Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
20 กุมภาพันธ์ 2550
 
All Blogs
 
จอมจักรพรรดิ์ ฮั่นอู่ตี้ ภาค 1 - ตอนที่ 21


สารบัญ | ตอนที่แล้ว | ตอนถัดไป

《ต้าฮั่นเทียนจื่อ #21》 กุ๊กๆกิ๊กๆกันอยู่สองคน


ตีพิมพ์ครั้งแรก : 1 เมษายน 2550 / ปรับปรุงแก้ไข :




ค่ำคืนนี้ไท่จื่อกับกัวเส่อเหรินนั่งอยู่ในคุกอย่างสบายใจไม่ต้องยืนแช่น้ำเหมือนวันก่อนๆ แต่ทั้งสองก็ยังคงมีอาการอ่อนเพลียอยู่

กัวเส่อเหริน ทำไมวันนี้เจ้าพวกนั้นถึงไม่เทน้ำลงมาอีกนะ หรือว่าน้ำในบ่อในจวนเจ้าเมืองเยี่ยนชื่อแห้งขอดไปหมดแล้ว” พูดจบไท่จื่อก็หัวเราะขึ้นอย่างดีใจ จากนั้นก็ถามอาการของกัวเส่อเหริน “ขาของเจ้าพอจะมีความรู้สึกขึ้นบ้างหรือยัง”

“ข้าของข้าไม่รู้สึกอะไรแล้ว แม้แต่เอวของข้าตอนนี้ก็ไม่รู้สึกอะไรเลย” กัวเส่อเหรินตอบ

“มานี่ มา ข้าจะนวดหลังให้เจ้าเอง”

“ไม่ต้อง ไม่...” กัวเส่อเหรินปฏิเสธ แต่ไท่จื่อไม่สนใจเขยิบไปที่ด้านหลังของกัวเส่อเหรินแล้วเอามือนวดที่เอวให้เบาๆ

“ดีขึ้นบ้างไหม” ไท่จื่อถาม

“สบาย สบายทีเดียวเชียว จิ่วเกอ ข้านึกไม่ถึงเลยว่า พวกเจ้าเมืองเยี่ยนชื่อจะร้ายกาจได้ถึงเพียงนี้ ถ้าไม่เห็นกับตาก็คงไม่รู้ เห็นแล้วก็อดอกสั่นขวัญหายไม่ได้”

“ต้องเรื่องนี้ จึงจะทำให้เค้าหลุดจากตำแหน่งเจ้าเมืองได้ หากกลับไปที่ฉางอันได้เมื่อไร ข้าจะกราบทูลต่อเบื้องพระพักตร์เสด็จพ่อให้เล่นงานเค้าให้หนักเลยทีเดียว”

“ข้าเกรงว่า ยังไม่ทันที่ท่านจะได้กราบทูล เจ้าคนชั่วนั่นคงจะสรรหาคำกล่าวเพ็ดทูลไปก่อนหน้าท่านแล้วนะสิ”

ได้ยินดังนั้นไท่จื่อก็เลิกนวด เอนกายพิงผนังกำแพงแล้วถอนหายใจ

จิ่วเกอ ท่านว่า จางทังกับคนอื่นๆตอนนี้กำลังทำอะไรกันอยู่ พวกเค้าจะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ยืนนิ่งเฉย ไม่ดูดำดูดีพวกเราหรือเปล่า(袖手旁观 不闻不问)”

“คงไม่หรอกมั๊ง พวกเราร่วมสาบานเป็นพี่น้อง เมื่อสาบานกันแล้ว ก็เหมือนเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน(兄弟手足)นั่นแหละ”

“ท่านพูดเหมือนกับว่าคนอื่นจะคิดเช่นเดียวกันกับท่าน ท่านไม่เคยได้ยินเหรอ คำกล่าวที่ว่า พี่น้องร่วมสาบาน(把兄弟)ก็แค่เรื่องเหลวไหล(臭狗屁)” พูดจบก็เอนหลังพิงผนังกำแพงบ้าง

