ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก A giver is always be loved.
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2564
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
14 กรกฏาคม 2564
 
All Blogs
 
พระพุทธเจ้าหมอยา

พุทธศิลป์ “พระพุทธเจ้าหมอยา/พระพุทธเจ้าไภษัชยคุรุ ” ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ?
 
ถึงแม้จะปรากฏวรรณกรรมที่กล่าวถึง “พระพุทธเจ้าหมอยา” (Medicine Buddha) ใน “พระสูตรลลิตวิสตระ” (Lalitavistara Sūtra) ที่ได้กล่าวสรรเสริญ “พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นราชาแห่งโอสถ” (King of Medicines) ผู้สามารถปลดเปลื้องความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานของมวลมนุษย์ นำทางไปสู่พระนิพพาน “...พระองค์เป็นแพทย์ที่ประทานพระโอสถอันได้แก่น้ำอมฤต ทรงเป็นผู้นำ และเป็นผู้ชี้ทางสู่สวรรค์...” มาตั้งแต่ช่วงต้นราชวงศ์คุปตะ ราวพุทธศตวรรษที่ 9 
.
*** มาจนถึงช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 12 ปรากฏพระพุทธเจ้าหมอยาในชื่อพระนาม “พระพุทธเจ้าไภษัชยคุรุไวทูรยประภาสุคต” (Bhaiṣajyaguru Vaidūryaprabha rāja -Sugata) “พระไภษัชยคุรุตถาคต” (Bhaiṣajyaguru Tathagata) (มหาแพทยราชาพุทธะ – มหาไภษัชยราชพุทธเจ้า) ในพระสูตร “ไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตปูรวปณิธานสูตร” (Bhaiṣajya-guru-vaiḍūrya-prabhāsa-tathāgata-pūrva-praṇidhāna Sūtra) ที่ลิขิตโดยพระตรีปิฎกธราจารย์เฮี้ยนจั๋ง (ซาน จั๋งเสวียนจั้ง พระถังซำจั้ง) ในคติพุทธศาสนามหายาน (Mahāyāna Buddhism) ความว่า 
“...เมื่อครั้งที่พระศากยมุนีเจ้า ได้ทรงจาริกไปถึงเมืองเวศาลี ทรงประทับอยู่ใต้ร่มพฤกษชาติที่มีเสียงดนตรีของลมและใบไม้ ครั้งนั้นมีพระภิกษุจำนวน 8,000 รูป พระมหาโพธิสัตว์จำนวน 36,000 องค์ แล้วพระโพธิสัตว์มัญชุศรี (โพธิสัตว์แห่ง ปัญญา) ได้มาร่วมชุมชนและกราบทูลอาราธนาให้พระศากยมุนี ตรัสถึงพระนามของเหล่าพระพุทธเจ้าองค์อื่น ๆ และพระปณิธาน รวมทั้งอานิสงส์ของการบูชาพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ๆ  
.
พระศากยมุนีจึงทรงตรัสเล่าว่า “...นับจากโลกธาตุแห่งนี้ไปทางด้านบูรพาทิศ (ตรงข้ามกับแดนสุขาวดี) ผ่านโลกธาตุและดินแดนต่าง ๆ ไปมากมายเท่ากับจำนวนเมล็ดทรายในแม่น้ำคงคา 10 สายรวมกัน ยังมีโลกธาตุแห่งหนึ่งนามว่า “ศุทธิไวฑูรย์” มีพระพุทธเจ้าพระนามว่า “ไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา” ประทับอยู่...”
.
“... พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น เมื่อครั้งยังเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ได้ตั้งจิตมหาปณิธานไว้ 12 ประการ เพื่อช่วยเหล่าสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ที่เกิดจากโรคทางกายและทางใจและมีชีวิตยืนยาว ...”
.
