เพิ่มค่าให้ขยะ ลดภาระสิ่งแวดล้อม
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
13 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
พริกขี้หนูหอม คุณก๋วยเจ๋ง28

ช่วงนี้งานเงียบๆอีกแล้ว ก็มาอัพบล๊อคเลยละกัน วันนี้ขอส่งการบ้านผักสวนครัวค่ะ พริกขี้หนูนั่นเอง



พริกขี้หนูหอม เป็นพริกที่มีลักษณะดี มีความหอม ความเผ็ด ขนาดผล และสีผลใกล้เคียงกับพริกขี้หนูสวน แต่มีลักษณะดีเด่นกว่าพริกขี้หนูสวน ที่นิยมปลูกกันโดยทั่วไป คือ สามารถปลูกและให้ผลผลิตสูงในสภาพไร่ในขณะที่พริกขี้หนูสวนพันธุ์เดิมไม่สามารถปลูกในสภาพไร่ได้ต้องปลูกในสภาพสวนที่มีร่มเงาเท่านั้น นอกจากนั้น ยังให้ผลผลิตสูงกว่าพริกขี้หนูสวนทั่วไปและมีความเผ็ด ความหอมใกล้เคียงกับพริกขี้หนูสวนพันธุ์การค้าอีกด้วย

ชื่อสามัญ / ชื่ออังกฤษ Capsicms, Chillies, Green Pepper, Pepper Paprika, Tabasco Pepper, Cayenne Pepper

ชื่อวิทยาศาสตร์ พริกขี้หนู - Capsicum Frutescens Linn

วงศ์ Solanaceae

ชื่ออื่น / ชื่อท้องถิ่น พริกขี้หนู - พริกนก พริกแต้ พริกแด้ (เหนือ) พริกขี้นก ดีปลีขี้นก (ใต้) ดีปลี (ปัตตานี) ปะแกว (นครราชสีมา) หมักเพ็ด พริกแกว (อีสาน)

สรรพคุณ
พริกช่วยกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหารทำให้ระบบการย่อยอาหารดีขึ้น ช่วยเจริญอาหาร บำรุงธาตุ ขับเหงื่อ ขับลม ขับเสมหะ แก้อาเจียน แก้หิด กลาก เกลื้อน พริกสามารถลดความดันโลหิตได้เพราะทำให้หลอดเลือดอ่อนตัว และช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดเป็นไปได้ด้วยดี การรับประทานพริกเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งและป้องกันการเป็นโรคหัวใจและโรคหลอดลมอักเสบได้ พริกยังใช้เป็นส่วนผสมในขี้ผึ้งทาถูนวดเพื่อแก้อาหารปวดเมื่อยบวมและลดอาการอักเสบเพราะบริเวณผิวที่ทายาจะมีเลือดมาเลี้ยงมากขึ้น สามารถแก้อาการเป็นตะคริวได้ เพราะพริกจะช่วยกระตุ้นบริเวณที่เป็นทำให้รู้สึกร้อนขึ้น นอกจากนี้พริกยังใช้เป็นส่วนผสมในยาธาตุ ยาแก้ปวดท้อง เพราะสารสกัด Capsaicin จากพริกจะช่วยกระตุ้นการหลั่งเอนไซม์บางชนิดซึ่งทำให้กระเพาะอาหารบีบตัวและคลายตัว

เคล็ดไม่ลับ

1.วิธีแก้เผ็ด และแสบร้อนที่พริกขี้หนู

รสชาติอันเผ็ดร้อนของพริกนั้นมาจากสารประกอบเข้มข้นที่มีชื่อว่า แคปไซซิน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในแก่นสีขาวใจกลางพริกและเมล็ดพริก นอกจากนี้ยังกระจายไปทั่วเนื้อพริก เมื่อเรากินอาหารที่มีพริกเข้าไป แคปไซซิน จะทำให้เกิดรสชาติเผ็ดร้อนในปาก จนทำให้น้ำมูกน้ำตาไหลได้ ดื่มน้ำเย็นเข้าไปก็จะยิ่งกระจายสาร แคปไซซิน ซึ่งเป็นตัวการความเผ็ดไปทั่วปาก จึงทำให้เรารู้สึกเผ็ดมากขึ้น