ไท่จื่อไม่ว่าอะไรต่อได้แต่เอ่ยถามขึ้นว่า “กัวเส่อเหริน เมื่อวานตอนยามสอง เจ้าได้ยินเสียงอะไรหรือเปล่า”

“เสียงเหรอ ไม่ได้ยินนี่”

“เมื่อวานนี้ตอนยามสอง ที่ด้านหลังของสวนด้านโน้น ข้ารู้สึกเหมือนกับข้าจะได้ยินเสียงคนต่อสู้กัน(嘶杀) ไม่แน่นะ อาจจะเป็นก้วนฟูกับหลี่หลิงมาช่วยพวกเราก็ได้”

“จริงเหรอ แล้วหลังจากนั้นล่ะ” กัวเส่อเหรินเอ่ยถามอย่างดีใจ

“หลังจากนั้นเหรอ..หลังจากนั้นเสียงคนต่อสู้กันก็เงียบไป ดูเหมือน..ดูเหมือนว่าจะมีเสียงของคนร้องไห้ด้วยล่ะ”

“ร้องไห้อะไรกัน แล้วใครจะมาร้องไห้ หลี่หลิงร้อง หรือก้วนฟูร้องกันล่ะ”

“ไม่ใช่ ไม่ใช่พวกเค้าหรอก มีทั้งเสียงผู้ชายและก็เสียงผู้หญิง แถมส่งเสียงร้องคร่ำครวญปริ่มจะขาดใจอย่างไรอย่างนั้น”

“หวังว่า คงจะไม่ใช่เมียของเจ้าเมืองเยี่ยนชื่อเจ้าคนชั่วตายหรอกนะ”

ไท่จื่อหันไปมองหน้ากันกับกัวเส่อเหรินแล้วก็หัวเราะพร้อมกับเอ่ยออกมาด้วยความดีใจ “ตายเหรอ ก็สมควรดีแล้ว ข้านะอยากจะให้ตายหมดทั้งครอบครัวเลย”

“เจ้าคนชั่ว วันนี้ข้าไม่หลับไม่นอนมันแล้ว จิ่วเกอ คืนนี้ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนท่าน จะคอยดูซิว่าจะมีคนร้องไห้หรือไม่ ให้มีคนร้องไห้ทุกวันก็ดี ให้มีคนตายทุกวันก็ดี เจ้าคนชั่วจะได้มีเรื่องร้องไห้”

ไท่จื่อพลอยหัวเราะชอบใจไปด้วย “มา กัวเส่อเหริน ข้าจะช่วยนวดหลังให้เจ้าอีก”





ที่ห้องเก็บศพ ร่างของจากเชียนถูกคลุมมิดด้วยผ้าผืนสีขาว ชิวฉานกำลังส่งเสียงร้องคร่ำครวญ “ท่านพี่ ทำไมท่านถึงไม่รอให้ข้ากลับมาก่อนล่ะ ฮือๆ” จากนั้นก็หยิบก้อนหินปาไปที่นอกห้องเพื่อที่จะดูว่ามีคนคอยเฝ้าดูอยู่หรือไม่ “ไม่มีคนอยู่แล้วนี่ แล้วเราจะมัวร้องไห้ให้ใครฟังกัน” พูดจบก็ดึงหมอนออกจากท้องของตัวเองแล้วก็บ่น “เฮ้อ เหนื่อยเหมือนกันแฮะ เพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เองว่าการร้องไห้ไม่ใช่ง่ายๆ โอย ร้อนชะมัดเลย” ว่าแล้วก็ยกชายเสื้อขึ้นพัดให้กับตัวเอง ทันใดนั้นตาก็เหลือบไปเห็นมีถ้วยน้ำตั้งวางบูชาศพไว้ จึงคิดจะไปหยิบมาเพื่อที่จะดื่มดับกระหาย

