คืนกำไรให้ชีวิต เพื่อพิชิตไปในโลกกว้าง
space
space
space
space

กตัญญุตาของลูกศิษย์ ม.1 รุ่นแรก



งานกตัญญุตาของลูกศิษย์ ม.1 รุ่นแรก 

ฉันเคยกล่าวเสมอว่า  ความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ  ทำให้ชีวิตเจริญ
รุ่งเรืองไม่ตกอับ  และสิ่งเหล่านี้ ฉันก็ได้สั่งสอน
ลูกศิษย์ของฉันรุ่นแล้วรุ่นเล่า และฉันแทบจะไม่เคยผิดหวังเลย เพราะ
ลูกศิษย์เหล่านั้น ก็นำไปใช้ในชีวิตของพวกเขา 
และชีวิตของพวกเขา ก็เจริญรุ่งเรือง  มีหน้าที่การงานดี ๆ ทำ  บางคนก็
มีกิจการของตัวเอง  บางคนก็รับราชการ
มีหน้ามีตา เป็นไปตามวิถีชีวิตของแต่ละคน  คนเป็นครููอย่างเรา  ก็ปลื้ม
ปิติไปกับพวกเขาด้วย  

ลูกศิษย์ ม.1 และ ม.6 รุ่นแรก  ถือเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ชีวิตประสบความ
สำเร็จค่อนข้างมากทีเดียว และเป็นอีกรุ่นหนึ่ง
ที่ได้รวมตัวกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งในการแสดงความกตัญญูต่อครูอาจารย์

ปีนี้  จัดเป็นปีที่สอง  โดยจัดกันที่ร้าน กระท้อน  แถวบางนา- ตราด ใน
วันที่ 29  เมษายน  61  และเวลาไปชนวันกับรุ่นพี่ ธาตุทอง 2 ส
ครั้งแรกก็กลุ้มใจ  ฉันจะแยกร่างไปได้อย่างไร   ปรึกษา หนึ่ง  เขาก็
แก้ปัญหาให้ลุล่วงไปด้วยดี  
คือ รุ่นนี้ เขาจัดตั้งแต่ 11 โมง  เลิกงานประมาณ  บ่ายสองกว่า ๆ  
ส่วนรุ่นธาตุทอง 2 ส. เขาจัดตอนเที่ยง
ไปถึง 2-3 ทุ่ม  เมื่อเลิกจากงานของ รุ่น ม.1 แล้ว  ก็จะมีลูกศิษย์มาส่ง
ฉันที่ ร้านโกยกลางบึง 
อ่อนนุช 44 ซึ่งถ้ารถไม่ติด ก็จะใช้เวลาประมาณ ครึ่งชั่วโมง เท่านั้น 
ฉันโทรบอก ป้อมว่า  รุ่นพี่เขาแก้ปัญหาเช่นนี้ให้
ป้อม (ผู้นำจัดงาน) ก็ใจดี บอกว่าไม่มีปัญหา เขาจะหาคนมาส่งฉันที่ร้าน
โกยกลางบึง  ประมาณบ่าย 3 โมง
ปัญหาของฉัน ก็เป็นอันแก้ไขไปได้อย่างราบรื่น   

วันที่ 29 เมษา  ป้อมนัดให้ฉันไปรอรถที่จะมารับไป ร้านกระท้อน เวลา
10.30  น.  ฉันไปถึงโรงเรียน 10.15  น. 
พบ พี่ปู่  สุรพงษ์  มารออยู่ที่ลานเขียวแล้ว  เลยได้นั่งคุยกันไป ฆ่าเวลา
10.30 น. ก็มีลูกศิษย์ ม.1 คนหนึ่ง เดินเข้ามาทักพวกเรา
พวกเราก็เดาได้ว่า  ต้องมารับพวกเราแน่นอน  และการคาดเดาของเรา
ก็ถูกต้อง  หนุ่มคนนี้  มีชื่อว่า อภิสิทธิ์  นั่นเอง 

เมื่อถึงเวลาและครบคนแล้ว  อภิสิทธิ์  ก็พาเราขึ้นรถ  มีครูทั้งหมด 4 คน 
คือ ฉัน พี่ปู่ สุรพงษ์ และสิริกุล 
น่าจะประมาณครึ่งชั่วโมงกว่า ๆ ก็มาถึงร้าน กระท้อน  มีครูหลายคนมา
ก่อนรถคันเราแล้ว  รถจอด ก็พอดี 
รถของเรือง ซึ่งไปรับ พี่ศรี พี่ปาณี พี่สำรวยและพี่เอม ก็มาพร้อมกันเลย
เลยได้เดินเข้าร้านพร้อมกัน 
ไปถึง ก็เจอ นุสรณ์  พี่ปอง  พี่ออ  มาก่อนเราแล้ว  นุสรณ์ รีบเรียกฉันไป
ร่วมโต๊ะกับเขา  คงเพราะเราสนิทกัน
จะได้มีเพื่อนคุยถูกคอ  นั่นเอง  อิอิ  มาชมบรรยากาศของงาน ค่ะ 



นุสรณ์  เรียกไปนั่งโต๊ะเดียวกัน มีพี่ปอง พี่ออ  พี่สละ นั่งอยู่ก่อนแล้ว ค่ะ
ถ่ายกับนุสรณ์  อ้อยก็มาทักทาย คุยกันที่โต๊ะ อย่างสนุกสนาน


สมาชิกที่มาในปีนี้  มีหน้าใหม่หลายคน หน้าเก่าหายไปหลายคน 
รวมทั้ง อภิสิทธิ์ที่มารับพวกเรา  ก็เพิ่งมาในปีนี้ ค่ะ 



ภาพบน  นิสา เพิ่งมาปีนี้เช่นกัน  


เลยเที่ยงมาแล้ว  เจ้าหน้าที่ก็เริ่มเสิร์ฟอาหารตามโต๊ะต่าง ๆ 


ประกาศ  ก็เพิ่งมาปีนี้  มาสวัสดี เลยถ่ายรูปด้วยกัน 

รายการอาหาร ปีนี้  รสชาติก็อร่อยดี พอควร


อาหารอีกชุดหนึ่ง  ตบท้ายด้วยข้าวผัดและผลไม้ตามฤดูกาล



ก่อนและระหว่างทานอาหาร  มีนักร้องมาขับกล่อม  ค่ะ อิอิ









โต๊ะนี้ มีหน้าใหม่ที่ไม่ได้มาปีที่แล้วหลายคน 


ถ่ายรูปกับหลิน  จ้ะ หลิน ทำงานที่ข่าวสด  งานครั้งนี้  เลยได้ลงหนังสือ
พิมพ์ข่าวสด ด้วยนะ  


นี่เป็นภาพงาน กตัญญุตา ของ ลูกศิษย์ ม.1 และ ม. 6 ในหนังสือพิมพ์
ข่าวสด  ค่ะ 

ทานอาหารไปได้สักพัก  พิธีกรก็เริ่มทำงาน  โดยการให้ครูที่มางาน
ครั้งนี้  ซึ่งมีจำนวนมากกว่าปีที่แล้วเกินครึ่ง
ประมาณ 25  คน แต่ลูกศิษย์ปีนี้มาน้อยกว่าปีที่แล้ว  เนื่องจากติดภารกิจ
และ แม่ของฉายและส้มถึงแก่กรรม
ประมาณน่าจะ  30-35 คน เท่านั้น  
พิธีการ  ได้ให้ครูที่มาแนะนำตัวเองอย่างคร่าว ๆ เหมือนปีที่แล้ว  เช่น  



พิธีกร  คือ จิราภรณ์และป้อม  


อาจารย์ นวรัตน์ เพิ่งมาปีนี้  ค่ะ 


อ.สิริกุล เพิ่งมาปีนี้ เช่นกัน 


สองท่านนี้  ปีที่แล้ว ก็มาร่วมงานค่ะ  

ต่อจากการให้ครูแนะนำแล้ว  ก็มีการให้ลูกศิษย์แนะนำบ้าง  แต่ปีนี้ได้รูป
มาไม่ครบเลย  ค่ะ 



นิสา และอีกคน ปีที่แล้วก็ไม่ได้มาร่วมงานค่ะ 

หลังจากการแนะนำตัวผ่านไปแล้ว  ก็เรียนเชิญ ผอ.นพคุณ ขึ้นมากล่าว
ให้โอวาทและอวยพร ค่ะ 


ผอ.นพคุณ   ทรงชาติ  กล่าวให้โอวาทและอวยพร
ขอนำภาพของครูอาจารย์ที่มาร่วมงานปีนี้  ซึ่งฉันเก็บภาพมาจากลูกศิษย์



อ.วีระ และ อ.สมปอง  


อ.สละ  และ อ. ละออ

อ.อังสนา และ อ.บุญมาก  


อ.เอมอร และ อ.สำรวย


อ.ศรีรัตนาและ อ.สุดาพันธ์

อ.อนุสรณ์ และ อ.สถาพร

อ.สิริกุล และ อ.นวรัตน์

อ.สุรพงษ์ และ อ.เฉลิมพงษ์


ผอ.นพคุณ และ อ.สุวิมล

และแล้ว ก็มาถึงพิธีสำคัญ  คือ พิธีแสดงความกตัญญุตาต่อครู อาจารย์
โดยการรดน้ำดำหัวและขอพรจากครู อาจารย์
เรามาดูภาพอันประทับใจ  ปลาบปลื้มใจ ของครูที่ได้เห็นสิ่งดีงามที่
ลูกศิษย์ได้ทำให้แก่ครูอาจารย์ในวันนี้ค่ะ 
























จากนั้น  ก็มีการถ่ายรูปหมู่ไว้เป็นที่ระลึก ค่ะ 






รวมตัวกันทั้งครูและลูกศิษย์ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ค่ะ  

