<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
15 เมษายน 2553
 

Green Read Writer Academy



ไปงานหนังสือวันแรก ..แวะบูธ Green Read แลกคูปองมาใช้
ไม่เห็นอะไรแตกต่างจากครั้งก่อนๆ นอกจากคน คน และคน

กลับเข้าบ้าน ก็เห็นหนังสือ Green Read Smart Guide วางอยู่บนโต๊ะ
ไปรษณีย์เพิ่งนำส่ง ...<< ช้าอีกแล้วนะ Green Read
อ่ะ..พออ่านไปอ่านมา ก็เจอประกาศโฆษณา
โครงการ Green Read Writer Academy
ในหัวข้อ "เขียนเรื่องสั้น...ให้เป็นเรื่อง"



จัดโดย Green Read มีสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยให้ความร่วมมือจัดวิทยากร
และมี Workshop ด้วย ไม่จำกัดอายุซะด้วย ...น่าสนใจ ...น่าลอง

ปกติเรามักจะอ่านพบกิจกรรมฟรีลักษณะนี้ โดยหลายๆ หน่วยงาน
แต่จำกัดอายุแค่ระดับเยาวชน ซึ่งเราก็เกินมาหลายปีแล้วล่ะ
มาเจอแบบนี้เข้า ก็เลยไม่รีรอ ...กรอกใบสมัครที่มีในเล่ม แล้วก็แจ้นไปส่งในงานหนังสือวันถัดไป ....
น้องที่รับใบสมัครเรา ออกจะงงเล็กน้อย ..สงสัยว่าเราคงเป็นคนแรกที่มายื่นใบสมัคร
แล้วน้องก็ส่งเอกสารให้เขียนบรรยายถึง "นักเขียนในดวงใจ" สั้นๆ ประมาณ 5-6 บรรทัด
แน่นอน ..เราเลือกเขียนถึง "ยาขอบ" ...คนเดียวในดวงใจเลยล่ะ

ถัดจากนั้นมาอีก 3-4 วันก็มีโทรศัพท์ confirm ว่าได้เข้าร่วม
..เอ้อ..เพิ่งมีคนเข้าร่วมแค่ 13 คนเองอ่ะ เอาน่า กว่างานหนังสือจะจบ คงมีคนร่วมกิจกรรมมากขึ้น

ได้รับการยืนยันแน่นอนแล้ว ...ก็เขียนใบลาเพิ่มจากเิดิม ...ใช้วันหยุดชดเชยกับพักร้อน ..
ทำให้ช่วงสงกรานต์ปีนี้ ...เราหยุดต่อเนื่องยาวถึง 7 วันอย่างที่ไม่เคยเขียนลาแบบนี้มาก่อนเลย

สถานที่อบรมคือ สำนักงานใหญ่ ปูนซีเมนต์ บางซื่อ ..หาไม่ยาก ถามเส้นทางแล้ว
สุดท้ายรถไฟฟ้าใต้ติน แล้วก็ถึงเลย ...
แต่กว่าเราจะฝ่ารถติดไปถึงสถานีหัวลำโพง ..ก็จวนเจียนเวลาลงทะเบียนแล้วล่ะ
ไปโผล่ถึงที่สถานีบางซื่อ ก็ถึงเวลานัดหมายพอดี
ต้องไปเดินงม หาห้องอบรมในสถานที่กว้างใหญ่ ร่มรื่น ใช้เวลาอีกพอสมควร
พอลงชื่อ...ก็อย่างที่คิดไว้ ...ชื่อเราคนแรกเลยด้วย ..
เข้าห้องอบรม ... คนเพียบเลย หน้าละอ่อนทั้งน้านนนนน
...หันซ้ายหันขวา ก็เจอที่นั่งว่าง อืมม์ ..ดูหน้าตาวัยใกล้เคียงกันหน่อย ค่อยยังชั่ว
สรุปแล้วมีผู้เข้าร่วมอบรมทั้งสิ้น 55 คน และอยู่ครบ 2 วันทุกคนซะด้วย



ก่อนจะเริ่มอบรมก็ได้รับชมวิดิทัศน์บอกเล่าถึงขั้นตอน "กว่าจะเป็นกระดาษ" (เราตั้งชื่อเอง) ซะก่อน
จากนั้น คุณพรชัย วิทยากุลสกุลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด SCG ก็กล่าวต้อนรับ และเปิดการอบรม
อืมม์ ...ก็เป็นขั้นตอน พิธีการแบบการจัดงานอื่นๆ นั่นแหละ ...



