สวัสดีค่ะ วันทาง ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ บ้านพักคนชรา iCare Seniors Home จะมาเเนะนำวิธีการให้อาหารทางสายยางกันคะ การให้อาหารทางสายยางเป็นการทำอาหารให้เหลวและอาหารเหลวนั้นเข้าสู่กระเพาะอาหารโดยตรงผ่านทางสายยางเพื่อให้ร่างกายได้รับยาน้ำและอาหารที่เพียงพอกับความต้องการของแต่ละคน โดยผู้ที่ได้รับอาหารทางนี้คือคนที่ไม่สามารถจะกินอาหารเองได้หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบการกลืนซึ่งหมอจะเป็นผู้ใส่สายยางโดยตรงและให้ไปลงกระเพาะอาหารการให้อาหารแบบนี้วิธีการหลักๆคือจะมีอาหารให้ครบทั้งห้าหมู่คือคาร์โบไฮเดรต (แป้ง,น้ำตาล,ข้าว) โปรตีน (ถั่ว,เนื้อสัตว์,นม, ไข่) ไขมัน (ไขมันสัตว์,น้ำมัน) วิตามิน+เกลือแร่ (ผลไม้ต่างๆ,ผัก) กล่าวโดยปกติจะต้องมีวิตามิน+เกลือ10% ไขมัน10-20% คาร์โบไฮเดรต40-50% โปรตีน20-30% โดย บ้านพักคนชรา pantip แนะนำว่าต้องขึ้นกับว่าผู้สูงอายุนั้นต้องหลีกเลี่ยงหรือต้องการอาหารประเภทใดบ้างแล้วจะทำเป็นสูตรอาหารในแต่ละบุคคลที่แตกต่างกันออกไปนอกจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับการหาซื้ออาหารดังกล่าวด้วยว่าผู้จัดทำสูตรสะดวกในการเดินทางหรือไม่ผลไม้สดตามฤดูกาลกาลก็สามารถนำมาปั่นเข้ากับสูตรอาหารได้เหมือนกัน
การให้อาหารทางสายยางสามารถแบ่งออกเป็นสองแบบตามตำแหน่งของผู้ป่วยคือ 1.ใส่สายยางทางหน้าท้อง 2.ใส่สายยางทางจมูก โดยทั้งสองแบบนี้ใช้วิธีการและหลักการปฏิบัติที่เหมือนกัน อุปกรณ์ที่ใช้ 1.น้ำที่สะอาดเพื่อที่จะล้างสาย50 100 CC 2.ยาที่หมอสั่ง 3.ภาชนะสำหรับที่จะให้อาหารขนาด50 cc (รูปร่างคล้ายกระบอกฉีดยาโดยปลายที่ต่อกับสายยางจะมีขนาดใหญ่กว่า) 4.แอลกอฮอล์70% และสำลี 5.อาหารที่เหลวและอุ่นแบบพอดีตามสูตรที่หมอสั่ง 6.ภาชนะที่มีฝาปิดเพื่อที่เอาไว้ใส่กระบอกแก้ว
เเพทย์ประจำ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ รังสิต ได้เเนะนำว่าการเตรียมอาหารสำหรับผู้ป่วย ให้แยกออกเป็นสองแบบ 1.อาหารปั่นละเอียดที่จัดทำขึ้นมาเอง 2.อาหารตามแบบที่หมอเป็นผู้สั่งมีทั้งแบบสำเร็จรูปและแบบเป็นน้ำที่สามารถใช้ได้ทันทีหรือน้ำต้มสุกที่ใช้ชงกับผง ตัวอย่างแบบอาหาร ส่วนผสม -ผักตำลึง หนึ่งขีด (โดยสามารถใช้ผักกาด, ผักบุ้งหรือผักอื่นๆแทนผักตำลึงแทนได้) -น้ำตาลทรายสิบช้อนโต๊ะ -ไข่ลวกสามฟองต้มห้านาที -เกลือป่นครึ่งช้อนชา -น้ำมันถั่วเหลืองสามช้อนชา -เนื้อไก่ที่ละเอียดน้ำหนักหนึ่งขีด วิธีการทำ -นำอาหารทั้งหมดใส่ลงในหม้อต้มยกเว้นไข่ลวกที่แยกออกมาแล้วใส่น้ำให้พอดี