ที่เห็นพวกเรามีตะกร้าคนละใบ นั้น เป็นของฝากจาก นิสา ค่ะ นิสาเปิด
ร้านขายตะกร้าสาน ที่จตุจักร 2 พร้อมทั้ง
รับสอนวิชาการจักสานด้วย  ถือเป็นลูกศิษย์ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต
มากคนหนึ่ง  โรงเรียนมีกิจกรรม เธอจะมาร่วมกิจกรรมเสมอ
นอกจากตะกร้าที่ นิสา นำมาฝากครูทุกคนแล้ว  ยังมีคนอื่น ๆ นำของ
ฝากมาให้อีก  เช่น  หลิน  ทำของชำร่วย 
เป็นรูปตราสัญลักษณ์ของโรงเรียนเรา มาแจกครู แจกเพื่อนของเขาด้วย
แล้วก็ยังมีแก้วน้ำ  มีปลากระป๋อง แต่ฉัน
ไม่ทราบว่า เป็นของใคร  เลยไม่ได้เอ่ยชื่อ  แต่คิดว่า  ลูกศิษย์คงต้อง
ทำงานอยู่ในหน่วยงานนั้น 
สามารถซื้อได้ในราคาทุนหรือเปล่า  ฉันเดาเอาเองนะ  อิอิ  มาชมภาพค่ะ



นิสา เจ้าของกิจการ ตะกร้าสาน  ค่ะ 









พวกกุญแจหนัง เป็นของฝากจาก อ.อังสนา ส่วนพวงกุญแจ 
ตราสัญลักษณ์ เป็นของที่ระลึกของ หลิน ค่ะ 




หลินให้ฉันเป็นพรีเซ็นเตอร์  ของที่ระลึกของเขา ค่ะ อิอิ


หลินให้เลือกของฝาก  ค่ะ 

หลังจากพิธีรดน้ำดำหัวและ ถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึกแล้ว  ก็ถึงเวลาที่ครู
และลูกศิษย์ต้องอำลาจากกันไปอีกครั้งหนึ่ง
 เหมือนดั่งคำกล่าวที่ว่า  ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา นั่นเอง   ป้อมก็จัด
รถเพื่อให้ไปส่งครู อาจารย์ผู้ใหญ่
และหลินอาสาไปส่งฉันที่ โกยกลางบึง  โดยมี จิ และ เพื่อนอีกคนไป
ลงทางที่ใกล้ที่สุดเพื่อไปต่อรถ
ระหว่างทางพวกเราก็คุยกันไปอย่างสนุกสนาน ตามประสาครู ลูกศิษย์
จนถึงซอยอ่อนนุช  โทรหาหนึ่งเพื่อถาม
ทางเข้าร้าน โกยกลางบึง  และในที่สุด ก็มาถึงร้านแล้ว  หลินและจิ
ช่วยฉันหิ้วตะกร้าของฝากไปส่งถึงห้องจัดเลี้ยง
ห้อง 2 ส มากันมากแล้ว  กำลังคุยกันไป ทานอาหารกันไป อย่างสนุก
สนาน ตามประสาเพื่อน 
ฉันเลยแนะนำให้รุ่นพี่  รุ่นน้องเขารู้จักกัน  (รุ่นนี้ห่างกันสองปี)  และร่วม
ถ่ายรูปกับรุ่นพี่ไว้เป็นที่ระลึกด้วยค่ะ  







รุ่นพี่  รุ่นน้อง   ถ่ายรูปร่วมกันด้วยใบหน้ายิ้มแจ่มใสกันทั่วหน้า 

หลังจากที่ส่งฉันแล้ว  หลินและจิ ก็กลับไป  ฉันก็ต่องานรดน้ำดำหัวของ
รุ่นธาตุทอง 2 ส  ต่อ  

งานแสดงความกตัญญุตา  ต่อครู ของ ลูกศิษย์ ม.1 และ ม.6 รุ่นแรก
ในวันนี้   ทำให้ฉันรู้สึกดีใจ ปลื้มใจ 
ที่พวกเขาจบการศึกษาจากสถานศึกษา มัธยมวัดธาตุทองไปแล้ว เมื่อ
สร้างเนื้อสร้างตัวกันได้ดี  ก็ยังไม่ลืม
ครู อาจารย์ที่ได้สอนพวกเขา  ได้รวมตัวกันจัดงานแสดงความรัก ความ
เคารพ  ด้วยการติดต่อและเชิญครู อาจารย์
มาร่วมงานสังสรรค์ของเขา และจัดพิธีรดน้ำดำหัว อันเป็นการแสดงความ
เคารพต่อ ครู อาจารย์ เป็นประเพณีอันดีงาม
และมีการจัดต่อเนื่องกันมา เป็นประจำปี  ปีนี้ เป็นปีที่ 2 แล้ว  ฉันก็หวัง
ว่า  พวกเขาจะะรักษาประเพณีอันดีงาม
และความกตัญญูนี้สืบต่อ ๆ ไป  ที่จะทำให้ ครูอาจารย์ปลื้มใจ  สุขใจ
ครูก็ไม่มีอะไรจะตอบแทนให้หรอกนะ 
นอกจากคำอวยพร ให้พวกลูกศิษย์  มีความสุข  ความเจริญในชีวิต
ยิ่ง ๆ ขึ้นและตลอดไป  ขอขอบใจลูกศิษย์
ทุกคนที่ทำให้พวกครูมีความสุขใจ โดยเฉพาะยามแก่เฒ่า  อิอิ 




 

Create Date : 15 พฤษภาคม 2561   
Last Update : 19 พฤษภาคม 2561 14:04:39 น.   
Counter : 1367 Pageviews.  
space
space
ทวาทศมาสประจำปี 2560 ตอนที่ 8



ทวาทศมาสประจำปี  2560  ตอนที่ 8

การเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของฉัน ดำเนินมาถึงเดือนที่  8  คือ เดือน สิงหาคม แล้วค่ะ 

เดือนนี้  ก็มีเหตุการณ์ เกิดขึ้น ตามลำดับเวลา ดังนี้  ค่ะ 
วันที่  2 สิงหาคม   วันนี้เป็นวันที่ ฮ้ง ถึงแก่กรรม 15 วัน พี่นพให้ฉันช่วย
นิมนต์พระแจ้  พระลูกศิษย์จาก วัดธาตุทอง  
มาที่บ้าน เพื่อทำบุญให้ฮ้ง  โดยมีการทำพิธี ที่ห้องนอนของฮ้ง  ฉันได้
อยู่ช่วยเหลือ ครอบครัวนี้ ถึงประมาณ 10.30 น.
ก็ต้องไปอีกงานหนึ่ง ค่ะ คือ งานมอบทุนการศึกษาของ คุณวีระชัย ซึ่ง
ฉันได้ช่วยติดต่อทางแนะแนวให้หานักเรียน
ยากจน ที่จะให้ทุน ตามจุดประสงค์ของ คุณวีระชัย  ค่ะ 



จั่น น้องเขยของ ฮ้ง เป็นผู้ อาราธนาศีล ในพิธี ค่ะ 


พี่นพ  จุดเทียน บูชา พระประธานในพิธี


พระแจ้  นำพระสงฆ์ สวดมนต์ ในพิธี 


พระแจ้ ทำพิธีที่โกศใส่กระดูกของฮ้ง ซึ่งวันนี้จะนำไปลอยอังคาร


หลังจากที่ทำพิธีที่ห้องนอนของฮ้งเรียบร้อยแล้ว  มีการเลี้ยงพระเพล

จากนั้น  น่าจะประมาณ  10.30 น. ได้แล้ว ฉันต้องรีบไปที่โรงเรียน
 มัธยมวัดธาตุทอง เรื่องการมอบทุน 
ซึ่ง ครูแนะแนวนัดไว้ 11 โมง  โดยจะมี นายกสมาคมนักเรียนเก่า ฯทำพิธีมอบทุนการศึกษา ทุนละ 5, 000 บาท  
ม.ต้น1 ทุน และ ม.ปลาย อีก 1 ทุน 



ภาพบน มอบทุนนักเรียน ม.ต้น  ภาพล่างมอบทุน นักเรียน ม.ปลาย

หลังจากเสร็จภารกิจมอบทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  นายกฯ สุเทพ ขับรถ
มาส่งฉันที่บ้าน  พี่นพและน้อง ๆ 
ญาติของฮ้ง ยังไม่ออกจากบ้าน  เห็นฉันกลับมา ก็รีบเรียกไปทานข้าว
มื้อเที่ยง  เพื่อที่จะให้ฉันไปช่วยงาน
ลอยอังคารกระดูกของฮ้งด้วย  ฉันก็ยินดี  ช่วยเขาอยู่แล้ว  มาทันจาก
ภารกิจของฉัน ก็เป็นบุญของฮ้ง 
เรื่องลอยอังคารของฮ้ง  ถือเป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นพิธีการลอยอังคาร
ฉันได้บันทึกเรื่องราวเผยแพร่ในบล็อกแก๊ง
ดังนี้ 

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=04-08-2017&group=5&gblog=51

มาดูภาพประกอบ ลิ้งค์นี้สักเล็กน้อยค่ะ 


คนที่ทำพิธีลอยอังคารได้อธิบายวิธีการในการลอยอังคารก่อนถึงเวลา
ที่จะลอยอังคารลงสู่ท้องทะเลใหญ่ 


ทุกคนตกอยู่ในภาวะเศร้าสร้อย เมื่อรู้แล้วว่า ต่อไป แม้แต่โกศกระดูก
ของฮ้ง เราก็จะไม่เห็นแล้ว  เฮ้อ ! ชีวิตคน ก็มีเพียงเท่านี้เอง

 หลังจากพิธีลอยอังคารเรียบร้อยแล้ว  ทุกคนรู้สึกหิวข้าว เพราะใกล้เวลา
อาหารมื้อเย็นแล้ว  ตกลงว่าจะไปทานอาหาร
ร้านที่เราผ่านทาง  คือร้าน สุกี้กวางเจา  แถวบางจาก ก่อนที่จะแยกย้าย
กันกลับบ้านกันไป ภารกิจวันนี้ก็ได้เสร็จสิ้นไปสองเรื่อง

วันที่ 4 สิงหาคม  วันนี้ ฉันได้ของฝาก วันคล้ายวันเกิดของฉัน ซึ่งจะถึง
ในวันที่ 6 สิงหาคม นั่นเอง 
แต่เพื่อนเยาว์ที่ปัตตานี  ส่งลูกหยีที่ฉันชอบทานมาให้ 7 ถุง มีทั้งลูกหยี
ไร้เม็ด  ลูกหยีกวน เขาไม่เคยลืมวันคล้ายวันเกิดของฉันเลย

