พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
9 พฤศจิกายน 2556
 
All Blogs
 
'แอร์สวย ประตูสวรรค์ โรงละครในหุบเขา' เรื่องเล่า 'ฉางซา' สาธารณรัฐประชาชนจีน (ตอน1)

'แอร์สวย ประตูสวรรค์ โรงละครในหุบเขา' เรื่องเล่า 'ฉางซา' สาธารณรัฐประชาชนจีน (ตอน1)

ที่นี่ 'แอร์โฮสเตส' สวยไม่แพ้สายการบินไหนในโลก,

ก่อนเดินทางไปกับ 'การบินไทยสมายล์' มิตรสหายที่ชอบเดินทาง กระทั่ง เซเลบฯ น้อย เซเลบฯ ใหญ่ที่สนิทรักใคร่ บอกเอาไว้ก่อนบินไปถามไถ่ 'หนีห่าว' บรรพบุรุษ บรรพสตรี ร่วมทริปเปิดเส้นทางใหม่กรุงเทพฯ ฉางซา จางเจียเจี้ย เทียนเหมินซาน ทำนองนั้น

ปกติหัวใจขวางโลกไม่ค่อยสนใจ หรือไม่ค่อยเชื่ออะไรใครแบบไม่มีเหตุผลอยู่แล้ว ทว่าพอถึงสนามบินสุวรรณภูมิตามนัดหมายสายตากวาดไปถ้วนทั่วพร้อมกับการันตีได้อีกหนึ่งเสียงว่า ของเขาสวยจริงอะไรจริง ข่าวดียิ่งกว่าก็คือ ทริปนี้พวกเราจะมีแอร์โฮสเตสสาวนางฟ้าทั้ง 5 ร่วมทริปนี้ด้วยในฐานะทูตจากประเทศไทย

หลังจากพบผู้ประสานงานในทริปนี้เพื่อเช็กสัมภาระและเอกสารการเดินทางเสร็จสรรพ ถึงเวลาออกเดินทางไปเมืองฉางซา ด้วยเที่ยวบิน TG2602 เวลาที่ประเทศจีนเร็วกว่าที่ประเทศไทย 1 ชั่วโมง หมาย ความว่า เกือบ 4 ชั่วโมง เท้าเราจะสัมผัสกับอากาศเย็นของประเทศจีน

ลมหวานๆ อากาศเย็น และคำทักทายที่มากกว่า 'หนีห่าว' !

เราเดินทางถึง 'ฉางซา' ในขณะที่พระอาทิตย์แตะมือให้พระจันทร์ทำงาน พร้อมกับปล่อยให้อากาศเย็นๆ 11-14 องศา ลูบไล้เนื้อตัวให้สมใจ ในฐานะที่อากาศเย็นสบายแบบนี้คนที่มาจากเมืองร้อนโหยหา จากนั้นก็เดินทางด้วยรถบัสอีกหลายชั่วโมงเพื่อไปพักที่โรงแรม LONGCHAMP GARDEN ระหว่างทางมีแค่ไฟถนน และร้านรวงพอให้มองรายละเอียด 2 ข้างทางได้พอประมาณ นอกจากภาษาจีน บรรยากาศแทบแตกต่างไปจากการขับรถผ่านต่างจังหวัดในเมืองไทย ออกจะเหงาๆ คนน้อยๆ กว่านิดหน่อยซะด้วยซ้ำ

เผลอหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็ถึงโรงแรม พอเช็กอินเก็บสัมภาระ ตั้งใจเอาไว้ว่าจะเดินสำรวจโรงแรมสักหน่อย แต่เนื่องจากเราไปถึงค่ำกว่าจะทำโน่น นี่ นั่นเสร็จเป็นอันว่าชะโงกหัวฝ่าลมหนาวท่ามกลางความมืดไปดูอีกทีก็ 'ตลาดวาย' ซะแล้ว

สรุปคืนนี้ 'อด' ทุกคนที่กระหายไวไฟจึงเปลี่ยนเป็น 'ออ' กันอยู่ที่ล็อบบี้เพื่อสอย 'ไวไฟ' ของโรงแรมมาใช้ คนที่ใช้ไลน์ส่งข้อความหรือโทรหาคนที่สยามเมืองยิ้ม ที่นี่ดูจะไม่มีปัญหา

