Group Blog
 
All Blogs
 

South Shore to East Shore of Kauai Island

South Shore to East Shore of Kauai Island


จากทิศใต้สู่ทิศตะวันออกของเกาะคาไว
หลังจากที่เล่าแบบกระโดดไปจากตอนก่อนหน้านี้
ขอย้อนกลับหลังจากที่ไปจากจุดหาดพอยพูด้านทิศใต้ กลับมาโดยถนนสาย 520
ผ่านย่านเมืองเก่าโคลัว Koloa
ที่ร้านซูโอก้า Sueoka's ร้านยอดนิยมของคนเอเชีย
เพิ่มเติมอีกนิดนะคะ ร้านนี้มี สากกระเบือและครกหินอ่างศิลา ทุกขนาดจำหน่ายด้วย
เช่นขนาดกลางราคา $34.95 และ ไม้กวาดนครนายกบ้านเราจำหน่ายด้ามละ $5
โฆษณาให้เขาฟรีๆเลยนะเนี่ย
ขับรถมาเจอถนนหลวงสายหลักคือสาย 50 มุ่งหน้าเข้าสู่ทิศตะวันออก
ผ่านวิทยาลัยคาไว Kauai Community College
ที่เกาะนี้ไม่มีมหาวิทยาลัย มีแต่ที่นี่เป็นสถานศึกษาที่สูงที่สุดหลังจากจบจากไฮสคูลแล้ว
เป็นสถาบันที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในการศึกษา
อาคารเรียน หอประชุมใหญ่ที่บางครั้งเปิดการแสดงคอนเสริตจากต่างประเทศ
และ รัฐใหญ่แทบทุกเดือน จุผู้คนได้ประมาณ500 ที่นั่ง
หนูเคยไปดูคอนเสริตดนตรีคลาสสิคจากประเทศรัสเซียมา
ถ้าพอจะเทียบเคียงกับเมืองไทยก็จะพอๆกับกอประชุมเล็ก
ศูนย์วัฒนธรรมไทย ญี่ปุ่น บ้านเราละ

ผ่านมาย่านนี้เรียกว่า คิโลฮาน่า Kilohana และ พูฮิ Puhi
และก็จะเห็นย่านศูนย์การค้าเรียกว่า คูคุยกลอฟ Kukui Grove Shopping Center
เป็นอาคารชั้นเดียวตลอดแนว ในบริเวณเนื้อที่กว้างพอสมควร
เป็นจุดศูนย์กลางแหล่งรวบรวมห้างและร้านดังๆ
เช่น Macy's , K.Mart , Sears , Long's Drug , Border's Books ,Radio Shack ,
Star Market , Coldstone creamery ice cream , Quiznos,Mc Donalds ,
Starbucks , Jamba Juice , และร้านค้าอื่นๆอีกมากมายจำไม่หมด
เดินเที่ยวได้ทั้งวัน
อีกด้านหนึ่งเป็นห้างของคนรักบ้านและก่อสร้างคือ The Home Depot
ด้านข้างของ โฮม ดีโป้ นี้มีถนนสายเก่าสายเล็กๆจำชื่อไม่ได้
ขับลัดเลาะไปตามแนวถนนซึ่งแคบพอสมควร เลาะไปตามแนวภูเขา
จะมีป้ายบอกทาง ทางไปทะเลสาบ เมเนฮูเน่ Menehune Fish Ponds
สามารถจอดรถบนไหล่ทางมองไปด้านล่างจะเห็นเป็นทะเลสาบเล็กๆ
เป็นจุดที่น้ำทะเลและน้ำจืดจากแม่น้ำมาเจอกัน เป็นบึงใหญ่พอสมควร
เป็นแหล่งอาศัยของปลานานาชนิด จากการที่อ่านป้ายที่เขาบอกไว้นะคะ
เห็นมีคนพายเรือแคนูอยู่ด้านล่างอยู่สองลำ รอบๆทะเลสาบมีต้นไม้เขียวครึ้มดูแล้วขลังดี
ได้บรรยากาศไปอีกแบบหนึ่ง

ขับรถไปเรื่อยๆจนมาสุดถนนเจอ สโมสรเรือแคนู Canoe Club
อยู่ที่ปากอ่าวน้ำทะเลนี่เอง เรียกว่าท่าเรือ นาวิลีวิลี่ Nawiliwili
ที่เคยได้เขียนไว้ตั้งแต่ตอนก่อนว่าจะมีเรือสำราญพานักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวที่เกาะนี้
สัปดาห์ละสามลำ
จากท่าเรือ นาวิลีวิลี่ ผ่านลีฮุย จุดศูนย์รวมสถานที่ราชการ สนามกีฬา และ สนามบิน
มาตามถนนหลวงสาย 56 หรือ Kuhio Highway Kuhio
เป็นชื่อของเจ้าชายองค์ก่อนของเกาะนี้ Prince Kuhio
ผ่านชุมชนใหญ่ ฮานามาอูลุHanamaulu (ชุมชนนี้ส่วนมากคนฟิลิปปินส์อาศัยอยู่ )
ถ้าเลี้ยวขวาไปประมาณ 1 ไมล์ก็สามารถไปถึงห้างวอล มาร์ท Walmart ได้