ขอขอบใจ เยาว์เพื่อนรักที่ไม่เคยลืมวันคล้ายวันเกิดของฉันเลย ค่ะ 



ลูกหยีจากปัตตานีของเยาว์ เพื่อนรัก

วันที่ 5 สิงหาคม  รวงทอง  ลูกศิษย์รุ่นแรกที่ธาตุทองก็ให้ แมสเซ็นเจอร์  ส่งรังนก 6 ขวดใส่กระเป๋าแดงมีหูรูดสวยงามมาให้ฉันด้วย 
ฉันก็ขอขอบใจ รวง ซึ่งเป็นลูกศิษย์ที่ไม่เคยลืมวันคล้ายวันเกิดของฉัน



รังนกของ รวงทองศิษย์รัก จ้ะ 

วันที่ 6 สิงหาคม วันนี้ เป็นวันคล้ายวันเกิดของฉัน ลูกศิษย์ลูกหาเพื่อนฝูง
ต่างอำนวยอวยพรมาทางเฟสบุ๊ค  มาทางลายน์ 
มากมาย  ฉันต้องตอบขอบคุณ ขอบใจ ทุก ๆ คนที่อวยพรมาในวันนี้ให้
ครบถ้วนทุกคน  ไม่งั้นจะมีอาการน้อยใจเกิดขึ้น อิอิ 

ตอนเย็น พี่นพ แม่ของฮ้ง ก็ให้ของขวัญวันคล้ายวันเกิดเป็นนมเปรี้ยว
ดัชมิล ที่ฉันชอบดื่ม น่าจะ 2 โหล นะ 



ของขวัญวันคล้ายวันเกิดจาก พี่นพ แม่ของฮ้ง  ค่ะ 














ส่วนหนึ่งของบัตรอวยพรที่ลูกศิษย์และเพื่อน ๆ ในเฟส ทำให้ ค่ะ  ขอ
ขอบใจทุกคำอวยพร อีกครั้งหนึ่ง ค่ะ 

วันที่ 11 สิงหาคม  พา แดง วนิดา ไปที่ไทยประกัน เพื่อติดต่อการต่อ
อายุในการเป็นตัวแทนซึ่งขาดอายุไป

และนัดกับวิจิตราที่ สสวท. ท้องฟ้าจำลอง  เพื่อนำหนังสือของฉัน เรื่อง
พลิกวิกฤตของชีวิตสู่วามความฝันที่เป็นจริง
ที่ วิจิตราอุุดหนุนไปอ่าน  ลูกศิษย์เลยพาไปทานข้าว ที่ร้านอาหารที่
ขายใน สสวท. ด้วย ค่ะ 



วิจิตราทำงานอยู่ที่ สสวท .ค่ะ 


รุ่นพี่  รุ่นน้อง ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ค่ะ 

วันที่ 31 สิงหาคม  พวกเราที่จะไปเที่ยวไอซแลนด์กัน ได้นัดไปทำวีซ่า
มีฉัน จุ๊บ หญิง สมศรี  นุ่น  
การทำวีซ่า  ค่อนข้างยุ่งยาก  เอกสาร เตรียมไว้มากมาย  ยังไม่พอ ต้อง
ไปสำเนาพาสปอร์ตทั้งเล่มไปประกอบอีก
เสียค่าถ่ายสำเนาแพงมาก  โขกใบละ 5 บาท  วันนี้เสีย เป็นร้อยกว่าบาท
ค่าวีซ่า ก็แพง สามพันกว่าบาท แถมได้ช้ามากด้วย 

เดือน สิงหาคม เดือนนี้  มีเหตุการณ์ค่อนข้างน้อย ค่ะ  แล้วพบกันใหม่
ในเดือนกันยายน ต่อไป ค่ะ 





 

Create Date : 14 เมษายน 2561   
Last Update : 23 เมษายน 2561 10:11:32 น.   
Counter : 1187 Pageviews.  
space
space
สานรักธาตุทอง ครั้งที่ 4



สานรักธาตุทอง  ครั้งที่ 4  

งานสานรัก ธาตุทอง ครั้งนี้ จัดเป็นครั้งที่ 4 แล้ว เป็นกิจกรรมที่ดีกิจกรรม
หนึ่งของศิษย์เก่ารุ่นปีการศึกษา 2520-2521 
ที่ฉันเคยสอน ตอนเขาเรียนอยู่ชั้น ม.ศ. 2-3  แต่ก็สอนเพียง 3 ห้อง และ
ไมได้สอนเขาตอน ม.ปลาย  ดังนั้น 
ความสนิทสนมกับเด็กรุ่นนี้ จึงมีค่อนข้างน้อย แต่พวกเขาก็น่ารัก เมื่อจัด
งาน สานรักธาตุทอง ก็พยายามเชิญพวกครู
ที่เคยสอนพวกเขา เพื่อมาร่วมงาน  ฉันมาร่วมงานทุกครั้งที่เขาเชิญมา
ยกเว้นปีที่ 3 ที่จัดขึ้นที่ร้าน ส้มตำ ที่ไม่ได้ไป 
เพราะไม่ได้รับเชิญ  ก็ไม่ทราบสาเหตุเป็นเพราะอะไร   ทุกครั้งที่มาร่วม
งานที่พวกเขาจัด ฉันจะเขียนเผยแพร่
กิจกรรมของพวกเขาเสมอ  เลยขาดหายไป 1 ครั้ง คือ ครั้งที่ 3 ที่ไม่
ได้ไปร่วมงานด้วย เพราะไม่ได้รับเชิญไป นั่นเอง 

สำหรับปีนี้  ประธานของ สานรักธาตุทอง คือ นวลสวาท ได้โทรมาเชิญ
เองน่าจะปลายเดือน กุมภาพันธ์  61 
ฉันก็ดีใจนะ ที่เขาเชิญมา  จดบันทึกลงในปฏิทิน  เพื่อจะได้ไม่รับนัด
คนอื่น ๆ เพราะถือว่า  ลูกศิษย์ให้เกียรติ
เชิญไปมุทิตาจิตและเป็นกิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึง ความกตัญญูของ
พวกเขา เมื่อได้ดี มีความเจริญแล้วยังไม่ลืม
ครู อาจารย์ และยังมีจุดมุ่งหมายอื่น เช่น มีกองทุนช่วยเหลือเพื่อนที่
ชีวิตประสบปัญหา ช่วยเหลือน้อง ๆ ปัจจุบัน
ที่ขาดแคลนทุนการศึกษา เป็นต้น ฉันจึงถือว่า  เป็นความคิดที่สร้างสรรค์
ของกลุ่ม สานรักธาตุทอง ที่ควรนำมาเป็นเยี่ยงอย่าง

ก่อนถึงวันงาน  คือ วันที่ 18  มีนาคม 61  มีคนโทรมาย้ำเตือน ถึงวันนัด
งานสานรักธาตุทอง บอกว่า  คนที่จะมารับ
ฉันที่ธาตุทอง ชื่อว่า ตุ้ม เป็นตำรวจ พ.ต.ท. ถามชื่อจริงว่าอะไร ก็ตอบ
ฉันไม่ได้ จนถึงวันงาน ดูรูปและชื่อที่เขาฉาย
ขึ้นจอ  จึงรู้ว่า  อ้อ ตุ้ม  ชื่อจริง คือ  พ.ต.ท. เสาวณีย์  นั่นเอง

เช้าวันที่ 18 มีนาคม 61  ฉันก็ตื่นตามปรกติ  คือประมาณ 7 โมงเช้า ไม่
เร่งรีบอะไร  เพราะ ตุ้มโทรมานัด
จะมารับฉันที่ฝั่งธาตุทองเล็ก เวลา 10.00 น. ฉันแต่งตัวเสร็จ ประมาณ
9.00 น. นั่งตอบเฟส ตอบลายน์ จนถึง 9.45 น.
จึงออกจากบ้านด้วย รถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ต่อด้วยรถไฟฟ้า แค่
ประมาณ 7-8 นาที ก็ถึงจุดนัดพบ 
ตุ้มเปิดประตูรถออกมาให้เห็นหน้าและทักทาย  ฉันก็คงจำเขาได้เพิ่ม
มากขึ้นอีกคนหนึ่งแน่นอน 
มาถึง  จิน มาแล้ว 1 คน ขาดพี่อวยอีก 1 คน ก็ครบแล้ว พักใหญ่พี่อวย
ก็มาถึง  ตุ้มซึ่งมากับเพื่อนอีกคน 
ก็ขับรถออกจาก ธาตุทองเล็กไปตามถนนสุขุมวิท ไปทางบางนา- ตราด
น่าจะประมาณ ครึ่งชั่วโมง ก็ถึงร้าน ฝ้ายคำ
อันเป็นสถานที่จัดงาน  ลูกศิษย์ที่มาก่อน ได้ออกมาต้อนรับ พวกครู คือ
ฉัน จิน และพี่อวย  เพื่อเข้าไปนั่งที่โต๊ะ 
ซึ่งจัดเป็นโต๊ะจีน  มีเวที อยู่ด้านหน้าตรงกลางห้อง  กำลังจัดเครื่องเสียง
อยู่ด้วย  เด็ก ๆ มากันมากพอสมควร 
มีพระลูกศิษย์ที่เป็นรุ่นเดียวกันกับรุ่นนี้  ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มให้มีการรวมตัวกัน
เป็น  "สานรักธาตุทอง" (ตามประวัติที่ นวลเล่า)
เป็นประธานฝ่ายพิธีสงฆ์ทุกครั้งด้วย   ครู อาจารย์ที่มาแล้ว  ก็มี พี่เอม 
พี่ปาณี พี่สำรวย  ซึ่งเรือง เป็นผู้ไปรับมา นั่นเอง
จากนั้น ครูหลาย ๆ คน ก็ทยอยมา เช่น พี่ออ พี่ยุพิน พี่ปอง  นุสรณ์  พร้อม  พี่ปู่  พี่มาก  แอ๊ด  อ้อย วีระ
จำไม่ได้แล้วว่า มีใครอีกไหมนะ 
มาดูบรรยากาศของงาน ค่ะ 


บรรยากาศในงาน  หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสทั้งครูและลูกศิษย์