แต่กับคนที่ต้องการเล่นเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์นั้นเป็นอันหมดสิทธิ์ เพราะประเทศนี้ไม่อนุญาตให้ใช้ ส่วนคนที่เปิดโรมมิ่งไปจากประเทศไทย สามารถเล่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และเข้าเว็บอะไรก็ได้ตามอิสระแต่ก็สะดุดติดๆ ขัดๆ เต็มที

ค่ำคืนแรกที่นี่ นอกจากเสียงทักทาย 'หนีห่าว' แล้ว การบล็อกเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ก็เป็นคำทักทายที่ทำให้รู้สึกได้ว่า สาธารณรัฐประชาชนจีน กำลังยกมือไหว้สวัสดีเรา

ลืมตาไปจางเจียเจี้ย หลับตาดูภูเขาเทียนเหมินซาน...!

เสียวสันหลังวาบวาบ 2 สถานที่, หลังจากรองท้องด้วยอาหารจีน ระหว่างขับรถไปที่แรก 'จางเจียเจี้ย' อุทยานมรดกโลกตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลหูหนาน จางเจียเจี้ยเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศจีน พร้อมกับได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกธรรมชาติในปี ค.ศ.1992 มีเนื้อที่กว่า 369 ตารางกิโลเมตร เพื่อไปขึ้นกระเช้าไปที่ 'ภูเขาเทียนเหมินซาน' (สมัยก่อนเรียกว่าภูเขาหวินเมิ้งซาน หรือซงเหลียวซาน)

ใช้เวลาเดินทางนาน 4 ชั่วโมง ด้วยความเร็วรถบัส 80 กิโลเมตร บรรยากาศ 2 ข้างทางนอกจากจะเป็นภูเขาแล้ว เราจะเห็นสิ่งปลูกสร้างเป็นระยะ บ่งบอกถึงความเจริญที่กระเถิบเข้ามาใกล้ๆ เรื่อยๆ ภาพสิ่งปลูกสร้างมากมายตลอดเส้นทางทำให้เราเริ่มเห็นด้วยกับสิ่งที่เบอร์หนึ่งอย่างอเมริกาออกอาการกลัวทุกเวทีว่าอีกไม่นานพวกเขาจะเสียตำแหน่งประเทศมหาอำนาจเบอร์หนึ่งของโลกให้กับจีน

"ตอนนี้เราตระหนักแล้วว่า คอมพิวเตอร์เร็วที่สุดไม่ได้อยู่ในประเทศเรา แต่อยู่ในประเทศจีน" โอบามากล่าวทำนองยอมรับความก้าวหน้าของจีน อนาคตมหาอำนาจเบอร์หนึ่งของโลก

ถึงจุดหมาย เกินความคาดหมายเพราะไม่คิดว่าที่นี่คนจะเยอะขนาดนี้, เท่าที่ถามไกด์เธอบอกว่า ส่วนใหญ่จะเป็นพลเมืองจากประเทศจีน ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่นสูงอายุแต่ชอบความท้าทาย ส่วนฝรั่งตาน้ำข้าวไกด์สาวบอกว่าไม่ค่อยมีเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับคนเอเชียด้วยกัน ใช้เวลาต่อแถวเพื่อไปต่อด้วยกระเช้าไต่ไปบน 'ภูเขาเทียนเหมินซาน' รออยู่นานกว่าจะได้ขึ้นไป 1 คัน บรรจุได้ 8 คน พอมันเคลื่อนตัวสู่กลางอากาศเท่านั้น เชื่อว่าคนที่กลัวความสูงหรือไม่ หัวใจก็มีสั่นไหว

กระเช้าค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ผ่านภูเขาที่สูงเสียดแทงท้องฟ้าก้อนแล้ว-ก้อนเล่านับร้อยๆ ลูกสวยงามดูแปลกตา เสียงชัตเตอร์ของผู้ร่วมชะตาในกระเช้าเดียวกันลั่นรัว สำหรับคนที่ชอบความท้าทาย กระเช้าเปลือยทุกด้านนี้คือสวรรค์ แต่กับคนที่กลัวความสูงนั้นมันคือสิ่งที่ตรงข้ามกันอย่างไม่ต้องสงสัย 40 นาทีในการนั่งกระเช้าไต่ขึ้นไปยอดเขา ในระยะทาง 7.5 กิโลเมตร ด้วยความเร็วไม่มากนัก สำหรับคนที่หัวใจขาดสารกันความสูงระดับนี้มานาน มันก็เท่ากับ 1 ชาติอย่างไรอย่างนั้น

