Group Blog
All Blog
|
(36) 38W 6D: แล้วเราก็ได้พบกัน (ประสบการณ์ผ่าคลอด) <<วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม 2553>> อายุครรภ์ 38 weeks 6 days ~ กับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ของชีวิตผู้หญิงคนหนึ่ง ~ . . . วันนี้ ตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อเตรียมตัวไปผ่าคลอดที่โรงพยาบาล ... แอบเสียดายนิดหน่อย ... ที่ไม่ได้สัมผัสความรู้สึกของคนเจ็บท้อง ใกล้คลอด เท่าที่ตรวจเมื่อวาน คุณหมอบอกว่าถ้าจะรอเจ็บท้องคลอดเอง อยู่ได้อีกเป็นอาทิตย์เลยค่ะ เพราะลูกยังไม่เคลื่อนตัวต่ำลงเลย ออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด วันนี้อากาศเย็นนิดๆ ... ท้องฟ้าก็สวยใสเชียว เผื่อเวลาก่อนนัดเล็กน้อย เพราะตั้งใจไหว้เจ้าที่เจ้าทางที่บ้าน ไหว้ศาลพระภูมิ และศาลตา-ยาย บอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่าจะไปรับลูกกลับเข้ามาที่บ้าน ตอนไหว้ท่าน มีลมแรงพัดวูบมา พ่อหมีบอกว่ารู้สึกดีมากเลย ... เพราะแสดงว่าท่านรับรู้แล้ว ยังพอมีเวลาว่างอีกหน่อย เลยถือโอกาสแวะไปใส่บาตรต่อ ก่อนไปรพ.อีกล่ะ วันนี้ วันดี ... ขออิ่มอกอิ่มใจ ตั้งแต่เช้าเลยละกัน ^^ ** ประสบการณ์ผ่าตัดและผ่าคลอด ครั้งแรกในชีวิต ** 0700 น. ไปถึงโรงพยาบาลตามเวลานัด พยาบาลวัดความดัน และให้ชั่งน้ำหนักก่อนคลอด เป็นครั้งสุดท้าย สิริรวมแล้ว น้ำหนักขึ้นมาจากตอนก่อนท้อง 15.5 กก. โชคดีว่าห้องพักที่ต้องการว่างพอดี (ไม่งั้นต้องรอคิวห้องอื่น) เขาเลยพาไปเตรียมตัวก่อนผ่าคลอดในห้องพักเลย เริ่มจากเสียบสายน้ำเกลือ ที่มือซ้าย ประมาณ 0800 น. ทำการโกนขน และสวนลำไส้ ต้องทน จนให้เขาใส่น้ำจนหมดถุงนั่นแหละ จากนั้น ก็ไปถ่ายท้องออกซะให้หมด T^T เรียบร้อยแล้ว ... กลับมานอนที่เตียง เข้าเครื่องตรวจรัดการบีบตัวของมดลูกต่อ ตอนนี้แหละ !! ที่เริ่มมีอาการปวดท้องนิดๆ ตอนหลังเริ่มปวดมากขึ้นเรื่อยๆ เลยบอกให้พ่อหมีช่วยดูเส้นกราฟที่เครื่องให้ ผลคือ ขึ้นเป็นลูกภูเขา ... ซึ่งหมายถึงมดลูกมีการบีบรัด เจ็บท้องจะคลอด ((ตอนหลังคุณหมอบอกว่า เกิดจากการถูกกระตุ้น โดยการสวนลำไส้)) เตรียมตัวเขาสู่ห้องผ่าตัด โดยมีพยาบาลตัดถุงมือยางมาพันแหวนที่นิ้วให้ เพราะเราถอดไม่ออกจริงๆ ... หลังจากพยายามมาหลายครั้งแล้ว T.T ((สุดท้ายแล้ว ก็ไม่เป็นไร)) ++ กำลังถูกพาไปยังห้องผ่าตัด ++ เวลา 0850 น. ... ถูกเข็นไปยังห้องผ่าตัด วิสัญญีแพทย์ทำการฉีดยาบล๊อกหลังให้ เข้าช่องน้ำไขสันหลัง โดยให้เรางอตัวให้มากที่สุด