Group Blog
 
<<
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
12 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
《ต้าฮั่นเทียนจื่อ 3》 ตอนที่ 4


สารบัญ | ตอนที่แล้ว | ตอนถัดไป

ตีพิมพ์ครั้งแรก : 2 พฤษภาคม 2550 / ปรับปรุงแก้ไข :

ฝึกหัดแปลโดย : เสี่ยวชิงวา


จอมจักรพรรดิ์ ฮั่นอู่ตี้ ภาค 3 - ตอนที่ 4





ฮั่นอู่ตี้ทรงม้าขี่นำไท่จื่อและเหล่าทหารมายังบ้านหลังหนึ่ง จากนั้นทรงลงจากม้าแล้วส่งเสียงเรียกหาเจ้าของบ้าน

เหลาป่าน(เถ้าแก่) เหลาป่านเหนียง(เถ้าแก่เนี๊ย) ลูกค้าที่จะทานบะหมี่มากันแล้ว

ฝ่าพระบาทเว่ยชิงร้องเรียกฮั่นอู่ตี้อยู่ที่หน้าประตู “ ” พูดเสร็จก็นำทางฮั่นอู่ตี้ไปยังชายป่าแห่งหนึ่ง พื้นที่บริเวณนั้นมีหลุมฝังศพตั้งอยู่

ใช่พวกเค้าหรือเปล่าฮั่นอู่ตี้ชี้ไปที่หลุมศพแล้วตรัสถามเว่ยชิง

ฝ่าพระบาท ลองทอดพระเนตรตัวอักษรที่สลักอยู่บนป้ายหินสิ พะย่ะค่ะ

บนป้ายหินมีชามกระเบื้องเก่าๆวางคว่ำอยู่ ฮั่นอู่ตี้ทรงเอื้อมมือไปหยิบแล้วตรัสว่า “ ใช่ ชามใบนี้เป็นของพวกเค้า ”

“ เป็นชามใบเดียวกับที่ฝ่าพระบาททรงเคยใช้ ดูเหมือนว่าพวกเค้าจะมีลูกมีหลานอยู่นะ พะย่ะค่ะ”

ฮั่นอู่ตี้ลูบชามใบนั้นไปมาแล้วมองไปที่ป้ายหิน ไท่จื่อทรงทอดพระเนตรตัวอักษรที่สลักอยู่บนป้ายหินแล้วตรัสออกมาว่า “ ปู่สือโท่ว(卜石头) ”

ท่านส่งคนไปค้นหาคนๆนี้โดยรอบ เราอยากจะคารวะขอบคุณเค้าสักหน่อยฮั่นอู่ตี้ตรัสกับเว่ยชิง

“ พะย่ะค่ะ ”

ทันใดนั้นจี้อันซื่อรีบเข้ามารายงานกราบทูลว่า “ ฝ่าพระบาท ฝ่าพระบาท มีสาส์นด่วนส่งมาจากฉางอัน แจ้งว่า อ๋องเจียงตูก่อการกบฏ พะย่ะค่ะ

“ ช่างบังอาจนัก พวกที่คิดคดทรยศมักใหญ่ใฝ่สูงมีไม่รู้จักจบจักสิ้น ” ฮั่นอู่ตี้ตรัสออกมาพร้อมกับทรงหยิบสาส์นจากมือจี้อันซื่อมาเปิดอ่าน “ นี่ก็อีกคนอาจเอื้อมจะตั้งตนเป็นหวงตี้ พี่เขย ท่านคิดว่าควรจะทำประการใดดีฮั่นอู่ตี้ทรงยื่นสาส์นให้เว่ยชิง

เว่ยชิงหยิบสาส์นมาอ่านแล้วทูลว่า “ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการนำทหารไปปราบปราม พะย่ะค่ะ ”

แม้จะเป็นแค่ไก่ตัวหนึ่ง เราก็อยากจะเอามีดมาแล่เนื้อให้เป็นชิ้นๆนัก ” จากนั้นก็ทรงหันพระพักตร์ไปทางจี้อันซื่อท่านนายพลใหญ่