สิ้นสุดสถานีที่ 3 เล่นเอาเข่าอ่อน มือ เท้าเปียกปอนไปด้วยเหงื่อ กว่าจะถึงยอดเขา ยังไม่ทันได้พักเหนื่อยหัวใจ

ไกด์สาวที่แทนตัวเองสุดแสนจะน่ารักเหมือนหน้าตาว่า 'น้องครีม' ก็พาเราเดินเลาะริมภูเขา ที่ฝั่งขวามีแค่ระเบียงโปร่งๆ ให้เกาะ เสมือนกั้นตัวผู้มาเยือนกับหน้าผาสูงมองแทบไม่เห็นข้างล่าง ความตื่นเต้นเพิ่มไปอีกระดับ เมื่อ 'น้องครีม' พาเรามาถึงจุดที่ต้องเสียค่าบัตรเพื่อเดินบนกระจกใสที่สร้างยื่นออกไปจากภูเขาโดยเฉพาะ สร้างความหวาดเสียวให้กับคนที่ชอบหาความเสียวในที่สูงๆ ถ่ายรูปเป็นที่ระทึกกัน ใช้เวลาสักระยะ เหล่าผู้กล้าก็ต้องกลับทางเก่า

ส่วนหัวใจผู้ขลาดความสูง มนุษย์ผู้นิยมพื้นแนวราบเริ่มผ่อนคลาย ย้อนเพื่อขึ้นกระเช้ากลับลงไปต่อรถตู้ที่สถานีกลาง 'ถ้ำเทียนเหมินตัง'

Next station 'ถ้ำเทียนเหมินตัง'..!

ถ้ำเทียนเหมินตัง หรือที่รู้จักและเรียกกันว่า ถ้ำประตูสวรรค์เทียนเหมินซาน ถือเป็นหนึ่งในสี่ของภูเขาที่สวยงาม สาเหตุที่เรียกว่าเทียนเหมินซานก็เพราะว่า ภูเขาเกิดระเบิดขึ้นเองโดยธรรมชาติจนกลายเป็นถ้ำ ไกด์สาวบอกว่า ประตูสวรรค์ที่เรามองเห็นจากด้านล่างแห่งนี้สิริรวมความสูง 131.5 เมตร ความกว้าง 57 เมตร ความลึก 60 เมตร

กิมมิกของที่แห่งนี้ก็คือ บันได 999 ขั้น เชื่อกันว่าถ้าไต่ขึ้นไปจุดสูงสุดก็จะเป็นจุดของประตูสวรรค์ เหมือนกับได้ขึ้นสรวงสวรรค์ เป็นอีกหนึ่งจุด 'ตอกบัตร' ที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปกันอย่างถล่มทลาย เหมือนมาประเทศไทยแล้วต้องมาถ่ายรูปคู่กับวัดพระแก้ว หรือศาลหลักเมือง ไกด์สาวบอกอีกว่า จุดประตูสวรรค์นี้แหละเคยมีชาวรัสเซียได้ขับเครื่องบินเล็กลอดผ่านช่องภูเขาประตูสวรรค์มาแล้ว

รถตู้เมืองไทยมีเขิน อ่ะพูดไม่เชื่อ! - หลายคนพูดตรงกันเมื่อเจอกับคนขับรถตู้โดยสารที่จะพาเราผ่านโค้ง 99 โค้ง สู่ถ้ำประตูสวรรค์เทียนอันเหมินตัน ลองนึกภาพดูว่าข้างขวาเป็นเหวลึกสุดใจ มีแค่แท่งปูนเล็กๆ เหมือนแบบที่กั้นม็อบบ้านเราตั้งกั้น กับรถตู้บรรจุคนได้เกือบ 20 คน ใช้ความเร็วสุดระห่ำขับแบบไม่เเตะเบรกมันจะหวาดเสียวสันหลัง หวาดเสียวหัวใจสักมากแค่ไหน บางจังหวะพี่แกเห็นว่ารถตู้ขับสวนลงไป นึกว่าจะชะลอแรงกระทืบคันเร่ง แต่เปล่า สาดโค้งทำความเร็วราวรถแข่งฟอร์มูล่าวันก็ไม่ปาน

