Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
13 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
[Tips] วิธีเลือกซื้อของในเวปแบบง่ายๆ อย่างไรไม่ให้โดนโกง

สวัสดีค่ะ หลายๆ ครั้ง (เรียกว่าบ่อยดีกว่านะ) เราจะซื้อของตามเวปในอินเตอร์เน็ตซะโดยส่วนใหญ่ เพราะไม่ต้องเดินออกไปซื้อ

และของหลายๆ อย่างก็สามารถเปรียบเทียบราคากันได้ง่ายๆ แต่ต้องอาศัยเวลาซักหน่อยนึงหากอยากจะเทียบจริงๆ เพราะเวปตอนนี้มีเยอะมากจนเลือกแทบไม่ถูก

เราก็เลยนำเทคนิกในการเลือกซื้อของในอินเตอร์เน็ตมาฝาก เผื่อว่า หลายๆ คนที่กำลังอยากจะซื้อของแต่กลัวโดนโกง กลัวหายไปบ้างจะเอาไปช่วยตัดสินใจได้นะคะ

อย่างแรกที่เราจะดูเลยก็คือ หาของที่เราอยากได้ใน Google เลย หาไปเถอะ อากู๋ตอบให้ได้แทบจะทุกอย่างแหละ



ซึ่งก็จะมีทั้งรีวิวผลการใช้ทั้งของไทยและของนอก อ่านไว้เปรียบเทียบว่าเราจะซื้อดีมั้ย? เค้าบอกว่าโอเครึเปล่า ทำนองนี้

ซึ่งเราจะเอาไปค้นใน Youtube ด้วยนะ เอาเป็นวิดีโอช่วยตัดสินใจอีกที

จากนั้นพอเปิดเวปได้ เราก็ดูก่อนเลยว่าของราคาแพงมั้ย คือต้องดูหลายๆ เวปเปรียบเทียบราคาว่าราคามันแพงกว่าเวปอื่นแบบมหาศาลรึเปล่า

บางอย่างห่างกันเป็นร้อยเลยนะ แพงเกินอ่ะเราว่า ไปหาเวปที่ขายถูกหน่อย แต่อย่าถูกจนคิดว่ามันปลอมแน่ๆ

อีกวิธีสำหรับการเปรียบเทียบราคาสินค้านะคะ คือ ไล่ค้นหาในเวปเลยค่ะ อย่างในเวปของ Welove…. เนี่ย

เค้าจะไล่การค้นหาได้พร้อมบอกราคา เราก็ดูราคาเลย อันไหนถูก อันไหนแพง ถ้าแพงเกินก็ผ่านไป เราก็ค้นในนี้เหมือนกันค่ะ



อ้อ อีกอย่างคือ เวลาซื้อของในเวป ถ้ามัวแต่มานั่งคิดว่า ของในเวปแม่งต้องปลอมแน่ ปลอมแน่ๆ

แนะนำว่า ให้ไปซื้อตาม Shop หรือเคาว์เตอร์แทนนะคะ เพื่อความสบายใจของเราค่ะ เราเองก็เป็นแบบนั้น

ถ้าอะไรที่ไม่มั่นใจว่ามันจะแท้หรือปลอม ให้ไปซื้อในร้านมันเลย สบายใจที่สุด แพงหน่อย แต่ไม่ต้องมานั่งพะวงว่า ของจริงหรือของปลอม

อย่างที่สองที่จะดูคือ วันที่ตั้งร้านค่ะ จะได้รู้ว่าร้านเค้าตั้งมานานรึยัง ยิ่งตั้งมานานหลายปีแล้วแสดงว่าเค้าคงไม่โกงแน่

เพราะถ้าโกงเค้าไม่อยู่มาได้ถึงวันนี้หรอกค่ะ ตรรกะง่ายๆ เลย



อย่างที่สามคือ เลขทะเบียนพาณิชย์

เลขทะเบียนพาณิชย์คืออะไร ก็คือ การแสดงความน่าเชื่อถือว่า คนขายมีตัวตนจริงๆ

เพราะได้จดทะเบียนการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าไว้แล้ว

ซึ่งเราสามารถนำเลขทะเบียนพาณิชย์ดังกล่าวไปเช็คในเวปของกรมฯ ได้เลยว่า ใครเป็นผู้ประกอบธุรกิจจริงๆ

