Los Campesinos! ชุดใหม่ We Are Beautiful, We Are Doomed + บทสัมภาษณ์ แกเร็ธ นักร้องนำ

เอาล่ะ บล็อคแรกประจำปีพุทธศักราช 2552 ผู้เขียนขอทำตัวขี้เกียจด้วยการแปลบทสัมภาษณ์ + แนะนำอัลบั้มล่าสุด (ซึ่งพอเขียนไปเขียนมา กลายเป็นไม่ได้แนะนำอะไรเกี่ยวกับชุดที่ว่านี้เลย 55+) แล้วกันน่ะ





หลังจากที่ Los Campesinos! วงดนตรีสัญชาติเวลล์ เปิดตัวด้วยอัลบั้มสุดฮิต Hold On Now, Youngster... (ที่มีเพลงแนะนำอย่าง Death to Los Campesinos!, Don't Tell Me to Do the Math(s), This Is How You Spell "HAHAHA", Sweet Dreams Sweet Cheeks และแน่นอน...You! Me! Dancing!) ในช่วงครึ่งปีแรก ข่าวดี... พวกเขากลับมาแล้วในรอบที่ไม่ถึงครึ่งปี ด้วยอัลบั้มที่สอง.... ไม่สิ อัลบั้มเสริมของชุดแรก (เป็นยังไงนั้น ไปอ่านคำอธิบายได้ในบทสัมภาษณ์ข้างล่าง)

สิ่งที่ทำให้ Los Campesinos! กลายเป็นวงดนตรีที่เสน่ห์ (และสนุก) ที่สุดสำหรับผู้เขียนในขณะนี้ คือนอกจากพลังงานที่มาจากซาวด์ของมันจากเครื่องดนตรี 7 ชิ้น ที่ประสานกันลงตัวอย่างน่าประหลาด ก็ยังมีเสียงชองนักร้องนำสุดเซอร์ของ แกเร็ธ ซึ่งความพิเศษนั้นก็อยู่ที่การนำเอาเสียงหวานๆของ อเล็คซานดร้า มาผสมผสานเข้าไปอีกด้วย ซึ่งมันก็สเข้ามาช่วยดึงเอาซาวด์ให้ลงมาอยู่ในระดับที่รื่นหูฟังสนุก

แม้ความพิเศษเพียงแค่นั้น ก็อาจจะทำให้วงนี้มีดีมากกว่าหลายๆวงในปัจจุบันนี้แล้ว แต่องค์ประกอบที่สำคัญอีกหนึ่ง ที่ทำให้วงนี้เกือบเข้าขั้น The Special One ไปแล้ว นั้นก็คือเนื้อหาของเพลงอันแสบสันและตรงไปตรงมา มันไม่ใช่เนื้อเพลงที่ผ่านการกลั่นกรองด้วยสมองของคนแต่งอย่างทารุณ ที่ทำให้คนฟังต้องมานั่งตีความกันให้หัวแตกกันไปข้าง มันไม่ใช่เนื้อเพลงที่ถูกแต่งออกมาแบบขอไปที เพื่อนำมาใช้รองรับซาวด์ที่สร้างขึ้นมาเท่านั้น และมันก็ไม่ใช่เนื้อหาที่ตัดพ้อต่อว่าโลกมนุษย์ จนกลายเป็นเพลงที่น่าหดหู่มากกว่าที่จะสร้างความรื่นเริง เพราะแต่ละเพลงของ Los Campesinos! มีเนื้อหาที่ถูกปลดปล่อยออกมาด้วยความรู้สึกดิบๆของ แกเร็ธ ที่มีทั้งการจิกกัดสังคม อารมณ์ขัน และความสดใสแบบวัยรุ่นอย่างเต็มเปี่ยม

เอาเป็นว่าใครยังไม่เคยฟังอัลบั้มแรก ผู้เขียนก็จับยัดลงไปในเอนทรี้นี้แล้วเรียบร้อย และก็แถมด้วยบทสัมภาษณ์ของ แกเร็ธ หนึ่งในนักร้องนำ/แต่งเพลง ที่พูดถึงงานเพลงชุดล่าสุดนี้...


Hold On Now, Youngster...







บทสัมภาษณ์ แกเร็ธ แคมเพซินอส (นามสกุลในวง 55+)


อัลบั้มโปรดของคุณในปี 2008
คือเมื่อเร็วๆนี้ผมได้ทำรายชื่อเอาไว้ คิดว่าคงมีประมาณ 3-4 อัลบั้มน่ะ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คืออัลบั้มล่าสุดของ Parenthetical Girls พวกเขาคือวงโปรดของผมจริงๆ


คุณมีเขียนเพลงที่ชื่อ "My Year In Lists" คิดจะทำรายชื่ออัลบั้มที่คุณชื่นชอบที่สุด ทั้งที่นักข่าวไม่ถามคุณบ้างหรือเปล่า
คงจะไม่ครับ คือตัวเองก็คงมีอัลบั้มโปรดในใจอยู่แล้ว แต่คงจะไม่นำมาบอกใครอย่างแน่นอน ผมคงรู้สึกกลัวว่าจะลืมใส่บางอัลบั้มละมั้ง คือผมเป็นคนที่มีความกลัวอยู่ตลอดเวลา เช่นเมื่อทำอะไรลงไปแล้ว ผมก็มักจะมาคิดในภายหลังว่า "เมื่อกี้เราทำบ้าอะไรไปว่ะ"


แล้วคุณเคยคิดแบบนั้นเวลาเขียนเพลงบ้างไหม
แน่นอนครับ มีบางเพลงในอัลบั้ม Hold On Now, Youngster… ที่ผมรู้สึกอายมาก ผมไม่คิดว่าวงดนตรีทุกวงจะต้องชอบเพลงทุกเพลงที่พวกเขาเชียนขึ้นมาหรอก และผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเกินไป คือมันต้องมีบางเพลงที่พวกเขาเกลียดบ้างสิ เช่นเพลงหนึ่งในอัลบั้มเราอย่าง "We Throw Parties, You Throw Knives," คือผมรู้สึกอายสุดๆไปเลย ผมไม่ชอบเนื้อหาของเพลงเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ถ้าเกิดผมชอบมัน และยังชอบมันต่อไปเรื่อยๆอีกสองปีข้างหน้า ก็แสดงว่าผมก็คงยังเป็นคนๆเดิมที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และนั้นก็คงเป็นเรื่องที่แย่เอามากๆเลยน่ะ ผมว่า...