ให้สันหลังโก่ง มีพยาบาลอีกคนคอยช่วยจับให้ ถึงตอนนี้เริ่มอึดอัดทรมาน ... เพราะงอมากๆแล้วเจ็บท้อง พอโดนปักเข็มที่หลัง เผลอสะดุ้งจนแอ่นหลัง โดนว่าเลยอ่า T^T แป๊ปเดียวก็ชา ... ช่วงล่างไม่มีความรู้สึก โดนสวนท่อปัสสาวะต่อทันที รู้สึกนิดๆ แต่ไม่ได้เจ็บมากมาย (เห็นบางคนบอกว่าเจ็บมาก) ต่อด้วยเสียบท่อออกซิเจนที่จมูก แล้วถูกจับแขนทั้ง 2 ข้างกางออก ตรึงไว้กับเตียง ถึงตอนนี้ ... ไม่รู้แล้วว่าคุณหมอทำอะไรกับเราบ้าง เพราะมีฉากกั้นไว้ มองไม่เห็น และช่วงล่างไม่รู้สึกอะไรแล้ว รู้สึกแค่มีคนเขย่าตัวเราอยู่ตลอดเวลา แล้วพ่อหมีก็เข้ามาที่หัวเตียง มือซ้ายจับแก้มเราไว้ ... มือขวาก็จับไหล่เรา เขาบอกว่าจุ๊บหน้าผากเราหลายทีมาก (แต่โดนผ้าปิดไว้ เราเลยไม่รู้ตัว) ถึงจะมีฉากกั้น ... แต่พ่อหมีแอบดูอยู่ตลอด (คนนี้ เคยเข้าคอร์สนิติเวชค่ะ เลยไม่กลัวกับเรื่องแบบนี้) พ่อหมีเล่าว่า เห็นเขาใช้ laser เปิดแผลแค่นิดเดียว แต่แหวกออกมาใหญ่มาก เจ้าหน้าที่คนนึงบอกเราว่า จะดันเอาลูกออก กดตรงลิ้นปี่เราอยู่ 2-3 ที ... รู้สึกเจ็บ+แน่นนิดหน่อย แต่สักพักได้ยินเสียงลูกร้องไห้จ้าเลย ** วินาทีนั้น ... น้ำตาไหลพรากทันที ** ทั้งๆที่ยังไม่เห็นหน้าเขาเลย พ่อหมีก็เอาทิชชู่มาคอยซับน้ำตาให้ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ได้ลูกชาย แล้วพาเขาไปทำความสะอาด นำ tag ติดข้อเท้า มาให้คุณพ่อยืนยันความถูกต้อง ก่อนจะติดที่ข้อเท้าลูก ส่วนพ่อหมีน่ะเหรอ วินาทีแรกที่เห็นลูก ... และคำแรกที่พูดบอกเราคือ ไข่ดำปี๋เลย - -* ... เวง ... สักพักถึงบอกเราว่า ลูกครบ 32 ประการนะ ลูกร้องเก่ง และเสียงดังมาก จนเจ้าหน้าที่ทักเลย ส่วนเสียงคุณหมอ ได้ยินแต่ว่า น้ำคร่ำเยอะมาก ซึ่งเขาเกรงว่า จะทำให้เด็กหายใจเร็ว เพราะมีน้ำคร่ำในปอดเยอะ เจ้าหน้าที่ขานเวลาเกิด *0927 น.* ก่อนจะอุ้มลูกมาให้เราดู โดยให้ดูที่ tag ติดข้อเท้า ว่าถูกต้องหรือไม่ แล้วอ้าขาลูกให้ดู เพื่อยืนยันว่าผู้ชาย ((อืมมม ... ดำจริงๆแฮะ)) จากนั้น เขาอุ้มลูก มาให้เราหอมแก้ม ตอนนั้นตัวเขายังม่วงๆ ยังมีไขเกาะตัวอยู่บ้างเลย ที่ผ้าก็มีคราบเลือดติด ... แต่ตัวเขาไม่มีกลิ่นคาวเลือดเลยสักนิด ตอนแรกคุณหมอบอกว่า จะมีถ่ายภาพครอบครัวในห้องคลอดให้ 1 ภาพ แต่เอาเข้าจริง เวลานั้นชุลมุนกันมาก ไม่เห็นมีใครถ่ายให้เลย เสียดายมากๆ T.T จากนั้น เขาบอกให้คุณพ่อตามลูกไปที่ห้องเนิร์ส ส่วนเรา ต้องเย็บแผลต่อ คุณหมอสูฯที่ทำการผ่าคลอดให้เรา ชะโงกหน้ามาถามว่า อยากหลับมั๊ย?? เราว่าก็ดีค่ะ ... เข้าใจว่าเขาคงจะฉีดยาสลบให้ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่หลับ แค่สลึมสลือ แล้วคุณหมอก็บอกว่า น้ำหนักตัวลูก 3,720 กรัมนะ เยอะอย่างที่คาดไว้ ... ถ้ารอเจ็บคลอดเอง มีสิทธิ์หนักถึง 4,000 กรัม ((เพราะเขายังไม่เคลื่อนตัวลงเลย อยู่ได้อีกเป็นอามิตย์)) ** เหตุผลที่ต้องผ่าคลอด เพราะลูกหนักเกิน 3,500 กรัมค่ะ คุณหมอเกรงว่าจะเบ่งคลอดเองไม่ไหว ** เย็บแผลเสร็จแล้ว ถูกเข็นไปนอนในห้องพักฟื้น อีกประมาณ 2 ชม. เพื่อรอดูอาการแทรกซ้อน หลังการผ่า ตอนนี้เริ่มรู้สึกหนาว ... ตัวสั่นไม่หยุดเลย ทั้งๆที่เขาห่มผ้าหนาๆให้ตั้งหลายชั้น นอนไปได้พักใหญ่ เริ่มมีอาการคันหน้ายิบๆ ((ผลข้างเคียงของการฉีดมอร์ฟีน)) นอนรอเปล ไปส่งที่ห้องพักนานมาก ((ได้ยินว่าเปลเปื้อนเลือด เขาเลยต้องไปหาเปลใหม่มาให้)) เกือบ 1230 น. ถึงเพิ่งจะได้ขึ้นห้อง เขาพาเข็นไปดูลูกที่อยู่ในตู้ปรับอุณหภูมิ ก่อนจะพาเข้าห้องพัก ทันทีที่นอนลงบนเตียง พยาบาลมาคลึงมดลูกให้ เพื่อไม่ให้ตกเลือด เป็นอะไรที่เจ็บมากกกก แต่รู้สึกเลยว่า น้ำคาวปลาทะลักออกมาเยอะมาก T^T ต้องนอนราบ ... ห้ามยกหัวสูง เพราะบล๊อกหลัง มิฉะนั้นช่องน้ำในกระดูกสันหลังจะไม่ปิด รวมถึงต้องงดอาหารทั้งวัน ... จะทานได้ ก็พรุ่งนี้เช้า (ซึ่งทานได้แต่อาหารเหลว พวกน้ำข้าวหรือซุป) ส่วนน้ำ ให้เริ่มจิบได้ตอน 1 ทุ่มไปแล้ว ส่วนอาการข้างเคียงของการฉีดมอร์ฟีน คือ คลื่นไส้-อาเจียน / วิงเวียน / คัน ซึ่งเราโชคดี ... ที่มีเพียงแค่อาการคันเท่านั้น แต่พอบ่าย อาการคันเริ่มหนักขึ้น จากเดิมแค่คันที่บริเวณหน้า ... เริ่มคันตามแขน ตามตัว จนพยาบาลต้องมาฉีดยาแก้แพ้ ผ่านสายน้ำเกลือให้ ทำอะไรไม่ได้เลย ... ต้องนอนพักเฉยๆ แต่ต้องพยายามขยับตัว ตะแคงซ้าย-ตะแคงขวาบ้าง เพื่อให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหว แขนซ้ายเสียบน้ำเกลือ จนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น หมดไป 3 ขวด ((คุณหมอบอกว่า ในน้ำเกลือใส่ยาทำให้มดลูกหดตัวไว้ด้วย)) ส่วนแขนขวา ติดเครื่องวัดความดันและชีพจร พยายามจะพัก แต่ไม่หลับ ได้แต่เคลิ้มๆ เย็น ... พยาบาลมาเช็ดตัวให้ แล้วพาลูกมาหาเราที่ห้อง เขาอุ้มลูกลงมาวางบนเตียงใกล้ๆเรา วันแรกที่เจอกัน ... และได้เห็นหน้าเขาชัดๆ แต่ไม่สามารถจะอุ้ม หรือโอบกอดเขาไว้ในอ้อมอกได้เลย ได้แต่เอามือสัมผัสเขา T.T ++ ได้โอบกอดลูกครั้งแรก ++ เราหอมแก้มลูก เขาก็นอนนิ่งเฉย แต่พอพ่อหมีหอมแก้มเขาบ้าง เขากลับลืมตาเลิ่กลั่ก แล้วมองหา แต่ก็ไม่ร้องเลย ++ 2nd kiss ... จุ๊บแรก