จากถนนสาย 56 เป็นถนนสายหลักสู่ทิศใต้ และ สิ้นสุดทิศเหนือของเกาะนี้
บรรยากาศสองข้างทางร่มรื่น สีเขียวตลอด ต้นไม้มีตลอดแนวถนน
หน้านี้เป็นหน้าร้อน ดอกชะบา และ ดอกเฟื่องฟ้า และดอกไม้นานาชนิด จำชื่อไม่ได้
ตามข้างทางออกดอกสีสันสวยงามมาก
ผ่านสนามกอล์ฟใหญ่เห็นป้ายเขียนว่า Public Golf Course
ในตอนต่อไปจะเล่าเรื่องของสถานที่พักผ่อน สถานที่ท่องเที่ยว
แหล่งที่กิน ของทิศตะวันออกต่อนะคะ
วันนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมแถมท้ายอีกนิดนะคะ
ที่เคยเกริ่นไว้ว่า มีการถ่ายทำหนังที่นี่มากมาย
ตอนนี้ได้ข้อมูลมาดังนี้นะคะ
Film Made in Kauai includes :
*Jurassic Park 1 , 2 , 3
*Raiders of the lost Ark
*Honeymon in Vegas
*South Pacific
*Outbreak
*Blue Hawaii
*Donovan's Reef
*Fantasy Island
*Gilligan's Island
*Dragonely
*Lilo & Stitch
Aloha from Kauai.




โดย: กะทิชาวเกาะ IP: 4.65.60.64 วันที่: 1 กันยายน 2548 เวลา:15:59:33 น.






 

Create Date : 02 กันยายน 2548    
Last Update : 2 กันยายน 2548 4:42:04 น.
Counter : 470 Pageviews.  

