The Girl with Dragon Tattoo ภาพยนตร์ที่ถูกดัดแปลงมากจากนิยายสอบสวนชั้นดีที่โด่งดังไปทั่วโลกจากบทประพันธ์ของ Stieg Larsson ผู้ซึ่งเสียชีวิตก่อนหน้าหนังสือของเขาจะโด่งดังเสียอีก ก่อนถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในปี 2009 ด้วยความสำเร็จย่างล้นหลาม จากการกำกับของ Niels Arden Oplev จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างที่ The Girl with Dragon Tattoo เวอร์ชั่นฮอลลีวูดจะถูกนำมาเปรีบเทียบกับเวอร์ชั่นสวีเดนอย่างห้ามมิได้
The Girl with Dragon Tattoo ถูกนำกลับมาทำใหม่โดยผู้กำกับ David Fincher (The Social Network,Seven,Fight club) ผู้กำกับที่ได้ชื่อว่าเป็นคนทำหนังสะท้อนด้านมืดของคนได้อย่างมีมิติที่สุด และบทบาทของ Lisbeth Salander (Rooney Mara) แสดงบุคลิกของตัวละครที่สะท้อนความตกต่ำของสังคมจนทำให้แสดงถึงความเหลวแหลกของจิตวิญญาณได้ดีที่สุด จนทำให้ผู้เขียนนึกไปถึงบทของตัวละคร Marla Singer (elena Bonham Carter)ในเรื่อง Fight Club เป็นอย่างยิ่ง
ความน่าสนใจของ The Girl with Dragon Tattoo คงหนีไม่พ้นการให้ภาพของผู้หญิงเป็น ฮีโร่ ทั้งๆที่เธอถูกจัดเป็นไร้สมรรถภาพของสังคม ต้องมีผู้อุปถัมภ์ อีกทั้งความโหดร้ายในวัยเด็ก อาจมีผลทำให้เธอมีปมด้อยจนเป็นบุคคลที่แปลกแยกต่อสังคมอย่างสิ้นเชิง แต่นั่นทำให้เธอมีจุดเด่นในการเป็นแฮกเกอร์สาวได้อย่างไม่มีที่ติ
เรื่องราวของ The Girl with Dragon Tattoo หากพูดรวบรัดสั้นความคือการสอบสวน บุคคลที่หายสาบสูญไปของครอบครัวตระกูลหนึ่งโดยใช้ Mikael Blomkvist (Daniel Craig) นักข่าวตกอับหลังจากดันไปเปิดโปงผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งเป็นผู้สอบสวนโดยแลกกับข้อมูลลับที่จะทำให้กู้ชื่อของเขากลับคืนมา โดยการสอบสวนทำให้เขาได้มาพบกับ Lisbeth Salander แฮกเกอร์นักสอบสวนที่ทำงานอย่างลับๆ ก่อนที่ทั้งสองจะแท๊กทีมกันทำงานเพื่อคลายปม ที่ถูกขมวดไว้ถึง 40 ปี