ในขณะที่บางคนลงครัวช่วยคุณแม่ทำกับข้าวและหั่นพริก ก็อาจจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่มือได้เพราะสัมผัสกับแคปไซซินที่ทำให้ระคายเคืองผิวเข้าให้ เรามี 4 วิธีการดีๆ ที่ช่วยดับความเผ็ดร้อนของพริกมาฝากคุณค่ะ

1. ใช้ความหวานเข้าช่วย เคี้ยวโดนเม็ดพริกขี้หนูเข้าไปเต็มปาก ต้องใช้ความหวานของอาหารใกล้ๆ ตัว เช่น ข้าวกล้อง ข้าวเหนียว หรือขนมปังโฮลวีทนุ่มๆ ที่ช่วยคุณได้ เพราะความหวานของอาหารเหล่านี้จะช่วยดูดซับสารแคปไซซินที่ทำให้เกิดความเผ็ดร้อนให้หมดไป

2. ผลไม้แก้เผ็ด ใช้วิธีดื่มน้ำมะนาวหรือน้ำมะเขือเทศสดๆ จะช่วยแก้เผ็ดได้เช่นกัน เพราะกรดจากผลไม้เหล่านี้จะไปทำปฏิกิริยากับสารดังกล่าว ซึ่งเป็นด่าง ทำให้ความเผ็ดลดลง

3. เกลือบรรเทาปวดแสบร้อน หากคุณหั่น ซอย หรือว่าเด็ดพริกขี้หนู แล้วแสบร้อนไปทั่วบริเวณนิ้ว หรือมือที่สัมผัสกับพริกขี้หนู แก้ได้ไม่ยากค่ะ โดยนำเกลือแกงที่เราใช้ปรุงอาหาร สักหนึ่งช้อนแกง ลูบลงบนมือถูไปถูมา ความแสบร้อนก็จะคลายลงค่ะ

4. ลูบถูแป้งคลายร้อน หากหยิบเลือกพริกจนมือรู้สึกแสบร้อนแล้ว อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยคุณได้ ลองใช้แป้งเด็กทาตัว หรือแป้งหมี่ที่เราใช้ทำอาหาร ลูบถูไปมาตรงบริเวณมือและนิ้วที่รู้สึกแสบร้อน สักครู่ก็จะรู้สึกดีขึ้นค่ะ เพราะฤทธิ์เยอะ เยียวยายากอย่างนี้เอง ชีวจิตจึงไม่แนะนำให้กินรสจัด ถ้ายังไม่เชื่อก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร ก็ต้องทนเผ็ดกันไปนะคะ

ที่มา //huso.pn.psu.ac.th/husoSA/index.php?option=com_mamboboard&Itemid=122&func=view&view=threaded&id=125&catid=16&date=2009-07-01

2.วิธีทำยาหม่องพริกขี้หนู

วิธีทำ ไม่ยาก เหมือนทำยาหม่องทั่ว ๆ ไป คือเริ่มจาก
1. เอากะละมังใส่น้ำต้มจนเดือดจากนั้นราไฟให้เดือดน้อย ๆ

2. เอาขันเล็ก ๆ 2 ใบวางไว้บนน้ำร้อน ขันใบหนึ่งใส่เทียนไข อีกใบหนึ่งใส่น้ำมันพืช (จะเป็นน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันงาก็ได้) ลงไป 5 ส่วน จนเทียนไขละลาย

3.ตักเทียนไขที่ละลายแล้วใส่ลงไปผสมกับน้ำมันพืช ใช้เทียนไขเหลว 1 ส่วนคนให้เข้ากันดี จะได้ขี้ผึ้งเหลว

4.ทดสอบว่าขี้ผึ้งข้นหรือเหลวเกินไป โดยตักขึ้นมานิดหน่อย หยดลงไปในที่เย็น ๆ ขี้ผึ้งเหลวจะแข็งตัวทันทีใช้มือขยี้ดู ถ้าเหลวไปให้เติมเทียนไข ถ้าข้นไปให้เติมน้ำมัน

5.เอาขันที่ใส่เทียนไขออก เอาขันเปล่าอีกใบใส่แทน ปล่อยทิ้งไว้ให้ร้อน เอาพริกขี้หนูแห้งป่น(ทำจากพริกขี้หนูตากแห้ง แล้วนำไปคั่วก่อนจะบดง่ายขึ้น หรือพริกขี้หนูป่นที่ใส่ก๋วยเตี๋ยวนั่นละครับ) ใช้สัก 1-2 ส่วน ใส่ลงไปในขันที่มีขี้ผึ้งเหลว ตั้งทิ้งไว้ 5 นาที