Kauai's Farm Bareau Fair งานเกษตรแฟร์-กะทิชาวเกาะ

Kauai's Farm Bareau Fair งานเกษตรแฟร์

อะโลฮ่า คุณลุงสมาร์ทติวปิ๊ดและชาวคณะ
ตอนแรกตั้งใจว่าจะมาเคาะแป้นถึงคุณลุง เขียนต่อจากหาดสุดท้ายที่ได้เห็นเต่าเป็นๆ
ขึ้นมาเล่นน้ำที่หาดพอยพู Poipu Beach ต่อจากเมื่อตอนผ่านมา
แต่วันนี้อ่านหนังสือพิมพ์ ฟังวิทยุ ดูโทรทัศน์ท้องถิ่นที่นี่
เขาประชาสัมพันธ์งานนี้กันเหลือเกิน เป็นงานประจำปีของเกาะนี้
เหมือนกับ งานเกษตรแฟร์ บ้านเรา เขาใช้ชื่อว่า Kauai's Farm Bureau Fair
มีงาน4 วันคือวันที่ 25 - 28 สิงหาคมนี้ งานเริ่มหกโมงเย็น จนถึงเที่ยงคืน
จัดโดยส่วนรัฐบาลทั้งหมด เหมือนๆงานกาชาดบ้านเรา
จัดที่ สนามกีฬา ลีฮุย Lihue
ลีฮุย เป็นเมืองหลวงของเกาะนี้มีสนามบินพาณิชย์ ส่วนราชการเกือบทั้งหมด
ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าใหญ่ๆ ท่าเรือ อยู่เมืองนี้
หนูไปถึงบริเวณจัดงานประมาณหกโมงเย็น
โอ๊ะ โอ๊ะ โอย ไม่มีที่จอดรถเลย ต้องจอดกันไกลเดินเข้าไปที่งานเกือบครึ่งไมล์
หนูนึกว่าหนูเห่อ ตื่นเต้นจะมาเที่ยวงานเขาแล้วนา ยังมีคนมาก่อนงานเปิดตรึมเลย
ก่อนเข้าบริเวณงาน จ่ายค่าตั๋วเข้าไป $4
เขาพิมพ์ตั๋วเป็นการบริจาคเพื่อหาเงินให้กับสมาคมต่างๆ เข้าไปในงาน
ลูกเล็ก เด็กแดง คนแก่ หนุ่ม สาว ทุกวัยเดินกันขวักไขว่เป็นที่สนุกสนานกัน
ไม่ว่าจะเป็นการต่อคิวเข้าแถวซื้อของกินสารพัดเป็นซุ้มๆกันไป
ซึ่งออกร้านโดยนามส่วนราชการ และ โรงเรียน สมาคมต่างๆ
เช่น ซุ้มขายน้ำ ซุ้มของปิ้ง ย่าง บาร์บีคิว ซุ้มพิซซ่า ซุ้มบะหมี่ ซุ้มไก่ย่างรมควัน
ซุ้มอาหารพื้นเมืองอาวายเอี้ยน ซุ้มนี้หนูเข้าไปต่อแถวยาวกับเขาด้วย
อาหารยอดนิยมคือ หมูเลาเลา เหมือนห่อหมกบ้านเราแต่ไม่มีเครื่องแกง
เขาเอาหมูทั้งตัวเข้าไปอบใต้พื้นดิน รองด้วยใบเผือก
หมักด้วยเกลือพื้นเมือง กะเทียม อบด้วยฟืนทั้งวันทั้งคืน เนื้อนุ่มเลยจ้ะ
เคยไปดูเขาทำด้วยละ ถ่ายรูปไว้เยอะเลย แต่ยอมรับว่าโง่มาก ที่เอารูปมาลงให้ดูไม่เป็น
อย่างหนูนี้ไม่รู้ว่าจะโง่อย่างไร อย่างนี้ควายเรียกว่าพี่เลยละ
วันหลังอาจจะเปลี่ยนชื่อเป็น พญากระบือ ก็ได้นะ
ได้หมูเลาเลาใส่จานกระดาษมาเดินกินไปดูงานไป
คิดถึงงานวัดบ้านเรา นานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ นานมาแล้วหลายสิบปีก็ว่าได้
ยังเดินแทะอ้อยควั่น กินน้ำแข็งไสที่กดลงไปในแท่นพิมพ์สังกะสีมีด้ามไม้ตรงกลาง
ราดด้วยน้ำหวานสีแดงดูดให้ชื่นใจไปเลย
ได้หยอดเหรียญลงไปในตู้โรตีสายไหมเพื่อจะให้ได้ไม้สีแดงจะได้เพิ่มอีกอันหนึ่ง
หรือไปยืนดูเขาผัดก๋วยเตี๋ยวถังแตกที่มีแต่เส้นก๋วยเตี๋ยวผัดใส่ซีอิ๊วและถั่วงอก
ใส่กระทงใบตองมีไม้เสียบลูกชิ้นให้ใช้เป็นตะเกียบ
ได้กินขนมกงทอด ไม่รู้ว่าคนรุ่นใหม่จะรู้จักขนมกงหรือไม่
แหมพูดถึงเรื่องอาหารการกินหนูฝอยได้เป็นเรื่องเป็นราวเลยนะ
ไปเดินเที่ยวงานต่อดีกว่า ไหนๆก็ทอดน่องมาเรื่อยเปื่อยแล้ว
อิ่มหมีพีมันมีเสบียงตุนในท้องแล้วทีนี้ขอปล่อยแก่บ้างเถอะ
ชิงช้าสวรรค์ ใช่แล้วชิงช้าสวรรค์เหมือนบ้านเราเลย
ไม่ใช่จะมีแต่เด็กๆเท่านั้นที่ขึ้นกัน ผู้เฒ่า ผู้แก่ ก็มีเพราะหมุนแบบช้าๆ
ไม่หวือหวาเหมือนกับเรือไวกิ้งที่อยู่ถัดไป
เกือบทุ่มแล้วพระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน เมื่อชิงช้าสวรรค์ค่อยหมุนสูงขึ้นไป
ด้านหน้ามองเห็นทะเล น้ำทะเลสีฟ้าคราม ด้านหลังเป็นภูเขาสูงแนวยาวสีเขียวตลอดแนว
สองบรรยากาศที่ตัดกันได้ดีจริงๆ
อยากจะลดอายุลงไปหลายสิบปี จะได้ไปนั่งรถตีลังกาให้หัวหมุนส่งเสียงกริ๊ดๆแข่งกันกับเด็กๆ
หมดรอบชิงช้าสวรรค์ก็เดินไปเที่ยวรอบๆงาน
มีเตนท์สารพัดสัตว์ เช่น แพะ แกะ ลูกม้า ไก่ เป็ด ห่าน ที่กั้นไว้เป็นคอกๆ
ตีตั๋วเข้าไป ส่วนมากจะเป็นเด็กเล็กๆ เด็กๆก็เข้าไปจับ ไปลูบตัวเขาได้
โดยมีผู้ใหญ่คอยดูแลเป็นอย่างดี
เขาจัดเป็นโซนๆไปเช่นทางด้านวิชาการ ก็จะมีหน่วยงานมาให้ข้อมูล
เน้นการเกษตรเป็นส่วนมาก มีการประกวดผลงานต่างๆ และ ผลิตผลการเกษตร
เช่น การประกวดเย็บ ปัก ถัก ร้อย การร้อยมาลัย มาลัยแบบต่างๆ เรียกว่า เล Lei
ประกวดบอนไซ กล้วยไม้ พืชผลการเกษตร
เช่น อ้อย สับปะรด อะโวคาโด เผือก ฟัก ฟักทอง ผักสลัด กล้วย มะละกอ
มากมายขนจำไม่ได้จริงๆเพราะเยอะมาก จัดเป็นเตนท์ใหญ่มาก
มีการบรรยายความเป็นมาของผลงานที่ได้รับรางวัลต่างๆ
มีคนเข้านั่งฟังกันเยอะพอสมควร ส่วนมากจะเป็นวัยกลางคนขึ้นไปแล้ว
เดินเข้าไปเตนท์สารพัดร้านค้า องค์การต่างๆมาออกบู้ธประชาสัมพันธ์ และขายสินค้ากัน
คิดว่ามีประมาณหนึ่งร้อยบู้ธ บู้ธ
ที่ผู้คนให้ความสนใจมากคือบู้ธของทหารบก
เขาประชาสัมพันธ์กันมาก แจกโปสเตอร์ โบร์ชัวร์ เยอะแยะ
แทบทุกบู้ธมีกล่องจับรางวัลวันสุดท้ายกัน เขียนชื่อ ที่อยู่ ใส่ลงไปพร้อมบริจาค
ส่วนมากก็หนึ่งเหรียญ ห้างร้านเอกชน โรงพยาบาล ก็มาออกบู้ธกันเยอะ
เดินจนเมื่อยแล้วออกมาเจอเตนท์เกษตรกร เขานำสินค้ามาจำหน่าย
ดีใจจังวันนี้ได้ต้นตะไคร้อยู่ในกระถางเล็กๆ เขาขาย กระถางละหนึ่งเหรียญ
ทุ่มสุดตัวเลยนะ สองกระถาง เพราะหนักพอสมควร
กะจะเอามาปลูกที่บ้านให้ได้สองกอใหญ่ๆเลยละให้คุ้มสุดๆไปเลย
อาจจะได้ชื่อว่า คุณนายเกลือทิพย์ ในตอนต่อไปก็ได้
เหมือนเดินเที่ยวแป๊ปเดียว ที่ไหนได้เดินมาสี่ชั่วโมงแล้ว ไม่ไหวแล้ว กลับบ้านก่อนละ
แล้วก็มานั่งโม้ให้ลุงและชาวคณะได้ฟังกันนี่ละจ้ะ
Mahalo Nui Loa (มาฮ่าโล่ นุ้ย โลอะ )

ขอบคุณมากนะจ้ะ Thank you very much



โดย: กะทิชาวเกาะ IP: 4.65.60.64 วันที่: 26 สิงหาคม 2548 เวลา:17:37:50






 

Create Date : 27 สิงหาคม 2548    
Last Update : 27 สิงหาคม 2548 16:35:42 น.
Counter : 481 Pageviews.  

