All Blog
อุบัติเหตุ
อุบัติเหตุ เป็นคำนาม หมายถึง เหตุที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ความบังเอิญเป็น

เคยมีละคร เรื่องอุบัติเหตุรัก นี่เป็นเหตุ ที่เกิดในทางนามธรรมไปหน่อย แต่ดูเหมือนจะดี

ส่วนใหญ่ เรามักใช้ คำนี้ ในเหตุ ที่ไม่ค่อยจะดี ไม่ดี ไม่ดีที่สุด

เหมือนกับอิฉันนี่แหละค่ะ (ว่าจะไม่เชื่อมโยงแล้วเชียวว่า ตั้งแต่เกษียณมา)

มีเหตุใหญ่เกิดขึ้น เกี่ยวกับการขับรถยนต์ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ผ่านมานานเดือนกว่า แต่ก็หลอกหลอนพอควร

กลับจากไปงานเลี้ยง พวกคนแก่ ๆ ชวนคุณสามีไปด้วย ตามคำเชิญ แต่เผอิญ ท่านก็มีเลี้ยงเพื่อนฝูงอีกงานหนึ่ง เลยต่างคนต่างไป

สามทุ่มครึ่ง ก็ทำตัวหนีบ ๆ หนีกลับก่อนงานเลิก

ขับรถมาเอื่อย ๆ เรื่อยๆ มาถึง สี่แยกใหญ่กลางเมือง เชียวละ แต่ไม่เข้าใจว่า เพิ่งสามทุ่ม ครึ่ง สัญญาณไฟ เป็นไฟ สีเหลืองกระพริบแล้ว นาน ๆ ออกจากบ้านกลางคืน ยังงงว่าเออทำไมๆๆๆ เรานี่เชยจัง

ปกติ สามารถเลี้ยวซ้าย ข้ามสะพาน เอกาทศรถ มาฝั่งตะวันตกค่อยอ้อมมาบ้านได้ แต่ก็สามารถ ตรงไป เพื่อข้ามสะพานนเรศวร เข้าถึงบ้านโดยตรง

เจ้ากรรมนายเวร รออยู่น่ะซิ เราจึงตรงไป เพราะเห็นรถด้านซ้ายจอดรอให้เรา แล้ว พอมองขวาอีกที รถว่าง เราก็ตรงทันที

แต่สาบานเถอะ ขับช้าระดับ 20 เลยเชียว เกือบสุด ทางแยกอยู่แล้ว ก็ได้ยินเสียงหวีดร้องมาทางซ้าย เราเหยียบเบรคหยุด พอดีกับมอเตอร์ไซด์ปลิวลิ่วมาปะทะกันพอดิบพอดี

3 สาววัยเอ๊าะ ซ้อนกันมา ทั้งหน้าและหลัง นุ่งขาสั้น ขาขาวๆด้านขวา บาดเจ็บกันระนาว ดีว่า ไม่ถึงขั้น ขาหัก แต่ก็เข้าขั้น เนื้อหลุด เย็บกันหลายเข็ม อยู่โรงพยาบาลกันหลายวันอยู่

คดีความ ตำรวจตัดสิน ประมาททั้งคู่ โดนปรับ แต่ฝ่ายบาดเจ็บเรียกค่าทำขวัญจากเรา (เพราะ เราไม่บาดเจ็บ จึงสมควรเสียเงิน )


ความจริงเราไปเยี่ยมเด็ก ๆและเห็นอาการแล้ว เรายังสงสาร เมื่อหวนคิดว่า เออ ถ้าเป็นลูกเรา ๆก็คงแย่ ตั้งใจว่าจะให้เงิน คนละ 1 หมื่นบาท

พอวันที่มาตกลงกันที่สถานีตำรวจ เค้า ( พ่อแม่มากันเต็ม เพราะ 3 สาว ญาติก็มากันทุกคน) พร้อมใจกันเรียก ค่าทำขวัญตรงใจเรา แต่มาเรียกค่าซ่อมรถ เราอีก 3 พัน บาท ปั๊ดโธ่ มีปรี๊ด เหมือนกัน เราซ่อมรถเราตั้งเกือบ 2 หมื่น เราเลยบอก 3หมื่น 3 คน น่ะให้ แต่ไปซ่อมรถเอง เค้าก็ยอม

ระหว่างรอ ตำรวจบันทึก ข้อความ เราก็สอนเด็กๆ ว่า การขับรถ ซ้อน สาม น่ะผิดกฎจราจร นะ การขับขี่รถก็ขาดสมรรถภาพ แล้ว ไม่รู้วันนั้นหนูมีใบขับขี่หรือเปล่า ต่อไป อย่าทำอีก ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย เสียเวลาของทุก ๆคน

ว่าแล้วก็หยิบเงิน พิเศษ ไปแจกใส่มือให้ อีกคนละ 1,000 บาท (เท่ากะที่พ่อแม่เรียก ค่าซ่อมรถ)

พ่อแม่นั่งกันตาปริบๆ แล้วก็บ่นว่าลูกเสียเวลาเรียน ต้องจ้างครูมาสอนพิเศษ เราถามว่า แล้ว คิดว่าฉันผิดใช่ไหม ...เงียบ...