แบบนี้คุณคงรู้สึกเสียใจต่อเนื้อเพลงอยู่บ่อยครั้ง ในฐานะที่คุณเป็นนักแต่งเพลงที่พูดตรงเอามากๆ
ช่าย ผมคิดว่าผมเป็นคนอย่างนั้นแหละ โดยเฉพาะกับเพลงใหม่ๆ คือสำหรับตัวผมแล้ว เนื้อเพลงเหล่านั้นก็เหมือนกับคำสารภาพ ผมมั่นใจว่าคงมีสักวันในอนาคต ที่ตัวเองรู้สึกเสียใจต่อบางสิ่งที่ร้องออกไป หรือการไปพาดพิงคนอื่น แต่ผมก็ชอบความอันตรายที่เกิดขึ้นน่ะ ผมก็แค่ทำตัวให้จริงใจที่สุดในช่วงระหว่างการแต่งเพลง คือผมไม่ต้องใช้จินตนาการในการแต่งมันเลย


แสดงว่าทุกเพลงที่คุณแต่งขึ้นมานั้น อิงจากเรื่องจริงหมดเลยงั้นเหรอ
ใช่ ถึงแม้ Hold On Now, Youngster… อาจจะไม่ซะทั้งหมด แต่ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผม ก็อยู่ในอัลบั้ม We Are Beautiful, We Are Doomed หมดแล้ว ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงที่น่าเศร้าเสียด้วย


คุณประสบกับความยากลำบากในการเขียนเพลงใหม่ๆบ้างหรือเปล่า
ก่อนที่จะเริ่มอัดเพลงชุดนี้ พวกเราได้ออกทัวร์ในอเมริกา ซึ่งการตัดสินใจที่จะออกงานเพลงชุดนี้ก็เกิดขึ้นอย่างไม่มีปี่ไมมีขลุ่ย ซึ่งมันก็ทำให้ผมก็พบว่าตัวเองไม่มีไอเดียสำรองอะไรอยู่เลย การทัวร์ในแถบอเมริกาตะวันออกไม่ได้ช่วยผมซะเท่าไร แต่การไปทัวร์ในแถบอเมริกาตะวันตก และการได้ร่วมออกทัวร์ไปกับ Parenthetical Girls ซึ่งผมก็ได้ทำความรู้จักพวกเขา มันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นในการแต่งเพลงอีกครั้ง ผมไหลลื่นเอามากๆ ซึ่งเนื้อเพลงส่วนใหญ่ทั้งหมด ถูกเขียนในช่วงระยะเวลาประมาณหนึ่งอาทิตย์ และผมก็รู้สึกดีมากๆกับมัน





คุณเคยบอกว่านี้ไม่ใช่อัลบั้มที่สองของพวกคุณ
ใช่ คือพอพวกเราพูดอะไรแบบนั้นออกไป มีบางคนก็ตอบสนองได้แย่เอามากๆ พวกเขาบอกว่าทำไมพวกเราต้องคิดอะไรให้มันยุ่งยาก คือจริงๆแล้ว พวกเราอยากจะทำมันขึ้นมาเฉยๆ พวกเราไม่คิดว่ามันจะต้องออกมาเป็นอัลบั้มตามครรลอง ผมไม่เข้าใจว่าทำไมการใช้คำว่า "ไม่คิดว่ามันจะต้องออกมาเป็นอัลบั้มตามครรลอง" มันจะดูเป็นการเสแสร้ง คือพวกเราคิดกันไว้ตั้งแต่แรกว่าจะทำกันสัก 5-6 เพลง และผมคิดว่า We Are Beautiful, We Are Doomed จะไม่มีเพลงไหนที่ถูกตัดเป็นซิงเกิ้ล เพราะ 10 เพลงสุดท้ายที่ออกมานั้น สมควรถูกได้ยินพร้อมกันดีกว่า ที่จะดึงเพลงใดเพลงหนึ่งออกมาจากพวก

ผมว่าการทำสตูดิโออัลบั้มเลยนั้นเป็นเรื่องใหญ่ และพวกเราก็ไม่เคยมองอัลบั้มนี้เป็นแบบนั้นพวกเรามองว่ามันเป็น extended EP หรือจะเรียกว่า EEP ก็ได้ มันมีทั้งหมด 10 เพลง หนึ่งในนั้นเป็นเพลงบรรเลง ส่วนอีกสองเพลงนั้นก็สั้นเอามากๆ ดังนั้นถ้ามันถูกตั้งเอาไว้ว่าเป็นสตูดิโออัลบั้ม ผมคิดว่ามันควรจะต้องมีอะไรที่มากไปกว่านี้


คุณกังวลเรื่องเสียงวิจารณ์ภายนอกหรือเปล่า
ผมกังวลน้อยลงแล้วน่ะ คือเมื่อก่อนผมเป็นคนที่คิดมาก คิดไปต่างๆนาๆ และใช้เวลาส่วนมากบนอินเตอร์เน็ต ผมเคยเป็นคนที่ชอบโพสข้อความที่เกี่ยวกับวงบางวงลงในเว็บบอร์ด มีกลุ่มสังคมอินเตอร์เน็ตบางแห่งที่รู้จักผมก่อนที่จะเข้ามาร่วมวง Los Campesinos! เสียอีก ซึ่งปัจจุบันนี้สถานการณ์ก็กลับกันเมื่อผู้คนต่างพูดถึงผมแทน บางคนที่รู้ว่าผมอยู่ในวงดนตรี ก็พยายามที่จะสบประมาทผม บางคนก็ปกป้องผมโดยไม่มีสาเหตุ

นั้นก็คือธรรมชาติของอินเตอร์เน็ต ที่ใครสักคนสามารถเขียนบล็อคเขียนวิจารณ์ขึ้นมาได้ภายในสองนาที คนที่ว่าเหล่านี้ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นนักวิจารณ์มืออาชีพ เพราะพวกเขาอาจเป็นเพียงเด็กที่เล่นในห้องของตัวเอง ที่มีไอเดียและอยากจะขยายมันออกมา ซึ่งผมว่ามันเป็นสิ่งที่ดีน่ะ แต่ในฐานะที่คุณเป็นศิลปินที่ถูกพาดพิงแล้ว ถ้าคุณคิดเล็กคิดน้อยไปซะทุกเรื่อง ในที่สุดคุณก็จะหาทางพบว่าตัวเองกำลังถูกวิจารณ์ไปซะทุกครั้ง นั้นเป็นสิ่งที่ผมไม่ต้องการ


ตอนที่คุณยังเด็กกว่านี้ คุณเคยรู้สึกว่าตัวเองปิดกั้นทางความคิดไหม เพราะเห็นวคุณพูดถึงการโพสข้อความลงในเว็บบอร์ด
แน่นอน ผมพบว่ามันเป็นเรื่องที่ไร้ความสำคัญ ในการวิพากษ์วิจารณ์งานดนตรีของคนอื่น เพราะว่าพวกเขาสร้างในสิ่งที่อยากสร้าง และถ้าพวกเขาประสบความสำเร็จจากมัน ผมคิดว่าผลงานที่ออกมามันจะเป็นทองหรือขยะพวกเขาก็คงไม่สนใจ เมื่อ 3-4 ปีก่อน ผมมักพูดเรื่องแย่ๆถึงหลายๆวงในอินเตอร์เน็ต... ถึงตอนนี้มันก็คงเป็นช่วงเวลาของการถูกเอาคืนละน่ะ





คุณจะรู้สึกเสียใจบ้างไหม ถ้าวงนี้จะโด่งดังมีชื่อเสียงเกินไป หรือต้องมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
ก็อาจจะน่ะ เรื่องการมีชื่อเสียงอาจจะไม่รบกวนใจผมในตอนนี้ แต่ถ้าเป็นเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ผมก็คงคิดเช่นนั้นแน่นอน คือสมมุติว่าถ้าวงดนตรีที่ผมชอบเกิดดังเปรี้ยงปร้างขึ้นมา และเพื่อนรอบตัวผมเริ่มที่หันมาชอบพวกเขา มันก็จะทำให้ผมคลั่งและรู้สึกไม่ชอบวงนั้นอีกต่อไป เพราะผมคิดว่าพวกเขาเป็นวงสำหรับผมเพียงเท่านั้น แต่ในปัจจุบันนี้ ตราบใดที่พวกเขาเติบโตขึ้นมามีชื่อเสียง และยังสามารถรักษาเกียรติของตัวเอง โดยไม่ประนีประนอมในสิ่งที่พวกเขาทำมาได้ตลอด แค่นั้นผมก็พอใจแล้ว

ผมรู้ว่านี้อาจจะเป็นตัวอย่างที่มีหลายคนพูดถึง แต่คุณดูอย่างวง Sonic Youth สิ พวกเขาเป็นหนึ่งในวงที่โด่งดังที่สุดในโลก ซึ่งพวกเขาก็สามารถทำในสิ่งที่ต้องการทำมาได้โดยตลอด พวกเขาได้รักษาเกียรติยศของตัวเองเอาไว้ นี้เป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถโต้เถียงได้เลย ผมคิดว่าทุกคนคงเห็นพ้องต้องกันว่า การมีชื่อเสียงในวงดนตรีนั้นไม่ใช่เรื่องที่เสียหายเลยแม้แต่น้อย ตราบใดที่คุณทำในสิ่งที่คุณทำมาโดยตลอด


ในฐานะที่ Los Campesinos! มีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คุณเคยถูกขอร้องให้ทำในสิ่งที่รู้สึกไม่สบายใจไหม
พวกเราได้รับข้อเสนอให้ออกทัวร์ที่น่าสนใจในบางครั้ง ที่มีวงดนตรีดังๆหลายวงเล่นต่อหน้าคน 10,000 คนอะไรแบบนั้น ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เราตอบปฏิเสธโดยทันที ไม่ใช่เพราะเราไม่อยากเล่นร่วมกับวงไหนโดยเฉพาะหรอกน่ะ แต่มันเป็นเรื่องของสภาพแวดล้อมที่ทำให้เราไม่สบายใจ การเล่นดนตรีต่อหน้าคนเป็นหมื่นเป็นเรื่องที่ทั้งน่ากลัวและน่าขัน พวกเราคงรู้สึกช็อคไปตามๆกัน ผมก็คิดว่าพวกเราคงเล่นกันได้ไม่ดีในเวทีใหญ่แบบนั้น

