 |
|
|
 |
 |
|
|
| | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
| 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
| 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
| 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
| 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
| |
|
 |
|
|
|
See town กับชาว concierge : อักษราหุ่นละครเล็ก
สายด่วนจากที่ประชุมสมาคม concierge เมื่อวันเสาร์ปลายเดือนที่ผ่านมา
แจ้งโปรแกรม See Town ของสมาคม concierge ปีนี้
"King power เชิญสมาคมไปอัปสราค่ะพี่ ..ให้ไปกี่คนก็ได้ เจอกันที่ซอยรางน้ำ"
"ไป ไป เรืออัปสราใช่ปะ จองไปทั้งแผนกนั่นแหละ"
"ค่ะ ค่ะ "
ตัดสายไปแล้ว นึกได้ เฮ้ย ..เรืออัปสรา มันเป็นบริการของโรงแรมบันยันทรี พวกเรายังไม่เคยลอง
แล้วไหง เจ้าภาพเป็น King Power ไปได้หว่า ....
สักพัก โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
"จองแล้วนะคะ ...เค้าให้เจอกันที่ซอยรางน้ำ"
"เดี๋ยวก่อนนะน้อง 'อัปสรา เรือดินเนอร์ ' หรือว่า 'อักษราหุ่นละครเล็ก' กันแน่
"ไม่แน่ใจนะพี่ แต่จองไป 6 คนทั้งแผนก"
เอาเถอะ..น้องมันก็จองแล้ว ...ไม่ว่าจะ "อัปสรา" หรือ "อักษรา" ก็น่าไปทั้งนั้นแหละ
มาเช็คข้อมูลกันในวันทำงาน ว่าที่พวกเราจะยกโขยงกันไปร่วมงานทั้งแผนก
เพราะเป็นกิจกรรม ชมฟรี และ กินฟรี ในกรุงเทพ 
King Power เชิญสมาคมไปชม "อักษราหุ่นละครเล็ก" และรับประทานบุฟเฟ่ต์นานาชาติที่ "ห้องอาหารรามายะณะ"
แต่ว่าเคสนี้ ต้องออกจากที่ทำงานก่อนเวลาเลิกงาน
แน่นอน เราก็ต้องส่งนายเรา (หรือคนขับรถนั่นแหละ) ไปเจรจาและชี้แจง MD ให้ทราบซะก่อน
ก็เล่นขนกันไปหมด ไม่เหลือใครเฝ้าแผนกซักคน ...ก็ต้องอธิบายและชักแม่น้ำัทั้งห้ามากมาย
จนได้เห็นลายเซ็น "อนุมัติ" ..และให้ทำรายงานสรุป ...
นัดหมายรวมตัว 5 โมงครึ่ง ...แต่ออกจากที่ทำงานตอน 5 โมง
ผ่านสามย่าน มาบุญครอง รถติดมากกกกกกกกกกก ...กลัวจะเหลือเวลากินน้อย (ไม่ค่อยตะกละกันเลยนะ)
แล้วในที่สุด ก็มาถึงห้องอาหารรามายะณะ จนได้
ลงทะเบียนและทักทายชาวสมาคมฯ จากนั้นก็แยกย้ายกันไปสำรวจอาหาร
มีอาหารไทย จีน ญี่ปุ่น สลัดบาร์ อิตาเลี่ยน และอาหารทะเล
แต่ขอโทษเถอะ ...จังหวะเดียวกับกลุ่มทัวร์จีน ... ต้องใช้ความพยายามในการตักอาหารอย่างมาก
ลืมคำว่า "คิว" ไปได้เลย
มีสาวน้อยหน้าหวาน นั่งตีขิมขับกล่อม
แต่ว่า..ไม่เห็นมีใครสนใจฟังกันเล้ย ...เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจ กลบเสียงขิมอันแสนไพเราะหมดเลย
จานแรกของเรา มีซุปปลา ผัดหมี่ ปลาผัดกระเทียม เต้าหู้ (น้ำแดง) ถุงทอง
อร่อยมากเลยล่ะ 
อยากตักอีก แต่เรื่องไร ไหนๆ ก็กินบุฟเฟต์แล้ว ต้องให้หลากหลายหน่อยดิ
คราวนี้ก็โฉบไปแทรกพวกทัวร์จีน คีบซูชิ ปลาดิบ มาได้
จานนี้ seafood ของเจ้านาย ...