ความจริงมีรูปรถให้ดู แต่กลัวเสียราคา เมื่อต้องการขาย





Create Date : 24 มกราคม 2551
Last Update : 24 มกราคม 2551 9:31:18 น.
Counter : 707 Pageviews.

1 comment
ครูคือฉัน..นั่นไง
วันนี้เป็นวันครู

สมัยเป็นเด็กก็ชอบเดือน มกราคม นี่เพราะ มีวันเด็ก และวันครู เพราะวันครูจะได้หยุดโรงเรียน

เมื่อมาสอนที่มหาวิทยาลัย มีนึกขำปนเอ็นดู นักศึกษาปี 1 ที่เธอทำใจกล้า เข้ามาถามว่า ..อาจารย์ขา พบกันคราวหน้า ตรงกับวันครู เราจะหยุดเรียนกันใช่ไหมคะ ...เราบอกว่า เราไม่หยุดกันหรอกค่ะ อิฉันก็ออกอ้ำอึ้งเล็กน้อย อธิบาย ไม่ถูกว่า ทำไม ในมหาวิทยาลัย จึงไม่หยุด วันครู ฮืออออ..เพราะนักศึกษาถามว่า แล้วอาจารย์ไม่ได้เป็นครูเหรอคะ ช่วยด้วยค่ะ ทำไม ฉันถึงไม่ได้เป็นครู ...

สมัยที่อิฉันเป็นครู สอนอยู่ระดับประถมศึกษา เมื่อถึงวันครู โรงเรียนหยุด และครูก็ไปทำกิจกรรมกัน กิจกรรมแรกที่จำได้คือ ช่วงเช้า เราจะตักบาตรทำบุญ ระลึกถึงบูรพาจารย์ มีกิจกรรมประกาศเกียรติคุณ ครูดีเด่นแห่งปี มีกิจกรรมทางวิชาการเล็กน้อย บ่าย ๆจะมีกิจกรรมสังสรรค์ สนุกกัน ยุคนั้น ถือว่าเป็นสิ่ง ที่อิฉันเห็นว่า ดีมาก เพราะ ครูแต่ละท่าน อยู่กันหลากหลาย ห่างไกลกัน การไปมาหาสู่ ไม่ค่อยมี (ไม่เหมือนปัจจุบัน ที่ครูมาพบกันมาอบรม สัมมนากันบ่อยมาก) ดังนั้น การมารวมตัวกันทำกิจกรรม ก็เป็นสิ่งดี

แต่นั่น คือเหตุการณ์ เมื่อ 30 ปีกว่า ที่ผ่านมา เมื่อมาอยู่ที่ที่ทำงานใหม่ แรก ๆ ยุคเป็นวิทยาลัยครู หน่วยงานยังอยู่กับกระทรวงศึกษาธิการ เราก็ยังไปทำกิจกรรมร่วม ครูในจังหวัดนะ ระยะต่อมา หน่วยงานเจริญเติบโต เป็นมหาวิทยาลัย ( อย่าให้เล่าดีกว่า...เรื่องมันยาว) ขึ้นกับสำนักงานการอุดมศึกษา และยังอยู่กับกระทรวงศึกษาเหมือนเดิม แต่...ไม่อยากข้องเกี่ยวกับครู..ครู...หรืออย่างไร ไม่รู้ อิฉันก็หาใครให้คำตอบไม่ได้ ว่า ทำไมไม่มีกิจกรรมวันครู...