เช้าวันแรก คุณชมัยภร แสงกระจ่าง นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย
เล่าถึง "การเรียนรู้สู่โลกการเขียนเรื่องสั้น"

หากการอ่านคือการย่อโลกและประสบการณ์ของผู้อื่น
การเขียนก็คือขยายโลกให้ผู้อ่านนั่นเอง
การเป็นนักอ่าน ก็เหมือนกับก้าวขาข้างหนึ่งเข้าไปในโลกของนักเขียนแล้วล่ะ
อยู่ที่ว่า ..เราจะกล้าเดินต่อไปในโลกนักเขียนกันหรือไม่
ถ้ายังอยากจะก้าวต่อ ก็ต้องหมั่นสังเกต รื้อลิ้นชักประสบการณ์ของตัวเองออกมาใช้งาน
หากลวิธีการเขียนซึ่งเราก็ได้มาจากการที่อ่านนั่นแหละ แล้วเรียบเรียงเรื่องราวนั้นออกมาด้วยภาษาที่ถูกต้องสละสลวย
ที่สำคัญคือ ต้องสะเทือนอารมณ์ผู้อ่านได้ ..หมายความถึงทุกอารมณ์ ทั้งสุข เศร้า เหงา รัก

มาถึงขั้นตอนการเขียน
..ก็ต้องคิดก่อนว่าจะเล่าเรื่องอะไร ใส่จินตนาการลงไป
มีแก่นความคิีดที่ชัดเจน และวางโครงเรื่องให้สอดคล้องกับแก่น
จะเล่าด้วยมุมมองของใคร บุรุษที่ 1 หรือที่ 3 หรือมุมมองของพระเจ้าที่เห็นความเป็นไปทั้งเรื่อง
และอย่าลืมใช้ภาษาให้เหมาะสม ..ตรงไหนบรรยาย ตรงไหนสนทนา ..ภาษาระดับไหน
รายละเีอียดปลีกย่อยเหล่านี้ เมื่ออ่านมากขึ้น ทดลองเขียนมากขึ้น ก็จะรู้ลึกซึ้งไปเอง

มีของว่างพักเบรกและบุฟเฟ่ต์กลางวัน กินกันอิ่มหนำสำราญ จนไม่อยากจะสนใจตามข่าวสาร
ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์บนถนนราชดำเนิน (และราชประสงค์) หรือเหตุการณ์จากที่ทำงาน
แต่ก็ยังอุตส่าห์มีเข้ามาให้ทราบรู้บ้าง..ประปราย

พอถึงช่วงบ่าย ก็เป็นการพูดคุย "จากประสบการณ์ จินตนาการ เป็นเรื่องสั้น"
โดยคุณวัชระ สัจจะสารสิน นักเขียนเรื่องสั้นรางวัลซีไรท์ และคุณขจรฤทธิ์ รักษา มาร่วมเล่าเรื่องราวของตนเองให้ฟัง
...ได้ฟังแล้ว ...รู้สึกว่า เรื่องสั้นเขียนไม่น่าจะยากนะ

แต่หลังจากนั้น ...จับกลุ่มลองวางโครงเรื่อง เราก็รู้ตัวแล้วว่า
..."เราไม่เหมาะกับการเขียนเรื่องสั้นหรอก"...
ให้เล่าเรื่องไปเรื่อยๆ อย่างที่เล่าอยู่ใน blog ก็พอ OK อยู่ ...
แต่ให้เอาประสบการณ์ มาร้อยเรียง "แต่ง" เป็นเรื่อง มีตัวละคร มีฉาก มีการบรรยาย มีบทสนทนา
ยากอ่ะ ... เล่าแบบบ่นไปเรื่อยๆ อย่างที่ทำอยู่ใน blog เราถนัดกว่า
แต่ทว่า เมื่อเข้าอบรมแล้ว ..ก็ต้องลองลงมือจนถึงที่สุด ...
การบ้านคืนนั้น ..คือ แต่งเรื่องสั้นมาส่งในวันรุ่งขึ้น 1 เรื่อง

