space
space
space
<<
มีนาคม 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
space
space
27 มีนาคม 2560
space
space
space

การดูเเลเเผลกดทับในผู้สูงอายุ By บ้านพักคนชรา iCare Seniors Home



สวัสดีค่ะ วันนี้ทาง ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ บ้านพักคนชรา กรุงเทพ iCare Seniors Home จะมาอธิบายการดูแลผู้สูงอายุที่มีแผลกดทับกันคะ แผลกดทับนั้นส่วนมากจะเกิดขึ้นกับคนชราที่มีการนอนอยู่กับเตียงเป็นระยะนาน ผู้สูงอายุนอนติดเตียง มีการเปลี่ยนท่าได้น้อย ไม่มีการเปลี่ยนท่านอน หรือไม่ค่อยได้กลับตัว จนเกิดเป็นอาการกดทับที่ผิวหนังบริเวณตำแหน่งต่างๆได้ที่ตัวผู้ป่วยโดยเจอบ่อยที่ตำแหน่งผิวหนังบริเวณที่อยู่ใกล้กับกระดูกเช่น ผิวหนังบริเวณสะโพก กระเบนเหน็บ ก้นกบ และตามข้อต่อต่างๆเช่น เข่า ศอก และข้อเท้า การดูแลคนชราที่มีอาการแผลกดทับนั้น จะต้องใช้ระยะเวลาสำหรับการดูแลแผลเพราะแผลจะหายค่อนข้างช้า หายยาก ส่วนใหญ่จะขยายเป็นรอยขนาดกว้างขึ้น แผลลึกมากขึ้น และส่วยมากจะเกิดการติดเชื้อที่แผลกดทับตามมา การบริบาลแผลกดทับจึงเป็นสิ่งสำคัญ




การทำความสะอาดแผล

รวมถึงการดูแลเรื่องอาหารเพื่อทำให้แผลหายเร็วขึ้น พร้อมทั้งการพลิกตะแคงตัวคนชราบ่อยๆซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการดูแลเมื่อมีแผลกดทับแล้ว เพราะเป็นการลดการกดทับและทำให้เกิดการไหลเวียนของระบบเลือดดีขึ้น และเป็นการลดการเพิ่มขึ้นจากแผลกดทับ บล็อคนี้จะพูดถึงการดูแลแผลกดทับเมื่อเกิดมาแล้ว เพื่อที่จะให้การดูแลแผลกดทับปฎิบัติถูกต้องจนแผลหายสนิท และไม่ให้มีการลุกลามและการติดเชื้อ ถึงแม้ว่าการดูแลคนชราที่นอนติดกับเตียง การป้องกันเพื่อที่จะไม่ให้เกิดแผลกดทับ ก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญสุดที่จะสามารถดูแลตัวเองได้ การอภิบาลแผลกดทับสามารถแยกการอภิบาลได้ตามระดับ, ประเภท, ระยะ ของแผลกดทับซึ่งแบ่งเป็น 4 ระดับ เริ่มจากระดับที่ความรุนแรงของแผลน้อยไปถึงระดับที่มีความรุนแรงของแผลมาก