แล้วในช่วงปีครึ่งที่แล้ว พวกเราได้รับขอเสนอที่มีจำนวนเงินสูงมาก เพื่อให้เพลงของพวกเราถูกเปิดในโฆษณาเครื่องดิ่มแอลกฮอลยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งพวกเราก็ตอบปฏิเสธไป ผมคิดว่ามันอาจจะเป็นการดีในณ.เวลานั้น เพราะเพลง You! Me! Dancing! เปรียบเสมือนลูกรักของพวกเรา ซึ่งถ้าเราอณุญาติให้นำไปใช้ในโฆษณาแล้วล่ะก็ มันอาจจะป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยในภายหลังก็เป็นได้... แต่คิดไปคิดมา ผมคงมีความสุขในการได้ใช้เงินก้อนนั้นน่ะ (หัวเราะ)





แล้วลึกๆในใจคุณอยากจะเล่นคอนเสิร์ตต่อหน้าคน 10,000 คนบ้างไหม
ถ้าได้เล่นร่วมกับวงที่พวกเราชื่นชอบ ก็คงจะเป็นเรื่องที่งี่เง่ามากถ้าพวกเราตอบปฏิเสธไป แต่จริงๆแล้วผมคิดว่าพวกเรายังไม่มีอำนาจพอที่จะได้รับโอกาสนั้นน่ะ และที่สำคัญคือพวกเรายังไม่พร้อมอย่างแน่นอน ผมคิดว่าพวกเรายังไม่สมควรที่จะได้เล่นต่อหน้าคนจำนวนมากๆ อย่างไรก็ตาม พวกเราก็ได้เล่นใน Summer Sonic Festival ที่ญี่ปุ่นในสนามเบสบอลที่มีคนประมาณ 5,000 คน ซึ่งก็ไม่ได้เต็มสนามแต่อย่างใด แต่มันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก ในการเล่นต่อหน้าชาวญี่ปุ่นห้าพันคนที่รู้จักและคลั่งไคล้พวกเรา


แล้วระหว่างเล่นคอนเสิร์ต เหล่าแฟนเพลงร้องตามคุณบ้างไหม
แน่นอน ผมคิดว่าเพลงอย่าง "You! Me! Dancing!" สร้างความคึกคักให้กับทุกคนเสมอ มันเป็นเรื่องที่น่าปลาบปลึ้มที่ได้เห็นทุกคนร้องตามคุณ ผมคิดว่าแฟนเพลงที่พวกเรารู้สึกเชื่อมถึงได้ คือแฟนที่เข้าใจถึงความเป็นตัวตนและไอเดียของ Los Campesinos! พวกเราสื่อสารกับแฟนๆผ่านทางอีเมลล์และบอร์ดใน Myspace ด้วยตัวเองตลอด พวกเราเริ่มใช้ Youtube ในการสื่อสารด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ทำให้คนฟังรู้สึกว่าตัวเองสามารถเชื่อมต่อกับวงได้มากขึ้น นั้นเป็นสิ่งที่ผมอยากจะทำต่อไปเรื่อยๆ ถ้าคุณดูวงอย่าง Manic Street Preachers, Huggy Bear หรือ The Smiths ซึ่งต่างเป็นวงที่มีกลุ่มแฟนเพลงเหนียวแน่น นั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการทำงานเพลง ดังนั้นถ้าพวกเราเห็นเช่นกลุ่มแฟนเพลงพวกนี้ในการแสดงที่ไหนก็ตาม มันก็คงเป็นเรื่องที่น่าปลื้มใจไม่ใช่น้อย


คุณอายุเท่าไรน่ะ
ผมอายุ 22 ปี (คนแปล: พระพุทธเจ้า!! อายุขนาดนี้ ทำไมเก่งกว่าข้าพเจ้าประมาณแปดแสนล้านเท่า...)





เพลงของพวกคุณมีความสดใสแบบวัยรุ่นมาก คุณคิดว่า Los Campesinos! จะอยู่ไปได้อีกนานแค่ไหน
ผมคิดว่าเมื่อใดที่ Los Campesinos! ต้องหยุดทำงานเพลง มันจะไม่ได้เกิดจากการที่เราหมดไอเดียหรือการสร้างสรรค์ ทอม (หนึ่งในสมาชิกของวง) ก็เป็นนักแต่งเพลง และผมก็คิดว่าเขาเป็นนักแต่งเพลงที่มีพรสวรรค์มาก ตอนนี้พวกเรากำลังทำงานตัวใหม่อยู่ ซึ่งผมก็รู้สึกตื่นเต้นกับมันมาก ผมคิดว่า Hold On Now, Youngster… ฟังดูสดใสกว่า We Are Beautiful, We Are Doomed พอสมควร เพราะว่าเพลงส่วนใหญ่ใน Hold On นั้นถูกเขียนไว้เมื่อสองปีที่แล้ว

พวกเรายิ่งกว่ารู้ตัวว่า Los Campesinos! คงจะไม่ยั่งยืนตลอดไปหรอก และผมก็คิดว่านั้นเป็นเหตุที่ทำให้พวกเราปล่อยงานเพลงออกมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และพยายามสนุกไปกับมันขณะที่มันยังคงทำได้อยู่ Los Campesinos! จะหยุดทำงานเพลงก็ต่อเมื่อ Los Campesinos! ไม่มีความสนุกหลงเหลืออยู่ ผมไม่อยากจะเป็นอย่างวงดนตรีที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลๆ เพื่อไปเล่นให้กับคนที่ไม่สนใจฟังเราอีกต่อไปแล้ว ซึ่งนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของไอเดียในการทำ We Are Beautiful, We Are Doomed ขึ้นมา