เราก็อยากลองนะ แต่ขี้เกียจแกะปูอ่ะ ..เลยของผ่าน
พาสต้าก็มี ลองชิมดูแล้ว ไม่ถูกใจ ...ที่ซิสเลอร์อร่อยกว่า
พิซซ่าหลายหน้า ...ก็ไม่ได้ชิม เพราะเริ่มแ่น่นท้องซะแล้ว
ซาลาเปาไส้ครีม ชอบมากเลย อร่อยด้วยล่ะ ...
ลองสลัดนิดนึง ...น้ำสลัดรสชาติใช้ได้
มาดูขนมหวานกันบ้างดีกว่า มีโซนน้ำพุช็อคโกแลตฟองดู
จัดวางผลไม้หลากหลายให้จิ้มช็อคโกแลต ...อยากยืนอยู่ตรงนี้ตลอดเวลา
แล้วเราก็หยิบเอา เค้กชิ้นเล็กๆ พอดีคำ ทาร์ตบูลเบอร์รี่ และสตอร์เบอร์รี่ มาลองชิม
ก็อร่อยอีกนั่นแหละ ...ล้างคอด้วยน้าชาร้อนๆ เข้ากันมาก
เครื่องดื่มมีบริการทั้งชา กาแฟ น้ำอัดลม น้ำมะตูม และน้ำใบเตย
อิ่มได้ที่กันแล้ว ก็เคลื่อนย้ายไปรวมตัวกันหน้าโรงละครอักษรา
ด้านหน้ามียักษ์ 2 ตนเฝ้าทางเข้าไว้
ซ้ายคือ พญายักษ์สัตลุง เจ้าเมืองจักรวาล และ ขวาคือ พญายักษ์ไพจิตราสูร เจ้าพิภพอสูรแห่งเขาตรีกูฏ
ทั้งสองตนนี้ ชื่นชอบศิลปะดนตรี และศิลปะการแสดง
ก็เหมาะแล้วที่ประดับอยู่หน้าทางเข้าโรงละครเช่นนี้
คณะ "อักษราหุ่นละครเล็ก" เป็นหุ่นละครเล็กที่ได้รับการถ่ายทอดศิลปะการเชิดหุ่นละครเล็กจากต้นตำรับดั้งเดิม
ได้จัดแสดงหน้าพระที่นั่ง ณ พระราชวังไกลกังวล หัวหิน และทูลเกล้าถวายหุ่นละครเล็กเป็นของที่ระลึก
ซึ่งหุ่นดังกล่าวนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานกลับมาเป็นขวัญและกำลังใจแก่ทีมงาน
ทีมงานนำมาตั้งแสดงในบุษบกบริเวณ Hall of Frame ของโรงละครอักษราด้วย
งดงามมาก
เข้ามาภายในข้างในก็ตกแต่งผนังเป็นภาพนูนต่ำ ...สวยมาก
ตามสูจิบัตรบอกว่า ได้แรงบันดาลใจจากศิลปะยุคบาโรก
ระบบแสงและเสียงครบถ้วน เพดานวาดลายวิมาน สวยดีล่ะ
เข้านั่งประจำที่แล้วก็เหลียวมองรอบตัว ...มีแต่คณะชาว concierge
...แล้วนักท่องเที่ยวจีนที่แย่งกันกินอาหารหายไปไหน 
หรือว่า กรุ๊ปทัวร์ แค่มากินอาหารมื้อเย็นกันเท่านั้น ...