ระดับที่ 1 ของแผลกดทับ พนักงานจาก บ้านพักคนชราสวางคนิวาส ได้บอกว่า : ผิวหนังตรงตำแหน่งที่ถูกกดทับจะเป็นรอยแดง แต่ยังไม่มีการถลอก ซึ่งสีของผิวหนังจะไม่เหมือนกับสีผิวหนังที่เป็นธรรมชาติตรงตำแหน่งใกล้ๆ พูดง่ายๆก็คือจะเกิดเป็นรอยสีแดงเวลามีการกดทับ รอยสีแดงบริเวณนั้นๆจะไม่จางไปถึงแม้จะรอถึง ½ ชั่วโมง โดยรอยสีแดงนี้จะไม่จางไป เวลามีการเคลื่อนไหวหรือเปลี่ยนท่าทางหรือการพลิกตัวคนชรา การดูแลคนชราประเภทที่มีรอยแดงบริเวณผิวหนัง ผู้ดูแลควรปฏิบัติตามนี้ การปรับท่าทางคนชราจากท่าแบบเดิมๆ โดยการพลิกตัวหรือตะแคงบ่อยๆ ปรับท่านอนหงาย อย่างน้อยทุก 60 นาทีพร้อมกับการดึงผ้าปูที่นอนให้เรียบตึง สะอาด และแห้งอยู่ตลอดเวลา เพราะการที่ผ้าปูที่นอนไม่เรียบจะทำให้ผิวหนังที่แดงสามารถเกิดเป็นแผลกดทับได้ง่ายขึ้น แล้วการดูแลผ้าปูที่นอนให้สะอาด และแห้งมันทำให้การติดเชื้อของแผลลดน้อยลง ไม่ควรประคบหรือนวดด้วยความร้อนตรงตำแหน่งของผิวหนังที่มีรอยแดง เพราะการประคบหรือนวดด้วยความร้อนจะเป็นขยายการบวมของผิวหนังส่วนนั้น หมิ่นแหม่ต่อการฉีกขาดของผิวหนังและมีโอกาสเกิดแผลกดทับที่สามารถกลายเป็นระดับที่ 2 เคลียร์ชนวนการกดทับหรือต้นเหตุของสิ่งต่างๆ เช่น ผิวหนังที่แฉะหรือชื้นจากการถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ ที่เลอะฟูก หลังการขับถ่ายทุกครั้งก็ต้องทำความสะอาด อภิบาลผิวหนังให้สะอาด ใช้ครีมทาผิวเพื่อป้องกันผิวแห้งโดยให้ทาผิวหนังบ่อยๆและต้องทาทุกครั้งหลังการเช็ดตัวหรืออาบน้ำเพราะต้องการให้ผิวหนังไม่แห้งกร้าน ใช้ผ้านุ่มหรือหมอนรองบริเวณข้อต่อต่างๆ เช่น ข้อเท้า ข้อมือ ข้อศอก หัวไหล่ ข้อเข่า และกระดูกบริเวณอื่นๆ ที่จะสามารถมีแผลกดทับได้ง่าย

ระดับที่ 2 ของแผลกดทับ : ผิวหนังทั้งหมดถูกทำลาย มีแผลลึกถึงชั้นพังผืด และชั้นใต้ผิวหนัง แต่ยังไม่ลึกถึงชั้นเอ็น กระดูก กล้ามเนื้อ และแผลที่มีในตอนนี้อาจเป็นโพรงเซาะ หรือหลุมลึกใต้ขอบแผล มีสิทธ์เจอเนื้อตายแต่ยังไม่ครอบแผลทั้งหมด แผลกดทับระดับนี้เป็นระดับที่ผิวหนังถูกทำลายถึงหนังกำพร้าเยอะขึ้น ทำให้มีตุ่มน้ำพองและเป็นแผลเปิด ในขั้นนี้เราจะต้องดูแลผิวหนังและแผลกดทับโดยการทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือนอร์มัล แล้วปิดด้วยผ้าก๊อซ แล้วจึงปิดพลาสเตอร์ให้ติดผิวหนังบริวเณที่ไม่เป็นแผลด้านข้างโดยรอบ เพราะเราจะต้องให้ผ้าก๊อซไม่หลุด และควรทำความสะอาดแผลทุกวันวันละครั้ง ถ้าเกิดมีน้ำเหลืองซึมเปื้อนออกมาก็ต้องทำความสะอาดและเปลี่ยนผ้าก๊อซให้บ่อยขึ้น เรื่องที่ต้องระวังคืออุปกรณ์ทั้งหมดต้องสะอาดและปลอดเชื้อ มือต้องสะอาดทุกครั้งที่ทำแผล ต้องตะแคงและพลิกตัวคนชราทุก 60 นาที เพื่อบรรเทาการกดทับแผลและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้มาเลี้ยงแผลกดทับได้สบายขึ้น คนชราจะต้องทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่โดยเฉพาะประเภทโปรตีน และทานวิตามินซีจากผักและผลไม้เพราะมันจะทำให้แผลกบทับหายได้ไวขึ้น