เพิ่มสมาชิก ครูค่ะ มี ผอ.นพคุณ  แป๊ว พี่พจน์  พี่พิชิต


 ใครเป็นใคร คงจำกันได้ นะคะ 


เพื่อน ถ่ายกับเพื่อน  ค่ะ 


จากรูป เพิ่มครู คือ  พี่ไพ พี่นวรัตน์  พี่จรี ค่ะ 



รายการอาหารของการจัดงาน ธาตุทองสานรัก ครั้งที่ 4 ค่ะ 

เมื่อได้เวลาเข้าสู่พิธีการแล้ว  ประธาน สานรักธาตุทอง คือ นวลสวาท
ก็เป็นผู้ดำเนินการ  ด้วยการ นำอาราธนาศีล  
พระลูกศิษย์  นำสวดมนต์ ให้พวกเราสวดมนต์ตาม  พิธีตอนนี้ ฉันไม่ค่อย
ชัดเจนนัก  แต่สิ่งที่อยากนำเสนอ
คือ พิธีการ ตอนนี้ ไม่มีใครมาถ่ายรูปตอนทำพิธีเลย  งานใหญ่ขนาดนี้
น่าจะมีช่างกล้องหลายคนด้วยค่ะ 
ฉันก็ถ่ายรูปด้วยกล้องมือถือของฉัน  ตามขั้นตอนที่ดำเนินการได้ไม่ดี
เท่าไรนัก เพราะไม่ได้ทราบรายละเอียด
ของงาน  คงเล่าได้ไม่ละเอียดเท่าที่ควร ค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม  จากการ
ฟังและดูการดำเนินการแล้ว 
ถือว่า เป็นกิจกรรมที่ดี  มีการขอให้ครูและผู้ที่ร่วมงานร่วมกันทำบุญแล้ว
แต่ศรัทธา เพื่อใช้เป็นปัจจัย
ถวายเป็นสังฆทาน และมีพิธี  เขียนรายชื่อ ครู อาจารย์และลูกศิษย์ที่
ล่วงลับไปแล้ว เผาชื่่อพวกเขา
เพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้ล่วงลับไปแล้ว  ฉันถือว่า เป็นพิธีที่ดีงามตาม
ความเชื่อของพวกเรา นั่นเอง
มาชมภาพที่ฉันเก็บมาฝาก ค่ะ 



นวลเป็นผู้นำ และอาราธนาศีล


พระลูกศิษย์ท่านได้กล่าวกับผู้ร่วมพิธีก่อนถึงพิธีรับสังฆทาน 



เตรียมถวายสังฆทาน ค่ะ 


ถวายสังฆทาน ค่ะ 

พระลูกศิษย์รับสังฆทานแล้ว ได้สวดมนต์รับสังฆทาน



มีผู้ถวายผ้าไตรและสิ่งของอื่น ๆ เพิ่มเติม 


ทำพิธี เผาชื่อของผู้ล่วงลับ เพื่ออุทิศส่วนกุศลครั้งนี้ไปให้ ค่ะ 


พระลูกศิษย์บรรยายธรรม ค่ะ คนอื่น ๆ รับพร รับธรรมะ 


รับฟังธรรมะและคำพรกัน ค่ะ
ทำพิธีกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ถึงแก่กรรม  ค่ะ 


ก่อนจบพิธี  นวลให้พวกเราทุกคน นั่งสมาธิ แผ่เมตตาประมาณ 5 นาที

จบจากพิธีทางสงฆ์แล้ว  ก็ต่อด้วย  ประธานนวล ได้กล่าวถึงความเป็นมา
ของ "สานรักธาตุทอง" มีการฉายภาพ
ของคณะกรรมการดำเนินงานของ สานรักธาตุทอง  บอกเป้าหมายของ
การดำเนินงาน  เป็นข้อ ๆ ฉายรูปของคณะกรรมกา



ประธาน นวลกล่าวถึง ความเป็นมาและจุดประสงค์ของ สานรักธาตุทอง

จากนั้น มีการเรียนเชิญ  ผอ.นพคุณ  มากล่าวปราศรัยแสดงความรู้สึก
ในฐานนะครูผู้ใหญ่และเป็นที่ปรึกษาของกลุ่มนี้ 


ผอ.นพคุณกล่าวแสดงความรู้สึกและอวยพร  มีการกล่าวถึงความดีของ
อ้อย ที่เป็นที่ปรึกษาของกลุ่มนี้จัดงานนี้ทุกปี 



อ้อย กล่าวแสดงความรู้สึก 

จากนั้น มีผู้ใจดี ที่จะมอบทุนเงินสบทบในการจัดกิจกรรมของ  สานรัก
ธาตุทอง ได้ยินชื่อและนามสกุล และบอกว่า
เป็นพี่ชายของหน่อย  วไลลักษณ์ ซึ่งฉันรู้ว่า เป็นพี่สาวของอรัณยา ซึ่ง
เป็นลูกศิษย์ประจำชั้นของฉันเอง (ปัจจุบันถึงแก่กรรมแล้ว)
ดังนั้น  ชายใจดีคนนี้ ก็ต้องเป็นพี่ชายของ อรัณยาด้วย  ผู้ใจดี ได้มอบ
เงินจำนวน สองหมื่นบาทให้ สานรักธาตุทอง



ผู้ใจดี กล่าวถึงจุดปนะสงค์การมอบทุนของเขา 


พิธีมอบทุน ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก 

หลังจากงานมอบทุนแล้ว  ก็มาถึงพิธีสำคัญของงานนี้  นั่นคือ การจัดพิธี
แสดงมุทิตาจิตแด่ครู อาจารย์ ค่ะ 


เรียนเชิญครู อาจารย์มานั่งที่หน้าเวที  





ลูกศิษย์เตรียมพร้อมที่จะแสดงมุทิตาจิตเคารพครู อาจารย์ 


ช่วยกันจัดความเป็นระเบียบในพิธีแสดงความคารวะครู อาจารย์ 



ลูกศิษย์ทยอยกันนำพวงมาลัยมามอบให้ครู อาจารย์ ตามตำแหน่งที่นั่ง
ของครู อย่างเป็นระเบียบ ครูก็ให้พรแก่ลูกศิษย์ด้วยความตื้นตันใจ




หลังจากนั้น ก็มีการมอบของที่ระลึกแก่ครูอาจารย์ เป็นถุงผ้า ในถุงผ้า มี
ของอีกหลายอย่าง เช่น ยาน้ำพิมเสน  ดังภาพ 








ชูและอ๊อด แห่งธาตุทอง 2 ส  มาถ่ายรูปด้วย  ไว้เป็นที่ระลึก 








หลังพิธีแสดงมุทิตาจิต ครู อาจารย์แล้ว ถ่ายรูปหมู่ไว้เป็นที่ระลึก 

หลังจากพิธีการเสร็จสิ้นไปแล้ว  ก็มาถึงรายการสนุกสนาน  มีการบริจาค
เงิน โดยบริจาคแล้วเลือกอาจารย์ให้ขึ้นร้องเพลง
เป็นการสมทบทุนเข้าชมรม วิธีหนึ่ง ห้าร้อยบ้าง  พันหนึ่งบ้าง 




ร้องเพลงสลับกัน  ครูบ้าง  ลูกศิษย์ บ้าง 


ประธาน นวล เป็นหางเครื่องให้นักร้อง อย่างสนุกสนาน



การจัดงานปีนี้ มีสิ่งแปลกใหม่เกิดขึ้น (แต่อาจจะเกิดปีที่แล้วก็ได้นะ
เพียงแต่ฉันไม่ได้มาเมื่อปีที่แล้ว )
นั่นคือ  มีการเล่นเกม  โดยจัดให้ลูกศิษย์และครูเล่มเกมด้วยกัน  เช่น
 เกมปะแป้งเมื่อแป้งกระป๋องนัั้นตกอยู่มือใคร
เมื่อเสียงดนตรีหยุด ผู้นั้นต้อง นำแป้งฝุ่นปะแป้งหน้าตัวเอง เป็นเกมที่
สนุกสนานเกมหนึ่ง ซึ่ง ฉันเคยเล่นมาแล้ว
ตอน ชมรมเรียนภาษาจีน  จัดงานเลี้ยงตรุษจีนกัน ก็มีการเล่นเกมนี้โดย
กุหลาบ เจ้าหน้าที่ศูนย์ เป็นผู้นำเกมนี้มาเล่น
มาชมภาพสนุกสนานของเกมนี้ ค่ะ 









ฉันก็โดนเกม ต้องปะแป้งหน้าตัวเองเช่นกัน  อิอิ


หลังจบเกม ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ค่ะ 

เกมต่อไป คือเกม บอกคำที่โจทย์ขึ้นด้วยคำ อะไร คนในแต่ละฝ่ายต้อง
หาคำที่ขึ้นต้นเช่นนั้นมาคนละหนึ่งคำ
โดยกำหนดเวลาไว้ ถ้าฝ่ายไหน (ฝ่ายครู  ฝ่ายลูกศิษย์) ได้คำมากกว่า
กัน  ฝ่ายนั้นเป็นฝ่ายชนะ  เช่น โจทย์กำหนด
คำว่า "มะ" ก็ต้องรีบหาคำที่ขึ้นต้นว่า "มะ"มาให้มากที่สุด เช่น มะม่วง
มะนาว มะขวิด มะขาม เป็นต้น 









เกมนี้  ปรากฏว่า ผู้ชนะ คือ ครู ค่ะ  อิอิ 

เกมที่ 3  เป็นเกมใบ้คำ ฉันได้รับเลือกให้ออกไปเล่นด้วย  น่าเสียดาย 
ไม่มีใครถ่ายรูปไว้เลย เลยไม่มีรูปมาฝากแต่ครูเป็นฝ่ายชนะเช่นกัน

ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่้เลิกลา  เมื่อได้เวลาอันสมควรแล้ว  ครู ส่วนใหญ่ก็
ค่อย ๆ อำลาลูกศิษย์ไปทีละกลุ่ม 
ฉันกับพี่อวย ซึ่งมี ตุ้มมารับตอนเช้า  ซึ่งตุ้มจะเป็นผู้ไปส่งพวกเรา แต่
เนื่องจากตุ้มเป็นคณะกรรมการ งานยังไม่เลิก 
ฉันก็เกรงใจเขา  แต่โชคดี ที่วันนี้อ๊อดมางานด้วย  ฉันเลยขอให้อ๊อดไป
ส่งฉันและพี่อวย  ส่วนจิน ยังไม่กลับ ยังอยู่
คุยกับลูกศิษย์ต่อ  ก่อนกลับ  ก็มีการถ่ายรูปที่ฉาก ซึ่งเขาจัดไว้เป็นฉาก
สวยงามเพื่อให้คนมางานถ่ายรูปด้วย 
เหมือนงานแต่งงานเลย  ฉันก็มีกับเขา 1 รูป ก่อนจะกลับบ้าน มาชม
ภาพงาม ๆ ที่ หงวน ถ่ายส่งมาให้ฉันประกอบการเขียน 