พะย่ะค่ะ

คงจะต้องลำบากท่านแล้วล่ะ

แล้วลานของฉานอี่ว์นี่ล่ะ พะย่ะค่ะ

ส่งนายพลคนอื่นที่ฝีมือดีไปดูแลแทน

ฝ่าพระบาท ข้าพระองค์อยากจะนำนายพลน้อยสักสองสามคนไปเปิดหูเปิดตาด้วย พะย่ะค่ะ

ใคร

หลี่ฮั่น กับบุตรชายของข้าพระองค์จี้ฉินหู่ พะย่ะค่

ฮั่นอู่ตี้นิ่งสักพักก็ตรัส “ ปล่อยให้พวกเค้าไปเรียนรู้งานบ้างก็ดีเหมือนกัน จงจับตัวอ๋องเจียงตูไว้ให้ได้ ครอบครัวของเค้าไม่ว่าชายหรือหญิงก็ห้ามละเว้น จับขังคุกไว้ที่ฉางอัน หากหนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียว แม้แต่เจ้าเราก็จะไม่เว้น ”

รับทราบ พะย่ะค่ะ

ไท่จื่อรีบเข้ามากราบทูล “ เสด็จพ่อ หม่อมฉันก็อยากไปกับท่านนายพลใหญ่ด้วย

เรื่องนี้สำคัญขนาดที่ต้องให้ไท่จื่อไปจัดการด้วยตัวเองเชียวงั้นหรือ นั่นยิ่งทำให้อ๋องเจียงตูลำพองตนเข้าไปใหญ่ เจ้าคอยติดตามพ่อ คอยฟังข่าวจากพวกเค้าจะดีกว่า



ไท่จื่อหลิวจี้ว์ทรงรู้สึกน้อยพระทัย แต่ก็ยังไม่ทรงเข้าพระทัยอยู่ดีว่าทำไมฮั่นอู่ตี้ถึงไม่ทรงอนุญาตให้พระองค์ไปร่วมปราบอ๋องเจียงตู ทรงเดินเล่นโดยมีสองนายพลน้อยเดินตามหลังไปที่หลุมฝังศพของท่านนายพลอาวุโสหลีกว่าง

หลังจากที่ทรงแสดงการคารวะต่อป้ายหลุมศพของท่านนายพลอาวุโสหลีกว่างแล้ว หลี่ฮั่นก็ทูลขึ้นว่า “ ไท่จื่อ ขอทรงวางพระทัยเถิด แค่อ๋องเจียงตูกระจอกๆ คิดเดินตามรอยเท้าอ๋องเหวยหนาน ข้าพระองค์แน่ใจว่าจะต้องสามารถเอาชนะเค้าได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว พะย่ะค่ะ

จี้ฉินหู่ทูลขึ้นบ้างว่า “ ไม่ได้ไปรบที่ดินแดนตอนเหนือของทะเลทราย ได้ไปปราบอ๋องเจียงตูก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไร

ได้ยินที่ทั้งสองพูดไท่จื่อก็ยิ่งทรงน้อยพระทัย “ แล้วเราล่ะ จะให้เรามองดูพวกเจ้าได้ออกไปแสดงฝีมืออยู่เฉยๆอย่างงั้นนะหรือ

หลี่ฮั่นทูลแนะนำ “ ทำไมไม่ทรงไปขอร้องหวงตี้ล่ะ

จี้ฉินหู่เอ่ย “ ไม่มีประโยชน์ ไท่จื่อได้ทรงขออนุญาตแล้ว แต่ก็ถูกปฏิเสธกลับมา

ตำแหน่งไท่จื่อที่ติดตัวเรามา ผูกมัดเสียจนทำให้เรากระดิกกระเดี้ยวทำอะไรไม่ได้เลย ” ไท่จื่อตรัสอย่างอึดอัดพระทัย

หลี่ฮั่นทูล “ เสด็จพ่อของพระองค์ เมื่อก่อนก็ทรงตำรงตำแหน่งเป็นไท่จื่อ หนีออกนอกวังไปก็ยังไปก่อเรื่องขึ้นที่เมืองเยี่ยนชื่อ ดังนั้นพระองค์ก็เลยทรงห้ามไท่จื่อไว้กลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นนะสิ