ไฟมืดลง..สรุปว่าผู้ชมมีแ่ต่คณะสมาคมฯ จริงๆ ซะด้วย
ระหว่างการแสดง งดถ่ายภาพ ก็เลยไม่มีภาพมาฝากกันนะคะ
ชุดแรก เปิดด้วยด้วย "ระบำครุฑ" ก็คือชุดระบำที่เราเคยชมแบบคนแสดงมาแล้วนั่นเอง
เพียงแต่ย่อส่วนลงมาใช้หุ่นละครเล็ก ร่ายรำ แทน
ประกอบกับฉาก และระบบเวที มีไฮโดรลิก ยกตัวขึ้นมา ..ก็เลยดูโอ่อ่า และอลังการมาก
สลับฉากด้วยระบำเล็กๆ (คล้ายระบำชาวเกาะ  )ของสาวๆ หน้าตาจิ้มลิ้ม และหน้าท้องเนียนสวย
ชุดที่สอง เป็น "ระำบำศรีชัยสิงห์" ชุดนี้ดัดแปลงการแต่งกายและ ท่ารำจากภาพจำหลักนางอัปสรา ศิลปะบายน
ประกอบกับฉากปราสาทหิน ..สวย ..ดูเพลิน จนจบไปอย่างรวดเร็ว
การแสดงสลับฉาก เป็นการชกมวยไทย เริ่มจากการไหว้ครู และออกท่าแม่ไม้มวยไทยต่างๆ
ถ้าเพิ่มการตะโกนบอกชื่อท่าด้วย จะดีมากเลย เราดูไปก็เดาๆ เอาว่า
ท่านี้ หักงวงไอยรา ..(เออ..รู้จักชื่อเดียวนี่หว่า)
เปิดม่านอีกครั้ง ก็เป็น "ระบำกินรีร่อน"
ฉากสวยอีกแล้ว ...ทำเป็นป่าหิมพานต์ มีนางกินรีร่ายรำ เล่นน้ำตก
เพลงที่ใช้เป็นเพลงเดียวกับ "มโนห์ราบูชายันต์" แต่ว่าประกอบเครื่องดนตรีสากลเข้าไปด้วย
ดูไป นึกภาพเวลาที่เห็นคนรำไปด้วย แล้วก็ต้องชมคนเชิดหุ่นเลยล่ะ ว่าออกท่าทาง ราวกับว่าหุ่นรำเองเลย
สลับหน้าม่านช่วงนี้ เป็นหุ่นพลลิง...มุขเก็บทิป ..ลงมาหยอกเย้ากับคนชม
แหย่หนุ่มๆ ไม่ได้ ก็มาแหย่สาวๆ ดีนะ พวกเรานั่งช่วงกลางๆ ก็รอดตัว
มีคนใจอ่อน ให้ทิปไปด้วย  คนเิชิดหุ่นลิงออกท่าให้หุ่นน่ารักน่าหยิกจริงๆ
ชุดการแสดงอลังการชุดต่อมาก็ "ยกรบ" มีทั้งหุ่นพลยักษ์ พลลิง หนุมาน องคต ทศกัณฐ์ พระลักษณ์ พระราม
ออกท่ารบแบบโขนทั้งหมด มีท่าขึ้นลอย 1 ลอย 2 ด้วยล่ะ
แน่นอน ดนตรีประยุกต์เพิ่มเครื่องสากลเข้าไปด้วย ...