เอาแล้วไง...กลับมานั่งจ้องจอขาวๆ สลับกับคลิกเล่นเกมใน Facebook ไปด้วย
เวลาผ่านไปเรื่อย ...ขึ้นต้นได้แล้ว บรรยายไปได้บ้างแล้ว
อยากให้ออกมาเป็นแนวสืบสวนนิดๆ เพราะช่วงนี้อ่านหนังสือแนวนี้เยอะ ...แต่มันไปต่อไม่ได้
เลยต้องตัด ..ให้กลายเป็นว่า "ไฟดับ" ..แล้วเล่าเรื่องใหม่ขึ้นมาอีก
หยิบเอาเหตุการณ์ไฟไหม้สมัยประถมมาบรรยาย ใส่อารมณ์ ..เติมความใฝ่ฝันของตัวเอง ผสมลงไป

ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว ...ง่วงแล้วด้วย ก็เลยตัดจบไปซะืดื้อๆ แต่ยังไม่ตั้งชื่อเรื่องเลยล่ะ ...
ณ เวลานั้น คุณส้มแช่อิ่ม เพื่อน blog ยังไม่นอน ก็เลยขอให้ช่วยอ่านรอบนึง ...
ได้คุณส้มช่วยปรับการใช้คำ ..ตรงนั้นนิด ตรงนี้หน่อย ..เอาล่ะ พอไปได้น่า...
แล้วเราก็ได้เรื่องสั้นชื่อ "ไฟ-ฝัน" ..พร้อมส่งให้วิทยากรช่วยตรวจ-วิจารณ์ในวันถัดมา

วันที่สองของการอบรม ก็เกือบจะสายอีกแล้วล่ะ
ส่ง handy drive ให้ทีมงานช่วยพิมพ์ออกมา ...
แล้วก็เอาเรื่องสั้น 3 หน้ากระดาษ A4 ส่งวิทยากรไป
ยังไม่รู้ว่าใครจะอ่านและวิจารณ์ (ใจอยากให้เป็นคุณชมัยภร)

ระหว่างที่คุณชมัยภรกับคุณขจรฤทธิ์แบ่งเรื่องสั้นไปอ่าน
ก็มาฟัง "จรรยาบรรณของนักเขียนและการเผยแพร่งานเขียน"
จากคุณเจน สงสมพันธุ์และคุณพินิจ นิลรัตน์ กันก่อน

วิทยากรทั้ง 2 ท่านก็ช่วยกันเล่าถึงการเตรียมต้นฉบับที่ต้องดูสะอาด เรียบร้อย
ทั้งการพิมพ์และการจัดหน้ากระดาษ ระุบุลักษณะงานให้ชัดเจน เพื่ออำนวยความสะดวกแ่ก่บรรณาธิการ
บอกเล่าถึงการนำส่งผลงานไปเผยแพร่ผ่านนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ หรือส่งสำนักพิมพ์ ..
ซึ่ึงเป็นการดีที่จะได้พัฒนาฝีมือ เพราะ 3 แหล่งใหญ่ๆ นี้จะมี "บรรณาธิการ" คัดเลือก และตรวจแก้งานให้ด้วย
ไม่เหมือนกับการพิมพ์และ post ในเวปบอร์ดหรือใน blog อย่างที่เราทำอยู่นี้
ก็ได้ comment ระดับเกรงใจ ..คือ ดี สนุก ยังขาดอะไรไปนิดนะ น่าจะเติมอะไรอีกหน่อย
พอช่วยขัดเกลาฝีมือในระดับหนึ่ง ...แต่ยังไม่ถึงที่สุดหรอกนะ

ช่วงสุดท้ายของการอบรม ก็คือ การวิจารณ์ผลงานของเพื่อนๆ ร่วมโครงการ
ได้รับฟังโครงเรื่อง ฟังสำนวนภาษา และคำแนะนำในการปรับแก้ จากวิทยากรที่ comment ผลงานคนอื่น
เราก็เก็บเกี่ยวความรู้กลับเข้าตัวมาด้วย ...ทำความเข้าใจไปด้วย ...
พอมาถึงของตัวเอง ...