ฉันยังอยากเป็นครู...เพราะฉันเป็นครู..เพราะครูคือฉัน...อ้าว นี่เราจบชีวิตราชการครูไปแล้วนี่นา มาพร่ำเพ้ออะไร


เมื่อเช้าตรู่ มีลูกศิษย์ที่รัก ชื่อสยาม ซึ่งไปเป็นครู ที่แม่จันเชียงราย ส่ง ข้อความมาว่า...ขอคุณพระอวยพรให้ครู มีความสุขความเจริญครับ... ก็ตอบกลับไปว่า ศิษย์กตัญญุตา อยู่ที่ไหนก็จะพบแต่ความสุขความเจริญ เช่นกัน

พอสาย ๆ ลูกศิษย์ ที่จบไป 10 กว่าปี ได้ดี มีเกียรติ ดร.ลาวัณย์อยู่ที่สุโขทัย ก็โทรมาหาว่าส่งของขวัญวันครูมาให้ อาจารย์ได้รับหรือยัง (ส่งไปที่ทำงาน เรายังไม่ได้ไปตรวจสอบ ที่ตู้ส่วนตัวในคณะเลย) แต่เราก็อวยชัยให้พร ให้เจริญก้าวหน้าต่อ ๆไป

หันกลับดู รูปวาดภาพล้อ ในห้องทำงาน ที่ลูกศิษย์มอบให้ เมื่อวันเกษียณ ก็ตื้นตันใจ


พอบ่ายแก่ ๆ ลูกศิษย์ อีกคนอยู่กำแพงเพชร ส่งเมล์มาให้ ลองอ่านดู

กตัญญุตา สักการะ พระคุณครู

๏ งดงามล้ำ คำสอนครู มาสู่ศิษย์ ด้วยดวงจิต ที่มุ่งหวัง สมดังผล

ดุจปลูกดอก กล้วยไม้ ไว้ท่ายล หมั่นรดน้ำ ทุกทุกต้น ด้วยดวงใจ๚

๏ จะกี่วัน ผันกี่เดือน เลื่อนกี่ปี ไม่เคยที่ จะท้อถอย

มีแต่รัก คอยดูแล แผ่ห่วงใย จะใกล้ไกล ไม่ทอดทิ้ง สิ่งควรเป็น ๚

๏ หวังไว้ว่า สักวันหนึ่ง พึงได้ชม งดงามสม ผลิช่อดอก ออกช่อเด่น

หลากสีสัน หลั่นสีสวย ด้วยฉ่ำเย็น กลิ่นกำจาย รายเรียงเช่น ทิพย์มาลี๚

๏ ฝากความดี ที่คงมั่น ทุกวันวาร ด้วยสองมือ มุ่งดวงมาน ผ่านวิถี

ครูแห่งครู ผู้สรรสร้าง เสกสิ่งดี ทั่วธาตรี ที่กล้าพันธุ์ กลั่นดอกดวง๚

๏ ร้อยบุปผา นานาพรรณ อันหอมหวน ร้อยใจล้วน ทุกใจศิษย์ จิตโชติช่วง

ร้อยรวมรัก กตัญญุตา มาทั้งปวง กราบคุณครู ผู้คอยห่วง ด้วยดวงใจ ๚ล๚๛

ครูสาคร กอนจร

(ขุนจงจัดนิสัย)





Create Date : 16 มกราคม 2551
Last Update : 18 มกราคม 2551 12:19:01 น.
Counter : 2758 Pageviews.

3 comment
ย้อนรอยคำขวัญวันเด็ก 50 ปี
เมื่อวานก่อนได้อ่าน " คู่สร้างคู่สม "ฉบับ วันที่ 10-20 มกราคม 2551หนังสือดี มีคุณภาพ มีคอลัมน์ รวมคำขวัญวันเด็ก ตั้งแต่พ.ศ. 2499-2551 โอ้!!ช่างเก่งกาจจริง ๆ ทีมงาน จะไม่ให้สรรเสริญได้อย่างไร

เรา ๆท่าน ๆก็มักได้ยินกันทุกรอบปี ว่าคำขวัญวันเด็ก แต่ละปี เป็นอย่างไร แต่เพิ่ง ได้สติ ก็ครั้งนี้ เมื่อเห็นภาพรวม ๆของ คำขวัญ วันเด็ก

เคยแปลกใจไหม " ทำไม คำขวัญวันเด็ก ต้องมาจากนายกรัฐมนตรี"
น่าจะมาจากเด็ก บ้างไหม เปล่า...ไม่ได้ซีเรียส อะไรหรอก.....

จะลอง ๆสังเคราะห์ มาให้ดูว่า คำขวัญ เมื่อ 50 กว่าปี มาน่ะเป็นอย่างไรบ้าง

ปี 2499 นี่ คือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ท่านให้ไว้ปีเดียว
คือ....จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยขน์ต่อผู้อื่น และส่วนรวม" อิฉันเห็น ก็รักแล้วค่ะ เพราะทันสมัย มาก นี่เด็กยุคนั้น มาเป็นผู้แก่ยุคนี้ เคยเอามาใส่สมองลองคิดดูบ้างว่า ท่านบำเพ็ญ ประโยชน์ส่วนตน มากเกินไปหรือเปล่า อ่า.....ว่าจะไม่เครียดแล้วเชียว