6.เมื่อครบ 5 นาทีแล้ว กรองเอาผงพริกขี้หนูออก วิธีกรองเอาขันเปล่าร้อน ๆ ที่วางไว้ตามข้อ 5 เอาผ้าวางลงบนปากขัน แล้วเทขี้ผึ้งเหลวลงไปในขณะที่ขันเปล่ายังร้อนอยู่ เสร็จแล้วเทใส่ขวด หรือภาชนะอื่น ๆทิ้งไว้จนเย็น ขี้ผึ้งแข็งปิดฝาเก็บไว้ใช้ได้


วิธีใช้
ควรทาและถูนวดเบา ๆ ไปด้วยสัก 5 นาที เพื่อให้ผิวหนังร้อน แล้วพริกขี้หนูจะออกฤทธิ์ได้เร็ว และควรทานาน ๆ เพื่อให้ผิวหนังมันอยู่เสมอ เพราะถ้าทาบางเกินไปจะไม่รู้สึกร้อน เมื่อหายร้อนก็ทาใหม่
สูตรขี้ผึ้งหรือยาหม่องพริกนี้ เรายังไม่เคยได้รับคำบอกเล่าประสบการณ์จากใครนะครับ มีแต่เจ้าหน้าที่โครงการสมุนไพรฯ หลังจากเล่นกีฬาเกิดเคล็ดขัดยอกฟกช้ำก็นำมาใช้ได้ผลดี ที่แปลกคือนำมาใช้แก้ยุงกัดได้อีกด้วย ถ้าใครนำไปใช้ไม่หวงสูตรยาหม่องนะครับ
เอาละ...ก่อนที่จะพบกันใหม่ก็หวังว่าสูตรยาหม่องพริกง่าย ๆ (แต่เสียเวลาทำสักหน่อย) คงถูกใจแฟนสมุนไพรทั้งรุ่นใหม่ รุ่นเก่ากันบ้าง ถ้าใช้ได้ผลดีรักกันจริงก็ต้องบอกต่อ แล้วบอกต่อกันไปเรื่อย ๆ ...อย่าลืมบอกมาที่โครงการฯ ด้วยนะครับ


หมายเหตุ
ยาหม่องพริกออกฤทธิ์ คือทำให้ผิวร้อนได้ช้า ต้องทาแล้วทิ้งไว้สักพักอย่าใจร้อน

ที่มา //www.doctor.or.th/node/6192


3.พริกแก้พิษสัตว์กัดต่อย

- ถ้าถูกแมลงป่องต่อยหรือตะขาบกัด ใช้พริกขี้หนูสดตำละเอียดโปะปากแผลหรือนำพริกขี้หนูแห้งๆ ตำจนแหลกเป็นผง จากนั้นละลายในน้ำมะนาว ใช้ทาหรือจะใช้วิธีรมควัน โดยใช้พริกขี้หนูสดประมาณ 1 กำมือโยนใส่กองไฟแล้วเอาแผลถูกกัดต่อยไปอังไฟเผาพริกขี้หนูสักพักอาการเจ็บปวดจะหายไม่นานเกินรอ

- หากถูกมดกัดโดยเฉพาะพวกมดแดงไฟให้ใช้ใบของพริกขี้หนูถูบริเวณนั้น อาการจะทุเลาเร็ว
แก้พิษปลาดุกยัก
- ใช้พริกขี้หนูสดขยี้ทาตรงปากแผลได้ผล ใช้พริกขี้หนู 2-3 เม็ดตำพอกรักษาแผลสดและแผลเปื่อย

4.แก้อาการเจ็บคอ

- ใช้พริกขี้หนูป่นประมาณ 1 หยิบมือชงในน้ำเดือดขนาด 1 แก้ว จากนั้นรอพออุ่นๆจึงใช้กลั้วคอ ซึ่งน้ำยาชงจากพริกขี้หนูป่นนี้สามารถแก้อาการเจ็บคอเนื่องจากคออักเสบหรือต่อมทอนซิลอักเสบได้ดีนัก

5.ไล่แมลงศัตรูพืช

นำพริกสดมาบดให้ละเอียด แล้วใส่น้ำลงไปพอประมาณ

สามารถนำไปลดน้ำต้นไม้ เพื่อไล่แมลงที่เป็นศัตรูพืชได้ค่ะ

พริกยังมีประโยชน์อีกมากมาย เพื่อนๆจะเลือกวิธีไหนไปลอง แล้วได้ผลหรือไม่ยังไงก็บอกกันบ้างนะค่ะ เพราะข้อมูลก็หาจากเวบ ไม่เคยลองเองเลย 55 ขอบคุณที่เข้ามาชมค่ะ





Create Date : 13 สิงหาคม 2552
Last Update : 13 สิงหาคม 2552 10:35:58 น. 13 comments
Counter : 5404 Pageviews.