ที่พูดมาเมื่อกี้นี้น่ะ เจ้าไปฟังมาจากไหนกันจี้ฉินหู่เอ่ยถาม

ภรรยาของท่านนายพลฮั่วชี่ว์ปิ้ง ท่านแม่บุญธรรมของข้าเป็นคนบอกกับข้าเองว่า เมื่อก่อนท่านกับฝ่าพระบาทรู้จักกันที่เมืองเยี่ยนชื่อ ยังมีท่านป้าอีกคนที่ชื่อเนี่ยนหนูเจียวอะไรนี่แหละ อีกนิดเดียวก็จะได้แต่งงานกับฝ่าพระบาทแล้วหลี่ฮั่นเล่าให้ฟัง

แล้วทำไมหลังจากนั้นถึงไม่ได้แต่งงานกันล่ะจี้ฉินหู่เอ่ยถามด้วยความสงสัย

ไท่จื่อหันไปทางจี้ฉินหู่ตรัสอย่างไม่ค่อยทรงพอพระทัย “ พูดจาเลอะเทอะ ถ้าแต่งงานกันแล้วจะมีเราได้ยังไง

จี้ฉินหู่ได้แต่ยิ้มแหยๆ หลี่ฮั่นจึงทูลถาม “ ไท่จื่อ พระองค์จะไม่ทรงไปกับพวกเราจริงๆแน่นะ

พวกเจ้าอย่ามาพูดให้เราอารมณ์เสียจะดีกว่า

จี้ฉินหู่ทูลบอก “ ถ้างั้นพวกข้าพระองค์คงต้องไปแล้วล่ะ

ไท่จื่อไม่รู้จะทำยังไง หันรีหันขวางแล้วก็ทรงนึกอะไรขึ้นได้ตรัสกับหลี่ฮั่นว่า “ เดี๋ยวก่อน เราจะขอยืมเทียนที่ปักอยู่ตรงนี้ ต่อหน้าท่านปู่ทวดของเจ้า พวกเรามาร่วมสาบานเป็นพี่น้องกันเถอะ

หลี่ฮั่นรีบทูล “ ไท่จื่อ ทรงล้อเล่นหรือเปล่า ทรงเป็นถึงไท่จื่อ อนาคตก็จะได้ดำรงตำแหน่งเป็นหวงตี้แห่งราชวงศ์ฮั่น พวกข้าพระองค์เป็นแค่ข้ารับใช้ของพระองค์เท่านั้น

จี้ฉินหู่ทูลสนับสนุน “ ไม่กล้า ไม่กล้า ไท่จื่อ อย่าดีกว่า

หวงตี้ก็ต้องการมีเพื่อนเอาไว้คอยปรับทุกข์ด้วยเหมือนกัน แม้แต่ปฐมบรมหวงตี้ฮั่นเกาจู่(หลิวปัง)ก็ยังมีเซียวเหอ(萧何) มีฝานไคว่(樊哙) พวกเค้าก็ล้วนนับถือกันเป็นพี่น้อง ร่วมกันรบ ร่วมกันปราบกบฎ เสด็จพ่อของเราเมื่อตอนดำรงตำแหน่งไท่จื่อ ก็ยังมีฮั่นซิงหุ้ย ” ทรงเอื้อมพระหัตถ์ไปตบที่บ่าของหลี่ฮั่นแล้วตรัสว่า “ ท่านอาหลี่หลิง พ่อของเจ้าก็ด้วย เสด็จพ่อเคยบอกว่าหากตอนนั้นไม่ได้พวกพี่น้องคอยให้การช่วยเหลือ ตำแหน่งหวงตี้ป่านนี้ก็คงตกไปอยู่ในมือของอ๋องเหลียงหวังไปแล้ว พวกเจ้าทั้งสองเต็มใจที่จะรับเราเป็นพี่หรือเปล่า คอยเป็นมือสนับสนุนช่วยเหลือเรา นับจากวันนี้ไป ต่อหน้าผู้คนเราจะเป็นเหมือนนายกับบ่าว แต่ลับหลังเราก็คือพี่น้อง มีสุขร่วมสุข มีทุกข์ร่วมแบ่งเบา

หากฝ่าพระบาททรงรู้เข้าล่ะก็ จะทรงลงอาญาพวกเราหรือเปล่าหลี่ฮั่นเอ่ยถาม

ไม่ต้องเอ่ยถึงฝ่าพระบาทเลย แค่พ่อของข้าก็ยังไม่แน่ว่าจะฝ่าด่านไปได้จี้ฉินหู่เอ่ยกับหลี่ฮั่น