ส่วนปี 2500 - 2501 ไม่มีคำขวัญ ค่ะ

มายุคท่านจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ นี่ตั้งแต่ 2502-2506 เลย ท่านใช้คำพูดแน่มากเลยนะ เพราะคำขวัญของท่าน ขึ้นต้นด้วยคำที่เหมือนกันทุกปี คือคำว่า....ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่.......รักความก้าวหน้า (2502) รักความสะอาด(2503) อยู่ในระเบียบวินัย(2504) ประหยัด (2505) และ มีความขยันหมั่นเพียรมากที่สุด...เป็นไงคะ ทหาร ตรงเบ๊ะๆ แบบทำให้ได้เป็น ปี ๆไป จะได้ ไม่ต้องวุ่นวายหลายอย่าง จนไม่รู้จะทำไร ก่อน หลัง ฮ่า ๆๆๆๆ

2507 ไม่มีคำขวัญ งดจัดงานวันเด็กอีกด้วย

2508-2516 เป็นยุคจอมพลถนอม กิตติขจร ( 8 ปีเชียวนะ สงสาร ท่านคงจะเหนื่อย กับการคิดคำขวัญ น่าดูเลย)

ช่วง 8 ปีนี้ อ่านดูแล้วเริ่ม เปะปะ หาทิศทางไม่ค่อยได้ ดูแล้วจะเน้น เรื่องรักเรียน รู้เรียน ถึง 4 ครั้ง เพียรทำความดี 2 ครั้ง นอกจากนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณธรรม ซึ่ง ถ้าจำไม่ผิด เพลง เด็กเอ๋ย เด็กดี ต้องทำหน้าที่ 10 อย่างด้วยกัน จะเกิดยุคนี้ เพราะมีเน้นความสามัคคี มีความประพฤติเรียบร้อย มีวินัย มีสัมมาคารวะ มานะบากบั่น อ้อ ให้รักชาติด้วย(2511) และเมื่อปีสุดท้ายของท่าน(2516)เหมือนจะติดหูติดปากมาก คือ....เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ....

ยุค นายสัญญา ธรรมศักดิ์ 2517-2518 2ปี นี้ เน้น "ความสามัคคีคือพลัง " นั่นคือยุค ที่เกิดเหตุการณ์ บ้านเมือง ไม่ค่อยปกติสุข ไปหาอ่านประวัติศาสตร์การเมืองเอาเอง นะคะ

หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช ในปี 2519 อ่านแล้วเหมือนได้ยินท่านพูดอบรม สั่งสอนว่า...เด็กที่ต้องการเห็นอนาคตของชาติรุ่งเรือง จะต้องทำตัวให้ดี มีวินัย เสียแต่บัดนี้... เหมือนไม่ใช่คำขวัญ แต่เป็นคำสอน

ยุคท่านธานินทร์ กรัยวิเชียร (2520) บ้านเมืองเราก็คง ไม่ค่อยดีเท่าไร ท่านจึงเน้นว่า....รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเยาวชนไทย...ให้สังเกตว่า ไม่ได้เน้นย้ำ เฉพาะเด็ก แต่เลยไปถึง เยาวชน ด้วย

ปี 2521 - 2523 เป็นยุคท่านพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ในปี 2521 ท่านนำคำขวัญ ยุค จอมพลถนอม กิตติขจร มาทั้งบท (2516) นอกจากนั้นปีอื่น ๆ ก็ยังเป็นเรื่อง เด็กไทยคือหัวใจของชาติ และเน้นเรื่องความอดทน ขยัน ประหยัด

ปี 2524-2531 เป็นยุคท่านพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ( 8 ปีเช่นเดียวกับท่านจอมพล ถนอม)
ช่วง 8 ปีนี้ ท่านจะเน้นเกี่ยวกับด้านคุณธรรม ความดี มากที่สุด ทุก ๆปี จะกล่าวถึง ความมีวินัย (6 ปี) ความซื่อสัตย์ สุจริต (6ปี) ความใฝ่รู้ ขยันศึกษา (2ปี) รักวัฒนธรรมไทย นิยมไทย ( 5ปี) ความประหยัด (5ปี)....แต่ที่ยาวที่สุด คือ...ขยันศึกษา ใฝ่หาความรู้ เชิดชูชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย...(2525) และค่อนข้างเหมือนยุคท่านธานินทร์

ไปพักเหนื่อยมาค่ะ

เห็นไหม ฟ้องท่านนายกฯ มีอดีตเด็กเข้ามารายงานว่า ไม่ค่อยสนใจ เท่าไร ยกเว้นว่าจะหลับหูหลับตาท่อง เพื่อเอาไปตอบคำถาม รับรางวัล จากผู้ใหญ่