*** มาจนถึงต้นพุทธศตวรรษที่ 13 ปรากฏพระนามของพระพุทธเจ้าไภษัชยคุรุตถาคต ในพระสูตร “ไภษชฺยคุรุไวฑูรฺยประภาสปฺตพุทฺธปูรฺวปรฺณิธานวิเศษวิสตฺรสูตร” (Bhaiṣajya guru vaiḍūrya prabhā Sapta Buddha pūrva praṇidhāna viśeṣa vistāra Sūtra) ที่ลิขิตเป็นภาษาจีนโดยพระอี้จิง (I-Tsing) อธิบายว่า “...พระพุทธเจ้าไภษัชยคุรุไวทูรยประภาสุคตทรงเป็นประธานของกลุ่มพระไภษัชยตถาคต 7 พระองค์ มหาปณิธานและชื่อโลกธาตุของพระพุทธเจ้าไภสัชยคุรุที่มีจำนวนมหาปณิธานไม่เท่ากัน แต่มีมหาปณิธาน 12 ประการแบบเดียวกัน แต่ละองค์ประทับอยู่ที่พุทธเกษตรศุทธิไวฑูรย์ ทางแดนตะวันออก....” 
.
*** แต่กระนั้น ในช่วงก่อนพุทธศตวรรษที่ 13 – 14 ก็ยังไม่เคยปรากฏรูปพุทธศิลป์ของพระพุทธเจ้าหมอยาราชาแห่งโอสถ/พระไภษัชยคุรุ อย่างชัดเจนครับ
------------------------
*** ดูเหมือนว่า คติและรูปพุทธศิลป์ของพระพุทธเจ้าไภษัชยคุรุจะไม่ได้รับความนิยมในวัฒนธรรมอินเดียมาก่อน แต่เริ่มได้รับความนิยมในช่วงของวัฒนธรรมทิเบตและจีน อาจด้วยเพราะในอินเดียช่วงราชวงศ์ปาละ (Pala Dynasty) ราวพุทธศตวรรษที่ 14 ที่มีความเชื่อในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน/วัชรยาน/ตันตระ (Vajrayāna -Tantric Buddhism) ยังคงนิยมใน “พระโพธิสัตว์ผู้บริบาลรักษาโรคภัย” ทั้ง พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร พระปัญจรักษาอิตถีโพธิสัตว์ (Pañcarakṣā) ประจำพระฌานิพุทธเจ้าทั้ง 5 องค์ ที่มีธาริณี/มนตรา ป้องกันภัยร้ายแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะ “พระมหาประติสราอิตถีโพธิสัตว์” (Mahāpratisarā) สายตระกูลพระธยานิพุทธะรัตนสัมภาวะ (Ratnasambhava) บุคลาธิษฐานรูปเทวีของพระสูตร “มหาปฺรติสรา-วิทฺยาราชฺญี” (Mahāpratisarā Vidyārājñī Dhāraṇī Sūtra) เพื่อการปกป้องมนุษย์จากวิญญาณชั่วร้าย บาปเคราะห์ โรคร้าย ความเจ็บป่วย การคลอดลูก ความอดอยากและอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับมนุษย์  
.
---------------------------
*** แต่มีรูปประติมากรรมสำริดชิ้นหนึ่ง จัดแสดงที่ Arthur M. Sackler Gallery (ภาพจาก วิกิมีเดีย) ระบุในคำอธิบายของสถาบันสมิธโซเนียน (Smithsonian Institution) ว่าเป็นพระพุทธเจ้าไภษัชยคุรุ /พระพุทธเจ้าหมอยา ได้มาจากชวากลาง ประมาณอายุที่พุทธศตวรรษที่ 14 ซึ่งเป็นช่วงอิทธิพลของราชวงศ์ไศเลนทรา (Śailendra Dynasty-ศรีวิชัย) โดยรับคติเรื่องพระพุทธเจ้าหมอยาจากทิเบต ผสมผสานงานศิลปะแบบราชวงศ์ปาละครับ
.
รูปสำริดที่ระบุว่าเป็นพระไภษัชยคุรุ มีพุทธลักษณะตามแบบศิลปะชวา/ศรีวิชัย ประทับ (นั่ง) ขัดสมาธิเพชร/ขัดไขว้ข้อพระบาท (วัชรปรยังกะ/Vajraparyaṅka) บนปัทมสนะ/บัลลังก์ (padmāsana) ด้านหลังเป็นแผงประภาวลีกลม มีเปลวเพลิงอานุภาพแหลมเรียงเว้นเป็นช่วง มีรูปดอกไม้สวรรค์เรียงอยู่บนแผง ด้านบนเป็นฉัตร (Chattra) ก้านฉัตรเป็นพุ่มดอกไม้ พระหัตถ์ซ้ายถือผลสมอไทย (Myrobalan fruit) ในท่าแบพระหัตถ์ประทานพร (มอบให้) พระหัตถ์ขวาถือม้วน “พระมนูสูตร” (Manuscript) หรือผ้าห่อยา
.
รูปศิลปะการถือผลสมอ น่าจะได้รับอิทธิพลมาจากฝ่ายเถรวาท (Theravāda) ลังกา ที่ในพุทธประวัติอธิบายว่า พระอินทร์ได้ถวายผลสมอ ในความหมายของ “ทิพย์โอสถ” เพื่อเป็นยาระบาย แก่พระพุทธองค์ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของประทับเสวยวิมุติสุขครับ
หากรูปสำริดจากชวากลางองค์นี้ คือ พระพุทธเจ้าหมอยา/พระไภษัชยคุรุ ก็อาจอธิบายได้ว่า รูปพุทธศิลป์ของพระไภษัชยคุรุในยุคแรก ช่วงราชวงศ์ปาละ-ชวา/ศรีวิชัย จะฉลองพระองค์แบบพระภิกษุไม่สวมเครื่องประดับ มีลักษณะของมหาบุรุษเช่นเดียวกับ “พระพุทธเจ้าอมิตาภะ” (Amitabha Dhyāni Buddha) แต่ยังไม่นิยมวางรูปสิ่งของมงคล ทั้งหม้อยาโอสถ ผลสมอ บาตร (บรรจุทิพยโอสถ) และรัตนเจดีย์ ตามแบบศิลปะทิเบตและจีน ในพระหัตถ์ขวา รวมทั้งยังรับคติผลสมอโอสถทิพย์จากฝ่ายเถรวาทมาผสมผสานในรูปงานพุทธศิลป์อีกด้วย
.
พระพุทธรูปสำริด ศิลปะในพุทธศตวรรษที่ 14 จากชวากลางองค์นี้ จึงเป็นงานพุทธศิลป์ในคติพระพุทธเจ้าหม้อยา/พระไภษัชยคุรุรุ่นแรก ที่พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอาจเป็นรุ่นแรก ๆ ของโลกไปพร้อมกัน ก่อนจะเกิดความนิยมรูปศิลปะพระไภษัชยคุรุ ที่ถือหม้อยา/บาตรในพระหัตถ์ครับ
.
--------------------------------------
*** ในคติความเชื่อของมหายานและวัชรยาน/ตันตระ เหล่าสรรพสัตว์ที่ทนทุกข์ทรมานด้วยโรคภัย หากเพียงได้ยิน รำลึกถึงหรือกล่าวพระนามของพระพุทธเจ้าไภสัชยคุรุไวฑูรยประภาสุคต ก็จะพ้นจากโรคภัยทั้งหลาย มีร่างกายสมบูรณ์ ประกอบด้วยสติปัญญา มีทรัพย์มหาศาล ผู้ที่เจ็บป่วยด้วยโรคทางกายและทางใจ จะสามารถพ้นจากโรคภัยได้ ด้วยการถวายเครื่องบูชาแก่รูปบุคลาธิษฐานของพระไภษัชยคุรุ สวดพระธาริณี-มนตราประจำพระองค์ กล่าวเสียงและตั้งจิตเป็นกสิณรำลึกถึงพระนามของพระองค์
.
เหล่าผู้ศรัทธาจะนิยมสาธยายจารึก คัดลอกพระนาม สวดธาริณี-มนตรา (dhāraṇī) ตามพระสูตร วาดภาพพระบฏ สร้างงานพุทธศิลป์ของพระไภษัชยคุรุ ตามอรรถในพระสูตรที่กล่าวว่า “หากได้ปรากฏพระนามจากพระธาริณี-มนตรา พระสูตร รูปภาพและรูปพระปฏิมาของพระไภษัชยคุรุสถิตหรือปรากฏอยู่ ณ แห่งใด โรคอาพาธร้ายแรง อาถรรพ์ชั่วร้ายทั้งปวง การเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ ก็จะสิ้นไปจากที่แห่งนั้น ด้วยอำนาจแห่งพระองค์...”
.
“...หากสาธุชนหญิงชายใดๆ จดจำพระนามได้และภาวนาอ่านท่องพระสูตร พระธาริณี และพระนามของพระไภษัชยคุรุโดยสม่ำเสมอ ผู้นั้นจะปราศจากโรคภัยร้ายแรงทั้งปวง ไม่เป็นผู้พิกลพิการ ไม่ยากจนข้นแค้น จักมีอายุขัยที่ยืนยาว และเมื่อสิ้นชีวิตลงก็จะได้ไปจุติยังศุทธิไวฑูรย์พุทธเกษตร...”
.
“...โอม ไภษัชเย ไภษัชเย มะหาไภษัชเย ไภษัชยะราเช สะมุทคะเต สวาหา...”
.
*** สวดพระธาริณีนี้ เพื่อกล่าวระลึกถึงพระนามต่อหน้ารูปแทนพระองค์  
.
“...นะโม ภาคะวะเต ไภษัชเย คุรุไพฑูรยะ ประภา ราชายะ ตถาคตายะ อรหัตเต สัมมาสัมพุทธายะ ตัทยาถา โอม ไภษัชเย ไภษัชยเย มหาไภษัชเย ราชา สมุทคะเต สวาหา...”
.
ขออำนาจแห่งพระไภษัชยคุรุ ได้ช่วยปกป้องคุ้มครองทุกท่าน ให้พ้นจากภัยพิบัติจากโรคร้ายทั้งทางกายและจิตใจ ขอให้ประสพความปลอดภัย สุขสมหวังและมีสุขภาพที่แข็งแรงครับ
เครดิต ; FB
วรณัย พงศาชลากร
EJeab Academy
 



Create Date : 14 กรกฎาคม 2564
Last Update : 14 กรกฎาคม 2564 16:28:58 น. 0 comments
Counter : 808 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ททมาโน ปิโยโหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
A giver is always beloved.
New Comments
Friends' blogs
[Add ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.