-ตั้งไฟเคี่ยวจนเปื่อยแล้วให้ตั้งทิ้งไว้จนอาหารเย็น
-นำไข่ที่ลวกมารวมกับผักที่ต้มไว้แล้วใส่ลงในเครื่องปั่นจากนั้นให้ปั่นจนอาหารทั้งหมดละเอียด
-นำอาหารทั้งหมดมากรองใส่ในขวดแล้วจึงเติมน้ำสุกให้ครบหนึ่งลิตร
สิ่งที่ต้องระมัดระวัง -อาหารที่ปั่นจนละเอียดแล้วจะต้องรับประทานให้หมดภายในหนึ่งวันหรือ24 ชั่วโมง
-อาหารปั่นแล้วรับประทานไม่หมดควรเก็บเข้าตู้เย็นชั้นล่างไม่ควรแช่ช่องแข็งหรือช่องฟรีซ
-จานชามหรือภาชนะที่ใช้ควรจะต้องลวกน้ำร้อนก่อนเก็บและแยกชุดออกต่างหากไม่ควรที่จะใช้ร่วมกับคนอื่น วิธีการให้อาหารจำแนกออกเป็นสองวิธีการดังต่อไปนี้ 1.Intermittent enteral tube feeding เป็นวิธีที่ให้อาหารทางสายยางโดยให้เป็นครั้งคราววันละสี่ถึงหกมื้อซึ่งส่วนมากควรจะให้ตามมื้อของอาหารคืออาหารสำหรับมื้อเช้าอาหารสำหรับมื้อกลางวันอาหารสำหรับมื้อเย็นในบางวันที่อาหารเหลวมีจำนวนที่มากเราสามารถที่จะแบ่งออกเป็นสี่มื้อคืออาหารสำหรับมื้อก่อนนอนด้วยก็ได้ส่วนระหว่างวันเราควรที่จะให้น้ำหวานหรือน้ำเปล่าเพื่อให้ร่างการของผู้สูงอายุได้รับน้ำอย่างเพียงดีและพอเหมาะ 2.Continuous enteral tube feeding เป็นวิธีให้อาหารทางสายยางโดยให้อาหารอย่างต่อเนื่องเช่นการหยอดทางสายยางให้อาหารลงอย่างช้าๆไม่รีบร้อนในรายที่ผู้สูงอายุไม่อาจที่จะรับประทานอาหารได้ครั้งละเยอะๆดังตัวอย่างที่ผู้สูงอายุที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบการย่อยหรือระบบดูดซึมเราสามารถควบคุมจำนวนการหยอดอาหารเหลวด้วยเครื่องหยดอาหารโดยเฉพาะ ข้อปฏิบัติในการให้อาหารNasogastric tubeทางจมูกของ บ้านพักคนชรา กรุงเทพ 1.บอกผู้สูงอายุให้รู้ก่อนว่าเราจะให้อาหาร 2.ถ้าผู้ป่วยสามารถลุกนั่งได้ก็ให้เตรียมพร้อมอยู่ในท่านั่งแต่ผู้ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ก็ควรจัดท่าให้อยู่ในตำแหน่งที่ศีรษะสูงหรือกึ่งนอนกึ่งนั่งสำหรับผู้ป่วยที่เจาะคอหรือมีอาการของเสมหะในคอจำนวนมากเราต้องดูดเสมหะออกก่อนให้เรียบร้อยทุกครั้งโดยก่อนที่จะทำการให้อาหารเพราะว่าเราต้องการที่จะกันการไหลย้อนกลับขึ้นมาของอาหารตอนที่กำลังเข้าหลอดลมเพราะจะทำผู้ป่วยให้สำลักอาหารได้ 3.