เห็นทั้งสองเอ่ยอย่างกลัวๆ ไท่จื่อจึงตรัส “ เรากำลังขอร้องพวกเจ้าอยู่น่ะ เรากล้าพูดได้เลยว่า หากเสด็จพ่อรู้เข้าล่ะก็ จะทรงมีแต่ดีพระทัยนะสิไม่ว่า

พระองค์ทรงแน่ใจหรือจี้ฉินหู่ทูลถามเพื่อความแน่ใจ

ไท่จื่อชักรำคาญตรัสว่า “ หากไม่เต็มใจกัน งั้นไม่ต้องก็ได้

แต่ว่าข้าพระองค์ได้ยินมาว่าคนในฮั่นซิงหุ้ยนั้นล้วนมีจุดจบที่ไม่ดีสักคนจี้ฉินหู่ทูลบอก

ก็แค่ข่าวลือเท่านั้น ยิ่งพูดยิ่งไปกันใหญ่ พวกเจ้าคงไม่ใช่คนขี้ขลาดกลัวตายกันหรอกนะ เอาล่ะ หากคิดว่าเราอยู่สูงจนไม่อาจเอื้อมที่จะมาเป็นเพื่อนกับเรา ก็ถือว่าเราไม่ได้พูดอะไรก็แล้วกัน ” ตรัสเสร็จไท่จื่อก็ทรงเดินหนีไป

หลี่ฮั่นหันไปมองจี้ฉินหู่แล้วรีบตะโกน “ พระองค์อย่าเพิ่งไป นับข้าพระองค์เข้าไปด้วยคน ” พูดเสร็จแล้วก็เดินไปหาไท่จื่อ

ได้ยินที่หลี่ฮั่นเอ่ย จี้ฉินหู่ก็ทูลขึ้นบ้างว่า “ นับข้าพระองค์จี้ฉินหู่ด้วยอีกหนึ่งคน ” แล้วก็เดินไปหาไท่จื่อ

ไท่จื่อหันมาตรัสกับทั้งสองคนว่า “ เอาล่ะ พวกเจ้าไม่ต้องฝืนใจกันก็ได้

พวกเราไม่ได้ฝืนใจ ” ทั้งสองเอ่ยพร้อมกัน

ไท่จื่อทรงยิ้มอย่างดีพระทัย “ งั้นก็ดี พวกเรามาสาบานกัน ” จากนั้นก็พากันเดินไปที่หน้าป้ายหลุมฝังศพของนายพลอาวุโสหลีกว่างแล้วคุกเข่าลง ไท่จื่อตรัสออกมาว่า “ วันนี้มีแค่พวกเราสามคน พรุ่งนี้ก็จะมีเพิ่มเป็นห้าคน สิบคน ท่านนายพลอาวุโสหลีกว่าง ท่านช่วยเป็นพยานให้กับพวกเรา ” ตรัสเสร็จก็ทรงคำนับ ทั้งสองก็คำนับตาม ทันใดนั้นเองก็มีนกตัวหนึ่งบินมาเกาะที่ป้ายหิน เมื่อทั้งสามเงยหน้าขึ้นมาเห็น ไท่จื่อรีบตรัสอย่างทรงดีพระทัยพร้อมกับทรงชี้ให้ทั้งสองคนดู “ พวกเจ้าดูสิ

หลี่ฮั่นเอ่ย “ ท่านปู่ทวดของข้าตกลงแล้วล่ะ ” แล้วทั้งสามคนก็ยิ้มให้กันอย่างมีความสุข









ที่วังหลวง ฮั่วฉีเหลียนทูลถามเว่ยจ่างกงจู่ว่า “ ไม่มีข่าวคราวอะไรจากพวกเค้าบ้างเลยเหรอเพคะ องค์หญิง

ข่าวคราวนะมี แต่ว่าเสด็จแม่ไม่ทรงอนุญาตให้เราถามนะสิเว่ยจางกงจู่ตรัสถึงตรงนี้ฮั่วฉีเหลียนก็ทำท่าเบื่อหมดอาลัย แต่พอเว่ยจางกงจู่ตรัสต่อว่า “ แต่เราก็แอบขโมยฟังมาได้สองสามประโยคฮั่วฉีเหลียนก็หูผึ่งตาลุกวาวตั้งใจฟังที่เว่ยจางกงจู่จะตรัสต่อทันที “ เห็นบอกว่ายึดดินแดนของฉานอี๋ว์ได้แล้ว

