พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
5 ตุลาคม 2556
 
All Blogs
 

มนต์ขลังแห่ง "ตุรกี" เมืองที่ไม่มี...แม่ค้า!

มนต์ขลังแห่ง "ตุรกี" เมืองที่ไม่มี...แม่ค้า!

มีเมืองและประเทศไม่กี่แห่งในโลกที่ทำให้คุณรู้สึกว่า ไปแล้วอยากไปอีก ซึ่งในจำนวนไม่กี่แห่งที่ว่า “ตุรกี” น่าจะเป็นหนึ่งในนั้น ก็จะมีเมืองไหนในโลกเล่า ที่เปิดหน้าต่างห้องนอนออกมาก็มองเห็นทะเลสีฟ้าสดอยู่ตรงหน้า เกือบจะทุกมุมของเมือง

ครั้งที่สองของการเดินทางท่องเที่ยวตุรกีครั้งนี้ ได้รับความอนุเคราะห์จาก Turkish Airlines ที่มอบให้บริษัท Dohrak ทัวร์นำท่องตุรกีแบบไร้ขีดจำกัด

หลังจากลงเครื่องที่สนามบิน Atatrk ซึ่งตั้งชื่อเป็นอนุสรณ์แก่ ประธานาธิบดี มุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก ผู้ก่อตั้งและประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐตุรกี หลังจากที่จักรวรรดิออตโตมันพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 แล้วคณะของเราก็มุ่งหน้าสู่อิสตันบูล ดินแดนแห่งอารยธรรม 2 ทวีป โดยมีไกด์สาว “รูเกีย” ที่ประกาศตัวชัดเจนว่า เธอเป็นมุสลิมคลื่นลูกใหม่ที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับหนุ่มสาวรุ่นใหม่ในตุรกีอีกหลายสิบล้านคน

รูเกีย บอกว่าเธอจบปริญญาตรีด้านการท่องเที่ยว และมีความฝันตั้งแต่วัยเด็กว่าอยากเป็นไกด์ ทำให้นอกจากจะเลือกเรียนในวิชาที่เป็นสาขาอาชีพที่ชอบแล้ว ยังมุ่งมั่นที่จะเป็นไกด์มืออาชีพของตุรกีในอนาคตอีกด้วย

ถนนในอิสตันบูล

ถนนในอิสตันบูล

ระหว่างทางจากสนามบินสู่อิสตันบูล เมืองที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของตุรกี แม้ไม่ใช่เมืองหลวงแต่ก็เป็นเมืองใหญ่ลำดับต้นๆ ที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนไปเยือนปีละหลายสิบล้านคน เป็นเมืองแห่งเดียวในโลกที่ตั้งอยู่บนดินแดน 2 ทวีป ด้านหนึ่งอยู่ในยุโรป อีกด้านอยู่ในเอเชีย หรือที่เรียกว่าฝั่งอนาโตเลีย เมืองนี้มีชื่อเรียกถึง 3 ชื่อ จากการเป็นเมืองหลวงของแต่ละอาณาจักรในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ ไบแซนไทน์ (Byzantiun) มาถึง คอนสแตนติโนเปิล (Constantinople) จนมาถึง อิสตันบูล (Istanbul) ในปัจจุบันไกด์สาวชี้ให้ดูดอกทิวลิปที่ปลูกเรียงรายอยู่ข้างทาง เธอบอกว่า ทิวลิป เป็นดอกไม้ประจำชาติของตุรกี มีชื่อเรียกในภาษาตุรกีว่า Lale ซึ่งถ้าอ่านกลับกัน เป็น elal จะออกเสียงว่า อัลเลาะห์ ซึ่งเป็นเรื่องที่อัศจรรย์มาก ตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆแล้วล่ะสิ...นี่ขนาดยังไม่ทันได้ไปเที่ยวที่ไหน แค่ชื่อดอกไม้ประจำชาติ ก็เต็มไปด้วยมนต์ขลังอันชวนติดตามเสียแล้ว

เสาคอนสแตนติน...ที่ฮิปโปโดรม

เสาคอนสแตนติน...ที่ฮิปโปโดรม

หากนั่งรถไปตามถนนในอิสตันบูล สิ่งที่เราจะเห็นตลอดทางนอกจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีฟ้าสดแล้ว มัสยิดรูปโดมทั้งใหญ่เล็กมีให้เห็นตลอดตามรายทาง รูเกีย บอกว่า เฉพาะในอิสตันบูล มีมัสยิดมากกว่า 2,000 มัสยิด มีโบสถ์ 158 โบสถ์ มีสุเหร่า 17 แห่ง และอารามหรือที่เรียกว่า Monastery อยู่ประมาณ 10 แห่ง

