อาทิตย์นี้ ลาพักร้อนค่ะ
ขอไปแค่ 2 วัน ... บริษัทใจดี จัดให้ตั้ง 6 วัน

ไม่ใช่ไรเลย ... วิกฤตหลังปิดสนามบินค่ะ
เที่ยวบินยกเลิกเยอะมาก
เพราะคนยกเลิกการเดินทาง เยอะแยะไปหมด
T.T

เชื่อป่ะ ... ตั้งแต่เปิดสนามบินมา
เราเพิ่งจะได้บินไปแค่ 3 วันเท่านั้นเอง

พ่อหมีอ้วนหนักกว่า ... ได้บินแค่วันเดียว
โดนบังคับใช้พักร้อนค่ะ เนื่องจากทำงานมาเกือบ 7 ปี
ใช้พักร้อนไปแค่ประมาณ 18 วันเท่านั้นเอง

บริษัทคงไม่อยากจ่ายเงินชดเชย
(ตามกฏ ถ้าไม่ใช้วันพักร้อน จะได้เป็นเงินชดเชยแทน)

รวมถึงไม่มีไฟล์ทบิน
เลยให้หยุดงานซะ 2 อาทิตย์รวด
T.T

พอเราได้หยุด ... ไอ้หมีอ้วนดันต้องไปเรียนหนังสือ
ทบทวนความรู้ด้านการบินประจำปี

... เซ็งเลยค่ะ ...
ลาไว้ กะไปเที่ยว ”หลีเป๊ะ” เลยอดไป โดยปริยาย

... ไม่รู้จะไปไหน ...
ตังค์ก็ไม่ค่อยจะมี (ขาดแคลนรายรับ)
ไหนจะเสียดายวันหยุดที่ได้มา

คุ้ยๆๆๆ เจอ voucher ที่ซื้อมาจากงานท่องเที่ยว
”ภูฟ้า ป่าสัก” งั้นไปที่นี่ละกัน
ทั้งๆที่เพิ่งจะไปปากช่อง เมื่อต้นเดือนนี้เอง
.
.
.

ออกจากบ้านเกือบ 11 โมง
ป่วยยังไม่หาย ก็ไม่วายจะขอไปเที่ยว

ไม่มีโปรแกรมอะไรในใจเลย
อย่างที่บอก เพราะเพิ่งจะมา ไม่ถึง 2 อาทิตย์



แวะทานมื้อกลางวัน ที่”ร้านครูต้อ” เพราะเป็นทางผ่าน
รวมถึงซื้อกระหรี่พัฟฟ์ติดรถไว้หน่อย
ไม่รู้คิดไปเองรึป่าว?? เหมือนชิ้นมันจะเล็กลง

จากร้านครูต้อ
เลี้ยวซ้ายไปตามป้าย ไปตามทาง”อุโมงค์ต้นไม้”

เข้ามาจากถนนใหญ่แค่นิดเดียว
เจอ “ทุ่งทานตะวัน” เลยขอแวะสักหน่อย



ทุ่งนี้ คอยังไม่ตกเลย ... ดีจัง
แต่เป็นที่น่าเสียดาย ว่าฟ้าไม่ใสเลย
T.T

เมื่อถ่ายดอกทานตะวัน กับฟ้าสวยๆไม่ได้
เลยเปลี่ยนไปถ่าย”ผึ้งน้อย”แทน



ไม่ค่อยจะมีโอกาส ฝึกถ่ายภาพ Macro
พอมีแบบให้ถ่ายที ก็เพลินดีเหมือนกัน ... หาไรทำ หนุกๆ
^^

แต่เสียดาย(อีกรอบ) ... ลมแรงไปหน่อย
เลยโฟกัสภาพไม่ค่อยได้
ดอกไม้พลิ้วไหว ตามแรงลมตลอด


++ ฟู่ว์ ... แดดร้อนจังค่ะ ++

สนุกสนาน กับทุ่งแรก
ไปต่ออีกหน่อย ... เจอป้าย “ทุ่งดอกบัวตอง” กะจะแวะแล้ว
แต่เก็บค่าเข้าชม คันละ 50 บาท
เลยขอผ่าน

