุณแหม่มอีกแน่นอนค่ะ
ขอให้เพื่อนๆ น้องๆ มีความสุขกับการทำอาหารทานเองที่บ้าน เพื่อคนที่คุณรัก และตัวคุณเองนะคะ พบกันใหม่เมนูหน้าค่ะ
ไม่เคยหม่ำเลยอะคะ แต่หน้าตาน่าหม่ำมากๆเลยนะคะ
ตอนร้อน ๆ คงจะอร่อยๆ สุดๆ เลย โห.. แค่คิดก็น้ำลายไหลอะคะ