Sunset at Polihale Beach อาทิตย์อัศดงที่หาดโปลิฮาเล

Sunset at Polihale Beach อาทิตย์อัศดงที่หาดโปลิฮาเล



แปลกันตรงๆอย่างนี้เลย คงจะไม่เชยไปมากนัก
หลังจากพาไปเที่ยวชมจุดสูงสุดของ วายเมียแคนยอน Waimea Canyon
หรือ Grand Canyon of the Pacific ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,857 ฟุต
ชนิดที่ยืนอยู่นานๆ ก็มีสิทธิ์ที่จะหูอื้อได้
ลงจากภูเขาแล้วมาตามถนนสายหลัก ใช้เวลาประมาณ ครึ่งชั่วโมง
ก็จะมีทางแยกย่อยด้านขวามือเข้าไปประมาณ 2 ไมล์
จะมีป้ายบอกทางชัดเลยว่า ทางไป หาดโปลิฮาเล จากถนนสายหลัก
ถนนจะขรุขระตลอดทาง เพราะสองข้างทางจะเป็นป่าอ้อย
ซึ่งเป็นแหล่งปลูกอ้อยที่ใหญ่ที่สุดของเกาะนี้ พอสุดถนน ทางตัน ไปไหนไม่ได้แล้ว
เพราะเป็นแต่ชายหาดที่ทีทรายขาวละเอียด
ชนิดที่กระดาษทรายเบอร์ศูนย์ ยังอายเลย
หาดทรายสุดลูกหูลูกตานี้ เดินอย่างเดียว
แต่ยังไม่วายที่มีมนุษย์อุบาทย์ นักท่องเที่ยวที่ไม่ศิวิไลซ์เสียเลย
ขับรถบึ่งตลุยทรายกัน ประเภทโฟร์วิวไดร์ฟ ขับอวดโฉมกันบนผืนทราย
เป็นที่น่าเบื่อในบางครั้ง
จากชายหาดด้านหน้าเป็นทะเล ด้านหลังเป็นภูเขาที่สูงเสียดฟ้า
เป็นแนวยาว ประมาณเกือบหนึ่งไมล์
เป็นฉากที่เหมือนของขวัญที่ธรรมชาติให้มากับเกาะนี้
หากนั่งเรือจากหาดนี้ก็จะไปถึงจุดสวยงามที่สุดชื่อ นาปาลี โคสต์
ที่เคยเล่าไว้ตั้งแต่ตอนแรกๆ ที่มีครบทุกอย่าง ทะเล ชายหาด หน้าผา น้ำตก อยู่จุดเดียวกัน
หาดโปลิฮาเลนี้เคยอ่านจากข้อเขียนของหนังสือนำเที่ยวที่นี่พร้อมรูป
เขาใช้คำว่า Majestic sea cliffs seem to glow in the setting tropic sun
along dramatic Polihale Beach .
แปลเอาเองก็แล้วกันนะค่ะ
อยากจะส่งรูปมาให้ทุกท่านได้ชมกันจัง แต่ทำไม่เป็น
ช่วยด้วย ใครก็ได้สอนหน่อย จะได้ส่งรูปสวยๆมาให้ดู
เห็นมีนักท่องเที่ยวมากันเกือบสิบกลุ่ม จัดการกางเตนท์ ตั้งแคมป์ไฟกันเลย
ทางการเขาจัดห้องสุขาสาธารณะ ห้องอาบน้ำไว้บริการฟรี
ไฟฟ้าไม่มี ก็เตรียมไฟฉายไปกัน อุปกรณ์แคมป์ปิ้ง เครื่องนอนพร้อม
ได้นอนกลางดิน กินกลางทรายกันแล้วคืนนี้ อ้อไม่ใช่ค่ะ
นอนกลางทราย กินกลางทรายแล้ว
มาถึงหาดนี้ประมาณบ่ายสี่โมงเย็น
อากาศยังร้อนอยู่ พระอาทิตย์ก็ขยันทำงานเหลือเกิน
กว่าพระอาทิตย์จะตกดินวันนี้ก็เกือบจะทุ่มครึ่ง
ได้นั่งดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่หลังเขาที่หาดนี้สมใจ
ใช้คำว่า อาทิตย์อัศดงที่หาดโปลิฮาเล ก็คงไม่ผิด
พอตะวันลับฟ้าชาวประชาที่มาตั้งแคมป์ทั้งหลาย ก็เริ่มกิจกรรมของกลุ่มกันเอง
วันนี้เริ่มต้นจากที่หาเศษไม้แถวๆชายหาดมาตุนไว้เป็นวัศดุทำแคมป์ไฟกันหน้าเตนท์
เตรียมอุปกรณ์การกินกันพร้อมแล้ว เสบียงกรังที่เตรียมมาในถังคูลเลอร์
ไมว่าจะเป็น น้ำ น้ำแข็ง โอเลี้ยง ชาดำเย็น สารพัดขนม
ของขบเคี้ยวต่างๆ และ หมูปิ้ง ไก่ย่าง สารพัดบาร์บีคิว นึ่งข้าวเหนียวจากบ้านไปสมทบอีก
ทำกินกันหน้าเตนท์นี่แหละ
ทำให้นึกถึงสมัยอยู่เมืองไทย ไม่ว่าจะเข้าค่าย อนุกาชาด เนตรนารี ลูกเสือชาวบ้าน
จนไปถึงกางเตนท์นอน ( เตนท์คอนโด ) ผากล้วยไม้ เขาใหญ่ ภูกระดึง ลุยมาแล้ว
ได้บรรยากาศที่แตกต่างกันไป
ที่นี่นอนฟังเสียงคลื่น น้ำทะเลเท่านั้น
ยอมรับว่าประชาชนชาวแคมป์เขาเคารพสิทธิ์กัน
ไม่ส่งเสียงดัง เอะอะโวยวาย กินเหล้าร้องเพลงเคาะขวด ให้ชาวบ้านเขาอวยพรให้
จะคุยกันเงียบๆ หรือ เปิดเพลงฟังกันเบาๆ
แค่นี้ก็สวรรค์บนดินแล้ว
โม้ไปโม้มาเที่ยงคืนครึ่งของวันจันทร์แล้ว
ตอนต่อไปจะพาไปดูเต่าเป็นๆ มาเป็นครอบครัวใหญ่เลย
ไม่ต่ำกว่ายี่สิบตัว ที่ว่ายน้ำขึ้นมาทักทายที่ชายหาดพอยพู Poipu Beach นะค่ะ