มายุค พลเอกชาติชาย ชุณหวัณ บ้าง ท่านอยู่ในตำแหน่ง 3 ปี ตั้งแต่ 2532-2534 ท่านกล่าวถึง "การรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ " แล้วยังเน้น
" ความซื่อสัตย์ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม เพื่อนำชาติพัฒนา "

ปี 2535 นายอานันท์ ปันยารชุน ท่านมาช่วงหลังการปฏิวัติ อยู่ปีเดียว จึงเน้น "ความสามัคคี มีวินัย ใฝ่ศึกษา จรรยางาม"

ท่านนายกฯชวน หลีกภัย นี่ท่านเป็นนายกฯ อยู่ 2 ยุค คือ 2536-2538 และ2541-2544 (ซึ่งปีที่เว้น 2539 มีท่านบรรหาร เป็นนายกฯ และปี 2540 ท่านพลเอกชวลิต )

ดูเหมือนว่า นายชวน หลีกภัย ท่านวางเป้าหมาย ของคำขวัญ ไว้ บทละ 2 ปี คือ...."ยึดหมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม" (2536-2537) ส่วน ปี2538 คือ"สืบสานวัฒนธรรมไทย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม" เมื่อพิจารณา ค่อนจะเป็นเชิงรูปธรรมมากพอควร และเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อม เข้ามามีบทบาทอยู่ในสังคมไทยด้วย

ส่วนปี2541-2542 คือ "ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย" และ"มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย" (2543-2544)

ปี 2539 ยุคนายบรรหาร ศิลปอาชา " มุ่งหาความรู้ เชิดชูความเป็นไทย หลีกไกลยาเสพติด" และต่อจากนั้นเป็นยุค พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ (2540) คือ"รู้คุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศึกษา ไม่พึ่งพายาเสพติด".....แสดงว่ายุค 2 ปีนี้ เรื่องยาเสพติดมาแรงมาก

ยุคนายกฯ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร ระหว่าง ปี 2545-2549 ดูว่าจะเน้นเรื่องเรียนรู้ค่อนข้างมาก ใช้คำต่าง ๆ กันเช่น เรียนให้สนุก (2545) เรียนรู้ตลอดชีวิต (2546) รักเรียน(2547) ขยันเรียน(2548) และขยันอ่าน ขยันคิด(2549) นอกจากนั้น ยังมีคำ ใหม่ ๆ ที่แตกต่างกว่ายุคก่อน ๆ เช่น เล่นให้มีความรู้ คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี กล้าคิด กล้าพูด และที่ เห็นว่า แตกต่าง อย่างสิ้นเชิง คือ" รักชาติ รักพ่อแม่"(2547)

2550-2551 พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ วกกลับมาเตือนสติ เกี่ยวกับคุณธรรม อีก "มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข"(2550) และ "สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม"(2551)

เหนื่อยไหมคะ ได้รื้อฟื้นคำขวัญวันเด็ก แห่งชาติ แล้ว ยังได้ รื้นฟื้น นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ได้มองเห็น ยุคสมัย สะท้อนสังคมไทยอีกแบบหนึ่งด้วย

เมื่อได้ศึกษาทั้งหมดแล้ว พบว่า (ทำเหมือนงานวิจัยชิ้นหนึ่งเชียว)
คำขวัญ เน้นเรื่อง คุณธรรมเกี่ยวกับ ระเบียบวินัย มากที่สุด มีการกล่าวถึง (11 ปี ) รองลงมาคือ ความสามัคคี ( 7ปี ) และ ความประหยัด กับความรักชาติ (6ปี)

พอจะสะท้อนเกี่ยวกับเรื่อง ความมีระเบียบวินัย ของคนในชาติเราได้แค่ไหน ที่ใคร ๆเคยเขียนบทความ บทบ่น ว่า ไปไหน ๆ พบเห็นอย่างนี้ไหม ชอบ สะดวก ชอบสบาย คือไทยแท้ (ความจริงคือเอาง่าย พูดให้แรงว่ามักง่าย ก็ได้ นั่นเอง)

ถ้าจะถามว่า ระเบียบวินัย คืออะไร ต้องคุยอีก บล็อก

วันนี้ วันเด็ก เอามาทบทวนย้อนรอย คำขวัญ แค่นี้ก่อนนะคะ

( แต่ที่อยากจะ บ่น คือ เรื่องผู้ใหญ่ ไร้ระเบียบ วินัย ต่างหาก)





















Create Date : 12 มกราคม 2551
Last Update : 12 มกราคม 2551 15:59:33 น.
Counter : 1209 Pageviews.

