เมื่อวันก่อน
เวลา 16.20 น.
เสียงเรียกเข้า.....
Pholsak
"ตอนนี้สอนอยู่อ่ะ อีกสิบนาทีนะ" ฝนตอบหน่อยกลับไป
แต่ผ่านไปเป็นชั่วโมงมันถึงโทรกลับหาฝน
นี่มันแปลคำว่าสิบนาทีเป็นชั่วโมงนึงรึไงนะ
หน่อย: "เค้าอยู่สารคาม"
ฝน: "ฮะ" "แล้วไงต่อ"
หน่อย: "มาอบรม เย็นนี้ไปหาไรกินกัน"
กว่าฝนจะได้ไปเจอมันฝนต้องสอนเด็กๆ ม.5 ก่อน กว่าจะเสร็จก็ราวๆทุ่มครึ่ง
หัวฟูหน้ามันไปเจอมัน
ไอ้นี่ก็นะ มาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
ปกติมันจะบอกฝนก่อนอ่ะ ถ้ามันจะมา
ฝนก็ไปเจอมันแบบสภาพชุดทำงานนั่นแหละ
ก็วันนั้นฝนสอนเสร็จ ต่อสอนพิเศษเด็กที่โรงเรียน
กลับบ้านมามีคิวน้อง ม.5 มาให้ติว
ดีหน่อยที่ขอน้องว่าชั่วโมงนึงนะ เพราะปกติน้องๆเลิกสองทุ่ม
สภาพหน่อยมันก็มาแบบชุดทำงานนั่นแระ ดูมีอายุกันทั้งคู่ หุหุ
ฝนกับหน่อยเจอกันก็รู้สึกดีนะ
นานๆจะได้เจอเพื่อน
เพราะถ้าไม่มีเพื่อนเนี่ย ฝนแทบไม่ได้ออกจากบ้านไปดูโลกภายนอกเท่าไหร่
หมายถึงว่าอารมณ์สุนทรีที่จะชมบรรยากาศและการเปลี่ยนไปของบ้านเมือง
ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ด้วยกันแค่แปปเดียว
สองชั่วโมงที่พูดคุยกัน
เรื่องราวที่ต่างคนต่างพบเจอมา
ก็เล่าเรื่องราวกันและกัน
เพื่อนดูเปลี่ยนไป มันดูโตขึ้น
ก็นะ คนเราย่อมเปลี่ยนไปพร้อมการเติบโต
หน่อยก็บ่นๆเรื่องทำงานหนัก ออกแนว "อะไรๆก็กรู"
แต่ถึงมันจะแอบบ่นกับฝนแต่มันก็ยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานของมันต่อ
พอใช้ทุนเสร็จ หน่อยก็จะขอย้ายกลับบ้านทันที
ฝนก็ขอให้มัน....ได้ดังหวัง
แต่สำหรับฝน คงไม่ย้ายหรอก อันที่จริงโรงเรียนก็ไม่ได้ห่างไกลบ้านมาก
เทียวทุกวันก็ชินแล้ว
พอกินนมกันเสร็จ
ต้องขอบคุณหน่อยที่มันเลี้ยง(ชอบก็ตรงนี้แระ)
สมัยเรียนนี่ต้องแชร์กันตลอด
เครื่องหมายหารเนี่ยเราใช้บ่อยมาก
แต่พอทำงานได้เจอกันบ้าง
หน่อยมันก็เลี้ยงตลอด (เดี๋ยวครั้งหน้าจะเลี้ยงมันกลับบ้าง)
ฝนกับหน่อยขับแมงกะไซด์รอบเมือง
คิดถึงสมัยตอนเรียนกัน
แต่บรรยากาศเก่าๆมันไม่มีแล้ว(แอบใจหาย)
เดินไปด้วยกัน
แอบอาย ตรงที่คนมอง
แบบว่าผู้ชายหน้าขาว ตัวขาวซ๊า
แต่ยัยผู้หญิง เอ่อ ซกมกได้อีก
มันบอกว่า นี่แกเป็นครูในเมืองยังไง ทำไมดำเนี่ย
อย่ามาตอกย้ำเรื่องนี้นักเลย กลุ้มใจอยู่เนี่ย
หน่อยเป็นคนที่ดูแลตัวเองดี สมัยเรียนมีเผื่อแผ่เพื่อนแบบฝน