มีท่อนหนึ่งในเพลงชื่ออัลบั้ม ที่ร้องว่า "We kid ourselves there's future in the fucking / But there is no fucking future" ซึ่งฟังดูแล้วดิบและจริงใจมาก
ใช่ ช่วงที่เราออกทัวร์ยุโรป การได้ร้องท่อนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ผมชอบมากที่สุด ขนาดที่เราแสดงคอนเสิร์ตในอิตาลี ผู้คนก็สามารถร้องตามและเข้าใจว่าหมายถึงอะไร ผมคิดว่าความดุดันของท่อนนี้เป็นภาษาสากล ผมคิดว่ามันสามารถสื่อไปได้ในทุกๆภาษา มันเป็นเรื่องน่าดีใจที่เห็นกำปั้นชูขึ้นไปบนอากาศ และผู้ชายที่ถูกปฎิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยคนนั้นก็อาจคิดในใจว่า "ใช่เลย! ฉันรู้ดีว่าความรู้สึกนี้มันเป็นอย่างไร"


คุณบอกว่ากำลังทำงานเพลงชุดใหม่ คุณคิดว่าคุณจะออกอัลบั้มที่สองอย่างแท้จริงในเร็วๆนี้หรือเปล่า
มันจะนานกว่าช่องว่างระหว่างสองอัลบั้มนี้ ครั้งนี้พวกเราอยากจะใช้เวลากับมันสักพัก มันจะเป็นงานเพลงที่ดูอลังการมากกว่าครั้งนี้ พวกเรามีไอเดียอะไรดีๆบางอย่าง และก็อยากให้มันออกมาดูน่าตื่นเต้นและวิเศษเช่นอัลบั้มแรก พวกเราจะเข้าไปในสตูดิโอเพื่ออัดเพลง กลับออกมาฟังในสิ่งที่เราเพิ่งทำไป และกลับเข้าไปในสตูดิโอเพื่อที่ทำให้มันดีขึ้นอีกเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมรู้สึกตื่นเต้นในการได้ทำอะไรแบบนี้ คือผมรู้สึกพอใจกับทุกสิ่งที่ได้ทำออกมาจนถึงตอนนี้ แต่ผมก็อยากจะทำอะไรที่ดูทะเยอทะยานอย่างไม่น่าเชื่อในครั้งหน้า






Create Date : 02 มกราคม 2552
Last Update : 3 มกราคม 2552 12:32:28 น. 22 comments
Counter : 1912 Pageviews.

 
You! Me! Dancing! - Los Campesinos (MV)





The beats yeah, they were coming out the speakers and rewinding up, straight in your sneakers and I'm dancing like every song who spends his bizzle like all my dance heros would if they existed.

And it's sad that you think that we're all just sceensters and even if we were its not the senior thinking of, to taking props from like these boy band fashions, all crop tops and testosterone passion.

If there's one thing that I could never confess, it's that I can't dance or sing or step.

It's you. It's me. And there's dancing! (x2)

Not sure if you mind if I dance with you but right now I don't think you care about anything. And oh if only there were clothes on the floor, I'd feel for certain I was bedroom dancing. And it's all flaming limbs at the front line. Every single one of us is twisted by design and dispatches from the back of mind, just as long as were here everything is alright.

If there's one thing that I could never confess, it's that I can't dance or sing or step.

It's you. It's me. And there's dancing! (x2)

If there's one thing that I could never confess, it's that I can't dance or sing or step. (x 2)



โดย: BloodyMonday วันที่: 2 มกราคม 2552 เวลา:15:30:53 น.  

 
Death To Los Campesinos! - Los Campesinos! (MV)





You've been broken down I go
(War economy)
Father f?hrer, don't be mad at me
Peasant child, you're into botany
Splitting necks and calling the dichotomy
"BEWARE" the sign on the door suggests -
I'm better off with artificial intelligence

I invented you
(I invented you)
AND I WILL DESTROY YOU.

If you catch me with my hands in the till
I promise, sugar, I wasn't trying to steal
I'm just swimming in copper
To smell and pretend
Like a robot!

Well, if a leopard doesn't change it's spots
You can't change my perceptions just from dots to dots
I swap the bruising for a bumping sensation
I'll be ctrl-alt-deleting your face with no reservations
I will stop flighting once your circuit board's igniting
Singing, "I'm NOT FINISHED, I'm NOT FINISHED! No!"

Mistaking cables for veins can be quite misleading,
Friction sparks the metal made it look like bleeding

If you catch me with my hands in the till
I promise, sugar, I wasn't trying to steal
I'm just swimming in copper
To smell and pretend
Like a robot!



โดย: BloodyMonday วันที่: 2 มกราคม 2552 เวลา:15:32:43 น.  

 
The International Tweexcore Underground - Los Campesinos! (MV)




I bet you twenty pounds if you knew ten years ago how pretty you'd turn out then you'd never have gotten your ears pierced, but I never got my ears pierced and look how I turned out,

and the last time that you tried listening to music, and reading fiction at the same time, you never finished the chapter, but you finished the song with your chin on your knees like you belong


and i never cared about Henry Rollins

Amelia Fletcher never meant anything to me

but the International Tweexcore Underground, will save us all


Getting the laptop fixed by a professional doesn't make me a pawn and

stamping harder on your FX pedal, won't make you feel any better any more

oh you said "we've gotta bite the hand that feeds" but I was sucking seductively on the fingertips of a civil servant,

said "how you gonna bring the state down when you're propping it up?

with daytime radio

and skimmed milk and soppy bows

just 'cause you're scared to be alone"


and I never cared about Ian MacKaye

Calvin Johnson never meant anything to me

but the International Tweexcore Underground, will save us all


Ooh, this city is run by fucking pigs, and though you say you're my friend, you're not, you're one of them.


and i never cared about...whatever

Sarah Records never meant anything to me

but the International Tweexcore Underground, will save us all


โดย: BloodyMonday วันที่: 2 มกราคม 2552 เวลา:15:37:58 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ครับ

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมกันเมื่อปีที่แล้ว


I wish you are loved, lucky, healthy, wealthy and very happy Happy New Year 2009
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่


โดย: navagan วันที่: 2 มกราคม 2552 เวลา:17:54:20 น.  