“ท่านพี่จาง นี่เป็นน้ำของท่านหรือเปล่า ข้าน่ะคอแห้งหิวน้ำจนจะตายอยู่แล้ว ข้าขอดื่มก่อนนะ ขอโทษท่านด้วย ยังไงท่านก็ดื่มน้ำไม่ได้อยู่แล้ว” พูดจบก็ยกถ้วยน้ำขึ้นมาดื่ม ขณะที่กำลังดื่มก็ได้ยินเสียงถอนหายใจ ชิวฉานตกใจรีบเอ่ยถาม “ใครถอนหายใจ” มองไปรอบๆไม่เห็นใครจึงค่อยๆวางถ้วยน้ำลงแล้วเอ่ยถาม “ท่านพี่จาง ท่านถอนหายใจหรือเปล่า ท่านอย่าทำให้ข้าตกใจกลัวสิ” พูดจบก็หลับตาปี๋ค่อยๆเลิกผ้าที่คลุมศพจางเชียนขึ้น เมื่อเปิดผ้าออกเห็นเป็นเท้าจึงเอ่ย “โธ่เอ๊ย ตายแล้วยังจะกลับหัวกลับหางอีก” จากนั้นก็เดินไปอีกด้านหนึ่งเพื่อเลิกผ้าขึ้นมา เห็นจางเชียนนอนนิ่งก็เอ่ย “ข้าต้องหูฝาดไปแน่ๆ ท่านพี่จาง ท่านไม่ควรจะล้อเล่นแบบนี้นะ ท่านก็ตายไปแล้ว คนตายไม่ควรจะส่งเสียงออกมา” ไม่ทันจะพูดจบก็มีเสียงดังออกมา ชิวฉานตกใจรีบกระโดดถอยหนีแล้วเอ่ยอย่างโมโห “หากท่านทำข้าตกใจอีก ดูสิใครจะมาเฝ้าท่าน”

“ฮ่า ฮะ ฮ่า ไหนว่าไม่กลัวคนตายไง” เสียงของหลี่หลิงเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับโผล่หน้าออกมาจากด้านล่างของที่ตั้งศพ

“เจ้า เจ้านั่นเอง เจ้าคนผีทะเลมาเล่นบ้าๆอะไร เจ้าจะให้ข้าตกใจตายหรือไง”

“อะไรกัน ข้ามานี่เพื่อเป็นเพื่อนเจ้านะ”

“เจ้าเล่นทำเอาข้าตกอกตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อหมดอย่างนี้เนี่ยนะ เป็นการมาอยู่เป็นเพื่อนข้า” ชิวฉานต่อว่าใส่เป็นชุด

หลี่หลิงหน้าเสีย “เอาล่ะ เอาล่ะ ข้าบอกจะอยู่เป็นเพื่อนก็จะอยู่เป็นเพื่อนไง อยู่จนถึงเช้าเลยก็ได้ ตกลงมั๊ย”

“ใครบอกจะให้เจ้าอยู่เป็นเพื่อนกันล่ะ ข้าจะให้เจ้าชดใช้ให้ข้าต่างหาก”

“ข้าไม่สน(希罕)หรอก ข้าว่าเจ้าน่าจะยินดีดีใจซะด้วยซ้ำไป ข้าว่าเจ้าไม่ขอร้องข้าไม่ได้แล้วล่ะ(求之不得)”

“เจ้าคิดเองเข้าข้างตัวเอง(自作多情)ก็ได้แฮะ” พูดจบก็ลืมตัวนั่งลงข้างๆหัวของศพ

“เจ้าไม่ให้ข้าอยู่เป็นเพื่อน งั้นข้าไปก็ได้”

“เจ้าอยากไปก็ไปสิ” ชิวฉานสะบัดหน้างอน

“ข้าไปจริงๆละนะ” พูดจบก็เดินห่างออกมา สักพักก็ค่อยๆย่ำเท้าอยู่กับที่

ชิวฉานได้ยินเสียงฝีเท้าจึงรีบหันหน้ามาเรียก “เดี๋ยวก่อน”

“ข้ายังไม่ได้ไปไหนหรอก”

“ไหนๆเจ้าก็มาแล้ว นั่งพักสักแป๊บนึงก่อนก็ได้”