1 comment
เรื่องเล่าปีเก่าที่ผันผ่าน
การย้อนรอยเล่าเรื่อง ปีเก่า ถือว่าเป็นการทบทวนชีวิตอย่างหนึ่ง

หรือจะเรียกว่าตั้งสติ ก่อนสตาร์ท ก็ได้ ดีไหม

ก่อนสตาร์ท ต้องมาอวยพร ปีใหม่กันก่อน



สัญญลักษณ์ ปีเกิดของเรา มาแล้ว

ชอบจังเลย ขอบคุณ แหล่งดั้งเดิม (จำไม่ได้ว่ามาจากไหน แต่ก็ขอบคุณมาก)

เดือนมกราคม 2550
จำได้ว่าวันนี้ เมื่อปีที่แล้ว เรากับคนแก่ที่บ้าน ( แก่กว่าเราไง) ออกเดินทางจาก HICKORY บ้านของลูกสาว เพื่อกลับเมืองไทย ใหญ่อุดม หลังจากไปเยี่ยมเยียน ท่องเที่ยว พอสังเขป และร่วมวันคริสต์มาส กับครอบครัวฝรั่ง

พ่อตากะลูกเขย ช่วยกันตกแต่ง





นี่ก็ช่วยกันสร้างบ้านขนม



เดือนนี้ ส้มเสี้ยว หมาพันธุ์บางแก้ว ตัวสุดท้ายในบ้าน จากเราไป ด้วยวัย14
ปี จำได้ว่าวันสุดท้าย พาเธอไปเดินข้างบ้าน เธออ่อนแรงเดินไม่ไหว ต้องอุ้มเข้าบ้าน พร้อมกันนั้นเอาข้าวต้มมาป้อน มองสบตากัน เราพูดว่า มันไม่ไหว ก็ไปดีๆ นะลูก บ่ายๆ กลับบ้าน เธอไปแล้วจริงๆ

เดือน กุมภาพันธ์ ( 21-25 กพ. 2550 )
ไปท่องเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน รุ่น ม.6 ปี 2504 ของพ่อบ้าน นึกภาพเอาเต๊อะว่าแก่กันขนาดไหน มุกดาหาร-สะหวันนะเขต-เว้-ดานัง-ฮอยอัน โดยรถยนต์ค่ะ ท่าน ก่อนไป นึกว่ากลับมาป่วยแน่เรา แต่แน่ๆ ไม่ยอมแพ้เรื่องเที่ยว

เดือน มีนาคม ( 3-5 มีค.50) แอ้มพาไปเที่ยวสิงคโปร์ แอ้มโบนัสแม่บ้าน เราโบนัสน้องสาว ไปกัน 4 คน ตะลอน ๆขึ้นรถเที่ยวสนุกดี ไม่มีผู้ชายขัดคอ


เดือน พฤษภาคม 2550
ต้นเดือน คณะ พากันไปเที่ยว ที่เกาะกูด เป็นประเพณีว่าไปเที่ยวฮาเฮ เลี้ยงส่งต่างเมือง แด่ผู้จะเกษียณ

อยู่ทางบ้าน6 พค. ลูกชาย เปิดร้านกาแฟ ชื่อ OaK'cafe & Bistro

24 พค.50 ถือโอกาสเลี้ยงวันเกิด ที่ร้านใหม่

เดือนมิถุนายน - กันยายน 2550
ภาคเรียนสุดท้าย ที่ได้ทำงาน ในสถานศึกษา งานครูที่ทำมา ตั้งแต่วัยสาว -กลางคน- และเข้าวัยสูงอายุ (เรียกภาษาสุภาพ) ไม่น่าเชื่อว่าทำงานราชการ อาชัพครูมา 41 ปี

ไม่ค่อยมีเวลา อ้ำ อึ้ง อาลัยอาวรณ์ หรอก เพราะยังทำงานหนักเหมือน เดิม จนวาระ ของกันยายน และต่อเนื่องจนตุลาคม (เพราะนักศึกษายังสอบไม่เสร็จ ครูจะหนีได้อย่างไร )

เดือนตุลาคม - ธันวาคม 2550

พอเกษียณ กันยายนปั๊บ ไปฉลอง กับน้องเพื่อนรัก ( งงไหม เพื่อนรุ่นน้องนั่นเอง รุ่นเดียวกัน เค้าไม่ค่อยคบ )และสามี ที่ South Africa 7 วัน สนุก และมีความสุขมาก คิดถึง ลูกๆน่าจะได้ไปด้วยกัน