 
สวัสดีปีใหม่จ้า
เข้ามาบอกว่าหนังที่ควรดูช่วงปีใหม่นี้คือ Happy-Go-Lucky อย่าลืมไปดูนะ


โดย: grappa วันที่: 2 มกราคม 2552 เวลา:18:07:27 น.  

 
หวัดดีปีใหม่จ๊าบ!


โดย: Moonlight Mile IP: 125.24.36.46 วันที่: 2 มกราคม 2552 เวลา:20:39:12 น.  

 
แอร๋ย......
ไม่ได้เข้าบลอกเพื่อนๆมานานแสนนาน
เด๋วต้องเข้าไปเก็บอ่านย้อนหลังให้ครบ
ตอนนี้กลับมาเขียนบลอกเต็มตัวแล้วเพราะว่างสุดๆ
.......
อ้อ...เด๋วลืม...

สวัสดีปีใหม่นะจ๊ะ


โดย: Michiru วันที่: 3 มกราคม 2552 เวลา:9:01:33 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ครับ


โดย: McMurphy วันที่: 3 มกราคม 2552 เวลา:14:27:05 น.  

 
แวะมาฟังเพลงที่แนะนำค่ะ
ดีจังเลย..

อ้อ..แวะมาหวัดดีปีใหม่ด้วย
มีความสุขมากมายนะคะ

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 3 มกราคม 2552 เวลา:21:32:36 น.  

 
กรี๊ดดดดดดด los ชุดใหม่ เพิ่งรู้เรื่องเมื่อกี้จากบล็อกคุณลูซี่ เข้ามาบล็อกคุณมีรายละเอียดเยอะเลย

อ่านบทสัมภาษณ์แล้วยิ่งชอบอ่ะครับ

ปล. พูดเป็นครั้งที่ร้อย ทรงผมพี่ยอดแนวเพลง International Tweexcore นี่ขัดใจแม่มากๆ


โดย: strawberry machine gun วันที่: 4 มกราคม 2552 เวลา:19:18:21 น.  

 
ตกลงปีใหม่ได้เดินเข้าคิโนะ แบบไร้จุดหมายไหมคะ
ได้อะไรมาไหม


โดย: grappa วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:12:09:46 น.  

 
^
อ๊ากก อิจฉาคนกรุงได้เดินคิโนะ อีกไม่กี่วันอาจจะได้ปิ๊กกทม.เจ้าา

แวะมาสวัสดีปีใหม่ย้อนหลัง หายหน้าไปนานเพราะอาการมาวค้าง ตอนนี้อปอช.กำลังมีพุงเบียร์เล็กๆน่ารัก เหมือนดาราเวลาพึ่งท้องแล้วบอกว่าไม่

ไหนๆ รีวิวเจาะลึกแบบtrack by track ของ GNR รออยู่นะ Axl Rocks!!! WOOOHOOO!!! ชูมือ โยกหัว

แต่ใครเล่นกีตาร์อ่ะ ไม่ได้ติดตามข่าว จะสู้ guitar god คนเก่าได้มั๊ยเนี่ย



บายเดอะเวย์...ขอยืมหนังต่อน้า ยังดูไม่หมดเลย BdMd rocks tooo!!!




โดย: อปอช (apple_cinnamon ) วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:17:43:03 น.  

 
วงที่แปะในบล็อกชื่อ forgot your case เล่นโพสต์ร็อกครับ ขอเชียร์ให้หามาลิ้มลองเน้อ เป็นหน้าม้าสุดฤทธิ์ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=thankyou&month=11-2008&date=17&group=6&gblog=42


ผมหาแหล่งโหลด los ชุดใหม่ได้แล้วล่ะครับ แต่เน็ตที่ทำงานมันอืดมากวันนี้ เลยยังปฎิบัติการ (เถื่อน) ไม่สำเร็จ อยากฟังมากกกกกกกก


โดย: strawberry machine gun วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:19:10:06 น.  

 
เอิ๊ก แปลยาวขนาดนี้มันขี้เกียจตรงไหนครับ ผมอ่านยังเมื่อยตาเลย

ได้ดู The Orphanage แล้ว ชอบมากๆ บทสรุปตอนจบมันอาจจะไม่ช็อคเท่า The Other หรือ The Sixth Sense แต่ผมว่ามันก็ซึ้งในแบบที่ควรจะเป็นดี (ชอบฉากเล่นซ่อนหาจัง หลอนโคตร)


โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:23:02:08 น.  

 
วงนี้คนชมกันเยอะอะ เราฟังสองอัลบั้มแล้ว แต่ก็ยังแบบเข้าไม่ถึงกับที่เขาชมกันเยอะๆอะค่ะ แหะๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบนะคะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้ร่างกายแข็งแรงค่ะ ^^


โดย: cottonbook วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:23:07:43 น.  

 
โห..ยาวเหยียด เป็นพีอาร์ของวงใช่มั๊ยเนี่ย 555

BtW พอดีเปิดบล็อกไว้หลาย เพลงตีกันมั่วเช็ง เดี๋ยวขอแวะมาอีกรอบนะ ค่อยมาฟังอีกทีแบบ ชีชี เอ้ย ชิลด์ ชิลด์



โดย: renton_renton วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:9:01:42 น.  

 
เห็นด้วยกับคุณ cottonbook ครับ
ผมเห็นคนเชียร์กันเยอะมากกก

แต่ทำไมผมฟังแล้วไม่ค่อย เลยล่ะ?