 
ชอบกินเผ็ด แต่กลัวเผ็ดนานๆๆๆ ขอบคุณค่ะ สำหรับวิธีแก้


โดย: kim_tiger วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:11:31:24 น.  

 
สวัสดีครับ
ขอบคุณนะครับ ที่แวะไปเยี่ยมที่บล็อกครับ
ขออนุญาต เข้ามาอ่านบล็อกด้วยคนนะครับ

หวานเป็นลม ขมเป็นยา
เผ็ดทั้งอร่อย และเป็นยาด้วยนะครับ
...


โดย: หมึกสีดำ วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:11:54:57 น.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาชมพริกขี้หนูครับ เห็นแล้วก็เผ็ดเลยครับ

จขบ. เก่งจังเลยครับ ปลุกต้นพริกจนมีเม็ดแล้วด้วยนะ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:12:11:43 น.  

 
แวะมาทักทาย และขอบคุณสำหรับความรู้นะค่ะ


โดย: พลอยพนาลี วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:13:24:10 น.  

 
มีเคล็ดไม่ลับด้วย ดีจัง



โดย: coji วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:14:42:11 น.  

 
เห็นพริกขี้หนู แล้วนึกอยากทานสาคูไส้หมูจังค่ะ

ชอบเหลือเกิน แต่ทาานแล้วน้ำตาไหลพราก

ขอบคุณสำหรับเคล็ดลับดับเผ็ดค่ะ


มีความสุขทุกวันนะคะ


โดย: มังกรเขียวหัวยุ่ง (cruduslife ) วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:18:44:04 น.  

 
ที่บ้านพี่นะ มีให้เก็บตลอดเลย
เพราะนกมาปลุกไว้ให้ เต็มไปหมด
หลากหลายพันธุ์อีกต่างหาก อิอิ


โดย: mutcha_nu วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:13:06:02 น.  

 
ปีนี้พริกที่บ้านไม่งามเลยล่ะค่ะ
ขอบคุณสำหรับเคล็ดลับลดความเผ็ดที่มือ

ทำกับข้าว บางทีเผลอๆไป แสบมือเป็นประจำค่ะ


โดย: SevenDaffodils วันที่: 17 สิงหาคม 2552 เวลา:4:41:07 น.  

 
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ ที่มีให้กันนะครับ


โดย: grilled chicken วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:6:40:12 น.  

 
พริกขี้หนูเม็ดเล็ก
แต่ประโยชน์มากมายเชียวค่ะ
*-*


โดย: wingang วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:18:39:36 น.  

 
เพิ่งจะรู้วิธีแก้เผ็ด... ขอบคุณครับ




โดย: boyd_ja วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:22:38:02 น.  

 
สวัสดิฉันชื่อ......อ้อ.......


โดย: อ้อ IP: 124.157.139.12 วันที่: 5 กันยายน 2552 เวลา:11:36:56 น.  

 
อยากทราบวิธีการปลูกพริกหอมค่ะ
หน้าตามันเหมือนพริกกะเหรี่ยงเลยค่ะ
มันพันธุ์เดียวกันใช่ป่ะคะ


โดย: อึ้งย้งค่ะ IP: 202.149.25.225 วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:21:54:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ก้าวไปตามใจฝัน
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ดูหนังได้ทุกแนว หนังที่มีวิวสวยๆยิ่งชอบ ฝันอยากไปเที่ยวรอบโลกช่วงนี้กำงลังบ้าหัดถ่ายรูป และก็บ้าปลูกต้นไม้ เป็นคนช่างเก็บ สะสมแสตมป์ เหรียญ โปสการ์ด และอื่นๆ ผ่านหรือหลงเข้ามาช่วยเม้นท์หน่อยนะค่ะ









Google



Friends' blogs
[Add ก้าวไปตามใจฝัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.