ก่อนจะสุดท้าย ก็เป็นการแสดงหน้าม่าน ที่แสนจะน่ารัก นั่นคือ "ตีไก่"
ตัวไก่ใช้ผู้หญิงแสดง ..สาวๆ ออกท่าตีปีกพับๆ และจิกกัน เหมือนไก่สุดๆ
ชอบชุดนี้มากเลย ไม่เคยดูที่ไหนมาก่อนด้วย
และแล้วก็มาถึงการแสดงชุดสุดท้ายที่แสนจะสนุกสนาน "กลองยาว โปงลาง"
เป็นการผสมผสานระหว่างรำกลองยาวของภาคกลาง กับรำโปงลางของภาคอีสาน
สนุกสนาน คึกคัก คนเชิดมันมาก..จนทำให้คนดูอยากลุกขึ้นไปเต้นตาม
ฉากหลักทำเป็นงานวัด มีชิงช้าสวรรค์ด้วย
เหมือนจะดูไปแค่แป๊บเดียวเอง แต่ก็เวลาก็่ผ่านมาจนถึง 2 ทุ่มครึ่งแล้ว
คนเชิดและหุ่นชุดต่างๆ ก็ออกมาแสดงตัวขอบคุณผู้ชม
และส่งผู้ชมออกนอกโรงละคร และให้ถ่ายภาพถ่าย
สาวๆ ในคณะถ่ายรูปกับหุ่นกันสนุกสนาน จากนั้นก็ไปหามุมถ่ายภาพสวยๆ กันอีก
ปล่อยให้นายเรา (ผู้ชายคนเดียวในกลุ่ม) ไปคุยกับชาวสมาคม concierge เจ้าภาพกิจกรรมนี้
ถ้าถามว่า ระหว่างอักษราหุ่นละครเล็ก กับ โจหลุยส์ ใครดีกว่า สนุกกว่า
ขอตอบว่า อย่าเอาไปเปรียบเทียบกันเลย
เพราะการฝึกฝนคนเชิดหุ่นนั้น ย่อมต้องอาศัยความพากเพียร พร้อมเพรียง และเป็นคนเดียวกันให้ได้ ทั้ง 2 คณะำทำได้ดี
โจหลุยส์นั้น เน้นขนบการแสดงแบบดั่งเดิม จัดแสดงเป็นเรื่องราวจากวรรณคดี (มีการประยุกต์บ้างบางเรื่อง)
ใช้ดนตรีปี่พาทย์ประกอบการแสดง
ส่วนอักษรา เน้นปรับประยุกต์เป็นชุดระบำ เพื่อให้แตกต่าง และไม่น่าเบื่อหน่าย สำหรับคนที่เริ่มทำความรู้จักกับการแสดงของไทย
ชุดการแสดงคงจะมีการหมุนเวียน เพราะตอนที่เพื่อนเราได้ดูนั้น มีระบำอื่นด้วย ลองไปอ่านได้ที่ Blog นู๋เมี่ยง
ถึงอย่างไรก็ตาม เราก็อยากจะบอกต่อ และอยากให้ช่วยกันสนับสนุนการแสดงของไทยเรา
หุ่นไทยดังนะ ...ชนะการประกวดมาแล้ว
..แล้วเราคนไทย จะไม่มาทำความรู้จักกับหุ่นไทยกันบ้างหรือไร
ปล.
1) ประวัติคณะละครและโรงละคร เรียบเรียงจากสูจิบัตรที่รับแจกมา
2) สูจิบัตรเนี่ย พิมพ์กระดาษหนากว่าดีอีกนิดก็ได้นะ ..
| Create Date : 12 มีนาคม 2553 |
| Last Update : 21 ธันวาคม 2553 22:23:10 น. |
|
2 comments
|
| Counter : 2548 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: ส้มแช่อิ่ม  วันที่: 13 มีนาคม 2553 เวลา:15:03:22 น. |
|
| โดย: เกศสุริยง วันที่: 15 มีนาคม 2553 เวลา:13:52:04 น. |
|
|
|
|
| นัทธ์ |
 |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]
|
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้
สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539
ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร
|
|
| |
|
|
|
ต้องใช้ความพยายามในการตักอาหารอย่างมาก 
)ของสาวๆ หน้าตาจิ้มลิ้ม และหน้าท้องเนียนสวย 
คนเิชิดหุ่นลิงออกท่าให้หุ่นน่ารักน่าหยิกจริงๆ 
เดี๋ยวตามไปดูเพิ่มเติมที่บล็อกนู๋เมี่ยงอีกทีนะคะ