..
สวัสดีปีใหม่เช่นกันครับพี่


โดย: haro_haro วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:11:31:28 น.  

 
โดนตีหัว ผมคงโดนด้วยอ่ะ
ไม่ค่อยจะปลื้มเหมือนกันชุดใหม่ โควเพลย์


โดย: haro_haro วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:12:32:24 น.  

 
ผลการทลายกองดีวีดีเป็นที่น่าอับอายมากครับ เหตุเพราะมัวแต่ไปติดแหงกกับซีรี่ยส์ Grey's anatomy เลยดูหนังเรื่องได้นิดเดียว แถมหนังที่เลือกดูก็เป็นประเภท Death Race, Dance of The Dead อีกต่างหาก (อ้อ แต่ผมได้ดู BitterSweet แล้วนะ ชอบครึ่งไม่ชอบครึ่ง) ไว้จะอัพบล็อคเรื่องนี้ยาวๆอีกครั้ง


โดย: แฟนผมฯ IP: 202.134.119.218 วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:12:51:44 น.  

 
+ แหะๆ เรื่องเพลงไม่ค่อยสันทัด ได้แต่อ่านเฉยๆ จ้า (แต่ขำคนที่แซวว่าเป็น PR ของวงอ่า แอบคิดคล้อยตาม เอิ๊กๆ )

+ สวัสดีปีใหม่คุณ BdMd ย้อนหลังด้วย ขอให้มีความสุขทุกๆ วัน มีหนังดีๆ ให้ดูตลอดทั้งปีเลยจ้า


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:16:55:53 น.  

 
ลากยาวถึงสงกรานต์คงไม่ไหวล่ะค่ะ ตับมันจะพังเอา หุๆ ตอนนี้พยายามดีท็อกซ์ตับอยู่ ลดละเลิกของมึนเมาทุกชนิด (ที่ออฟฟิศวางเงินกันแล้วว่าจะได้กี่วัน บลัดดี้จะลงเท่าไหร่เคอะ)

ไฮโซมากได้มือปืนรับจ้างจาก nine inch nails (ตอนนี้หายไปไหนแล้ว...) แต่ให้ไฮไซสุดๆน่าจะเอาเดฟ นาวาโรนะ ถ้ารายนั้นไม่เบื่องานรับจ้างซะก่อน คุ้นๆว่าน่าจะเคยร่วมงานกันมาแล้วบ้างมั้ง เฮ้อ.. six degrees of dave navarro

หนังสือยืมดองไปได้เลยค่าไม่ต้องเกรงใจ เพราะเราก็ยืมของคนอื่นมาดองอยู่เหมือนกัน




โดย: อปอช (apple_cinnamon ) วันที่: 7 มกราคม 2552 เวลา:14:23:26 น.  

 
เพิ่งมาเจอครับ ขอบคุณที่แปลให้อ่าน

ผมอย่างชอบ Los Campesinos! เลย


โดย: Manny Campesinos! IP: 192.168.50.158, 118.175.62.113 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:23:07:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BloodyMonday
Location :
Imaginationland, Valley of Bliss China

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






-= M & M in Nutshell =-


Gentlemen Broncos (2009)


You could have brain tumor by watching this contaminated turd. Nothing in Gentlemen Broncos pays off, it’s incoherent mess, and chock-full of incredibly annoying characters. You will not only loath this movie, but it also makes you want to punch someone who responsible for this abomination in the face.

BloodyMonday Rating:



Fantastic Mr. Fox (2009)


Imagine if Akira got Live-Action treatment by... say Alfonso Cuarón, you know how awesome it might be? That’s what happened to "Fantastic Mr. Fox". Wes Anderson's auteur perfectly captured the quirkiness and blissful tone of the material. Its stop-motion technique might be a little crude and... somewhat unsophisticated, but that's the charm of it. You’ll feel like pop-up book unveiled before your eyes. This is an exceptional animation of the year.

BloodyMonday Rating:



Planet 51 (2009)


ถ้าถามว่าสนุกไหม? ก็โอเค ทุกอย่างถอดแบบมาจาก Shrek มุขที่อ้างอิงวัฒนธรรมป็อป ตัวละครสมทบที่น่าสนใจกว่าตัวเอก กราฟฟิคที่สอบผ่านฉลุย (ถ้าไม่ไปวัดกับพิกซาร์) แต่ถ้าถามว่าต้องดูไหม? ..... เอาเป็นว่าเวลาชั่วโมงครึ่ง ทำอะไรที่มีประโยชน์กว่านี้ได้เยอะแยะ

BloodyMonday Rating:



It's Complicated (2009)


รู้สึกสนุกกับการได้เห็นป้าเมอรีล เข้าโหมดแอ๊บเด็ก (อีกแล้ว) ในขณะเดียวกัน อเล็กซ์ บอลด์วิน และ จอห์น ครากินสกี้ ก็ขโมยซีนได้ตลอด แต่มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหนังยาว 2 ชั่วโมงมีเรื่องให้เล่าแค่ 15 นาที... It's Complicated อาจเหมือนคนกินไวอากร้าแล้วเข้านอน คึกตลอดคืนแต่มันจะมีประโยชน์อะไร?

BloodyMonday Rating:



Up in the Air (2009)


Up in the Air is a blockbuster movie for people who think blockbuster movies are dumb, as it chock full of brilliantly written dialogue, and acting showcase for three talented actors (especially star-making turn by Anna Kendrick). But in the end, there's little to love, not so much story to chew on (plus disappointing third act), and no real connection to the meaning of human interaction as it intended to be.