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
...............................................................................................................................
Good morning Polihale State Park

อรุณสวัสดิ์ของเช้าวันใหม่
ตื่นเช้ามายังไม่ตีห้าเลยแสงรำไรโผล่พ้นขอบน้ำทะเลขึ้นมาแล้ว
ฝูงนกเริ่มโบยบินออกหากินกันแล้ว
ออกมานั่งดูภาพที่ไม่อาจจะลืมได้
แสงสีทองสาดส่องขึ้นมาจับขอบฟ้าสวยงามยิ่งกว่าจิตรกรเอาพู่กันจุ่มสีมาวาดไว้
ลมทะเลพัดเข้ามาตลอดเวลา หาดทรายละเอียดยิบสีขาวสุดลูกหูลูกตา
ในมือถือถ้วยกาแฟอุ่นๆไว้ยกขึ้นดื่มแบบละเลียดไปเรื่อยๆ ไม่รู้จักเบื่อ
ใช้คำว่านั่งกินลมชมวิว คงไม่ผิด นั่งอยู่นานเท่าไหร่ไม่รู้
อากาศเริ่มร้อนขึ้น ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ แล้วเริ่มเก็บเตนท์นอน
เก็บขยะเอาไปทิ้งถังขยะ ที่ทางการเขาจัดไว้รองรับ
สำรวจบริเวณเตนท์นอนไม่ให้มีสิ่งรกรุงรังตกค้างอยู่
หลังจากนั้นออกจากที่หาดนี้โดยถนนที่ขรุขระพอสมควร
จนมาเจอถนนหลวงสาย 50 มุ่งหน้าเข้าสู่ทิศใต้ของเกาะ
จากถนนสายนี้ประมาณสิบนาที ซ้ายมือเป็นหาดทรายสวยงามขนานไปตามแนวถนน
ชื่อ หาดบาร์คกิ้ง แซนด์ Barking Sands Beach
ย่านนี้เป็นเขตทหาร ขับรถมาเรื่อยๆเข้าเขตชุมชนชื่อ เคคาฮ่า Kekaha
สามารถมองเห็นเกาะ นิอิเฮา Niihau ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน
เกาะนี้เป็นเกาะส่วนตัวของมหาเศรษฐีตระกูลโรบินสัน
ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไปได้
เกาะนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ
ไข่มุกจากเกาะนี้เป็นไข่มุกน้ำงามที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา
ไข่มุกตาฮินิ Tahini Pearl ที่ว่าเยี่ยมที่สุด
ถ้ามาเปรียบเทียบกับไข่มุกจากเกาะ นิอิเฮา นี้ชิดซ้ายไปเลย
พอเริ่มเข้าสู่ทิศใต้ ก็จะเจอชุมชน ฮานาเปเป้ Hanapepe
เป็นชุมชนที่มีคนอาศัยหนาแน่นพอสมควร
แวะเข้าไปย่านหมู่บ้านเก่าตามป้ายบอกว่า The old town Hanapepe
เดินจากหัวถนนไปเรื่อยๆ สองข้างทางเป็นบ้านไม้เก่าแก่
ห้องแถวเล็กๆปรับปรุงเป็นร้านขายของที่ระลึกเสียมาก
มีป้ายบอกทางไป สะพานแขวนSwing Bridge
สร้างด้วยไม้และใช้เชือกสลิงขนาดใหญ่ขึงหรือแขวน
ไม่รู้เหมือนกันว่าใช้คำไหนที่ถูกต้อง เป็นสะพานข้ามแม่น้ำ
เดินบนสะพานนี้โยกเยกไปตามแรงลมและได้บรรยากาศไปอีกแบบหนึ่ง
เป็นจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่นี่ได้มากพอสมควร
ออกจากฮานาเปเป้ เข้าสู่ชุมชมชื่อ เอเลเอเล Eleele
มีศูนย์การค้าเล็กๆ มีห้างสโตร์ขายของแวะซื้อของใช้ที่ห้างบิ๊กเซฟ Big Save
ด้านข้างเห็นร้านอาหารไทย ชื่อต้อยคิทเช่น Toy Kitchen
แต่ไม่ได้เข้าไปรับประทานอาหารเพราะเขายังไม่เปิด
หลังจากซื้อของที่นี่แล้วออกไปแวะดูเขาทำนาเกลือที่ ซัลท์ พอนด์ เลค บีช
Salt pound lake beach ที่อยู่ติดกันกับ สนามบิน พอร์ต อะเลน Port Allen
สนามบินนี้เป็นสนามบินเล็กสำหรับเฮลิคอปเตอร์ และ ของทหาร ไม่ใช่สนามบินพาณิชย์
วันนี้มานั่งทานอาหารกลางวันปิคนิคกันที่ ซัลท์พอนด์เลคบีช