ไปแวะ “ทุ่งทานตะวัน - ทุ่งที่ 2"
ตรงข้ามไร่องุ่นปภัสรา

ทุ่งนี้ ดอกเยอะดี
แต่ background ไม่ค่อยสวย เพราะติดโรงงาน


++ บานเต็มทุ่ง ++

แถมได้ยิน คนที่ยืนใกล้ๆเรา
บ่นว่ามีขี้หมาด้วย
หุ หุ

มองหาเป้าหมาย คือ "ผึ้งน้อย"
เพื่อมาเป็นนางแบบ

บังเอิญเจอตัวนึง
เขาคลุกเกสรดอกทานตะวัน จนตัวเหลืองเลย



แปลกดี ... ไม่เคยสังเกตเห็นแบบนี้มาก่อน
ยิ่งเอารูปมาดูแบบชัดๆแล้ว

พ่อหมียังถามเลยว่า ที่เท้าเขา คืออะไร??
(ใครรู้ช่วยบอกทีจิ)


++ ก้อนสีส้มๆ ตรงเท้าเขา คืออะไรคะ?? ++

เก็บภาพสักเล็กน้อย
พ่อหมีชวนเข้าไป ใน “ไร่องุ่นปภัสรา”

ตอนนี้ เขามีแต่องุ่นประดับ
คือ ตัดแล้ว ... เอามาผูกเชือก โชว์ไว้
^^"




ไปต่ออีกไม่ไกล ก็ถึง “ภูฟ้า ป่าสัก”ค่ะ
จองที่พักแบบเต๊นท์ไว้ คืนวันธรรมดา คืนละ 700 บาท

เห็นครั้งแรก อารมณ์เหมือน “ภูใจใส”
เพราะเขาเอาดินสีแดง มาก่อทำบ้าน มุงใบจาก
และโต๊ะ-เก้าอี้ ทำจากไม้

... แต่ไม่สวยเท่าค่ะ ...
ภูใจใส บรรยากาศดีและร่มรื่นย์กว่าเยอะเลย





ที่นี่ เขาเน้นสวนหิน และพุ่มไม้เตี้ยๆ
เลยแลดู ไม่ค่อยร่มรื่นย์นัก

เราได้เต๊นท์ หมายเลข 9
อยู่ด้านในสุดเลย เป็นส่วนตัวดี แต่เดินไกลจัง
^^”

ยกกระเป๋าเหนื่อยเลย
ลากเอาก็ไม่ได้ เพราะเป็นพื้นสนาม



เต๊นท์ไฮโซค่ะ มีแอร์ มีตู้เย็น มีทีวี
(แต่ปรับสัญญาณยากจัง ต้องเรียกพนักงานมาทำให้)

ห้องน้ำส่วนตัว ติดกับเต๊นท์
เป็นแบบ open air

สำรวจห้องพักเสร็จแล้ว
พ่อหมีอ้วน ก็ชวนไปเที่ยว “เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์” ค่ะ
เพราะไม่รู้จะทำอะไรดี


++ ภายในเต๊นท์ ที่พัก ++

ขับรถไปประมาณ 13 กม.ค่ะ
ไปยืนรับลมชมวิว อยู่ริมเขื่อนได้พัก เริ่มไม่ไหวค่ะ

ไอโขกๆๆๆ จนเหนื่อย
เพราะไข้หวัดยังไม่หายดี

พ่อหมี ก็เลยพาออกมาหาร้านอาหารแถวนั้นทาน
เห็น “ร้านครัวกุ้งหลวง” คนเยอะดี
งั้นลองร้านนี้ ก็แล้วกัน

กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่สะใจดีค่ะ
พ่อหมีสั่งเมนูปลา มาอีก 2 อย่าง
ขอติดไว้มาเล่าภายหลังนะคะ


++ ด้านหน้าเต๊นท์ที่พักค่ะ ++

... กลับที่พักค่ะ ...
ถนนมืดมากเลย ขับลำบากพอดู

รอบๆ ไม่มีอะไรให้ทำเลย
(ถ้าเป็นปากช่อง ก็ยังพอมีตลาดนัดให้เดินเล่น)


++ ห้องน้ำแบบ open air ยามค่ำคืน ++

สรุปว่า เข้านอนตั้งแต่ 2 ทุ่มค่ะ หุ หุ
เพราะในเต๊นท์มืดมาก เอาหนังสื้อมาอ่านก็ไม่ไหว
มีแต่ทีวีให้ดู แล้วก็ไม่รู้จะดูอะไรดี
^^”

จะทำกิจกรรมอย่างอื่น ... ก็นะ
นอนเต๊นท์ค่ะ นอนเต๊นท์ ห้ามส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่นค่ะ
อิ อิ
^^


++ บานแฉ่ง แข่งกับทานตะวัน ++




- Since August 12, 2005 -