ระดับที่ 3 ของแผลกดทับ : เกิดการพังทลายของผิวหนังทั้งหมด จนเห็นเอ็น กล้ามเนื้อ กระดูก หรือเยื่อหุ้มส่วนต่างๆ บริเวณโดยรอบอาจจะมีสะเก็ดหรือเนื้อตายบ้าง แล้วส่วนมากนั้นจะมีโพรงหรือช่องเซาะตรงตำแหน่งขอบแผล การบริบาลแผลกดทับในตอนนี้คือ ทำการบริบาลแผลโดยปิดผ้าก๊อซแล้วชุบด้วยน้ำเกลือนอร์มัล จากนั้นปิดแผลด้วยอุปกรณ์ที่หมอแนะนำ จะต้องทำความสะอาดแผลทุกๆ 3 - 5 วันหรือตามภาวะของแผล และต้องคอยดูและเฝ้าระวังการติดเชื้อเช่น มีหนอง กลิ่นเหม็นจากเนื้อตาย มีไข้  ถ้าแผลกดทับมีขนาดกว้างหรือเนื้อตายแล้วมีอาการดังกล่าว ควรนำคนชราไปโรงพยาบาลทันทีเพื่อรับการดูแลจากหมอ ซึ่งส่วนมากหมอก็ต้องตัดเนื้อที่ตายบริเวณนั้นออกและคนชราจะได้รับยาที่ถูกต้องตามรูปแบบการรักษาของหมอ

ระดับที่ 4 ของแผลกดทับ : เป็นระดับที่แผลมีความลึกไปถึงชั้นกล้ามเนื้อ ส่วนใหญ่จะพบแผลบริเวณที่ติดเชื้อ การบริบาลแผลกดทับในขั้นนี้เหมือนในระดับที่ 3 ของแผลกดทับ คือจะต้องได้รับคำแนะนำจากหมอเพื่อให้การบริบาลแผลที่ถูกต้อง คนชราจะต้องเข้ารับการดูแลที่โรงพยาบาลที่มีความเหมาะสมทั้งหมอ พยาบาลและยาที่ใช้ในการรักษาแผลกดทับ

การบริบาลเพื่อให้การหายของแผลกดทับได้เร็วขึ้นสามาถปฎิบัติตาม ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ พระราม2 ได้ดังนี้

จากบทความของ บ้านพักคนชรา pantip การบริบาลด้านโภชนาการ : ผลจากการบริบาลแผลให้สะอาด การบรรเทาจำนวนเชื้อโรคจากแผลแล้ว เราจะต้องสนับสนุนการหายของแผลด้วยการบริบาลให้คนชราได้ทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ เพราะเราต้องการให้ร่างกายของคนชราได้รับครบอาหารครบถ้วนและพอแหมาะกับความต้องการของร่างกาย เช่นการเพิ่มโภชนาการโปรตีนจากนม ไข่ และเพิ่มโภชนาการที่มีวิตามินซีเช่น ผลไม้ ผักสด หรืออาหารเสริมในรูปเบบต่างๆโดยท่านสามารถปรึกษาหมอ พยาบาล หรือนักโภชนาการ ในเคสที่คนชรากินอาหารเองได้ไม่มาก หรือกินอาหารเองไม่ได้เลย หมออาจต้องแนะนำให้อาหารทางสายยาง โดยให้อาหารผ่านทางหน้าท้องหรือจมูก ซึ่งหลักเกณฑ์ของอาหารที่ให้ทางสายยางจะต้องเป็นอาหารที่มีส่วนผสมของโปรตีนมากเช่น เสริมไข่ขาวในอาหารแต่ละมื้อ ซึ่งไข่ขาวจะช่วยเพิ่มจำนวนเนื้อเยื่อจนทำให้แผลกดทับหายได้รวดเร็วมากขึ้น หรือให้สารอาหารและน้ำทางหลอดเลือดดำชดเชยแทน แต่ต้องอยู่ในการดุแลของหมอ อนึ่งหากคนชรามีแผลกดทับและมีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน พนักงานผู้ดูแลคนชราจะต้องเฟ้นอาหารที่พอดีกับอาการของโรคนั้นด้วยเช่น ตัดโภชนาการประเภทน้ำตาล แป้ง สำหรับคนชราที่มีอาการเบาหวาน หรือตัดไขมัน เกลือ ในคนชราที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง เราอาจพูดได้ว่าแผนสำคัญของโภชนาการที่สนับสนุนการฟื้นตัวของแผลกดทับจะต้องเป็นโภชนาการที่มีโปรตีนเยอะควบคู่กับสังกะสี และวิตามนซีอย่างเหมาะสม