ในห้องผ่าตัดคลอดไงครับ ++ ถึงเวลา 1 ทุ่ม ... พยาบาลเอาหมอนมาให้หนุนหัว กับเริ่มให้จิบน้ำได้ แต่คืนแรกที่โรงพยาบาล ... แทบไม่ได้พักเลย เพราะพยาบาลจะเดินเข้ามาดูเป็นพักๆ ตี 4 ฉีดยาอีกครั้ง 6 โมงเช้า ... ถอดสายน้ำเกลือ และสายปัสสาวะ และทั้งหมดนี้ คือ ประสบการณ์ผ่าคลอด ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่อยากขอบันทึกไว้ เป็นความทรงจำ ++ ลูกหมีน้อยของแม่ ++ 272 วันที่รอคอย กับชีวิตน้อยๆ ที่เติมเต็มความหมาย ของคำว่า ครอบครัว ** 29 ตุลาคม 2553 : แล้วเราก็พบกัน ** Fri., 29 Oct.'10 # 606 @ โรงพยาบาลวิภาราม ยินดีด้วยนะคะ คุณแม่น้องน่ารักน่าชังจังเลยค่ะ
โดย: lookmoodeaw วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:8:55:23 น.
ยินดีด้วยนะค่ะ
น้องน่ารักมาก ๆ เลย อ่านประสบการณ์ผ่าคลอดแล้วรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันนะค่ะเนี้ยะ ถึงตาตัวเองไม่รู้จะเป็นยังไง โดย: lelhibaby วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:9:32:41 น.
กำลังจะต้องผ่าคลอดที่วิภารามเหมือนกันค่ะ เพราะน้องไม่กลับเอาหัวลง กลัวๆยังไงไม่รู้
โดย: เจ้าการเวกเสียงหวาน วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:17:17:34 น.
ตอนนี้ก็ครบเดือนแล้วสิค่ะ ทานนมแม่ล้วน ๆ เลยหรือปล่าวค่ะ
โดย: ladiesorange วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:0:01:00 น.
ยินดีด้วยค่ะ...น้องตัวโตมากเลย..
ขอให้สุขภาพแข็งแรงทั้งคุณแม่และตัวเล็กค่ะ... โดย: shogun (baby_shogun ) วันที่: 7 ธันวาคม 2553 เวลา:15:03:30 น.
สวัสดีค่ะ แวะมาทักทาย .. ตามมาจาก facebook จร้า ^_^ นู๋บุญมีค่ะ
น้องโตแล้วโน๊ะ เห็นในภาพวิ่งจับแกะแระ โดย: nuboonme วันที่: 4 กันยายน 2555 เวลา:21:05:56 น.
It's spooky how celevr some ppl are. Thanks!
โดย: Khirod IP: 212.68.90.12 วันที่: 16 พฤษภาคม 2556 เวลา:4:04:56 น.
tJBYpW , [url=//mdfpgpxkougs.com/]mdfpgpxkougs[/url], [link=//deylecpudvbb.com/]deylecpudvbb[/link], //opyonuyqjibm.com/
โดย: dxhfnsyb IP: 81.64.73.19 วันที่: 22 พฤษภาคม 2556 เวลา:11:05:29 น.
|
I-am-Nina
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] เรื่องราวของคนเดินทาง ที่ชอบสะพายกล้อง ท่องเที่ยว ไปทั่ว ... กับคนรู้ใจ ** สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของภาพและ/หรือข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด ** Friends Blog
Link |