ผู้ที่ให้อาหารจะต้องล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และเช็ดมือให้แห้งด้วยผ้าสะอาดอยู่เสมอ 4.ต้องหมั่นทำความสะอาดสายยางโดยการใช้สำลีที่ชุบด้วยแอลกอฮอล์และต้องให้สายยางไม่เปลี่ยนหรือต้องอยู่ในตำแหน่งเดิมโดยทำสัญลักษณ์ไว้ที่สายยาง 5.เวลาที่ต่อกระบอกแก้วเข้ากับสายยางพนักงานจะต้องทดลองดูดด้วยลูกสูบว่าสายยางอยู่ในกระเพาะอาหารของผู้ป่วยหรือไม่ถ้าอยู่ในกระเพาะอาหารเราจะสามารถดูดน้ำย่อยหรือได้น้ำออกมา 6.เมื่อพนักงานดูดอาหารที่ค้างในกระเพาะอาหารออกมาถ้ามีปริมาณที่มากกว่า50 CCให้ใส่กลับเข้าไปโดยใช้เวลารอประมาณ60 นาทีแต่ถ้ายังมีอาหารค้างอยู่มากเหมือนเดิมให้งดอาหารมื้อนั้นเพื่อป้องกันอาการท้องอืดจากอาการดังกล่าวจะบอกเราได้ว่าระบบการย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดี 7.พับสายยางเอาไว้ก่อนแล้วจึงเริ่มหยอดอาหารลงในกระบอกแก้วคลายสายยางที่พับไว้โดยให้อาหารหล่นลงอย่างช้าๆวิธีการนั้นจะต้องยกกระบอกแก้วให้อยู่สูงกว่าระดับหน้าอกและหมั่นเติมอาหารอยู่ตลอดเพื่อกันไม่ให้อากาศเข้าไปและต้องคอยสังเกตว่าหากมีอาการไม่ปกติเช่นการอาเจียนหรือสำลักขณะให้อาหารเราจะต้องให้หยุดทันที 8.เตรียมยาสำหรับกินหลังอาหารให้พร้อมถ้าเป็นยาเม็ดเราจะต้องบดให้ละเอียดละลายยากับน้ำให้เข้ากันแล้วเทยาใส่ลงไปในกระบอกแก้วหลังจากนั้นก็ตามด้วยน้ำเปล่าประมาณ50 CCเพื่อล้างสายยางให้สะอาดเรียบร้อย 9.ถือปลายสายยางให้อยู่สูงเพื่อให้น้ำในสายยางไหลสู่กระเพาะอาหารให้หมดแล้วปิดจุกยางให้แน่นทำความสะอาดปลายสายยางอีกหนึ่งครั้งด้วยสำลีที่ชุบด้วยแอลกอฮอล์ 10.หลังหยอดอาหารเนียบร้อยแล้วจัดท่าของผู้สูงอายุให้นอนหงายหัวสูง60 องศาโดยให้อยู่ในท่านี้ประมาณ30 60 นาทีเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้อาหารไหลย้อนกลับซึ่งอาจจะทำให้ผู้สูงอายุสำลักและอาเจียนได้ 11.ทำความสะอาดกระบอกแก้วด้วยการล้างหลังการใช้ทุกครั้งหลังจากน้นให้นำไปต้มด้วยน้ำเดือดแล้วเก็บในบริเวณที่มีฝาปิดแห้งและสะอาดเพื่อความพร้อมสำหรับการใช้งานในครั้งต่อไป วิธีให้อาหารผ่านหน้าท้องทางสายยาง การให้อาหารผ่านบริเวณหน้าท้องด้วยสายยางของผู้สูงอายุหรือการให้อาหารด้วยสายยางโดยที่บริเวณปลายสายยางจะอยู่ที่ลำไส้เล็กหรือกระเพาะอาหารของผู้สูงอายุจะอยู่ในผู้ที่ไม่อาจที่จะใส่สายผ่านทางกระเพาะอาหารหรือจมูกได้หรือในผู้ที่จำเป็นต้องให้อาหารทางสายยางเป็นเวลานานเช่นผู้สูงอายุที่ไม่รู้สึกตัว วิธีการให้อาหาร 1.