"ผมอ่านแล้วอมยิ้มได้ ..ออกมารับรางวัลไป 1 เล่ม"


สั้นไปหน่อยนะคะ คุณขจรฤทธิ์ ...แต่ก็อดปลื้มใจเล็กๆ ไม่ได้
อย่างน้อย ..เรื่องของเรา ที่เรายังไม่ค่อยชอบใจ เพราะเหมือนมันจะไม่จบ
คนที่อ่านกลับเห็นข้อดีใจจุดอื่น ...ซึ่งก็ขีดเส้นมาในต้นฉบับด้วย
ก็ทำให้เราเกิดแรงฮึดขึ้นมาได้อีก ...

เอาเถอะนะ ..เราพอจะรู้จักตัวเองมากขึ้น จากการอบรมครั้งนี้
ได้เรียนรู้หลักการที่จะนำไปปรับใช้กับงานเขียนลักษณะอื่นๆ ที่คิดว่าตัวเองถนัดมากกว่าแล้วล่ะ
แต่ก็ทำให้เรากล้าที่จะนำเรื่องแต่ง มาแปะไว้ใน blog น้อมรับคำวิจารณ์จากเพื่อนร่วม blog ในคราวต่อไป

ขอบคุณวิทยากรทุกท่าน ที่ำทำให้เรารู้จักงานเขียนของตัวเองชัดเจนขึ้น
และรู้ว่า "งานเขียนที่ดี" นั้นควรต้องระมัดระวังอะไร
...แค่เรื่องพิมพ์ผิด..เราก็ต้องหมั่นตรวจตราให้มากขึ้นแล้วล่ะ

ขอบคุณ Green Read ที่จัดกิจกรรมดีๆ (แบบไม่จำกัดอายุ) เช่นนี้

ขอบคุณน้องๆ ผู้ร่วมอบรมในรุ่นเดียวกัน ที่ช่วยเปิดมุมมองให้เรา ..
ความคิดและจินตนาการของน้องๆ บางเรื่อง เรานึกไม่ถึงจริงๆ
และบางเรื่องก็พยายามทำความเข้าใจต่อไป

จะเก็บรักษาประกาศนียบัตรฉบับนี้ไว้เป็นที่ระลึกอย่างดีเลยทีเดียว


เบลอๆ แบบมีศิลป์ ..คนถ่ายให้มือไม่นิ่ง หรือไม่ก็คงไม่คุ้นกับกล้องของเรา


ปล. เมื่อเดินเข้าไปในเขตพื้นที่ของบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย สำนักงานใหญ่
ชอบมาก..อยากทำงานในบรรยากาศรื่นรมย์แบบนี้
ต้นไม้เขียวขจี มีสระน้ำ มีส่วนหย่อม มีศูนย์กีฬาสำหรับพนักงานด้วยล่ะ
ชอบ ชอบ ...ต้องแวะไปดูในเวปซะหน่อย ...ว่ารับพนักงานใหม่บ้างรึป่าว



Create Date : 15 เมษายน 2553
Last Update : 21 ธันวาคม 2553 22:23:32 น. 8 comments
Counter : 1747 Pageviews.  
 
 
 
 
ขอให้ทุกวันเป็นวันดีดีของคุณนะคะ
 
 

โดย: cd2lucky วันที่: 16 เมษายน 2553 เวลา:17:28:19 น.  

 
 
 
คุณ cd2lucky >> ขอบคุณค่ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 16 เมษายน 2553 เวลา:20:57:10 น.  

 
 
 
ไม่ได้เข้าร่วม ได้แต่ไปแอบดูครับ
 
 

โดย: คนขับช้า IP: 117.47.180.185 วันที่: 16 เมษายน 2553 เวลา:21:21:01 น.  

 
 
 
คุณคนขับช้า >> ขอบคุณที่แนะนำวิธีการเดินทางค่ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 16 เมษายน 2553 เวลา:22:56:00 น.  

 
 
 
YeAh I open your blog in iPhone
 
 

โดย: Ratchee IP: 115.67.25.128 วันที่: 17 เมษายน 2553 เวลา:20:20:29 น.  

 
 
 
คุณรัชชี่ >> อ่านได้สะดวกมั้ยเอ่ย
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 17 เมษายน 2553 เวลา:20:41:10 น.  

 
 
 
ดูเป็นงานที่น่าสนุกไม่หยอกนะครับ

แถมมีอาหารว่างให้ทานด้วย อันนี้เข้าทาง
 
 

โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:30:36 น.  

 
 
 
คุณชาญ >> เกลียดจัง คนรู้ทันเนี่ย
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:19:19 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com