“ก็เจ้าไม่กลัวคนตายไม่ใช่เหรอ แม้แต่หัวของคนตายเจ้ายังกล้านั่ง แล้วข้าจะอยู่ทำไม”

ได้ยินดังนั้นชิวฉานรีบกระโดดเผ่นลุกจากที่นั่งทันที จากนั้นก็เอ่ย “ข้าบอกไม่กลัวก็ไม่กลัวสิ คนที่ตายจริงๆข้าก็ไม่กลัวหรอก แต่ดูเหมือนเค้าคนนี้จะไม่เชื่อฟังข้าเอาซะเลย” จากนั้นก็ใส่ลูกอ้อน “ท่านพี่หลี่หลิง ท่านอยู่เป็นเพื่อนข้าสักพักนึงก่อนเถอะนะ”

“เจ้าเป็นคนขอร้องข้าเองนะ”


“ได้ ได้ ถือซะว่าข้าขอร้องท่าน แต่ที่ข้าบอกว่าให้นั่งพักสักแป๊บนึงนั้นรวมเวลาแล้วก็ประมาณสามวันสามคืนนะ”




มืดค่ำแล้วขบวนม้าเดินทางของอ๋องเหลียงก็ยังเดินทางไม่ถึงเมืองเยี่ยนชื่อสักที

“อีกไกลไหม จึงจะถึงเมืองเยี่ยนชื่ออ๋องเหลียงเอ่ยถามขึ้น

“เรียนท่านอ๋อง อีกประมาณหกสิบลี้ครับ” นายทหารนำทางตอบ

“เร่งฝีเท้าม้าต่อไปไม่ต้องหยุดพัก ไปให้ถึงเมืองเยี่ยนชื่อโดยเร็ว”

“ทราบแล้ว”





ชิวฉานถือยาวิเศษที่ได้มาจากตงฟางซั่วไว้ในมือได้เอ่ยถามหลี่หลิงขึ้นว่า “ท่านว่า คนๆนี้จะฟื้นคืนชีพได้หรือเปล่า”

หลี่หลิงกอดอกก้มหน้าลงไปดู “ตายมาได้สี่วันแล้ว น่าจะหมดหวัง(够呛)นะ”

“ซินแสตงฟางบอกว่า หากอกเค้ายังอุ่นอยู่ ให้เค้าทานยาเม็ดนี้เข้าไป เค้าอาจจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาก็ได้”

“ไม่จริงมั๊ง ขนาดคนเป็นๆสองคนยังเกือบจะแข็งตาย ยาแค่เม็ดเดียวจะวิเศษขนาดนั้นเชียวหรือ”

“ท่านรีบจับตัวเค้าสิ”

“ให้ข้าจับตัวเค้าเนี่ยนะ”

“ก็ใช่นะสิ ถ้าเจ้าไม่จับตัวเค้าจะให้ข้าจับตัวเค้าหรือไง ข้าก็อยากจับอยู่หรอกนะ แต่ว่าชายหญิงไม่ควรจะถูกเนื้อต้องตัวกัน”

“เอ่อ อันที่จริงคนตายไปแล้วไม่แบ่งว่าเป็นชายหรือเป็นหญิงหรอก เจ้าจับตัวเค้า เค้าไม่ว่าอะไรเจ้าหรอก”

“อ้อ ข้ารู้แล้ว ที่แท้เจ้าก็กลัวคนตายนี่เอง นี่นะเหรอผู้กล้า ข้าว่า ต่อให้เจ้ามาเป็นน้องข้าก็ยังไม่คู่ควรเลย”

ได้ยินดังนั้นหลี่หลิงจึงรีบเถียง “ใครว่าข้ากลัวคนตาย ตอนที่เค้ายังมีชีวิตอยู่ข้ายังไม่กลัวเลย ตายแล้วทำไมข้าจะต้องกลัวเค้าด้วย”

“งั้นเจ้าก็จับตัวเค้าสิ จับสิ”