ตั้งแต่นั้นมา ก็ยังไม่รู้สึก ว่าความเหงา คืออะไร วันเดือนปีไวมาก เพื่อน ที่จะเกษียณปีหน้า ที่เคยร่ำร้องว่าอยากเกษียณไปพร้อมเรา พอพบหน้ากัน เมื่อไวๆ นี้ บอกว่าอีก 9 เดือน ก็เกษียณแล้ว ดูสิ วันเวลาช่างไม่เคยปราณี และไม่รีรอใครอะไรทั้งสิ้น

ช่วง 4-10 ธค.50 ลุกสาวแอ้มกะหน่อง พาพ่อแม่ไปเที่ยวใต้ เน้นการพักผ่อน นอนหลับ และกิน เป็นพิเศษ กำหนดขอบเขตการขับรถ ไม่เกินวันละ 400 กิโลเมตร

16 ธค. 50 กลางคืน กลับจากงานเลี้ยง คนเดียว ขับรถเฉี่ยวชน กับเด็กสาวซ้อนมอเตอร์ไซด์กันมา 3 คน เจ้ากรรมนายเวร จริง ๆ ขับรถมา 30 กว่าปี ไม่เคยเฉี่ยวชนใคร รุนแรงขนาดนี้ แน่นอนค่ะ ไม่ต้องพูดใครผิดใครถูก ตำรวจระบุ ผิดทั้งคู่ เพราะ ไฟ เหลืองกระพริบ เรารถยนต์ และไม่บาดเจ็บ คือผู้ เสียเปรียบ แต่งานนี้ก็บาดเจ็บไม่มากขนาด อะไรหัก อะไรแตก มีแต่แผลเหวอะหวะ เย็บกันหลายอยู่

เมื่อวันที่ 28 ผู้บาดเจ็บมากันเต็มโรงพัก พร้อมพ่อแม่เด็ก 3 คน (ไม่เต็มได้ไงน่ะ) เค้าพร้อมใจกัน เรียกค่าทำขวัญ 30,000 บาท (คนละ 10,000 บาท )แล้วให้เราซ่อมรถให้ ธ่อ รถเธอกระจกซ้ายแตกข้างเดียว เราบอก ให้ 3 หมื่นนะ แต่รถเอาไปซ่อมเองเถอะ เพราะของเราก็หมดไป 13,500 บาท เค้าก็ตกลงกัน
ขณะตำรวจ พิมพ์บันทึก ข้อความ เราก็นั่งมอง ๆเด็ก ทั้ง 3 คนอยู่ นึกถึงว่า ถ้าเป็นลูกสาวเรา เราก็คง เสียใจ ฮือ ๆๆๆๆ เรายังดี ไม่เจ็บตัว เงินก็ยังหาได้อยู่ หยิบเงินเดินไปแจกใส่มือเด็ก อีกคน ละ 1,000 แต่ก็อดสอนไม่ได้ว่า อย่าขับรถ ซ้อน 3 อีกนะ

เมื่อวานลูกสาวมาเตือนว่า แม่ทำอะไร ไม่เห็นอัพบล็อกเลย

แม่บอกว่าเล่นเกมจ้ะ ลูก

แม่กลัวสมองฝ่อ แต่ตอนนี้หลังจะเดี้ยงน่ะซี้

ที่เล่าผ่าน ๆ มาจะไปเล่าอีกที ในกลุ่มท่องเที่ยวนะจ๊ะ

ไชโย ปีใหม่ สุขภาพ ร่างกายแข็งแรงนะ เงินไม่ต้องรวยมาก พอกินพอเที่ยวก็เอาแล้วจ้า






Create Date : 01 มกราคม 2551
Last Update : 1 มกราคม 2551 13:19:04 น.
Counter : 960 Pageviews.

2 comment
DAD's RULES
วันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดพ่ออีก 1 ปี เริ่มย่างเข้าปี ที่ 63 แล้ว

ในรอบปีที่ผ่านมา มีอาการร่างกายสึกหรอ เพิ่มขึ้นมาอีก 2 อย่าง คือปวดท้อง และท้องอืดบ่อยๆ ไปตรวจหลายพิธีการ จนพบว่าเป็นแผลในกระเพาะอาหารเล็กน้อย กินยารักษา มา 1 เดือน ก็ไม่เกิดอาการละ

และเมื่อวานก่อน ก็บอกว่า ปวดหูเล็กน้อย ไปเอายามาหยอด แต่โดยรวมพ่อก็มีสุขภาพแข็งแรง มีแรงที่จะทำอารมณ์โมโห ฉุนเฉียว ได้บ่อย ๆ เราเลยถือโอกาสพูดว่า นี่แหละ น้ำกรดมันเกิด มาตามอารมณ์ แล้วกัดกร่อนกระเพาะ
อาหารเอา