โปรแกรมแรกของการท่องเที่ยว แน่นอนที่สุด มาถึงอิสตันบูลแล้ว สถานที่ที่ต้องไป เหมือนฝรั่งมาเมืองไทยแล้วต้องไปเกาะรัตนโกสินทร์ ก็คือ จัตุรัสสุลต่านอาห์เหม็ด หรือที่มีชื่อเรียกแต่ครั้งโบราณว่า “ฮิปโปโดรม”จัตุรัสแห่งนี้เคยเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองในยุคไบแซนไทน์ ใช้เป็นลานกว้างสำหรับแข่งกีฬา ขับรถม้า ปัจจุบันมีสิ่งที่เป็นประวัติศาสตร์ คือ เสา 3 ต้น คือ เสาโอเบลิสก์ แห่งกษัตริย์เธโอโดเซียส เป็นเสาทรงสี่เหลี่ยมยอดแหลมที่เก่าแก่ที่สุด สร้างด้วยหินแกรนิต เดิมอยู่ที่โฮลิโอโปสิล ต่อมาจักรพรรดิเธโอโดเซียสย้ายมาตั้งไว้ที่อิสตันบูล มีความสูง 20 เมตร ยอดเสาแกะเป็นภาพฟาโรห์คุกเข่าถวายสักการะ แด่สุริยเทพ และการรบชนะสงคราม

เสาโอเบลิสก์แห่งกษัตริย์เธโอโดเซียส

เสาโอเบลิสก์แห่งกษัตริย์เธโอโดเซียส

เสาบรอนซ์รูปงู เดิมสูง 8 เมตร ชำรุดเสียหายคงเหลือในปัจจุบันแค่ 5 เมตร เป็นเสาแบบกรีกที่เก่าแก่ที่สุดในอิสตันบูล ตัวเสาเป็นงู 3 ตัวเกี่ยวกระหวัดรัดกันอยู่ ยอดที่หักเป็นส่วนของสามขาที่รองรับอ่างทองคำ ปัจจุบันตั้งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์โบราณคดี และ เสาคอนสแตนติน ได้ชื่อมาจากพระเจ้าคอน-สแตนติน จักรพรรดิแห่งโรมัน เป็นเสาหินสูงประมาณ 32 เมตร สร้างในปี ค.ศ. 940 เดิมเป็นรูปเกษตรกรและชาวประมง

ด้านข้างของจัตุรัสเป็นที่ตั้งของมัสยิดสุลต่านอาห์เมตหรือสุเหร่าสีน้ำเงิน ที่รู้จักกันดีในชื่อ บลูมอสก์ (Blue Mosque) ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองอิสตันบูลตรงข้ามกับบลูมอสก์ เป็นที่ตั้งของวิหารเซนต์ โซเฟีย (Saint  Sophia) หรือวิหารซันตาโซเฟีย 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เดิมเป็นโบสถ์ในศาสนาคริสต์ สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิคอนสแตนติน แห่งอาณาจักรโรมันตะวันออก เมื่อประมาณคริสต์-ศตวรรษที่ 13 ใช้เวลาสร้าง 17 ปี จึงแล้วเสร็จ ต่อมา ถูกพวกเตอร์กบุกทำลาย พระจักรพรรดิจัสติเนียนจึงได้สร้างขึ้นใหม่ โดยใช้เวลาอีก 20 ปี จึงแล้วเสร็จ และได้นำสิ่งของมีค่าต่างๆมาประดับเอาไว้มากมาย

วิหารเซนต์โซเฟีย

วิหารเซนต์โซเฟีย

ออกจากวิหารเซนต์โซเฟีย เดินไปไม่ไกล เป็นที่ตั้งของอ่างเก็บน้ำใต้ดินเยเรบาตัน (Yerebatan Underground Cistern) ซึ่งเป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครอิสตันบูล ่เดิมน้ำในอุโมงค์นี้เป็นน้ำใช้ในวังสมัยไบแซนไทน์ และใช้ในพระราชวังทอปคาปิ สมัยออตโตมัน