เหล่านางงามทั้งสาวและสูงอายุ อิอิ 

อ๊อดส่งพี่อวยขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีอ่อนนุช ตามที่พี่อวยต้องการ  แล้ว
จึงขับรถมาส่งฉันที่บ้าน ขอบใจอ๊อดมากนะจ๊ะ 

การจัดงานของธาตุทองสานรัก ครั้งที่ 4 ก็ดำเนินไปอย่างเรียบร้อยดี 
ฉันคิดว่า เป็นกิจกรรมที่ต้องทำให้ ครูทุกคน
มีความสุขใจ ที่ได้รับความรัก ความเคารพจากลูกศิษย์ที่ได้สอนไป ถึง
แม้ว่า พวกเขาจะจบไปนานแล้ว 
ส่วนใหญ่ก็มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี  เจริญก้าวหน้าในชีวิต พวกเขา
ก็ยังระลึกถึงครูอาจารย์ที่เคยสอนพวกเขา
และกลับมาจัดกิจกรรมดี ๆ แสดงความเคารพ แด่ครูอาจารย์  ย่อมแสดง
ว่า พวกเขา เป็นคนดี รู้กตัญญู ต่อครู ต่อสถาบันการศึกษา
(ให้ทุนแก่น้อง ๆ ที่ยากจน) เพื่อแบ่งปันแก่น้อง ๆ ร่วมสถาบัน มีกิจกรรม
ช่วยเหลือเพื่อนที่มีปัญหาบ้าง 
กิจกรรมดี ๆ เหล่านี้ที่พวกเขาได้จัดทำนี้  จึงสมควรที่จะได้รับการยกย่อง
สรรเสริญและเผยแพร่แก่สังคม เพราะเป็น
ตัวอย่างที่ดีงาม นั่นเอง  ฉัน ในฐานะครูคนหนึ่งซึ่งเคยสอนพวกเขามา 
ถึงจะไม่ได้สอนทุกห้อง ได้สอนเพียงบางห้อง 
ฉันก็มีความรู้สึกดีใจ  สุขใจ ชื่นชม กิจกรรมต่าง ๆ ที่พวกเขาได้จัดทำ
และขออวยพรให้พวกเขา มีความสุข ความเจริญในชีวิต
ให้สมกับความกตัญญูรู้คุณของพวกเขา 
ตามพุทธภาษิตที่ว่า  
"ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของ คนดี" ค่ะ 




 

Create Date : 28 มีนาคม 2561   
Last Update : 5 เมษายน 2561 18:15:49 น.   
Counter : 1670 Pageviews.  
space
space
ทวาทศมาสประจำปี 2560 ตอนที่ 7



ทวาทศมาสประจำปี  2560  ตอนที่ 7 

ปี 2560  ก็ผ่านไปแล้ว 6 เดือน แต่ละเดือน ฉันก็มีกิจกรรมทำ
มากบ้างน้อยบ้างตามแต่โอกาสจะพาไป 

สำหรับบล็อกนี้ ก็เป็นเดือนที่ 7 เดือน กรกฎาคม แล้วซินะ เป็นเดือน
ที่มีเหตุการณ์น่าเศร้าเกิดขึ้นหลายเรื่องทีเดียว
ตามที่ฉันได้บันทึกไว้ในชีวิตประจำวัน แต่ก็มีเรื่องสนุกสนานเบิกบานใจ
หลายกิจกรรม เหมือนดังคำกล่าวที่ว่า  
"ชีวิตมีสุข มีทุกข์ คละเคล้ากันไป" เนาะ เรามาเริ่มกิจกรรมในวันแรก
ของเดือน กรกฎาคม  เลยค่ะ

วันที่ 1 กรกฎาคม  วันนี้ ฉันกับรุ่งนัดกันไปที่มหาวิทยลัยธรรมศาสตร์
คณะสังคมสงเคราะห์ เพราะมีการถ่ายรูป
กับพระบรมฉายาลักษณ์ของพ่อหลวง และเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ได้
รูปของเราตามที่เลือกรูปพระบรมฉายาลักษณ์ไว้
เราออกจากบ้านแต่เช้า  โดยรุ่งมารับฉันตั้งแต่ หกโมงกว่า นำรถไป
จอดแถววัดราชบพิตรแล้วจ้างรถแท็กซี่
ไป ม.ธรรมศาสตร์ ไปถึงประมาณเจ็ดโมงเศษ ๆ ปรากฏว่า คนที่มา
รอเพื่อถ่ายรูป มีเป็นจำนวนมากเลย
ประมาณ 8 โมงได้ ก็เริ่มมีการแจกบัตรคิวถ่ายรูป ตามที่คนมาเข้าแถว
ไว้ตามลำดับ เจ้าหน้าที่ที่นี่
จัดคิวไว้ แต่ยังไม่มีการแจกบัตรคิว เพราะต้องแจกบัตรคิวเวลา 8 โมง
เขาแบ่งเป็น 2 รอบ ขนาดเราไป
เช้าขนาดนี้แล้ว เรายังตกไปได้คิวรอบบ่ายโมงเลยค่ะ เมื่อเราได้บัตรคิว
แล้ว  ก็ไปทำตัวให้เป็นประโยชน์ 
คือไปช่วยกันทำดอกไม้จันทน์ เพื่อถวายพ่อหลวง  ในงานถวายพระ
เพลิงพระบรมศพพ่อหลวงในเดือนตุลาคม ค่ะ 



แม่ลูกถ่ายรูปหน้าห้องก่อนจะไปช่วยทำดอกไม้จันทน์ ค่ะ 


ถ่ายรูปกับครูผู้สอนพร้อมผลงาน  ค่ะ 


ผลงานของพวกเรา ค่ะ อิอิ
บัตรคิวของพวกเรา ค่ะ 


ถ่ายร่วมกับสมาชิกที่มาทำดอกไม้จันทน์ ค่ะ 


ถ่ายรูปกับพระบรมฉายาลักษณ์พ่อหลวงซึ่งจัดไว้บริเวณ 
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ เพื่อให้ประชาชนมาถ่ายรูปด้วย ค่ะ 


นี่เป็นรูปที่ถ่ายในวันนี้ ค่ะ เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ที่ฉันเลือก ค่ะ 



ถ่ายรูปกับพระบรมรูป พ่อหลวง ค่ะ 

หลังจากได้รับรูปแล้วเวลานั้นน่าจะประมาณบ่ายสองแล้ว พวกเราก็อำลา
จาก ม.ธรรมศาสตร์ เพื่อกลับบ้าน
ขากลับ รุ่งพาไปทานข้าวที่บิ๊กซี ร้าน ฮองมิน  รุ่งอยากกินเป็ด อิอิ
มื้อเย็นของวันนี้เลยไม่ต้องกิน  



รายการอาหารที่สั่งมื้อนี้ ค่ะ 


ของฝากจากรุ่งในวันนี้ ค่ะ 

วันที่ 5 กรกฎาคม  วันนี้โทรทัศน์ออกข่าวการถึงแก่กรรมของดารา
อาวุโสที่โด่งดังจาก รายการ เฮง เฮง เฮง
นั่นคือ คุณสินีนาฏ โพธิเวส อาม่า ในเรื่อง เฮง เฮง  เฮง ซึ่งแสดง
เป็นอาม่า ที่หลง ๆ ลืม ๆ ในเรื่อง
บทบาทของท่าน ถือว่า เป็นดารา เจ้าบทบาท  มีฝีมือยอดเยี่ยมมาก
ความสามารถคนหนึ่งของวงการบันเทิงทีเดียว
ก็ขอไว้อาลัยในการจากไปของท่าน ด้วยวัย 93 ปี ค่ะ



ขอไว้อาลัย คุณสินีนาฏ  โพธเวส

วันที่ 6 กรกฎาคม  วันนี้ ฉันกับน้องเนียนต้องไปอบรมต่ออายุบัตร
ตัวแทนของไทยประกันชีวิต
น่าเบื่อเหมือนกัน แต่จำเป็นต้องไปอบรมต่ออายุบัตร  ไม่งั้นจะไม่
สามารถเบิกเงินอะไรได้เลย 
ขากลับ  เนียนต้องไปเรียนต่อ จึงส่งฉันขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีอนุสาวรีย์
ชัยสมรภูมิ กลับถึงบ้าน เหนื่อยมาก ๆ 

วันที่ 7 กรกฎาคม  วงการบันเทิง ต้องสูญเสียนักร้องเสียงดีไปอีกคน
คือ คุณแหวน  ฐิติมา สุตสุนทร 
ด้วยโรคมะเร็ง ค่ะ ด้วยวัยเพียงห้าสิบกว่า ๆ เท่านั้น 



ขอไว้อาลัย คุณแหวน ฐิติมา  สุตสุนทร ค่ะ 

วันที่ 8 กรกฎาคม  เราก็ต้องสูญเสียนักร้องชายไปอีกคน ที่ชื่่อว่า 
เต้ย เต้ย  กิตติศักดิ์ เจริญคงสมัย 
นักร้องคนนี้ ฉันไม่คุ้นชื่อ ค่ะ ป่วยด้วยมะเร็งตับ 


ขอไว้อาลัย คุณเต้ย เต้ย กิตติศักดิ์ เจริญคงสมัย 

วันนี้ ยังไปเป็นเพื่อนพี่นพ ไม่ทำบุญที่วัดปากน้ำให้กับฮ้งด้วย แล้วไป
หาอาหารที่ร้าน เช็ทเตอร์คิว
จากนั้นจึงไปเยี่ยมฮ้ง ที่โรงพยาบาลเลิดสิน กว่าจะกลับก็ดึกตามเคย