พนักงานต้องล้างมือให้สะอาด 2.เตรียมความพร้อมของอุปกรณ์สำหรับการให้อาหารเหลวและปฎิบัติตามแผนการรักษา 3.บอกให้ผู้สูงอายุทราบ 4.จัดเตรียมผู้สูงอายุให้เตรียมพร้อมในท่านั่งหรือนอนหงายโดยหัวต้องอยู่สูงหรือถ้าผู้สูงอายุนอนหงายไม่ได้ก็จะต้องผู้สูงอายุให้นอนตะแคงขวาและหัวอยู่สูงเป็นอย่างน้อย30-60 องศา 5.เปิดจุกที่สำหรับเปิดสายให้อาหารแล้วทำความสะอาดรูเปิดด้านนอกของสายยางด้วยสำลีที่ชุบด้วยน้ำต้มสุก 6.สวมปลายAsepto Syringe ให้พอดีกับรูเปิดของสายยางโดยรัดให้แน่น 7.เปิดclamp สายgastrostomy ลองดูดดูว่ามีอาหารมื้อก่อนหน้านี้เหลือค้างอยู่ในกระเพาะหรือไม่ 8.พับสายgastrostomy แล้วปล่อยAsepto Syringe ออก 9.สวมปลายAsepto Syringe ให้พอดีกับรูของสายให้อาหารขณะที่ยังพับอยู่ 10.พอเริ่มให้อาหารเหลวต้องดูให้อาหารหล่นอย่างช้าๆและต่อเนื่องเพื่อที่จะป้องกันอากาศดันเข้าไปในกระเพาะอาหาร 11.พออาหารเหลวเริ่มที่จะหมดไซริงค์ก็ค่อยๆหยดน้ำ30-50 ML 12.พับสายgastrostomy แล้วปล่อยAsepto Syringe จากนั้นปิดclamp สายgastrostomy ให้แน่น 13.ปิดจุกที่ปลายสาย 14.จัดท่าให้ผู้สูงอายุนอนในท่าตะแคงขวาและหัวต้องอยู่สูงหรือนอนหงายต่อไปอีก60 นาทีจากนั้นเก็บอุปกรณ์และทำความสะอาดเครื่องใช้ การรักษาและดูแลสายยางสำหรับให้อาหาร 1.เปลี่ยนพลาสเตอร์ที่ติดอยู่ที่จมูกกับสายยางเมื่อสายหลุดหรือทุกๆ2 3 วัน 2.ทำความสะอาดรอบจมูกและรูจมูกด้วยผ้าชุบน้ำและไม้พันสำลี 3.ต้องทำเครื่องหมายไว้เป็นจุดสังเกตและต้องหมั่นระวังสายยางเลื่อนหรือหลุดออก
4.ถ้าสายยางหลุดหรือเลื่อนออกผู้ดูแลไม่ควรใส่เองต้องพาผู้สูงอายุมาพบหมอเพราะอาจใส่ผิดไปเข้าหลอดลมได้ 5.ควรนำมาพบหมอที่ บ้านพักคนชราสวางคนิวาส ทุกเดือนเพื่อเปลี่ยนสายยางเวลาที่สกปรก
จากคำเเนะนำของพยาบาลประจำ บ้านพักคนชรา iCare Seniors Home ได้บอกว่าอาการที่ไม่ปกติและจะต้องปรึกษาหมอ 1.มีอาการไข้ขึ้นสูง 2.น้ำหนักตัวลดลง 3.เกิดอาการสำลักอาหารบ่อยๆ 4.ไม่ทราบอาการหรือสาเหตุของท้องอืดหรือท้องเดินที่มีอาการบ่อยๆ
บ้านพักคนชรา www.facebook.com/icareseniorshome
Create Date : 28 มีนาคม 2560 |
Last Update : 28 มีนาคม 2560 23:44:32 น. |
|
1 comments
|
Counter : 5554 Pageviews. |
|
|