บางครั้งก็แอบอิจฉาตัวเองในช่วงวัยเด็ก
ที่สามารถจะพูด จะทำอะไรก็ได้ตามความรู้สึกตัวเอง
ชอบก็แสดงออก โกรธก็แสดงออก อยากได้อะไรก็แสดงออก
ไม่ชอบ ไม่อยากคุยก็ไม่ต้องคุย
พอโตขึ้น ได้เรียนรู้โลกมากขึ้น ได้พบผู้คนหลากหลาย
รวมทั้งหน้าที่การงาน ความรับผิดชอบต่างๆ
ทำให้เราไม่สามารถที่จะแสดงออกความรู้สึกอะไรได้มากมาย
ไม่ชอบ ไม่พอใจอะไร ก็ต้องเก็บเอาไว้บ้าง
ไม่อยากคุย ก็ต้องฝืนคุย บางครั้งก็ต้องยิ้ม
เพื่อกดความรู้สึกบางอย่างเอาไว้
การที่ต้องทำอะไรที่มันฝืนความรู้สึก มันเหนื่อยนะ
แต่ที่ต้องเลือกทำเพราะคำว่าหน้าที่ความรับผิดชอบ
ต่างฝ่ายต่างใส่รอยยิ้มเข้าหากัน
มันไม่ใช่การใส่หน้ากากเพื่อหวังทำร้ายกัน
แต่มันเป็นการใส่รอยยิ้ม
เพื่อ ผลประโยชน์ที่ลงตัวของทั้ง 2 ฝ่าย
แต่มันก็ไม่ใช่กับทุกคนเสมอไปที่ไม่คิดจะเหยียบเราขึ้นไป
หลายครั้งเราอาจจะยังหลงไปกับรอยยิ้ม
หรือคำพูดเพราะๆ คำพูดที่ดูดี ที่ดูเข้าอกเข้าใจเรา
จึงคิดว่าคำพูดเหล่านั้นคือความหวังดีที่เขาให้เรา
สังคมนี้มันมีอะไรมากมายที่ซับซ้อน
ที่เราจะต้องเรียนรู้มันไปเรื่อยๆ
ความกดดันที่เราได้รับจากคนรอบข้าง
จากหน้าที่การงาน
คำพูดต่างๆที่มากระทบความรู้สึกเรา
เราจึงควรสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง
ค่อยๆสร้าง ค่อยๆสะสม
สักวันสิ่งเหล่านั้นมันจะไม่สามารถมาบันทอนความรู้สึกเราได้
ยิ่งโตขึ้น
เรายิ่งต้องใช้หน้ากากมากขึ้น
หลายรูปแบบ
เป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ไปกับมันจริงๆ