ฮั่วฉีเหลียนแสดงอาการตื่นเต้นเอ่ยขึ้นว่า “ ไอ้ย่า ถ้าอย่างนั้น ก็คงจะต้องสู้รบกันอย่างดุเดือดแน่ๆเลย

แน่นอนอยู่แล้วเว่ยจ่างกงจู่เห็นได้ทีจึงตรัสต่อว่า “ คนนอนตายเกลื่อนกลาด เลือดไหลรวมเป็นสายน้ำ โครงกระดูกกองเป็นภูเขาเลากา

ได้ยินว่ามีคนตาย ฮั่วฉีเหลียนร้อนใจรีบทูลถาม “ แล้วมีคนตายไปกี่คนล่ะ เพคะ องค์หญิง

เว่ยจ่างกงจู่เห็นอาการของฮั่วฉีเหลียนจึงทรงกระซิบถาม “ คนที่เจ้าคิดถึงที่สุดเป็นใครกันนะ

ก็พวกเค้าแค่ไม่กี่คนหรอก เพคะฮั่วฉีเหลียนตอบเฉไฉ

เว่ยจ่างกงจู่ทรงซักต่อ “ แล้วพวกเค้าไม่กี่คนนั่นนะ เป็นใครบ้างล่ะ จี้ฉินหู่ หรือว่า หลี่ฮั่น ใครกันที่อยู่ในใจของเจ้าเว่ยจ่างกงจู่ทรงตรัสพร้อมกับทรงเอานิ้วจิ้มไปที่หัวใจของฮั่วฉีเหลียน

ฮั่วฉีเหลียนไม่ตอบ ได้แต่เอ่ย “ ไม่ได้การแล้ว หม่อมฉันเห็นจะต้องรีบไปที่แนวชายแดนสักหน่อย ” พูดจบก็เดินไป

เว่ยจ่างกงจู่รีบรั้งมือไว้แล้วตรัสถาม “ เจ้าจะไปทำอะไรที่แนวชายแดนนั่นนะ คนตั้งหนึ่งแสนแปดหมื่นนาย ขาดเจ้าไปสักคนก็ไม่ได้ทำให้กำลังน้อยลงไปเลย

ฮั่วฉีเหลียนรีบเปรียบตนเองกับกบว่า “ ได้กบเพิ่มมาอีกตัว ก็เท่ากับได้กำลังเพิ่มขึ้นอีกสี่ เมื่อเทียบกันแล้วหม่อมฉันก็ยังแข็งแรงกว่ากบเล็กน้อย

เจ้ากบน้อย เจ้าคอยอยู่ที่บ้านรอพวกเค้านำชัยชนะกลับมาจะดีกว่ามั๊ง

ฮั่วฉีเหลียนยิ้มอย่างดีใจ “ แสดงว่าพวกเราได้ชัยชนะแล้วใช่ไหม เพคะ

คนของอีจื้อเสียแค่เห็นกองทัพยกกำลังพลมากมายก็แตกกระเจิงหนี ชนะโดยที่ไม่ต้องรบ

ฮั่วฉีเหลียนยังติดใจคำพูดในตอนแรกของเว่ยจ่างกงจู่จึงทูลถามแบบจำประโยคที่ตรัสไว้ไม่ค่อยจะได้ “ แต่เมื่อกี้เพิ่งจะทรงตรัส เกลื่อนกลาดอะไรน๊า เลือดไหลรวมเป็นอะไรน๊า

ยายบื้อ เอ๊ยเว่ยจ่างกงจู่ตรัสเสร็จก็ทรงแลบลิ้นใส่แล้วทรงเดินหนีไป

เมื่อรู้ว่าโดนหลอก ฮั่วฉีเหลียนเอ่ยออกมาว่า “ ทรงกล้าหลอกหม่อมฉันหรือเพคะ หม่อมฉันจะตีพระองค์ให้ตายเลย คอยดู ” พูดจบก็วิ่งไล่ตามเว่ยจ่างกงจู่ไป

เว่ยจ่างกงจู่เห็นจวนตัวจึงงัดไม้เด็ดตรัสออกไปว่า “ โปรดรักษามารยาทระหว่างนายกับบ่าวด้วย ” ทำให้ฮั่วฉีเหลียนที่กำลังเงื้อมืออยู่ต้องชะงักลดมือลง แล้วเอามือมาอกอดอกแทนอย่างเคืองๆ เว่ยจ่างกงจู่ตรัสถาม “ ฉีเหลียน เจ้าบอกเรามาตามตรง คนที่เจ้าห่วงใยที่สุด เค้าคนนั้นเป็นใคร