ทางเข้าอุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน

ทางเข้าอุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน

ดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์และเรื่องราวของอาณาจักรออตโตมัน จนลืมไปว่าเลยเวลาอาหารกลางวันมานานมากแล้ว แน่นอนที่สุด ถ้ามาตุรกีแล้วไม่ได้กิน เคบับ หรือเนื้อย่างห่อกับแผ่นแป้งและผัก ซึ่งที่นี่จะมีแต่เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อไก่ เท่านั้น ไม่มีเนื้อหมู เพราะเป็นเมืองอิสลาม เคบับ มีให้เลือก 2 แบบ คือ sis kebab ที่เป็นเนื้อหั่นชิ้นเล็กๆเสียบกับไม้หรือเหล็กย่าง กับ doner kebab ที่เป็นเนื้อนำมาโปะทับกันเป็นก้อนใหญ่เสียบแกนเหล็กแล้วย่างบนเครื่องย่างที่หมุนได้ เวลากินนำไปห่อกับแป้งหรือกินกับขนมปังก็ได้ ซึ่งให้ง่ายในระหว่างเดินทาง เคบับ อย่างหลังนี่สะดวกที่สุด

simit ขนมปังที่ทำเป็นรูปวงแหวนโรยด้วยงา

simit ขนมปังที่ทำเป็นรูปวงแหวนโรยด้วยงา

อาหารขึ้นชื่ออีกอย่างที่มีขายแทบจะทุกหัวถนน คือ simit ขนมปังที่ทำเป็นรูปวงแหวนโรยด้วยงา ถือเป็นอาหารว่างยอดนิยมของคนตุรกี ที่ทุกบ้านต้องมีติดบ้านไว้

เสร็จจากกินก็เป็นเวลาช็อป แน่นอนที่สุด เป้าหมายของเราคือ แกรนด์บาซาร์ ตลาดเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 1,500 ปี มีของขายแทบทุกชนิด ทั้งเสื้อผ้า พวงกุญแจ แก้วชารูปดอกทิวลิปแบบตุรกี โดยเฉพาะ Evil eye หรือดวงตาปีศาจ ของที่ระลึกตามความเชื่อของคนตุรกีว่า ตาปีศาจ สามารถขจัดสิ่งชั่วร้ายออกไปจากชีวิตได้

ตาปีศาจหรือ Evil eye

ตาปีศาจหรือ Evil eye

ที่น่าสนใจคือ คนขายของในตลาดแกรนด์บาซาร์ ทั้งหมดเป็นผู้ชายหรือพ่อค้า ซึ่งไกด์สาวของเราบอกว่า เป็นเพราะผู้ชายต่อรองเก่ง มีวาทศิลป์เป็นเลิศ ขณะที่ลูกค้าที่มาซื้อของส่วนใหญ่มักเป็นผู้หญิง จึงไม่แปลกที่จะได้ยินเสียงพ่อค้าเรียกเราว่า ดาร์ลิงหรือสวีทฮาร์ท เวลาที่ถูกต่อรองราคามากๆ

ผลไม้หลากสีสัน..รสชาติเป็นเลิศที่ตลาดแกรนด์บาซาร์

ผลไม้หลากสีสัน..รสชาติเป็นเลิศที่ตลาดแกรนด์บาซาร์

หลังตลาดแกรนด์บาซาร์ มีผลไม้มากมายทั้งมะเขือเทศ เชอร์รี่ และสตรอว์เบอร์รี่ลูกโตๆ นำมาขายราคาไม่แพงมากนัก อย่างเชอร์รี่ครึ่งกิโล ตกประมาณถุงละ 5 ลิรา คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 85 บาท ถูกกว่าบ้านเราเยอะ

ตกเย็นอาหารมื้อสำคัญเป็นเมนูปลาย่างแสนอร่อย เสิร์ฟพร้อมข้าวร้อนๆ คล้ายๆกับเมนูอาหารซิซซ์เล่อร์บ้านเรา แต่ปลาสดมาก ยิ่งได้นั่งกินริมช่องแคบบอสฟอรัส พร้อมจิบไวน์ท้องถิ่นอย่าง EFSUS โรแมนติกอย่าบอกใคร

เวลาหมดไป 1 วันแบบงงๆ มนต์ขลังแห่งตุรกี ที่ไม่มีแม่ค้า...ยังไม่จบ เพราะพรุ่งนี้เรามีนัดกับสไปซ์มาร์เกต และการนั่งเรือล่องชมวิวที่ช่องแคบบอสฟอรัส...

แค่คิดก็ตื่นเต้นจนหลับไม่ลงเสียแล้ว...!!!!




 

Create Date : 05 ตุลาคม 2556
0 comments
Last Update : 5 ตุลาคม 2556 6:42:49 น.
Counter : 1446 Pageviews.


amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.