ยกเลิกการเดินทาง...
จริง ๆ เย็นวันนี้ (23FEB20) เป็นวันที่เราวางแผนเดินทางไปเที่ยวกัน วันเกิดคุณชายเราก็จะมีแผนไปเที่ยวกันทุกปี เพราะเขาปิดเทอมพอดี ปีนี้ก็เช่นกัน ว่าจะพาเขาไปเล่นหิมะในประเทศที่ครอบครัวเราชื่นชอบมาก ไปกันทุกปี วางแผนเอาไว้อย่างดี ดูไฟล์ท จองโรงแรม ซื้อชุดสกี นู่นนั่นนี่กันเรียบร้อย เตรียมพร้อมจะเดินทาง
ตามดูสถานการณ์เรื่องไวรัสมาตั้งแต่เกิดเรื่อง ก็คิดว่าอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ จนเมื่อวันจันทร์ (17FEB20) ที่ สธ. ของเราประกาศว่า ถ้าไม่จำเป็นก็ควรหลีกเลี่ยงประเทศที่เรากำลังจะไป เนื่องจากอยู่ในระยะที่ 3 คือ มีผู้ป่วยเกิดขึ้นในประเทศทั้ง ๆ ที่ไม่เคยไปประเทศเสี่ยง และไม่สามารถระบุต้นตอของเชื้อได้ จึงจัดเป็นการระบาดภายใน
ณ. จุดนี้เป็นจุดที่ต้องตัดสินใจหละว่าจะเอาอย่างไร การตัดสินใจไปง่ายกว่าการยกเลิกเพราะคุณชายอยากไปมาก แต่ ... เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้ใหญ่อย่างเราต่างหากที่ต้องให้ข้อมูลเขาและตัดสินใจแทน การไปอาจจะดูไม่อันตราย ใคร ๆ ก็ไป ยังโพสชวนกันว่าชีวิตที่นู่นปกติ คนน้อย เที่ยวสบาย แต่มันก็คือความเสี่ยงที่...เราไม่จำเป็นต้องไปเสี่ยงก็ได้ โดยเฉพาะการเอาลูกไปเสี่ยง ถ้าไปแล้วต้องคอยระวังตัวทุกอย่าง กลัวและไม่สบายใจ คงเป็นการเที่ยวที่ไม่สนุกเท่าไหร่ ยิ่งถ้ากลับมาแล้วเขาเกิดไม่สบาย ความผิดของเราเต็ม ๆ ถ้าแถมด้วยการมาติดคนรอบข้างอีกยิ่งแล้วใหญ่ ไว้ทุกอย่างดีแล้วเราก็ไปกันใหม่ได้
เรา 2 คนเลยตัดสินใจยกเลิกทริป ยอมรับว่าหนักใจในการบอกคุณชายมาก ๆ เพราะเขานับวันถอยหลังรอมาตลอด น่าจะต้องเสียใจมาก ก็พยายามนึกหาทางอธิบาย ในที่สุดก็ใช้วิธียกตัวอย่าง เช่น ถ้าเพื่อนไม่สบาย อยากเข้าไปเล่นด้วยไหม ควรเข้าใกล้หรือเปล่า ฯลฯ และสุดท้ายลองเสี่ยงให้เขาตัดสินใจเอง ดีที่เขาตัดสินใจว่าไม่ไปด้วยตัวเอง (ถึงแม้จะมีคำว่าแต่ต้องพาไป ... ตามมาก็ตาม ... 555 ...) เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว เดี๋ยวเราค่อยเจอกันนะ ... ไม่พลาดแน่ ๆ ในเรื่องค่าใช้จ่าย แน่นอนว่ามีส่วนที่เราต้องเสียโดยไม่สามารถคืนได้ เพราะเราเตรียมความพร้อมกันมานานพอสมควร แต่เราเลือกความรับผิดชอบต่อลูก ต่อครอบครัว ก็ต้องยอมรับตรงนั้น ผมคงไม่สามารถบอกได้ว่าผมตัดสินใจถูก เพราะเหตุผลของแต่ละคน แต่ละครอบครัวก็ต่างกัน สำหรับคนที่ตัดสินใจไปก็อยากให้ป้องกันตัวเองดี ๆ รับผิดชอบต่อตนเองและสังคมด้วยนะครับ การไปในประเทศเสี่ยง นอกจากจะป้องกันตัวเองขณะเดินทางแล้ว เวลากลับมาก็ต้องพร้อมที่จะกันตัวเองจากสังคมอีก เพราะระยะฟักตัวของเชื้ออยู่ที่ 14 วัน กลับมาถึงแม้จะไม่มีไข้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เป็น เพียงแต่ยังไม่แสดงอาการ ผมรู้สึกชื่นชมกับหลายครอบครัวที่เดินทางไปก่อนที่จะมีประกาศ แต่กลับมาก็ยอมกันตัวเองออกมา หยุดงานอยู่บ้าน ให้ลูกหยุดเรียน ในขณะที่ก็แอบหนักใจเพราะก็เห็นมีคอมเมนท์แนะนำคนที่มีไข้ว่าให้กินยามาก่อนขึ้นเครื่องจะได้ผ่านเข้าประเทศได้ไม่งั้นจะถูกกักตัว ... เออ ... ถ้าเป็นแบบนี้ แบบป้าเกาหลี ระยะที่ 3 ในไทยก็คงอีกไม่นาน
Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2563 |
|
0 comments |
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2563 10:59:07 น. |
Counter : 3438 Pageviews. |
|
|
|