ผู้โดยสารคนหนึ่งเปรียบเทียบซะต้องกระทืบ LIKE สัก 100 สัก 1,000 หนถึงความเสียวไส้+เสี่ยงตายได้ดีว่า คล้ายๆ กับการนั่งรถไฟเหาะ แต่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ดาราหนุ่มที่รวมทริปสำทับด้วยว่าสมัยก่อนรถตู้ขึ้นเขาซิ่งกว่านี้หลายเท่าตัว ขอบคุณที่บอก แต่ประโยคบอกเล่านี้ ไม่ได้ช่วยคลายความกลัวชนิดขี้หดตดหายของผู้โดยสารในรถเลย...!

อยู่ในโหมดหายใจไม่ทั่วท้องอยู่นาน พอก้าวเท้าลงไปด้านล่าง ถือว่าสมราคาที่เสี่ยงชีวิตขึ้นมา เพราะมันสวยงาม เป็นความงดงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ นักท่องเที่ยวมากมายกระจายถ่ายรูปเต็มพื้นที่ เป้าหมายของทุกคนก็คือประตูสวรรค์ ซึ่งแน่นอนว่า มองจากพื้นราบบันไดขนาดเล็กๆ ไม่เต็มฝ่าเท้า 999 ขั้น อยู่ในระดับงานหินเลยทีเดียว แถมบางช่วงบันไดก็ตั้งชันเกือบ 90 องศา

เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ต้องมา เพราะไม่อย่างนั้นจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่องอย่างแน่นอน

โชว์สุนัขจิ้งจอกขาว โรงละครที่เอาหุบเขาเป็นเวที..!

ใช่, อ่านไม่ผิด ไกด์บอกเราขณะขึ้นรถตู้ไต่เขา 999 โค้งลงมาพื้นราบและปล่อยประตูสวรรค์กลายเป็นความทรงจำดีๆ ที่บันทึกอยู่ในสมอง และเมมโมรี่กล้องถ่ายรูป ว่าจะพาไปดูละครปิดท้ายทริปวันที่ 2 ด้วยการพาไปชมโชว์สุนัขจิ้งจอกขาว

ไม่ผิดหวัง ความอลังการ เรื่องราว ความสมจริง แสง สี เสียง น่าประทับใจมาก ละครเรื่องนี้เล่าถึงเรื่องราวความรักของนางพญาจิ้งจอกขาวที่มีต่อชายอันเป็นที่รัก ต้องพลัดพรากจากกันทั้งที่ยังรัก ถือเป็นบทตำนานแห่งความรักที่น่ายกย่อง ไกด์บอกว่า โชว์นี้ยิ่งใหญ่กว่า 'หลิวซานเจี่ยที่หยางซั่ว' ด้วยนักแสดงคุณภาพกว่า 600 คน แสดงภายใต้สะพานคู่เชื่อมเขา 2 ลูก ซึ่งเรียกกันว่า สะพานคู่รักใต้หล้า

หลายฉากควรค่าแก่การจดจำ โดยเฉพาะฉากไฮไลต์ตอนสุดท้ายที่สุนัขจิ้งจอกขาวกับชายผู้เป็นมนุษย์ธรรมดาๆ ยืนอยู่ตรงหน้าผาสูงกว่า 1,000 เมตร เพื่อพิสูจน์รักแท้ต่างสายพันธ์ุที่สังคมกีดกันไม่เข้าใจในความรักแท้ของกันและกัน 100 ปีผ่านไป จวบจน 1,000 ปีผ่านไป ที่สุดแล้วสรวงสรรค์ก็เห็นใจบันดาลให้หน้าผาทั้ง 2 ฟาก ที่ทั้ง 2 ยืนมาบรรจบกัน

เป็นการแสดงที่ทำให้วันที่ 2 ที่มาเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนประทับใจอย่างมากมาย เหลืออีก 2 วัน เป็น 2 วันที่มีเรื่องเล่าไม่แพ้กัน..!




Create Date : 09 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2556 9:20:27 น. 0 comments
Counter : 1113 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.