“จับก็ได้” หลี่หลิงกำลังจะเอื้อมมือไปจับก็ต้องชะงักรีบหดมือกลับมาทำให้ชิวชานต้องบอก “รีบจับเร็วๆเข้าสิ”

“จะให้ข้าจับเค้าตรงไหนล่ะ”

“ที่หน้าอกไง” ชิวฉานเห็นหลี่หลิงทำท่ากล้าๆกลัวไม่จับซะทีจึงเข้าไปกำชับใกล้ๆ “รีบๆจับตัวเค้าสิ” แต่หลี่หลิงก็ยังไม่เอามือไปแตะซะทีชิวฉานจึงเร่งบอกให้เร็วๆ

“เรามาจับตัวเค้าด้วยกันดีกว่านะ” หลี่หลิงเสนอความเห็น

“จับ..จับด้วยกันเหรอ เอาอย่างงั้นก็ได้”

แล้วทั้งสองต่างก็หันหน้าออกจากกันแล้วค่อยๆเอื้อมมือของตนเองออกไปเพื่อที่จะแตะที่หน้าอกของจางเชียน แต่ทว่าพอมือของเค้าทั้งสองมาชนกันทำให้ต้องชะงักรีบหดมือกลับไป

“ดูเหมือนจะไม่เย็นนะ” หลี่หลิงบอก

ทั้งสองลองเอื้อมมือไปแตะใหม่ มือของทั้งสองก็สัมผัสกันอีกจึงรีบหดมือกลับอีกรอบ “ดูเหมือนจะยังอุ่นๆอยู่” ชิวฉานบอก

คราวนี้ทั้งสองเอื้อมมือออกไปจับใหม่ ชิวฉานตกใจรีบร้องบอก “เค้าจับมือข้าไว้ด้วย”

“เค้าก็จับมือข้าไว้เหมือนกัน” หลี่หลิงบอก

ทั้งสองคนต่างรีบหันมาดูมือของตนเองแล้วรีบปล่อยมือออกจากกัน ชิวฉานต่อว่าทันที “เจ้ามาจับมือข้าไว้ทำไม”

หลี่หลิงอึกอักตอบไม่ถูกจึงตอบออกไปวา “เจ้า..มือของเจ้าร้อนกว่าข้าอีก”

ชิวฉานรีบเอ่ยกลบเกลื่อนความเขิน “ไม่รู้ล่ะ จะร้อนหรือไม่ร้อน ให้เค้าทานยานี่ก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

“ก็ดีเหมือนกัน” หลี่หลิงบอก




ที่ด้านนอกห้องเก็บศพ ทหารยามเดินผ่านมาได้ยินเสียงที่ทั้งสองคุยกันจึงรีบไปรายงานหลิวอี้ที่กำลังขี่ม้ามาตรวจตราความเรียบร้อย

“นายท่าน นายท่าน” นายทหารเรียกหลิวอี้

“มีเรื่องอะไร”

“คนตายดูเหมือนจะมีอะไรแปลกๆ(不对劲)”

ได้ยินดังนั้นหลิวอี้จึงรีบลงจากหลังม้า แล้วรีบเดินตรงไปที่ห้องเก็บศพ




“ทำไงดี หลิวอี้เดินมาโน่นแล้ว” หลี่หลิงเอ่ย

“เจ้ารีบไปหลบซ่อนตัวเร็ว”

“จะให้ข้าไปหลบซ่อนที่ไหนล่ะ”




เมื่อหลิวอี้ไปถึงได้ยินเสียงร้องไห้ครวญครางจึงเอ่ยถาม “ใครมาพูดคุยกัน คนที่อยู่ข้างในอ่ะ” ไม่มีเสียงตอบนอกจากเสียงร้องไห้ หลิวอี้จึงเอ่ยถามอีก “นี่ แม่นาง เจ้ากำลังพูดอยู่กับใคร”

ชิวฉานไม่ได้สนใจเสียงที่ถาม ได้แต่เอ่ยตอบไปว่า “ท่านพี่ ในที่สุดท่านก็ฟื้นแล้ว ข้าคงไม่ได้ฝันไปหรอกนะ”