ไปเป็นเพื่อน ป้อม พี่นพ ไปทำบุญที่วัดปากน้ำ คะ


ป้อมและพี่นพ ซื้อปลาดุกไปปล่อยที่คลองวัดปากน้ำ 

วันที่ 9 กรกฎาคม  วันนี้ก็เกิดการสูญเสียดาราอาวุโสอีก 1 คน ซึ่ง
ฉันรู้จักมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น
เป็นดาราที่มากฝีมืออีกผู้หนึ่งในวงการบันเทิง เป็นบิดาของ พระเอก
หนุ่ม ศรราม  เทพพิทักษ์  นั่นเอง



ขอไว้อาลัย คุณชุมพร เทพพิทักษ์

วันที่ 11  กรกฎาคม  วันนี้ พี่นพ สั่งเค้กวันคล้ายวันเกิดเพื่อให้ฮ้ง
อวยพรวันคล้ายวันเกิดให้น้องหมอโอ๊ต
ฮ้ง รู้สึกชื่นชม  มีกำลังใจ น้องหมอโอ๊ต ดูเขามีกำลังใจเมื่อน้องหมอ
โอ๊ต มาเยี่ยม จะถามฉันบ่อย ๆ 
เมื่อถึงวัน จันทร์ อังคาร  ซึ่งเป็นวันที่หมอจะแวะมาเยี่ยม ก็จะต้อง
ถามเสมอ เพราะตอนนี้น้องหมอ 
ได้รับคัดเลือกไปทำหน้าที่ฝ่าบริหาร  งานเยอะมาก ต้องออกตรวจตาม
โรงพยาบาลต่าง ๆ เป็นประจำ นั่นเอง 


ฮ้งอวยพรวันคล้ายวันเกิด น้องหมอโอ๊ตด้วยใบหน้าที่เป็นสุข 

วันที่ 19 กรกฎาคม เป็นวันโศกเศร้าอีกวันหนึ่งของฉัน ตอนเช้าได้ยิน
เสียงตะโกนเรียกฉันของพี่นพ จนต้องตื่นนอน
ได้ความว่า คนเฝ้าฮ้งที่ ร.พ.โทรมาบอกพี่นพว่า เมื่อคืน ฮ้งท้องเสีย
3-4 ครั้ง อาการไม่ดีขึ้นเลย  
เขาจะให้ฉันโทรหาน้องหมอโอ๊ต เพื่อถามว่า จะทำอย่างไรดี ฉันโทร
หาน้องหมอ แต่เขาไม่ได้รับสาย
เลยต้องส่งไปที่กล่องข้อความ สักพักใหญ่ ๆ น้องหมอก็ตอบกลับมา
ว่า เดี๋ยวจะตามเรื่องจากที่วอร์ด
เพื่อดูผลที่พยาบาลได้บันทึกไว้  จึงจะสั่งการรักษาตามอาการได้ 
สักพัก หญิง ลูกศิษย์ที่เป็นพยาบาล
ก็ส่งข้อความมาหาฉันว่า  ฮ้ง คงไม่พ้นวันนี้ อย่างช้าก็คือพรุ่งนี้ 
เขาต้องจากไปอย่างแน่นอน 
(พวกพยาบาลเขาจะรู้เมื่อดูจากอาการที่เป็นอยู่) ถ้าจะเห็นใจคนไข้
ก่อนจากไป  ให้รีบไป ร.พ. 
ฉันอ่านเสร็จ ใจหายวูบ โอ! ทำไมไวอย่างนี้ เมื่อวันศุกร์ ฉันไป
หาหมอกระดูกที่เลิดสิน ฉันแวะไป
เยี่ยมเขา  เขายังกินขนมปังที่ฉันซื้อจากตลาดนัด ร.พ.ได้เลย เพียง
ไม่กี่วัน ทำไมอาการทรุดเร็วอย่างนี้หนอ 
ฉันได้อ่านข้อความของหญิงแล้ว  ก็เดินไปบอกพี่นพว่า ฉันจะไปเยี่ยม
ฮ้งกับเขาวันนี้ด้วย ไม่กล้า
บอกเขาว่า ฮ้งกำลังโคม่า  ใกล้จากพวกเราไป ซึ่งพี่นพเองก็ไม่ได้
เฉลียวใจเลยว่า  เขากำลังจะสูญเสียลูกสาวที่เขารักมาก
เมื่อถึงโรงพยาบาล พวกเราก็ขึ้นไปที่ห้องที่ฮ้งนอนอยู่  ภาพของฮ้ง
ที่นอนอยู่บนเตียง ไม่ได้สติแล้ว มือไขว่คว้า
ไปมา ชันเข่าขึ้น สีหน้ามีอาการเจ็บปวด ฉันเห็นแล้วใจหาย ได้แต่ไป
จับมือเขา  จับเข่าที่ชันขึ้นนั้น
ให้วางราบไปกับลำตัว  จับมือ กำมือเขาไว้ กระซิบบอกเขาว่า ให้ใจ
เขาคิดถึงพระพุทธองค์ 
เพื่อจะได้นำทางเขาไปสู่สุคติ  แม่เขาเห็นสภาพลูกเช่นนั้น  น้ำตา
ซึม ๆ หลังจากที่ฉันคว้ามือฮ้งมาและวาง
ไว้ลำตัวเขาแล้ว  ดูเขาจะสงบลงไปบ้าง ถุงลมที่ใส่ที่จมูกเพื่อช่วย
หายใจ พองขึ้นแล้วแฟบลง
เป็นช่วง ๆ เช่นนั้น ฉันเห็นแกสงบลงไปมากแล้ว พี่นพก็นั่งเฝ้าอยู่
ข้าง ๆ เตียง น้ำตาซึม ๆ 
ทุกคนที่เมื่อคืนเฝ้าฮ้งอยู่  เล่าว่า ฮ้งเพ้อ อยากเจอน้องหมอโอ๊ตด้วย
เหตุการณ์ในขณะนั้น ดูอึมครึม
น่าอึดอัดมาก ช่วงนั้นเที่ยงแล้ว พี่นพให้ฉันไปทานข้าวเที่ยงก่อน 
ส่วนหลิวซึ่งอยู่เฝ้าฮ้งเมื่อคืนนี้
ก็ต้องกลับบ้านไป พาพ่อไปล้างไตตามหมอนัด  ที่ห้อง จึงเหลือเพียง
ญาติพี่น้องเขาบางคน คือเตี๊ยบ
น้องสาวคนรอง  ฉันก็ลงไปทานก๋วยเตี๋ยวข้าง ๆ โรงพยาบาล ส่วน
พี่นพ คงไม่คิดว่า ลูกเขาจะจากไป
เขาจึงชวนหล่ง เพื่อไปไหว้พระ ทำบุญขอพรให้ ฮ้ง แต่เขาก็ยังไม่
ทันได้ให้หล่งขับรถไป 
ก็ถูกตามตัวให้ขึ้นห้องของ ฮ้ง ตอนนั้น ฉันทานมื้อเที่ยงเสร็จแล้ว เห็น
รถของพี่นพยังจอดอยู่ 
ชักสังหรณ์ใจ รีบขึ้นลิฟต์ไปที่ห้อง เห็นทุกคนกำลังร้องไห้ ฉันมอง
ไปที่เครื่องวัดความดัน 
เห็นเส้นกราฟที่เคยขึ้น ๆ ลง ๆ นั้น กลายเป็นเส้นตรงเสียแล้ว ถุงที่
สวมใส่ที่จมูกของฮ้ง ที่เคยพอง-ยุบ
ก็ไม่มีอาการเคลื่อนไหวแล้ว นั่นย่อมเป็นสัญญาณให้รู้ว่า คนไข้หัวใจ
หยุดเต้นลงแล้ว ทุกคนตกอยู่ในอาการ
เศร้าโศก พี่นพไม่ยอมรับความจริงว่า ลูกสาวเขาได้จากไปแล้ว ร้อง
หาหมอให้มาช่วยปั๊มหัวใจฮ้ง
 ซึ่งหมอคนที่น้องหมอโอ๊ตฝากให้ดูแทนเขา ตอนเขาไม่ได้อยู่
โรงพยาบาล ได้พยายามอธิบายว่า
ไม่มีประโยชน์ในการปั๊มหัวใจให้เต้นอีก คนไข้เขาไปสบายแล้วไม่ต้อง
ทรมานอีกต่อไป กว่าจะยอมรับ
เล่นเอาหมอเหนื่อย ฉันก็เหนื่อยด้วยเพราะว่า ต้องพยายามอธิบายให้
พี่นพเข้าใจว่า นี่เป็นความจริง
ที่ทุกคนต้องยอมรับแล้ว ขณะนั้น ในห้องตกอยู่ในสภาพอึมครึมมาก
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉัน
อยู่ในเหตุการณ์เช่นนี้ สมัยแม่ของฉันจากฉันไป ฉันก็ไม่ได้เห็นตอนที่แม่หมดลมหายใจ ตอนเฝ้าแม่
อยู่ที่โรงพยาบาลฉันหลับไป สะดุ้งตื่นขึ้นมา แม่ก็ไปจากฉันไปเสียแล้ว
 เหมือนแม่นอนหลับไป
ไม่เห็นสภาพกระวนกระวายก่อนจะหมดลมหายใจ  เฮ้อ! มนุษย์
เราก็มีเพียงเท่านี้แหละนะ 
หลังจากที่รอญาติพี่น้อง หลานของเขามา ก็น่าจะตกอยู่ในอาการ
อึมครึม ประมาณ ชั่วโมงเกือบสองชั่วโมง
แม่เขาให้ฉันช่วยจัดการติดต่อเรื่องวัด ฉีนเสนอว่าเอาวัดธาตุทอง 
ซึ่งใกล้บ้านและฉันมีลูกศิษย์ที่บวชอยู่วัดนี้ 
สามารถที่จะให้ท่านช่วยเรื่อง ศาลา ให้คำแนะนำต่าง ๆ ได้ดี ฉันเอง
ก็ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องของพิธีการ
ฉันก็เลยโทรหาพระดาบส พระลูกศิษย์ ซึ่งบวชอยู่ที่วัดนี้ หลายสิบ
พรรษาแล้ว ท่านก็ยินดีให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี

เมื่อญาติพี่น้องเขามาพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว ยกเว้นเล็ก ซึ่งยังอยู่ที่
ญี่ปุ่น ก็ได้ทำการเช็ดตัว
ให้ฮ้ง ใส่เสื้อผ้าให้เขา  ตัวของฮ้งอ่่อนปวกเปียก อาจจะเป็นเพราะ
เพิ่งถึงแก่กรรมใหม่ ๆ นั่นเอง
พยาบาลให้ไปชำระเงินที่ค้างไว้ และบอกว่า ประมาณบ่ายสองโมง
เขาจะให้คนมาเคลื่อนศพของฮ้ง 
ไปที่ห้องเก็บศพ เพื่อให้ช่างแต่งหน้าศพให้สวยงามและฉีดฟอร์มาลีน
ที่ ร.พ. มีเจ้าหน้าที่เป็นตัวแทน
ในการขายโลงศพด้วย พี่นพเลือกโลงศพตามราคาและรูปโลงศพที่
เจ้าหน้าที่คนนั้นเสนอ 
ดูเหมือนหมื่นสองพันบาท และเขายอมให้เราฝากศพฮ้งไว้ในห้องแอร์
ด้วย  ก็เป็นอันเสร็จไป 1 เรื่อง 
 วันที่ 20 กรกฎาคม  ฉันก็พาญาติของฮ้งไปที่วัดตามที่ได้นัดกับ
พระลูกศิษย์ดาบสไว้
เพื่อดำเนินการ และท่านจะนำรถจากวัดธตุทองไปรับศพฮ้งจาก ร.พ.
มาที่วัด โดยท่านจะมาด้วยตนเอง


เคลื่อนศพฮ้งมาที่วัดธาตุทอง


ถ่ายกับน้องเนียน หลานของฮ้ง 


คนไปแล้ว เขามีความสุข แต่คนอยู่หลัง เศร้าเหลือเกินเนาะ 


เล็ก น้องสาวคนที่ 3 ของฮ้งกลับมาจากญี่ปุ่น
งานวันแรกผ่านไปค่อนข้างเรียบร้อย แขกมากันมากมาย เพราะฮ้ง
ลูกศิษย์ฉัน เขาเป็คนน่ารัก คนที่รักเขามีมากมาย

วันที่ 25 กรกฎาคม ฉันนัดกับน้องหมอโอ๊ต เพราะพี่นพอยากจะ
บริจาคเงินให้กับ ร.พ.เลิดสิน
โดยน้องหมอทำเรื่องให้บริจาคเป็นเครื่องไม้เครื่องมือ ให้กับศูนย์เคมี
บำบัดที่ยังขัดสนอยู่
การบริจาคครั้งนี้  เพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้ฮ้ง เพื่อจะได้ไปสู่สุคติบน
สรวงสวรรค์ ตามความเชื่อด้วย
ความรักของคนที่เป็นแม่ พี่เขาบริจาคไปทั้งหมดแสนเจ็ดหมื่นบาท



หลิวขับรถมาที่ ร.พ. เพื่อนำเงินมาบริจาค ค่ะ 

วันนี้ เป็นวันที่ฌาปนกิจศพของฮ้งด้วย  มีเลี้ยงพระเพลด้วย แต่ฉันไม่
ได้ทานอะไรกับเขาเท่าไหร่
เพราะพี่โตโทรมาคุยจากเด่นชัย  วันนี้แกคุยยาวเลย เป็นครึ่งชั่วโมง
น่าจะได้ เฮ้อ! กว่าจะไปกินก็กินได้นิดเดียว

งานฌาปนกิจศพของฮ้ง แขกมากันมากมายพอสมควร ทุกคนอาลัยรัก
ฮ้ง เพราะเขาเป็นคนน่ารัก
ใครเดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือเขา  เขามักจะไม่ปฏิเสธ เขาจึง
เป็นที่รักของคนรอบข้าง นั่นเอง 


หลังจากการฌาปนกิจแล้ว ญาติ ๆ ของฮ้งได้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก

วันที่ 26 กรกฎาคม  วันนี้ ฉันก็ต้องไปช่วยเขาอีก เพราะเป็นวันที่
เก็บกระดูกของฮ้ง นั่นเอง 
พระลูกศิษย์ฉัน ก็จัดโถเตรียมใส่อัฐิฮ้งไว้ เจ้าหน้าที่ได้ทำพิธีเก็บกระดูก
นำกระดูกของฮ้ง มาเรียงเป็นรูปคน
มีการพรมน้ำอบที่กระดูก และมีการนำเหรียญสิบบาทมาไว้ที่กระดูก
หลังพิธีพรมน้ำอบแล้ว ก็แจกพวกเรา
คนละ 1 เหรียญ ฉันก็ได้กับเขาด้วย 1 เหรียญ และมีการโปรยทาน
เด็ก ๆ และผู้ใหญ่ในวัด
มารับการโปรยทานมากมาย พี่นพเขาโปรยธนบัตรใบละ 20 น่าจะเป็น
พัน นะ ยังมีเหรียญอีกมากมาย
ถือว่า ทำบุญด้วยและทำทานด้วย นั่นเอง



พิธีเก็บกระดูกของฮ้ง ในวันรุ่งขึ้น

วันที่ 29 กรกฎาคม วันนี้ ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของประเทศ ใน
ฐานะที่เป็นเทศไทย เรามีภาษาประจำชาติ
คือภาษาไทย ใช้เป็นภาษาประจำชาติ เราจึงมีวันภาษาไทยแห่งชาติ 
คือ วันที่ 29 กรกฎาคม ค่ะ 
และวันนี้ ไม่ได้มาเล่าเรื่องวันภาษาไทย นะคะ แต่จะมาเล่าถึงเรื่อง
การจัดงานพบปะสังสรรค์
ของกลุ่มธาตุทอง 24 ที่บ้านของกุ้งที่บางบ่อ เป็นประจำทุกปี โดย
ยึดวันอาทิตย์ที่ใกล้วันคล้ายวันเกิด
ของกุ้งเป็นหลัก โดยให้จัดในวันเสาร์  เพื่อที่จะให้ทุกคนว่างมาร่วม
สนุกสนานกันได้อย่างเต็มที่
เรื่องราวในวันนี้  ฉันได้เขียนรายละเอียดไว้ในบล็อกแก๊งแล้ว ถ้าผู้อ่านสนใจ สามารถอ่านได้ตามลิ้งค์นี้ ค่ะ 
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=12-08-2017&group=5&gblog=52

ต่อไปก็็ขอลงรูปให้ชมบ้างเล็กน้อย ค่ะ 


ธีมงานวันนี้ คือ ย้อนอดีตของการเป็นนักเรียน ค่ะ 


รูปหมู่ ที่แสนประทับใจของพวกเรา ค่ะ 


เจ้าแม่เซลฟี่  เก๋  ถ่ายให้ ค่ะ 


มีการเล่นเกม  ผู้นำเกม คือ  นายหนึ่ง  ค่ะ 


มีการจัดฉากต่าง ๆ ให้เพื่อนที่มาในงานถ่ายรูปกันด้วย ค่ะ 


นักเรียนนั่งรอครูในห้องเรียน ค่ะ อิอิ

ดูรูปพอหอมปากหอมคอเท่านี้  นะคะ 

งานนี้เป็นงานปิดท้ายกิจกรรมที่ฉันไปร่วมงานในเดือน กรกฎาคม ค่ะ 
ความสุข ความสนุกสนาน
ในชีวิตหลังเกษียณ ก็จบลงไปอีกเดือนหนึ่งแล้วนะคะ  ตอนต่อไปก็จะ
เป็นกิจกรรมในเดือนสิงหาคม ค่ะ
สำหรับเดือนนี้ ก็ขอลาเพื่อน ๆ ชาวบล็อกและผู้ที่สนใจ ไปก่อนค่ะ 
สวัสดี ค่ะ 




 

Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2561   
Last Update : 8 มีนาคม 2561 14:23:30 น.   
Counter : 1237 Pageviews.  
space
space
สังสรรค์ฉลองวันตรุษจีนกัน ค่ะ



สังสรรค์ฉลองวันตรุษจีนกัน ค่ะ 

ตรุษจีน  ถือเป็นปีใหม่ของชนชาวจีน รวมถึงคนจีนเชื้อสายไทยที่มีอยู่
ทั่วโลก  เรายังคงรักษาประเพณีอันดีงามของเราอยู่

ฉันก็เป็นคนไทยเชื้อสายจีนที่เกิดในเมืองไทย  พ่อเป็นคนจีนที่เกิดใน
ประเทศไทย  ส่วนแม่เป็นชาวจีนแท้ ๆ  โล้สำเภามากับอากู๋
มาอยู่เมืองไทย  ครอบครัวของฉัน   พ่อกับแม่ ร่วมกันสร้างครอบครัว
สร้างโรงงานน้ำหวาน  และยึดถือประเพณีจีน
ค่อนข้างเคร่งครัด  ถึงตรุษสาร์ท มีการไหว้เจ้า  มีการไหว้บรรพบุรุษ และ
ไหว้ผีไม่มีญาติ โดยมีความเชื่อว่า
เราทำกิจการค้า  จะต้องทำการไหว้ แผ่ส่วนกุศลให้กับผีที่ไม่มีญาติ เพื่อ
ความเป็นสิริมงคล แก่กิจการค้าของบ้านเรา 

เมื่อถึงวันตรุษจีน  บ้านฉันก็มีการสังสรรค์ พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก
ฉันจำได้ว่า  ตอนเล็ก ๆ   ใกล้ตรุษจีน  ฉันจะชอบมาก 
เพราะฉันจะได้เต๊ะเอียจากพ่อ และ จากแม่  และญาติ ๆ ของพ่อกับแม่
อีกด้วย ปีหนึ่ง ๆ ก็ได้เงินเต๊ะเอียมาหลายร้อยบาท
เป็นความสุขอย่างหนึ่งของวัยเด็กที่อยู่ในความทรงจำ  ได้เที่ยว ได้ไป
ดูภาพยนตร์  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาพยนตร์จีน  ห้าห้า 

เมื่อโตขึ้น กิจการของพ่อแม่ ไม่มีใครรับช่วงต่อ  เพราะพี่น้องส่วนใหญ่ก็
แยกย้ายกันไป  ส่วนฉันก็เลือกอาชีพครู 
ประกอบกับพ่อก็ป่วยกระเสาะกระแสะ  พ่อก็เลยเลิกกิจการโรงงาน
น้ำหวานไป ตั้งแต่ฉันยังเรียนไม่จบ น่าเสียดาย