มีที่นั่งทานข้าวโต๊ะไม้ เก้าอี้ ใต้ต้นสนที่เป็นแนวยาวเหยียด
ไม่ดูเวลาแล้ว รู้แต่ว่าบ่ายคล้อยมาก ก็เดินทางออกมามุ่งสู่ คาลาเฮโอ Kalaheo
เป็นชุมชนที่อยู่หนาแน่นของย่านนี้ แยกเข้าสู่ทางหลวงสาย 520
เพื่อตั้งใจจะไปดำน้ำสน้อคเกิ้ลที่หาดพอยพู Poipu Beach
เลี้ยวขวาเข้าถนนสาย 520 ชื่อทางการเรียกว่า Tree Tunnel
เป็นถนนสายสั้นๆแต่สวยงามมาก สองข้างทางมีต้นจามจุรี
และ ต้นสน เก่าแก่อายุเป็นร้อยปี ครึ้มสองข้างทาง
ผู้รู้เคยบอกว่าตอนที่เกิดพายุเฮอริเคน อินิกิ ที่นี่
เมื่อสิบสามปีก่อนต้นไม้สองข้างทางที่นี่ไม่ถูกพายุเฮอริเคนทำลาย
ยังคงอยู่ ดีใจจังที่ยังทีถนนสวยงามหลงเหลืออยู่
เข้ามาถึงชุมชนเก่าแก่ ชื่อ คาลัว Koloa
ส่วนมากจะเห็นคนญี่ปุ่นอยู่กันมาก
แวะเข้าไปซื้อของเข้าบ้านชื่อ ซูโอก้า Suoka เป็นร้านขายของเอเชียเป็นส่วนมาก
ได้ของมาหลายอย่าง เกี๊ยมฉ่ายกระป๋อง ผักกาดดอง กะทิชาวเกาะ
น้ำพริกเผาพันท้ายนรสิงห์ เครื่องแกงเผ็ดแม่พลอย น้ำปลาทิพรส สาคู
แป้งมัน เต้าหู้ยี้ พริกแห้ง พริกป่น ข้าวหอมมะลิสุพรรณหงส์ ข้าวเหนียว
เส้นหมี่ไวไว น้ำจิ้มสุกี้ กระเทียมเจียว
บะหมี่สำเร็จรูปทุกยี่ห้อที่มีขายเมืองไทย ลิ้นจี่กระป๋อง ลำใยกระป๋อง หน่อไม้ ไม้กวาด
ทุกอย่างเป็นของที่มาจากเมืองไทยหมด
แค่นี้ก็ใช้ไปได้อีกนานเลย
ออกจากห้างนี้มุ่งหน้าไปยัง สะเป้าท์ติ้งฮอนน์ Spouting Horn
ผ่านหาดลาไว Lawai Beach ไปประมาณห้านาที
สะเป้าท์ติ้งฮอนน์ตามภูมิประเทศคือแผ่นหินขนาดใหญ่ยื่นไปในทะเล
หรือเป็นถ้ำขนาดใหญ่ เป็นโพรงขนาดมหึมา
เมื่อน้ำทะเลพัดเข้าสู่ฝั่งก็จะผ่านแผ่นหินที่มีรูอยู่ด้านบน
ทำให้มีนำทะเลพุ่งออกมาตามรอยโหว่ของรูหิน
น้ำทะเลจะแรงหรือไม่ก็แล้วแต่คลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง
เมื่อมีนำพุ่งขึ้นมาแต่ละครั้งเวลาละอองน้ำกระทบกับแสงแดดก็มีประกายรุ้งกินน้ำขึ้นมา
นักท่องเที่ยวจะถ่ายรูปตอนนี้กันมาก
เหลือบไปเห็นเรือยอร์ช พานักท่องเที่ยวจอดอยู่ไม่ไกล
มาเที่ยวดูทางน้ำเหมือนกัน
ตรงข้ามสะเป้าท์ติ้งฮอนน์ เป็นสวนดอกไม้เอกชน
ที่เปิดให้เข้าชมได้ เสียเงินค่าตั๋วนะ
แต่วันนี้มากันเกือบเย็นแล้วเขาปิดตั้งแต่บ่ายสามโมง
เลยไม่มีโอกาสเข้าไปเที่ยวด้านใน
ออกจากจุดนี้ผ่านมายังหาดเบรเน็คเก้ Breneke Beach ติดกันกับหาดพอยพู
เตรียมอุปกรณ์สน้อคเกิ้ล ดำน้ำแบบตื้นๆมาลงทะเลกันดีกว่า
หาดนี้กับหาดพอยพูติดกัน วันนี้ดีใจจังเห็นเต่าตัวเป็นๆขึ้นมาว่ายน้ำเล่นเป็นเพื่อน
มากันเป็นครอบครัวใหญ่เลย คิดว่าไม่ต่ำกว่ายี่สิบตัว
มีทุกขนาด ตัวเล็กตัวน้อยมากัน น่ารักมาก
พวกเขาเหมือนกับจะคุ้นเคยกับมนุษย์ดี ต่างคนต่างว่ายน้ำกันไป
มองเห็นนักท่องเที่ยวจอดรถตลอดแนวชายหาดลงมาถ่ายรูปกันเยอะแยะ
ดีใจที่พวกเขาไม่ส่งเสียงดัง
แววตาของทุกคนที่เห็นภาพนี้ล้วนแต่มีความสุขกันทั้งนั้น
วันนี้มาเล่าเรื่องเหมือนเขียนเรียงความที่ไม่ค่อยจะตื่นเต้นเท่าไหร่
เขียนเองอ่านเองยังตาลายเลย
ไปก่อนละ ตอนต่อไปจะพาไปเที่ยวทิศตะวันออกต่อนะค่ะ

จาก ประชาชนชาวเกาะ










 

Create Date : 23 สิงหาคม 2548    
Last Update : 23 สิงหาคม 2548 12:33:06 น.
Counter : 526 Pageviews.  