หลิวอี้ตกใจจึงสั่งให้ทหารเข้าไปดู

“ท่านรู้หรือเปล่า ว่าข้าคอยท่านอยู่ตั้งนานแสนนาน ในที่สุดท่านก็กลับมา” ทันใดนั้นร่างของจางเชียนที่นอนอยู่ก็ค่อยๆเอนกายขึ้นเอื้อมมือมากอดชิวฉานพร้อมกับบอก “ข้าก็คิดถึงเจ้า” ทหารที่หลิวอี้สั่งให้เข้าไปดูเกิดเห็นเข้าพอดีจึงเกิดอาการตกใจร้องเสียงหลงวิ่งหนีกลับไป หลิวอี้เห็นจึงถาม “เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

“ศศศ..ศพ จจจ..จู่ๆก็ลุกขึ้นนั่งได้(诈尸)” ทันทีที่ทหารคนนั้นพูดเสร็จ ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างพากันหนีแตกกระเจิงกันไปคนละทิศละทาง





หลี่หลิงในคราบของจางเชียนที่กอดชิวฉานอยู่ถึงกับหัวเราะออกมาอย่างอดขำไม่ได้ ชิวฉานรู้สึกตัวรีบถอนตัวออกจากอ้อมกอดของหลี่หลิงแล้วเอ่ย “กลัวกันจนเผ่นหนีกระเจิงไป(吓跑)หมดแล้วล่ะ เลิกหัวเราะได้แล้ว”

“ข้ายังหัวเราะไม่เต็มอิ่มเลย”

“ยังจะหัวเราะอีก”

“ข้าไม่หัวเราะก็ได้ แต่เค้ายังอยากจะหัวเราะอยู่”

ชิวฉานสงสัยจึงเอ่ยถามว่าเป็นใคร หลี่หลิงจึงยกตุ๊กตาดินปั้นตัวหนึ่งขึ้นมาให้ชิวฉานดู

“เค้าเป็นใคร” ชิวฉานเอ่ยถาม

“ก็คนที่เจ้าเขวี้ยง(抛弃)มาใส่ข้าไง”

“ไม่จริงมั๊ง” ชิวฉานเอ่ยอย่างงงๆ สงสัยตนเองว่าเคยไปเที่ยวเขวี้ยงตุ๊กตาดินปั้นตัวนี้ให้หลี่หลิงไว้เมื่อไรกัน

“ทำไมจะไม่จริงล่ะ ก็เจ้านี่ เจ้ามอบเป็นของขวัญให้ข้าเมื่อคราวเจอหน้ากันในครั้งที่แล้วไง ทำมาจากดิน(泥)ก้อนนั้นก้อนที่เจ้าปาใส่ข้าไง เจ้าคงจะลืมแล้วล่ะสิ”

ชิวฉานหวนรำลึกนึกย้อนไปถึงตอนที่หลี่หลิงขี่ม้าไล่ตามตนเองไปที่ชายป่า แล้วตนเองเอื้อมมือไปหยิบดินที่พื้นขึ้นมาเขวี้ยงใส่ม้า ทำให้ม้าตกใจสะบัดหลี่หลิงร่วงหล่นตกลงมาที่พื้น

“เหมือนข้าหรือเปล่า ข้ามอบให้เจ้า” หลี่หลิงเอ่ยถามพร้อมกับยื่นตุ๊กตาดินปั้นใบหน้าตนเองให้

“เหมือน” ชิวฉานรับตุ๊กตามาอย่างเขินๆ “แปลกๆพิกล(古古怪怪)”


“เจ้าหมายถึงใครเหรอ”

แล้วทั้งสองค่อยๆหันไปมองร่างจางเชียนที่พวกตนได้จับนอนวางอยู่ที่พื้น








Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 16 ตุลาคม 2550 15:53:55 น. 1 comments
Counter : 1044 Pageviews.

 


โดย: Nuvan IP: 124.157.153.12 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:0:12:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

WangAnJun
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add WangAnJun's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.