การดูแลร่างกายคนชราให้ได้รับน้ำอย่างเหมาะสม : การให้คนชราดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 – 3 ลิตรสำหรับคนชราบางคนที่ไม่มีข้อจำกัดสำหรับการดื่มน้ำ เพราะจะเป็นการช่วยเติมการไหลเวียนเลือด มีผลทำให้ออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงแผลได้ดี ผลคือแผลหายได้ไวขึ้น และน้ำก็ช่วยขับปัสสาวะและอุจจาระออกจากร่างกาย คนชราก็สดชื่นมากขึ้นและช่วยบรรเทาอาการผิวแตกหรือแห้งได้ดีอีกด้วย

การตะแคงหรือพลิกตัวคนชรา : นับว่าเป็นสิ่งสำคัญและมีผลต่อการทุเลาของแผลกดทับ เพราะการกลับตัวทุก 60 นาที จะเป็นการช่วยลดการเกิดแผลกดทับที่ใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ยังบรรเทาให้แผลกดทับนั้นตื้นขึ้นและหายได้ไวขึ้นอีกด้วย

การพักผ่อนอย่างพอเหมาะ : การพักผ่อนวันละ 6 - 8 ชั่วโมงเป็นบทบาทหนึ่งของการสนับสนุนการทุเลาของแผลกดทับ เพราะตอนที่เรากำลังนอนหลับนั้นร่างกายจะมีการฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอ คนชราบางคนที่มีแผลกดทับแผลก็จะดูดีขึ้นและหายเป็นปกติในที่สุด


จากข้อมูลของ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ pantip กล่าวไว้ว่าหัวใจสำคัญสำหรับการบริบาลผู้สูงอายุคือเมื่อเป็นแผลกดทับแล้วคือ การบริบาลแผลกดทับไม่ให้มีการกระจายของแผลกดทับเพิ่มมากขึ้น และสนับสนุนการหายของแผลกดทับ การบริบาลแผลกดทับจะเป็นการบริบาลตามระดับของการเกิดแผลกดทับ เริ่มตั้งแต่การตะแคงตัวคนชรา สิ่งจำเป็นสำหรับการทำให้แผลปลอดเชื้อ การทำความสะอาดแผล การกินอาหารที่มีวิตามินซีมาก โปรตีนมาก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการหายของแผล ถ้าหากแผลกดทับกระจายกว้างมากขึ้นหรือมีอาการของการติดเชื้อ ควรรีบนำคนชรามาพบหมอที่โรงพยาบาลเพราะจะทำให้การรักษาหรือบริบาลที่ถูกต้องต่อไป

บ้านพักคนชรา www.facebook.com/icareseniorshome




 

Create Date : 27 มีนาคม 2560
0 comments
Last Update : 27 มีนาคม 2560 22:09:26 น.
Counter : 1462 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

สมาชิกหมายเลข 3699684
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 3699684's blog to your web]
space
space
space
space
space