การซื้อของเลือกของใช้มันก็ช่วยฝนได้เยอะ
หลังๆมาพอต่างคนต่างไป
ฝนก็ซกมกเหมือนเดิม
จะมีผู้หญิงแบบฝนกี่คนในโลกที่ไม่ทาครีมก่อนนอน
ดีเท่าไหร่แล้วที่ล้างหน้าก่อนนอน ฮ่าฮ่าฮ่า
ยามเช้าเค้าทากันแดดกันโครมๆ นู๋ฝนว่าแต่ได้หวีผมนี่ก็หรูแล้วนะ
สมควรที่หน่อยมันจะทำท่าปล่อยวางไม่ถือสากับความซกมกของฝน
ตอนที่ต้องไปส่งมันที่โรงแรม ใจแป้วแปลกๆ
ฝนไม่ชอบการจากลาเท่าไหร่
ถึงรู้ว่าต้องมีสถานการณ์แบบนี้ก็ตาม
เวลาสองชั่วโมงที่ได้เจอเพื่อน ได้นั่งเม้าส์กัน
อาจดูน้อยแต่ฝนว่ามันมีค่าจริงๆนะ
เหมือนต่างคนต่างไปเจอเรื่องราวมากมาย
พอได้กลับมาเจอเพื่อนแล้วมันเหมือนมีพลังที่จะกลับไปสู้ต่อ
สกลนคร-สารคาม มันก็ไม่ได้ไกลกันมาก
แต่ต่างคนต่างมีหน้าที่ที่ต้องทำ
คงจะมาเจอกันบ่อยๆไม่ได้
ขนาดเพื่อนอีกคนที่มาจากบึงกาฬ
ฝนยังไม่มีเวลาไปเจอมันเลย
แอบเสียดายเหมือนกัน
เวลาดำเนินไปเรื่อย
เพื่อนๆเปลี่ยนแปลงไปทั้งกายภาพและความคิด
อย่างไอ้หน่อยนี่ก็ขาวขึ้นซะ เอ๊ะหรือว่าฝนดำลงหว่า
ปกติเราสองคนจะพอๆกัน
ถึงเราสองคนจะดูมีสาระและเรียบร้อยในสายตาคนอื่น
ไม่รู้สิ ทำไมคนถึงต้องรู้สึกว่าเราสองคนมีสาระด้วยนะ(ทั้งที่จริงติ๊งต๊องมาก)
ไม่ค่อยมีใครชินกับภาพความปัญญาอ่อนของเราเท่าไหร่
ยกเว้นคนที่สนิทกันจริงๆ
และมีบางเรื่องที่ความสนิทของเราทำให้คนอื่นๆเข้าใจว่าเราเป็นแฟนกัน
อันนี้ก็เพิ่งรู้นะเนี่ย เพราะด้วยความไม่คิดอะไรและคนใกล้ชิดสนิทกันจะรู้
ว่าเราสองคนเป็นเพื่อนกันจริงๆ เพื่อนแบบไม่ต้องถามเลยว่าคิดจะเป็นมากกว่านั้นไหม
บอกพี่คนนั้นไปว่า
"พี่ๆไปแก้ข่าวให้น้องเดี๋ยวนี้เลย มิน่าละ มิน่า"
"มิน่าอะไรฝน"
"แง๊.....ทำมายไม่มาถามนู๋ก่อน นู๋กะหน่อยถึงได้โสดทั้งคู่"
.........................................
อยากให้ถึงวันที่24เร็วๆ The gank(สมัยมัธยม) จะรวมตัวกันอีกครั้ง
ช่วงนี้ต้องพยายามเคลียร์คิว อิอิ
ช่วงอาทิตย์นี้
ฝนเหนื่อยโฮก เหนื่อยมาก เหนื่อยอะไรอย่างนี้
และแล้ววันนี้จะไปนอนแล้วคร๊าาาาาาาา
แต่ตอนนี้น้ำยังไม่อาบ ไม่อาบได้ไหมน๊า 5555+++
เวลาถ่ายรูปคู่กัน หน่อยมันชอบบอกว่ามันเหมือนจะเป็นพี่ชายฝนเลย
แต่เป็นพี่ที่หน้าตาดีกว่าน้องมาก
ไอ้บ้านี่.....กัดฝนได้ตลอด!!!
เรากับเพื่อนก็เป็นนะ
นานๆเจอกันที มีเรื่องให้พูดไม่หยุด
คิดถึงบรรยากาศตอนเด็กๆ
แต่พอครบเวลาต้องจาก ต่างคนก็ต่างต้องกลับไปทำหน้าที่