การบริบาลคนชราที่มีทวารเทียมตรงหน้าท้อง
การผ่าตัดย้ายรูทวารขับถ่ายจากปกติเปลี่ยนมาเป็นการขับของเสียออกทางหน้าท้อง อาจผ่าตัดได้ทั้งสองแบบทั้งการปัสสาวะและอุจจาระ วิธีการคือเอาลำไส้มาทำเป็นช่องตรงหน้าท้อง และช่องทวารแบบนี้คนชราจะไม่สามารถควบคุมการอึหรือฉี่ได้เพราะว่าไม่มีหูรูด ด้วยเหตุนี้คนชราจึงต้องมีถุงตรงบริเวณหน้าท้อง การผ่าตัดย้ายรูขับถ่ายอุจจาระมาไว้ตรงหน้าท้อง คือการนำลำไส้ย้ายออกมาข้างหน้าเพราะต้องการให้เป็นบริเวณระบายของอุจจาระ การผ่าตัดแบบนี้จะพบบ่อยกับคนชราที่เป็นมะเร็งบริเวณทวารหรือลำไส้ใหญ่ ลำไส้ตายเพราะการติดเชื้อ อาการอักเสบที่ลำไส้ใหญ่ ลำไส้มีติ่งเนื้อ ลำไส้มีการบาดเจ็บ ลำไส้กลืนกันทำให้อุดตัน การการอักเสบของลำไส้ใหญ่เพราะการฉายรังสี จากข้อมูลของ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ พระราม2 รูทวารใหม่สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ 1.รูทวารอุจจาระสำหรับลำไส้ใหญ่ ลำไส้ที่ผ่าตัดมานั้นมีหลายบริเวณตรงหน้าท้อง ทั้งนี้อาการของคนชรา 1.1การเอาส่วนต้นของลำไส้ใหญ่มาเปิดเป็นรู การผ่าตัดทำรูแบบนี้จะเป็นรูขนาดใหญ่ โดยจะมีถุงที่บริเวณทางขวาของท้องคนชรา อึที่ถ่ายออกมานั้นจะมีเนื้อและน้ำออกมาพร้อมกัน มีความเป็นด่างของอุจจาระสูง และกลิ่นของอึนั้นจะเหม็นมาก 1.2การเอาลำไส้ใหญ่มาเปิดเป็นรู การผ่าตัดแบบนี้จะมีถุงอุจจาระอยู่บริเวณส่วนบนของท้อง รูทวารเบบนี้มี 2 รูเปิด โดยบริเวณที่มีอึจะเรียกว่า proximal loop และอีกรูเรียกว่า distal loop รู distal loop จะมีเมือกออกม แล้วส่วนมากรูในรูปแบบนี้จะเป็นการเปิดแบบชั่วคราว เพราะอุจจาระที่ถ่ายออกมาจะเป็นแบบเหลว มีปฎิกริยาเป็นด่างและมีกลิ่นเหม็น 1.3การเอานำลำไส้ใหญ่มาเปิดรู การผ่าตัดแบบนี้จะมีถุงอุจจาระอยู่บริเวณด้านซ้ายของท้อง ส่วนมากจะพบที่คนชราที่เป็นมะเร็งหูรูดและทวารหนัก อุจจาระเป็นเบบก้อน ไม่มีปฎิกริยาของด่าง เพราะน้ำและอาหารถูกดูดซึมจนหมดที่ลำไส้ใหญ่โดยมีแต่กากอาหารเหลืออยู่เท่านั้น ทำให้กลิ่นของอุจจาระไม่เหม็น 2.การผ่าตัดทำรูทวารหนักแบบลำไส้เล็ก โดยใช้ส่วนปลายของลำไส้เล็กมาเปิดเป็นรูทวารบริเวณด้านขวาของหน้าท้อง มีทั้งแบบรูทวารเปิดเบบ 1 รู และ 2 รู ส่วนมากเปิดเป็นแบบ 2 รู เป็นรูทวารที่เปิดแบบชั่วคราว อุจจาระจะเป็นแบบน้ำและมีกลิ่นฉุนไม่มากแต่มีค่าความป็นด่างที่สูง ซึ่งมีสิทธิ์ทำลายผิวหนังได้ อนึ่งคนชราที่มีทวารหนักแบบลำไส้เล็ก