ซึ่งถ้าหากว่ามีกรณีพิพาทเกิดขึ้น จะทำให้เราสามารถที่จะจัดได้เลยค่ะ เพราะมีทั้งชื่อ และที่อยู่เลยทีเดียว



วิธีการเช็คนะคะ เราก็จะเอาเลขทะเบียนมาเช็คในเวปของกรมพัฒนาฯ หรือ DBD ซึ่งเค้าก็จะมีฐานข้อมูลทุกอย่างไว้หมดอยู่แล้ว



แล้วก็จะขึ้นว่าใครเป็นคนจดทะเบียน อยู่ที่ไหน เบอร์โทรอะไรค่ะ



ถ้าหากว่าไม่มีเลขทะเบียนก็ไม่เป็นไร แต่เราก็ต้องมาดูอย่างอื่นกันอีกนะคะ คือเวลาจะซื้อของอ่ะ

เราก็จะคลิกดูไปเรื่อยๆ นะคะ ไม่ใช่ว่าอยากซื้อก็ซื้อเลย ออกแนวเสี่ยงชีวิตไปซักนิดนึง

จากนั้นก็ให้ไปดูที่เวปบอร์ดค่ะ เวปบอร์ดจะบอกอะไรได้เยอะอยู่เหมือนกัน

ถ้าเวปไหนไม่มีเวปบอร์ด ต้องคิดดีๆ หน่อย เพราะเวปบอร์ดน่ะ เหมือนสถานที่ตามจิก

คุณส่งรึยัง คุณจะตอบมั้ย อะไรทำนองนี้ ถ้ามันมีเยอะๆ

คือ ไม่ใช่แค่เห็นชื่อกระทู้ก็ปิดนะคะ คือต้องไปอ่านข้างในด้วยว่ายังไง เป็นความผิดใครกันแน่

ถ้ามันเยอะมาก แนะนำว่าเลี่ยงเถอะค่ะ



ดูในบอร์ดก็ต้องดูด้วยว่า แม่ค้ามาสนใจบอร์ดเค้ามากน้อยแค่ไหน

บางเวปนะ ของถูกมากเลย แต่ในบอร์ดหน้ากระทู้เหลืองเชียว ไม่เคยได้ตอบเลยซักกะกระทู้ อันนี้ไม่ไหวเหมือนกัน ปิดๆ >”<

ดูบอร์ดแล้วโดยส่วนใหญ่จะมีบอก Track หรือเลขที่พัสดุไว้ให้ลูกค้าเช็คด้วย

เราก็จัดการ เอามาเช็คเลยว่าเค้าส่งจริงมั้ย ส่งมาจากไหน

เพราะว่าเวลาเราซื้อของต้องดูว่าของมาจากไหน ถ้าใกล้ๆหน่อยก็ส่งแบบธรรมดาก็พอ หรือถ้ามาไกล EMS ดีกว่าค่ะ



มาลองเช็คกันค่ะ





ข้อดีของการบอก Track คือ เราสามารถเอาสถานะของพัสดุไปตบตีกับบุรุษไปรษณีย์ได้

เราน่ะเคยมาแล้วค่ะ ไม่ใช่ไม่เคย สั่งบ่อยซะขนาดนี้ –“-

สถานะพัสดุของเราบอกว่า ของมาแล้ว แต่ดันลงไปว่า บ้านปิด ไม่มีคนอยู่ แต่เราอยู่บ้านทั้งวัน ปณ.ไม่มาส่งเอง อ้างนู้นอ้างนี่

เราเลยจัดการเฉ่ง เอาสถานะพัสดุไปให้ดู บอกว่า ชั้นอยู่บ้านทั้งวัน จะบ้านปิดได้ยังไง คุณไม่มาส่งเองมากกว่า เค้าก็ทำหน้างงๆ คือรู้แหละว่าของอยู่กับเค้า แต่ไม่อยากโดนตบ เอ๊ย ไม่อยากโดนด่าตรงนั้นก็เลยบอกไปหามา

ให้ 5 นาทีมาส่งให้เลย นับตั้งแต่นั้น อิตาปณ.จำชื่อได้ เลยบอก วันนี้ไม่มีของนะครับ