แต่พ่อก็ขยันออกกำลังกาย และเป็นคนไม่เฉื่อยแฉะ ค่อนข้างจะไฮเปอร์ด้วยซ้ำไป และที่สรรเสริญอีกอย่าง คือ พอเกิดอาการใดๆ เกี่ยวกับร่างกายก็ขยันไปพบหมอ (ไม่รู้อยากไปพบพยาบาล หรือเปล่า)

วันนี้เอา เสื้อตัวโปรดของพ่อมาโชว์




เสื้อตัวนี้ ลูกสาวซื้อมาฝาก เมื่อตอนไปเรียน เมื่อ 10 ปีก่อน รักมาก เมื่อใหม่ๆก็ใส่ไปเที่ยวนอกบ้าน พอ 5 ปีถัดมาเริ่มใส่ไปออกกำลังกาย พอมาระยะ สัก 2 ปีที่ผ่านมาก็ใส่นอน แบบว่าลดฐานะลง แต่ว่าก็เป็นฐานะที่ดี นะลูกสาว
เนื่องจากใส่นอน นี่ได้ใกล้ชิดพ่อดี ให้ความอบอุ่นร่างกาย

ประเด็นสำคัญ คือ พ่อไม่เคยสนใจ ข้อความ บนหน้าอกพ่อเลย ฮ่าฮ่าฮ่า พ่อบอก ไม่สน เราก็มานึกว่า เอ...พ่อใดๆในโลกนี้ นี่มันจะค่อนข้างเหมือนๆกัน อย่างนี้ หรือไง ทำไม๊ ทำไม มันไม่มีพรมแดนเลยนะ ไม่ว่าพ่อเอเชีย หรือพ่อที่อเมริกา

ใครๆมีพ่อ หรือมีพ่อของลูก อาการอย่าง หน้าอกเสื้อตัวนี้บ้างไหม



ถึงพ่อจะมีอาการหลายๆอย่าง ตามกฎของพ่อดังกล่าว แต่เราก็รักพ่อ <b>รักแบบเบื่อหน่าย น่ะ หลายๆคนคงเคยเป็น

เมื่อวานถามว่าอยากได้อะไรใส่บาตร พ่อบอก เอาข้าวเหนียวดีไหม เราเลย จัดการให้ มีลาบปลา หมูฝอย แล้วข้าวเหนียว ส้มโชกุน

เย็นนี้ไม่มีลูกอยู่กินข้าวด้วย เพราะลูกชายไปญี่ปุ่น ลูกสะใภ้ก็บอกที่คณะมีงานศิษย์เก่า เราเลยถามว่าเราไปกินไหนดีพ่อ 5555 เก๊าะไปกินของฟรีร้านมันนั่นแหละ เพราะมันอยากไม่อยู่กัน ฮา มีอาหาร มีขนมเค็ก ครบถ้วน

เคเค ของฟรีวันเกิด



Create Date : 01 ธันวาคม 2550
Last Update : 1 ธันวาคม 2550 8:58:03 น.
Counter : 772 Pageviews.

2 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  

วันจัน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



อดีต ครูระดับประถมศึกษา 12 ปี ข้ามขั้นมาเป็นครูระดับอุดมศึกษา 29 ปี ปัจจุบัน เป็นผู้เกษียณ อายุราชการ ปีที่11

งานหลัก เป็นผู้อำนวยการดูแลแม่อายุ 90 ปี(ปัจจุบัน2560เสียชีวิตแล้ว)
งานรอง เล่นเกม เล่นกับสัตว์เลี้ยง เดินดูต้นไม้ อ่าน เขียน ทำงานบ้าน ดูหนัง ไปให้คนอื่นนวดตัว ไปนั่งเล่นร้านกาแฟลูกชาย นัดเพื่อนเก่า/ลูกศิษย์เก่ากินข้าว ดูแลสวนกล้วยและต้นไม้อื่นๆตามใจที่อยากปลูก ทำอาหารและช่วยเหลือตนเองได้ในระดับ 9เต็ม10
งาน พิเศษ ช่วยดูแลหลานชายและหลานสาว(ตามที่มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนที่บ้านเขา)
ผลงานดีเด่น มีสามี1 คน และลูกชาย 1 คน ลูกสาว 2 คน
และหลานชาย 2 คน หลานสาว 2คน

สถานะล่าสุด ปี2561 😍😍ชีวิตเลือกได้
เนื่องจากไม่มีภาระใดๆมาให้ต้องห่วงหา ยกเว้นต้องห่วงตัวเองให้มากที่สุด เพราะปีนี้ ขึ้นหลักกิโลเมตรที่70 แล้ว