Bumbai from Kauai-ประชาชนชาวเกาะ

Bumbai from Kauai
สวัสดีค่ะ คุณลุงสมาร์ทตูปิ๊ดและชาวคณะ

Bumbai อ่านว่า บัมไบ ภาษาฮาวาเอี้ยนแปลว่า เอาไว้ก่อน ทีหลังนะ รอก่อน เป็นคำพูดที่คนพื้นเมืองชอบพูดกันมากที่นี่ หนูก็ติดปากมาทุกวันนี้ ประเภทพลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆทำนองนั้น
แมงโม้กลับมาโม้ต่อแล้วนะ หลังจากที่ตัวขี้เกียจมาเยี่ยมเยียนเสียหลายวัน ไม่รู้จะโม้เรื่องอะไร อยู่ที่เกาะที่มีน้ำกับฟ้าเท่านั้น ก็โม้เรื่องวิวทิวทัศน์ที่นี่ก็แล้วกัน เพราะเกาะนี้เขาขายธรรมชาติที่เป็นทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา
ภูมิศาสตร์ของเกาะนี้แบ่งตามทิศก็มีสี่ทิศ คือทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก วันนี้มาเล่าเรื่องทางทิศตะวันตกก่อนดีกว่า พื้นที่แถบนี้จะเป็นที่บนภูเขาสูงมากกว่า อากาศส่วนมากจะร้อนชื้น ผู้คนอาศัยไม่หนาแน่นเหมือนทิศเหนือ ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้สีเขียว ภูเขา น้ำตก ทะเล สนามกอล์ฟ ( เอาไว้เล่าตอนต่อไปอีกแล้ว )
สถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทุกคนถ้ามาถึงที่นี่ควรจะไปแวะเยี่ยมชมชื่อ วายเมีย แคนยอน Waimea Canyon หรือ Grand Canyon of Pacific เป็นจุดที่สูงที่สุดของเกาะนี้ สูงกว่าระดับน้ำทะเลเท่าไหร่จำไม่ได้จริงๆ เคยอ่านจากข้อความที่เขาเขียนไว้ก่อนทางเดินขึ้นไปชมที่จุดชมวิว ถ้ามองจากที่จุดชมวิวที่ทางการเขาจัดไว้ให้ชมและถ่ายรูป เหมือนกับยืนอยู่บนปุยเมฆจริงๆ เพราะมีปุยเมฆลอยพัดผ่านเราสามารถจับต้องได้ ถ้ามองลงไปด้านล่างจะเห็นฝูงนกตัวเล็กๆเห็นเท่าหัวเข็มหมุดบินอยู่คิดว่าบินบนผิวทะเลไม่สามารถบินขึ้นมาที่สูงสุดของจุดนี้ได้ และ มองเห็นเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ไม่ชอบนั่งรถขึ้นมาบนเขาที่หนทางคดเคี้ยวไปตามแนวไหล่เขา บินลอยไปลอยมาด้านล่าง ซึ่งทีบรรยากาศครบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกที่ตกลงมาจากยอดเขาเป็นทาง เป็นต้นกำเหนิดของแม่น้ำ ลำธาร ต้นไม้ที่เขียวขจี หน้าผาที่เป็นภูเขา และ สีแดงเหมือนดินลูกรัง ประกายน้ำทะเลสีครามระยิบระยับ สีสรรตัดกันดีจัง มีครบทุกสี บางครั้งมีฝนตกลงมาก็จะเห็นรุ้งกินน้ำครบทุกสีเลย อยากจะเอารูปมาลงให้ดู แต่แมงโม้ทำไม่เป็น แค่พยายามนั่งพิมพ์แบบบรรจงนี่ก็ยังหาตัวอักษรไม่ค่อยจะครบเลย เดี๋ยวลุงจะบอกว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น อยากจะส่งรูปแห่งความประทับใจมาให้ลุงและชาวคณะได้ชมจริงๆจ้ะ ถ้าหนูเขียนกลอนเก่งๆอย่างลุงนะ สงสัยจะเขียนเป็นนิราศ กลอนสี่สุภาพ ได้หวานหยดเชียวละ ถ้าจำไม่ผิดฉากนี้เป็นฉากเด่นในหนังเรื่อง จูลาสสิคปาร์ค
ก่อนที่จะขึ้นมาชมที่จุดชมวิวนี้ ด้านล่างอากาศร้อนมาก พอมาถึงด้านบนจุดสูงสุด ชื่อ โคเค อากาศชักจะเย็นๆ ขนาดหน้านี้เป็นหน้าร้อนนะ ถ้าหน้าหนาวคงจะมีหมอกลงมาทั้งวัน ถามว่าอากาศที่นี่บริสุทธิ์ไหม ตอบได้เลยว่าเต็มร้อย ไม่มีมลภาวะเลย ทางการเขาจัดที่จอดรถไว้เป็นสัดส่วน มีรถบัสคันใหญ่ๆที่รับนักท่องเที่ยวมาจากเรือสำราญเดินทะเล ที่เข้ามาจอดที่ท่าเรือ นาวิลีวิลี่ Nawiliwili มาที่นี่แต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า ยี่สิบคันรถบัส ก็จะเกิดมลภาวะทางเสียงบ้าง ทางทีดีถ้าจะหลีกเลี่ยง ไม่ควรไปเที่ยว วันจันทร์ วันพุธ และ วันพฤหัสบดี ช่วงเวลาก่อนเที่ยง เพราะเสียงรถบัส และ ผู้คน จะทำเอาประสาทหูเสื่อมเอาได้ แมงโม้แอบไปเที่ยวตอนเช้าตรู่ หรือ บ่ายไปแล้ว เพราะชอบที่จะไปกินลมชมวิวจริงๆ
วันนี้มีแต่เรื่องน้ำๆนะจ้ะ เรื่องเนื้อๆ จะตามมาวันหลังก็แล้วกันจ้ะ หนูก็ไม่รู้ว่าจะโม้เรื่องอะไร ก็โม้เรื่องใกล้ตัวนี่แหละ พูดซ้ำพูดซากได้ทั้งวัน
คำศัพท์ฮาวายเอี้ยนวันนี้