แล้วเราเรียนเนติ์ หนังสือต้องมาทุกอาทิตย์ เค้าก็บอก วันนี้หนังสือยังไม่มานะ วันนี้หนังสือมาแล้วนะ เออดี ^^”


และอีกเทคนิคเล็กๆ คือ แอดหรือเข้าไปทำความรู้จักกับเจ้าของร้านค่ะ

บางร้านจะมี Fan page เราก็เข้าไปคุยๆ ถ้าเค้าคุยดีก็น่าซื้อต่อ ถ้าเค้าไม่ค่อยตอบก็เซ็งไปเหมือนกัน


อีกอย่างก็คือ เวลาซื้อของแบบ Pre-order เนี่ย อ่านด้วยนะคะว่า ของในร้านเค้าเป็น “พร้อมส่ง” หรือ “Pre-order” ไม่งั้นจะมางงว่า

เอ๊ะ ทำไมมันไม่ส่ง บางร้านก็เขียนไม่ค่อยเคลียร์เท่าไหร่

ส่วนใครที่บอกว่า อยากได้ของที่ออกแนวแบรนด์ๆหน่อย จะซื้อที่ไหนดี ก็จะมีเวปนึงที่เราซื้อนะคะ คือหลายๆ คนคงรู้จักดี คือ strawberrynet.com



เวปนี้จะเป็นเวปที่ค่อนข้างดังมากๆ เราไม่แน่ใจว่าเค้าอยู่ประเทศไหน แต่ว่าส่งมาบ้านเราโดยไม่โดนภาษี หรือถ้าโดน ก็สามารถที่จะทำเรื่องขอเงินภาษีจากเค้าได้

โดยส่วนใหญ่ก็จะขายพวกแบรนด์ๆ ทั้งหลายน่ะค่ะ ใครที่อยากได้ของแบรนด์นิดนึงแต่ราคาถูกหน่อย ก็ลองเวปนี้ได้ค่ะ

ข้อเสียคือ จะต้องจ่ายผ่านบัตรเครดิต หรือ Paypal เท่านั้นค่ะ

อย่างสุดท้ายคือ เวลาซื้อของร้านใหม่ๆ ถ้าทุ่มลงไปหลายๆ พัน

เพราะถ้าเกิดเค้าโกงขึ้นมาจริงๆ มันจะเสียดายมาก ลองซื้อของทีละนิดก่อนค่ะ ดูว่าเค้าส่งให้เป็นยังไง เร็วมั้ย ของสภาพเป็นยังไง


สุดท้ายจริงๆ คือ ดวงค่ะ โดยส่วนใหญ่จะบอกไม่ได้เลยว่า ร้านที่เราเรียกว่าคัดมาแล้ว จะดีจริงๆ รึเปล่า

ส่วนเวปที่เป็นของนอก ก็มีวิธีซื้อเหมือนกัน ไว้จะมาเขียนอีกทีวันหลังนะคะ

หวังว่าจะช่วยในการเลือกร้านซื้อของในเวปได้บ้างนะคะ เราเองก็ไม่ใช่มือโปรซะเท่าไหร่ ใครมีวิธีอื่นๆ แนะนำบอกด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ




Create Date : 13 ธันวาคม 2554
Last Update : 13 ธันวาคม 2554 14:29:27 น. 1 comments
Counter : 3083 Pageviews.

 


โดย: puy_naka63 วันที่: 13 ธันวาคม 2554 เวลา:23:54:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

~บุลภรณ์~
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




ก็เป็นแค่ผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ คนนึงบนโลกใบนี้ที่บ้าแต่งหน้า บ้าสกินแคร์ บ้านิยาย แต่ไม่ยักจะบ้าหนังสือเรียนแฮะ

สภาพผิว : ผิวผสมค่อนไปทางแห้ง, สิวอุดตัน

ปัญหาผิว : เป็นสิวทั้งอักเสบ อุดตัน และรอยดำ

สีผิว : ผิวสองสีค่อนไปทางเหลือง ใช้แมคประมาณ NC37

ถ้ามีคำถามหรือข้อสงสัยอะไร ติดต่อผ่านเมล์ก็ได้ค่ะ

jessenia_write@hotmail.com

กล้องที่ใช้ Fuji Xa-2







Duean Sorada รักในหลวง




Friends' blogs
[Add ~บุลภรณ์~'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.