ประเพณีจีนที่ฉันยังคงเห็นแม่ไหว้พระ  ไหว้ตรุษสาร์ท ก็ยังคงดำเนินการ
ต่อไป  เพียงแต่ไม่ได้ทำทุกสาร์ทมากมายเหมือนแต่ก่อน

วันที่ 12 กุมภาพันธ์  2561  ชมรมภาษาจีน  ที่ลูกศิษย์ฉันแนะนำมาเรียน
ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา 
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบการศึกษาตามอัธยาศัย  สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ  
กระทรวงศึกษาธิการ  ซึ่งอยู่ใกล้บ้านฉัน  ฉันก็เลยมาเรียน เพื่อให้มี
กิจกรรมทำ  ทบทวนภาษาจีนที่ไม่ได้ใช้มา
เป็นเวลา สิบกว่าปีแล้ว เรียกว่า  เหลืออยู่น้อยมาก  ยิ่งมาเจอ ภาษาจีนที่เหล่าซือสอน  เป็นภาษาจีนโบราณ  
ความหมายลึก  ซึ่งและเพื่อน ๆ ที่เขาเรียนมาแล้วหลายปี  เราจึง
เหมือนเป็นใบ้เห็นพี่ ๆ น้อง ๆ ที่เรียนมาหลายปี  
เก่ง ๆ ทั้งนั้น เขาสามารถโต้ตอบกับเหล่าซืออย่างสนุกสนาน ฉันฟัง
ออกบ้าง ไม่ออกบ้าง 
ก็สนุกสนาน  สมองได้ใช้งาน ไม่ฝ่อก็พอใจแล้ว  ห้าห้า  

ฉันเข้ามาเรียนได้ประมาณ 4  ครั้ง  พี่ที่ชื่อ นิพร  (อ่านจากในลายน์กลุ่ม
คงไม่เรียกผิด นะ )  มาให้เซ็นชื่อ ค่าชีสที่สอน คนละร้อยบาท
และค่าซื้้อของขวัญตรุษจีนให้เหล่าซือ และมีเลี้ยงอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ
ฉลองวันตรูษจีน  (16 ก.พ. )  อีกคนละ 100 บาท  
ฉันคิดว่า  เป็นสิ่งดี  แสดงถึงประเพณีอันดีงาม  คือ ความกตัญญู รู้คุณ
ของครู อาจารย์  เหมือนดั่งพุทธสุภาษิตว่า  

"ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี " 

ดังนั้น  งานวันนี้  จึงได้เกิดขึ้น  ด้วยความร่วมมือร่วมใจของพี่ ๆ น้อง ๆ 
ที่มาเรียนภาษาจีนในชมรมภาษาจีน นี้  ค่ะ 

ฉันเข้าใจว่า  เขาจะเรียนก่อนแล้วจึงฉลองกัน  เลยไม่ได้ไปก่อนเวลา
มากนัก  เอ้า !  ไปถึง สมาชิกมากันเยอะแล้ว
กำลังตักอาหารกันทานอย่างเอร็ดอร่อย  กินกันไปคุยกันไป  มากหน้า
หลายตา  มีไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่ง ที่ฉันไม่เคยเห็นเลย 
พวกที่เรียน ที่เจอกัน ก็ไม่ได้มาหลายคน  รวมทั้งเล็กและเพื่อน ๆ ของ
เล็ก ด้วย  เล็กมีกิจธุระต้องไป
ช่วยแม่ทุกวันจันทร์  ส่วนใหญ่เขาจึงมาได้แค่วันพุธกับวันศุกร์เท่านั้น 

เรามาชมบรรยากาศของงานในวันนี้  ค่ะ ฉันเก็บภาพเองบ้าง เพื่อน ๆ 
และคุณกุหลาบ ผู้ประสานงานการสอน
มาถ่ายรูปเก็บไว้ให้บ้าง  มาชมกัน ค่ะ 



รายการอาหารที่พี่ ๆ น้อง ๆ ร่วมกันนำมาฉลองกันค่ะ  มีหลากหลาย
อย่าง เลือกทานกันได้มากมาย  พอดีฉันทานจากบ้านไปแล้ว
เลยทานได้นิดหน่อย อิอิ 



ภาพแรก ฉันรู้จักแค่สองคน  คือ  เฮียเฮ้า และคุณสายัณห์  ซึ่งเหล่าซือ
ชอบเย้าแหย่แกมาก 


เหล่าซือ กำลังฉีกซองซอสใส่พิชซ่า  ค่ะ  มีพี่อนงค์  เฮียเฮ้า ที่รู้จัก ค่ะ 


ภาพบน รู้จัก 3 คน คือ คุณประสิทธิ์  คุณ วิพากษ์ (น่าจะสะกดแบบนี้นะ)
แล้วก็ พี่นิพร ค่ะ  อีกสองคน ตั้งแต่เรียนมา ยังไม่เจอกัน ค่ะ 

ภาพล่าง  รวมถ่ายรูปหมู่ ตั้งแต่ฉันยังไปไม่ถึงห้องเรียนเลยค่ะ  


ภาพบน ฉันรู้จัก อาม่า อายุ 93 ปี สุขภาพแข็งแรง  หน้าตายิ้มแย้ม
แจ่มใส เป็นที่รักและเคารพของน้อง ๆ ทุกคน  อีกคน ชื่อคุณ อารีจิต
(น่าจะสะกดเป็นภาษาไทยถูกนะ)  เป็นคนเอื้อเฟื้อดี  ไม่เข้าใจจะถาม
เป็นคุณสมบัติของคนใฝ่รู้  เคยคุยกัน  เขาเคยสอนที่โรงเรียนวัดไตรมิตร
ถิ่นเก่าของฉันด้วย นะ  อีกคนด้านขวา  คือ พี่อนงค์ อัธยาศัยดี  พูด
ค่อย ๆ อายุเยอะแต่แข็งแรงค่ะ 

ภาพล่าง วันนี้ได้รู้จักเพิ่มขึ้นอีก 1 คน คือ คุณเพชรี  ค่ะ 


วันนี้เหล่าซื้อร้องเพลงให้พวกเราฟังด้วยค่ะ เสียงไพเราะ  มีลูกคอ 
ลูกเอื้อน  นุ่มหูดี 


เหล่าซื้อ เดินแวะคุยกับลูกศิษย์ตามโต๊ะต่าง ๆ  ค่ะ  ในภาพล่างที่ฉัน
รู้จัก เพราะเรียนด้วยกัน คือ คุณเอมอร และพี่นิพร ค่ะ 


คุณวิพากษ์ ร้องเพลงให้พวกเราฟังค่ะ  เพลง "จงรัก"  ที่ขึ้นต้นว่า  
"โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต....." เพลงนี้ส่วนใหญ่
คนจะร้องได้ จึงได้ประสานเสียงช่วยกันร้อง แต่ก็ล่ม เพราะจำท่อน
สุดท้ายไม่ได้  ห้าห้า 


ผอ.ศูนย์ มาสวัสดีปีใหม่เหล่าซื้อด้วยส้มตามธรรมเนียมจีนค่ะ  


เหล่าซือกล่าวขอบคุณ ผอ.ศูนย์และร้องเพลงให้ ผอ.ศูนย์ฟังด้วยค่ะ 


คุณสายัณห์มีเซอร์ไพรส์  กล่าวขอขมาเหล่าซือ ว่า บางครั้งอาจจะถาม
ล่วงเกินเหล่าซื้อไปบ้าง ก็ขอโทษด้วย  พร้อมกับมอบของที่ระลึก
ให้กับเหล่าซือ เหมือนเป็นของขลังอะไรสักอย่าง มองไม่ถนัด ห้าห้า 





พวกเรา ก็มีของที่ระลึกมอบให้กับเหล่าซื้อเนื่องในวันตรุษจีน เป็นเสื้อ 
ยี่ห้อ กีลาโรซ ถ้าเหล่าซื้อใส่ไม่ได้หรือไม่ชอบสี สามารถนำไป
เปลี่ยนใหม่ได้  ค่ะ 

คุณกุหลาบ เจ้าหน้าที่  ผู้ประสานงานในการเรียนการสอนของ
ชมรมภาษาจีน ได้ให้พวกเราเล่นเกม ส่งต่อกระป๋องแป้ง  เพลงหยุด
เมื่อกระป๋องแป้งนั้นอยู่ในมือใคร  ส่งต่อให้คนอื่นไม่ทัน  ก็ต้องถูก
ลงโทษ ปะแป้งหน้าตัวเอง  ก็เล่นกันสนุกสนานไปพักใหญ่ 
กระชุ่มกระชวยสำหรับคนสูงอายุ  ห้าห้า  



นั่งเป็นกลุ่มส่งต่อกระป๋องแป้ง แต่ไม่เห็นกระป๋องแป้ง คนบังหมด เนาะ 



ปิดท้ายด้วยภาพที่เป็นเกียรติประวัติของเหล่าซือ ที่ได้มีโอกาสอธิบาย
(เรื่องใดไม่อาจทราบได้)  ถวายแด่สมเด็จพระเทพรัตน์ ฯ 
อย่างใกล้ชิด ค่ะ 

งานฉลองวันตรุษจีน (จัดก่อนตรุษจีน)  ก็จบลงอย่างสนุกสนาน เบิกบาน
ใจ ทั้งเหล่าซือและลูกศิษย์ทุกคน 
งานนี้ สำเร็จลุล่วงไปได้ เพราะความสามัคคี  ร่วมแรงร่วมใจของพี่ ๆ 
น้อง ๆ ในชมรมฯทุกคน  ฉันในฐานะสมาชิกใหม่
ของชมรมฯ ก็รู้สึกดีใจที่ได้เห็นภาพดี ๆ เช่นนี้ ค่ะ 




 

Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2561   
Last Update : 23 มกราคม 2562 10:36:11 น.   
Counter : 1496 Pageviews.  
space
space
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  

อาจารย์สุวิมล
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]




เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ

http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
space
space
space
space
[Add อาจารย์สุวิมล's blog to your web]
space
space
space
space
space