หลี่ฮั่น

เจ้าหลงรักหลี่ฮั่นเข้าซะแล้วหรือนี่เว่ยจ่างกงจู่แซว

ทรงอย่าตรัสเหลวไหลนะเพคะ หม่อมฉันแค่ต้องการอยากจะรู้ว่าเพลงทวนของตระกูลฮั่ว กับเพลงดาบของตระกูลหลี่ ใครจะร้ายกาจกว่ากัน


ชิวฉานกำลังโปรยดอกไม้อยู่ที่หลุมฝังศพของฮั่วชี่ว์ปิ้ง ฮั่วฉีเหลียนก็เดินเข้ามาถาม “ ท่านพ่อรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ทำไมข้าจำท่านพ่อไม่ได้เลยสักนิดเคียว

ชิวฉานหันไปตอบ “ ตั้งแต่เจ้าเกิดมาเจ้าก็ไม่เคยเห็นหน้าท่านพ่อแล้ว

ฮั่วฉีเหลียนถามต่อ “ แล้วท่านพ่อหน้าตายังไงล่ะท่านแม่

เจ้าคงต้องส่องดูบนใบหน้าของตัวเจ้าเองแล้วล่ะ

แต่ว่าใครๆก็บอกว่าข้าเหมือนท่านแม่ ไม่เหมือนท่านพ่อเลยสักนิดเดียว

ใครบอกเจ้าแบบนั้นล่ะ

ข้าถามท่านต้าซือหม่าเว่ยชิง กับท่านต้าเจียงจวินจี้อันซื่อ

จะเหมือนหรือไม่เหมือนท่านพ่อ ใครพูดเจ้าก็อย่าไปฟัง

แล้วต้องใครพูดล่ะท่านแม่

ชิวฉานนำพวงดอกไม้เดินไปวางไว้ที่ป้ายหลุมฝังศพแล้วเอ่ยว่า “ มีเพียงท่านพ่อของเจ้าคนเดียวเท่านั้น

แต่ว่าท่านพ่อตายไปตั้งนานแล้ว ไม่เห็นท่านพ่อจะพูดกับข้าบ้างเลย

ไม่นะชิวฉานตอบพร้อมกับเงยหน้าไปยังท้องฟ้า “ ท่านพ่อคอยเฝ้ามองดูเจ้าจากเบื้องบนต่างหาก เพลงทวนที่เจ้าได้ร่ำเรียน ก็เป็นวิชาที่ท่านพ่อได้ทิ้งไว้ให้

งั้นก็ดีเลยท่านแม่ พวกเรามาฝึกเพลงทวนกัน ข้าอยากให้ท่านพ่อดูว่าข้าจะเหมือนหรือว่าไม่เหมือนท่านกันแน่

ได้สิ แม่จะเป็นคู่ฝึกให้กับเจ้าเอง

จากนั้นทั้งสองก็ฝึกวิทยายุทธ์กันโดยที่ฮั่วฉีเหลียนใช้เพลงทวน ส่วนชิวฉานใช้เพลงกระบี่





Create Date : 12 เมษายน 2550
Last Update : 24 สิงหาคม 2550 10:38:07 น. 2 comments
Counter : 1313 Pageviews.

 
กำหนดการครั้งต่อไป


จอมจักรพรรดิ์ ฮั่นอู่ตี้ ภาค 1 ตอนที่ 23 ที่มีกำหนดการจะนำมาลงให้อ่านในวันที่ 1 พฤษภาคมนั้น ต้องขอเลื่อนไปเป็นวันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม 2550
สำหรับ 《ต้าฮั่นเทียนจื่อ 3》 ตอนที่ 5 นั้นจะนำมาลงให้อ่านในวันอังคารที่ 15 พฤษภาคม 2550


โดย: WangAnJun วันที่: 2 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:23:42 น.  

 
อ่ะจ้าไงก็ตามอ่านอยู่นะท่าน


โดย: Nuvan IP: 58.147.120.181 วันที่: 6 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:20:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

WangAnJun
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add WangAnJun's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.