ไท่จื่อหลิวจี้ว์เสด็จไปยังกระโจมที่พำนักส่วนพระองค์ของฮั่นอู่ตี้ เพื่อขอพระราชวินิจฉัยเกี่ยวกับผลการประลองระหว่างนายพลน้อยจี้ฉินหู่กับนายพลน้อยหลี่ฮั่น “ ท่านพ่อ การแข่งขันขี่ม้าจับแกะในวันนี้ หลี่ฮั่นจับได้ 4 ตัว จี้ฉินหู่จับได้ 3 ตัว แต่ว่าน่าเสียดายที่มี 2 ตัวตื่นตกใจกลัวจนตาย ท่านพ่อเห็นว่า พวกเค้าสองคนใครควรจะได้ที่หนึ่ง พะย่ะค่ะ ” ไท่จื่อหลิวจี้ว์ทูลถามเพื่อขอความคิดเห็น ทันทีที่ฮั่นอู่ตี้ได้สดับในคำทูลแล้วถึงกับทรงพระสรวลออกมา “ เรื่องนี้ถึงกับทำให้เจ้า ไท่จื่อแห่งราชวงศ์ฮั่น ลูกของพ่อ ต้องเผชิญกับความลำบากยุ่งยากจนตัดสินใจไม่ถูกเชียวหรือนี่ ” “ หม่อมฉันทราบดี พะย่ะค่ะ ว่าการแข่งขันนั้นย่อมมีแพ้มีชนะเป็นเรื่องธรรมดา แต่หม่อมฉันไม่ทราบว่าควรจะตัดสินอย่างไร จึงจะทำให้ทั้งสองฝ่ายพอใจและก็ยอมรับในความสามารถของอีกฝ่าย พะย่ะค่ะ ” ฮั่นอู่ตี้ตรัสออกไปว่า “ วันนี้ที่พ่อได้ดูพวกเค้าจับหวงหยาง(แกะชนิดหนึ่งมีขนสีเหลือง)กัน เจ้ารู้ไหมว่ามันทำให้พ่อคิดถึงอะไร ” “ ทรงคิดถึงคนที่จับแกะได้มากที่สุดหรือเปล่า พะย่ะค่ะ ” ฮั่นอู่ตี้นิ่งสักครู่แล้วตรัสถามออกไปว่า “ ปีนี้ เจ้ามีอายุเท่าไรแล้ว ” “ ปีนี้ หม่อมฉัน 23 พรรษา พะย่ะค่ะ” “ 23 พรรษาแล้วหรือ งั้นเวลาก็ล่วงเลยมาได้ 24 ปีแล้วสินะ ในตอนนั้นตอนที่พ่อยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ดำรงในตำแหน่งไท่จื่ออยู่ ช่วงเวลานั้นพ่อยังจำได้ว่าที่พ่อกับเพื่อนๆของพ่อวิ่งไล่จับกันนั้นไม่ใช่ไล่จับหวงหยาง แต่เป็นกระต่าย ” “ จับกระต่ายอย่างงั้นหรือ ท่านพ่อ ” “ กระต่ายตัวนั้นเป็นอ๋องกระต่าย เทียบกับหวงหยางแล้ววิ่งได้รวดเร็วกว่ามาก ยิ่งถ้ามันวิ่งหลบหนีเข้าไปอยู่ในรูแล้วล่ะก็ยิ่งไล่จับยากมาก แต่ว่าท้ายที่สุดอ๋องกระต่ายตัวนั้นก็ตกมาอยู่ในมือของพ่อ ” ตรัสเสร็จฮั่นอู่ตี้ก็ทรงนึกย้อนไปในอดีตสมัยพระองค์ทรงวิ่งไล่จับอ๋องกระต่ายเมื่อครั้งที่ทรงหนีออกจากวังพร้อมเพื่อนๆมาเที่ยวที่เมืองเยี่ยนชื่อ จากนั้นก็ทรงเอื้อมพระหัตถ์ไปตบที่บ่าของไท่จื่อพร้อมกับตรัสถามขึ้นว่า “ เจ้าคงไม่เคยได้ยินเรื่องพวกนี้หรอกกระมัง ” เมื่อทรงเห็นไท่จื่อส่ายพระพักตร์จึงตรัสต่อว่า “ แต่พ่อก็ไม่โทษเจ้าหรอก เพราะว่าคนที่เคยอยู่ด้วยกันกับพ่อในสมัยนั้น ตอนนี้ล้วนไม่อยู่เสียแล้ว ” “ ท่านพ่อคงหมายถึง... ” ตรัสได้แค่นี้ไท่จื่อก็ทรงนิ่งเงียบไป เมื่อเห็นไท่จื่อนิ่งเงียบไปไม่ยอมเอ่ยอะไรต่อ ฮั่นอู่ตี้จึงตรัสว่า “ เจ้าคิดว่าพ่อหมายถึงใคร จงพูดออกมา ” “ หากหม่อมฉันทูลออกไปแล้ว ท่านพ่อจะทรงกริ้วหรือไม่ พะย่ะค่ะ ” “ อย่างมากที่สุดพ่อก็แค่รู้สึกห่อเหี่ยวใจ ” จากนั้นก็ทรงคาดคั้นไท่จื่อต่อว่า “ ไหนเจ้าจงบอกพ่อมา ว่าเจ้ารู้จักใครบ้าง ” “ ดูเหมือนว่าจะมีจางทัง พะย่ะค่ะ ” “ แล้วมีใครอีก ” “ กัวเส่อเหริน พะย่ะค่ะ ” “ สองคนนี้มีกล่าวไว้ในบันทึกประวัติศาสตร์ เจ้าไปขอดูจากซือหม่าเชียนได้ แต่ยังมีอีกสองคน ที่ไม่ได้กล่าวไว้ในบันทึกประวัติศาสตร์ คนหนึ่งก็คือก้วนฟู ซึ่งก็ไม่อยู่แล้ว ส่วนอีกคนจะยังมีชีวิตอยู่หรือว่าตายไปแล้วก็ยังไม่ทราบแน่ชัด ” “ เค้าคนนั้นเป็นใครหรือ ท่านพ่อ ” ไท่จื่อหลิวจี้ว์รีบทูลถาม “ วันนี้ใครที่จับหวงหยางได้มากที่สุด ” “ หลี่ฮั่น พะย่ะค่ะ ” “ แล้วหลี่ฮั่นเป็นลูกของใคร ” “ ท่านพ่อคงจะหมายถึง ท่านอาหลี่หลิง ใช่หรือไม่ พะย่ะค่ะ ” |