ส่วนมากจะเจอว่ามีโอกาสเสี่ยงต่ออาการขาดเกลือโซเดียมและน้ำ เนื่องจากว่าร่างกายของคนชรามีการขับเกลือโซเดียมและน้ำออกมาเป็นเยอะ ทำให้ลำไส้ใหญ่ไม่สามารถดูดเกลือโซเดียมและน้ำกลับเข้าไปแทนที่ อนึ่งตำแหน่งของลำไส้เล็กส่วนปลายยังเป็นตำแหน่งที่ดูดซึมวิตามินบี 12 และเกลือน้ำดีส่งผลให้คนชรามีอาการดูดซึมไขมันไม่ราบรื่น เพราะมีการทำงานที่ไม่สมบูรณ์ของการดูดซึมกลับของน้ำดี และเกิดลักษณะที่เรียกว่าซีด เนื่องจากการดูดซึมที่ไม่สมบูรณ์ของวิตามินบี 12 การผ่าตัดย้ายท่อขับถ่ายปัสสาวะ รูที่ใช้เป็นท่อขับถ่ายปัสสาวะเรียกว่า ทวารเบาใหม่ ซึ่งย้ายส่วนลำไส้เล็กขนาดประมาณ 4 - 6 นิ้ว นำมาเปลี่ยนเป็นท่อปัสสาวะแบบใหม่ แล้วใช้ท่อไตทั้ง 2 ฝั่ง เย็บติดกับื่อของลไส้เล็ก รูปัสสาวะจะย้ายมาอยู่ที่ด้านขวาของหน้าท้อง เป็นรูปัสสาวะที่เปิดเป็นแบบถาวร ส่วนมากจะพบที่คนชราที่มีอาการของกระเพาะปัสสาวะหดรัดตัวผิดปกติ อุบัติเหตุที่ทำให้กระเพาะปัสสาวะฉีกขาด มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ความไม่สมบูรณ์ของกระเพาะปัสสาวะตั้งแต่เกิด มีรูที่สามารถผ่านไปมาตรงกลางของช่องคลอดกับลำไส้ จากการการรักษาทางการแพทย์แบบรังสี เป็นต้น โดยทั่วๆไปปัสสาวะจะเป็นปฎิกริยาแบบกรดซึ่งมี pH 5-6 ฉี่ที่ถ่ายออกมานั้นไม่มีกลิ่นแต่จะเป็นเมือกผสมกับสีขาวขุ่น ซึ่งเมือกที่ขับออกมาจากลำไส้แล้วเปลี่ยนมาเป็นกระเพาะปัสสาวะแบบใหม่ทางการแพทย์ถือว่าสมบูรณ์ ข้อเสนอแนะของ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ รามอินทรา คือสำหรับคนชราที่ผ่าตัดเปิดลำไส้บริเวณหน้าท้อง หลังออกจากโรงพยาบาลประมาณหนึ่งสัปดาห์ แผลที่ตำแหน่งถุงหน้าท้องก็จะแห้งสนิท และกระบวนการขับถ่ายอุจจาระก็จะเข้าสู่ภาวะสมบูรณ์ด้วยเช่นกัน คนชราจึงสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติดังเดิม หลังออกจากโรงพยาบาล 24 32 สัปดาห์ คนชราก็จะสามารถเล่นกีฬาหรือออกกำลังได้ แต่ไม่ควรที่จะเล่นกีฬาที่ออกแรงมาก และต้องงดการถือของที่มีน้ำหนักเยอะเพราะมีสิทธิ์ทำให้มีอาการไส้เลื่อนได้ บริโภคอาหารได้ทุกอย่าง เว้นแต่บางอาการที่ต้องควบคุมการบริโภคอาหาร เช่น คนชราที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคไต เบาหวาน โรคตับ เป็นต้น ผู้สูงอายุที่ผ่าตัดมาสมควรงดอาหารที่ทำให้มีโอกาสเป็นกลิ่นหรือแก๊ส เช่น เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของการอัดลม ผักประเภทชะอม อาหารที่มีส่วนผสมของถั่ว ผักสะตอ เป็นต้น แต่ก็มีสินค้าบางอย่างที่สามารถช่วยลดกลิ่นฉุนได้ เเละจากคำแนะนำของ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ สมุทรปราการ ได้บอกว่าคนชราจะต้องดื่มน้ำอย่างน้อย วันละ 2 ลิตร เพื่อลดอาการท้องผูก หลังการผ่าตัดหากคนชรามีเลือดออกนิดหน่อยก็ไม่ต้องตระหนก เพราะอาจเป็นผลมาจากการทำความสะอาดที่รุนแรงหรือบ่อยจนเกินไป หลังออกจากโรงพยาบาลคนชราสามารถมีความต้องการทางเพศได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเข้าใจของคนในครอบครัว
 อาการไม่ปกติที่ควรมาโรงพยาบาล คือ 1. ผิวหนังบริเวณทวารเทียมเกิดแผลเปื่อยหรือการอักเสบที่เกิดจากอุจจาระไปโดนที่ตำแหน่งของผิวหนัง เกิดจากการปิดถุงที่บริเวณหน้าท้องที่ไม่สนิทหรือตำแหน่งของทวารเทียมไม่สมบูรณ์ จึงทำให้การไหลออกของอุจจาระอย่างช้าๆ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์เป็นกรดหรือด่างที่รุนแรงในการอาบน้ำ ครอบคลุมถึงการระคายเคืองของกาวจากถุงทวารเทียม 2. คนชราที่ผ่าตัดทวารเทียมมานั้นมีรูตรงหน้าท้องที่เล็ก มีสีดำ หรือบวม 3. ลำไส้ของคนชราเลื่อนออกมามากจากปกติ 4. คนชรามีเลือดออกมาจำนวนมาก 5. เวลาอุจจาระจะมีกลิ่นเหม็นมาก และคนชราท้องเสียอย่างรุนแรง 6. คนชรามีอาการท้องอืด ท้องผูก อาเจียน ไม่ขับอุจจาระ สำหรับคนชราจะต้องทำการผ่าตัดย้ายทวารเทียมมาไว้ตรงหน้าท้อง ส่วนใหญ่จะมีอาการเครียดและมีอาการของคนวิตกกังวลเพราะว่ามีการดัดแปลงลักษณะทางกายภาพของตัวคนชราเอง ส่งผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนทางด้านการใช้ชีวิตของแต่ละวัน การดำเนินชีวิตในวงสังคม และมีสิทธ์ที่จะส่งผลถึงสถานภาพและความสัมพันธ์ในครอบครัว แต่ถ้าคนชรามีความเข้าอกเข้าใจและหมั่นศึกษาหาความรู้ในเรื่องของทวารเทียมและการบริบาลทวารเทียม รวมถึงการได้รับแรงส่งเสริมจากคนใกล้ชิดด้วยการพูดในทางที่ดี การไม่ออกอาการหรือท่าทางที่รังเกียจ ก็จะสามารถเพิ่มกำลังใจด้านบวกให้กับคนชราให้เขาได้รู้สึกว่าเขาก็ยังมีคุณค่าในตัวเอง ยังเป็นต้องการและเป็นที่รักของคนรอบๆตัวคนชราเองซึ่งจะทำให้เขาสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองและเข้าใจสถานการณ์รวมถึงโรคที่กำลังเป็นอยู่ได้
| Create Date : 01 มีนาคม 2560 |
| Last Update : 1 มีนาคม 2560 22:45:41 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 2539 Pageviews. |
 |
|