BloodyMonday Rating:



I Love You, Beth Cooper (2009)


Cliché-ridden plot about a bunch of annoying characters get together in one idiotic circumstance, "I Love You, Beth Cooper" is shameless exploitation & biggest insult to 80s teen flicks. It's like memorizing magic trick from internet, hoping to perform like David Copperfield. Neither sense of wonder nor magic flare happens here. Only good thing is, it makes me wanna cleanse my soul with genuine 80s teen movie night marathon.

BloodyMonday Rating:



Everybody's Fine (2009)


Meh. The movie serious lack of originality & characters development. Only Robert De Niro comes out fine in this schmaltzy, "Lifetime" movie-of-the-week plot.

BloodyMonday Rating:



Paper Heart (2009)


Twee delight... That's only two words I can think of right now.

BloodyMonday Rating:



Adam (2009)


A perfect companion to Mary & Max (one of the best animation of 2009), Adam is star-crossed love story (pun intended) between Adam, Asperger's Syndrome bearer, and Beth, free spirit woman. The picture wouldn’t be this intimate without stunning performance by Hugh Dancy. On the other hand, the lack of depth on why Beth would love someone like Adam, preventing me from wholeheartedly embraces her choice in the end (which is nice & perfect but requires a leap of faith). Otherwise, this is touching romantic film, which putting its feet firmly on the ground, making the world full of hope and seems nicer place to live.

BloodyMonday Rating:



The Invention of Lying (2009)


Expected to be like “Click” or “Yes Man”, where high-concept plot turned into endless gags, with moral lesson (forcefully) shoving down your throat. But "The Invention of Lying" is thinking man’s film. The whole concept is not seeing how first lying man exploits the ability. But it's about him finding the way not to lie, in order to find genuine happiness. Great stuff.

BloodyMonday Rating:



Give ‘Em Hell Malone (2009)


This is one damn frustrating experience. It’s like watching an infant trying to stand up and walk. They would take a few steps then fall their asses. In fact, kiddie film like “Bugsy Malone” has done better job paying a tribute to film noir than this borefest.

BloodyMonday Rating:



Zombieland (2009)


ถ้าอังกฤษมีหนังซอมบี้ฮาแตกอย่าง Shaun of the Dead แล้ว ทำไมอเมริกาจะมีบ้างไม่ได้... Zombieland คือการผสมผสานระหว่างบรรดาหนังซอมบี้เก่าๆ เข้ากับทัศนคติของคนสร้างที่อาจดูหนังแนวนี้มากเกินความจำเป็น จนสามารถสร้างหนังซอมบี้ที่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองเป็น และเล่นสนุกไปกับกฏพื้นฐานของซอมบี้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยกความดีให้สี่นักแสดงนำ โดยเฉพาะ วู้ดดี้ ฮาเรลสัน (เขาเกิดมาเพื่อบทนี้) ที่ช่วยกันสร้างมนต์เสน่ห์ ให้กับการเดินทางในโลกไร้มนุษย์ได้อย่างเต็มที่

ถึงแม้พลังงานที่ขับเคลื่อนจะมาหมดเอาดื้อๆในองค์สุดท้าย เมื่อฉากใหญ่ในสวนสนุกถูกทำขึ้นเพื่อแสดงฉากการฆ่าซอมบี้เด็ดๆ (ซึ่งไม่ใช่จุดเด่นสำหรับเรื่องนี้เลย) แต่โดยรวมแล้วมันก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัว ที่บรรดาแฟนซอมบี้จะมาพลาดหนังเรื่องนี้... อ้อ แล้วหนังยังมีดารารับเชิญสุดเซอร์ไพรซ์ ที่สร้างเสียงฮาที่สุดในเรื่องได้จากประโยคสุดท้ายอีกด้วย

BloodyMonday Rating:



Frequently Asked Questions About Time Travel (2009)


เมื่อเพื่อนสามคนก๊งเบียร์กันในผับแล้วเจอสาวฮ็อต (แอนนา ฟาริส) ที่อ้างว่ามาจากอนาคตจนเกิดรอยแยกของเวลา ทำให้ทั้งสามต้องท่องไปทั้งโลกในอนาคตและอดีตจนวุ่นวาย...

หนังมีไอเดียกิ๊บเก๋ ทำออกมาได้สนุกสนานสไตล์ซิตคอมอังกฤษ โดยเฉพาะการนำกฏเหล็กต่างๆจากหนังที่เกี่ยวกับการท่องเวลา (ดูเหมือนว่า Back to the Future จะเป็นแรงบรรดาลใจหลัก) มาปู้ยี้ปู้ยำอย่างเมามัน ถึงแม้ว่าตลอดเวลาการรับชมจะให้ความรู้สึก เหมือนตัวเองกำลังดูซีรี่ย์ทางโทรทัศน์ แต่มันก็คือตอนที่ฮาที่สุดของซีซั่น แถมเอฟเฟ็คที่ใช้ก็มีคุณภาพจนคาดไม่ถึง

BloodyMonday Rating:



Looking for Eric (2009)


มีความรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มองโลกในแง่ดีเกินบรรยากาศโดยรวม จริงอยู่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ลงเอยด้วยดีในตอนสุดท้ายนั้น สามารถสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับคนดู แต่จากสถานการณ์ในเรื่องและบริบทที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มันยากที่จะทำใจเชื่อในสิ่งที่เห็น โดยเฉพาะพล็อตรองเกี่ยวกับปืน ซึ่งถ้าถูกตัดออกไปและหนังยังดำเนินเรื่องอย่างที่เป็นอยู่ Looking for Eric ก็น่าจะเป็นหนังฟีลกู้ดที่อบอุ่นที่สุดเรื่องหนึ่งของปีเลยทีเดียว

BloodyMonday Rating:


~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
2 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add BloodyMonday's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.