สังสรรค์ปาร์ตี้ประกวดแฟนซี มิสสลิมมิ่ง ยู ชาลเลนจ์ 2008
เต็มไปด้วยความคึกคัก สำหรับบรรยากาศค่ำคืนของการประกวดแฟนซีของผู้เข้าประกวด มิสสลิมมิ่ง ยู ชาลเลนจ์ 2008 ที่จัดขึ้นในงาน THE NIGHT OF STAR ซึ่งได้นำผู้เข้าประกวดทั้ง 60 คน มาร่วมแต่งกายประชันตามคอนเซปต์ซูเปอร์สตาร์ที่ตนเองชื่นชอบ และรับรางวัลต่างๆ ภายในงานจากผู้สนับสนุนกว่า 20 รางวัล
โดยในงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมกีฬาไทยแลนด์ ยูนิเวอร์ซิตี้ ชาลเลนจ์ 2008 ซึ่งในปีนี้มีการแข่ง ทั้งฟุตซอฟระดับมหาวิทยาลัย, การประกวดมิสสลิมมิ่ง ยู ชาลเลนจ์, ประกวดกองเชียร์, การแข่งขันเต้นลีลาศ และสำหรับการประกวดสาวๆ จากมหาวิทยาลัยต่างๆ นั้น จัดติดต่อสืบเนื่องกันมาตลอด และในปีนี้ได้ผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายทั้งหมด 60 คน ร่วมทำกิจกรรมก่อนจะมีการตัดสินรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 15-17 ก.ย.นี้
สำหรับบรรยากาศของการจัดงานประกวดแฟนซีของสาวๆ ทั้ง 60 คนนั้นจัดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา ณ ห้องจตุรทิศ รร.เรดิสัน โดยแขกผู้มีเกียรติและผู้สนับสนุนต่างเดินทางมาร่วมงานกันอย่างคึกคัก โดยมี คุณสุทธิศักดิ์ โล่ห์สวัสดิ์ นำคณะผู้บริหารของสยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับทั้ง คุณวิฑูร นิรันตราย, อัญชลี ธีระสินธุ นอกจากนั้นในส่วนผู้บริหารของบริษัทสี่สหาย นำโดย คุณสฤษฎกุล แจ่มสมบูรณ์ ที่ปรึกษาประธานบริหารบริษัทสยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) และนันทสิทธิ์ แจ่มสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทสี่พี่น้อง ให้การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน
จากนั้นน้องๆ ทั้ง 60 คนก็ได้เดินโชว์โฉมในชุดแฟนซีของซูเปอร์สตาร์ที่เป็นไอดอลของตัวเองอย่างสวยงามอลังการ บางคนใช้ชุดเป็นคลีโอพัตรา, เป็นทูมบ์ เรดเดอร์, เป็นนางงามจักรวาล, เป็นดารายอดนิยมชื่อดัง หลากหลายแตกต่างกันออกไป ซึ่งล้วนแต่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ร่วมงาน พร้อมร่วมรับประทานอาหารอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะมีการมอบรางวัลในการประกวดแฟนซีของน้องๆ ครั้งนี้ จากนั้นได้มีการแสดงของน้องๆ เพื่อเป็นการขอบคุณนํ้าใจไมตรีจากผู้สนับสนุนให้มีการจัดงาน ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความประทับอกประทับใจไปตามๆ กัน และที่เด็ดไปกว่านั้นมีการฉายเบื้องหลังของการทำงาน สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับผู้ที่มาร่วมงานอีกด้วย
ที่มา สยามดารา
Create Date : 02 กันยายน 2551 |
Last Update : 2 กันยายน 2551 1:52:03 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1511 Pageviews. |
|
|
|
ยังไม่นอนเพราะดูข่าวบ้านเมืองอยู่ ไม่น่าเชื่อว่าเราจะเป็นแบบนี้
คนไทยด้วยกันแท้ๆ ตีกันตายเพื่ออะไร เพื่อใคร