อะโลฮ่า Aloha แปลว่า สวัสดี
มาฮาโล่ Mahalo แปลว่า ขอบคุณ
โอโน่ Ono แปลว่า อร่อย
บัมไบ Bumbai แปลว่า ทีหลัง เอาไว้ก่อน เดี๋ยวก่อน

เวลาที่นี่ตอนนี้เกือบเที่ยงวัน วันเสาร์ค่ะ จะไปก็ลา จะมาก็ไหว้

สวัสดีค่ะ










โดย: ประชาชนชาวเกาะ IP: 4.65.60.64 21 สิงหาคม 2548 4:49:00 น.





 

Create Date : 21 สิงหาคม 2548    
Last Update : 21 สิงหาคม 2548 11:50:22 น.
Counter : 1959 Pageviews.  

อโลฮ่า ตอนล่าสุด-ปชช ชาวเกาะ



Aloha from Kauai
สวัสดีค่ะ คุณลุงตูปิ๊ดและชาวคณะ แมงโม้กลับมาปฎิบัติการโม้ต่อแล้วนะค่ะ
เมื่อกี้แวะไปสวัสดีทักทายที่หน้าบ้าน ฝากถามคำถามที่อายุสมองหนูยังไม่บรรลุนิติภาวะว่า
อะไรเอ่ย เกาะอะไรเอ่ยที่มีหนูเยอะที่สุด
คำตอบก็คือ เกาะแน่นแน่นหน่อยนะน้อง ใช่เลยใช่ไหมค่ะ
แมงโม้มัวหลงระเริงไปนอนผึ่งพุงที่ทะเล วันนี้แต่งตัวด้วยชุดกิ๊บเก๋ยูเรก้าด้วยละ
นุ่งผ้าถุง ใส่เสื้อคอกระเช้า รอเท้าแตะฟองนำ ที่ขาดไม่ได้คือแว่นกันแดด
มีเก้าอี้ประจำตำแหน่ง คือ เก้าอี้ชายหาดรุ่นใหม่
พอกางออกไปมีที่พักเท้าและหมอนในเล็กๆ เท่านี้ก็นอนท่าพะยูนเกยตื้นได้แล้ว
อากาศชายทะเลเป็นอากาศที่บริสุทธิ์จริงๆ คุณดารุ อย่าเพิ่งขว้างค้อนเข้ามาละ
ต่อมอิจฉาเริ่มทำงานแล้วใช่ไหมละ
เพิ่งรู้ตัวว่าที่มาโม้ทุกวันนี้ ด้านหลังมีถังออกซิเย่นอยู่ด้วย เพราะเล่าแบบดำน้ำนะ
และรู้ว่าตัวเองพิมพ์ผิดไปสองคำ คือ หาดลิเกด ภาษาอังกฤษที่ถูกต้องคือ Lydgate
และที่บอกไว้ว่าภูมิศาสตร์ของหมู่เกาะทั้งหมด ห้าเกาะ ที่ถูกต้องคือ แปดเกาะ
วันนี้มีโอกาศได้นั่งคุยกับผู้เฒ่า ซึ่งเป็นคนฮาวายเอี้ยนแท้ๆ ต้องตั้งใจฟังอย่างมาก
เพราะเขาใช้ภาษาอังกฤษสำเนียงท้องถิ่นคนพื้นเมืองแท้ๆ
เล่าให้ฟังถึงประวัติศาสตร์ของหมู่เกาะนี้ และ ชื่อของเกาะที่ถูกต้อง
คิดว่าสามารถเอาเรื่องมาเล่าให้ได้หลายตอนเลยละ
ไม่ว่าจะเป็นประวัติของ กษัตริย์องค์สุดท้ายที่ชื่อ คิงคาเมฮาเมฮา King Kamehamaha
และ ราชวงศ์ที่ยังมีชีวิติอยู่ ณ. ปัจจุบัน
หรือความไม่เห็นชอบที่อเมริกามาถือครองเป็นรัฐที่ 50 ในปี ค.ศ 1959
ยังไม่เล่าในตอนนี้ เดี๋ยวชาวประชาจะให้ย้ายบ้านไปอยู่ห้องราชดำเนิน
หมู่เกาะฮาวายประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยดังนี้
1. เกาะบิ๊กไอแลนด์ Big Island
2. เกาะโออะฮู Oahu
3. เกาะลาไน Lanai
4. เกาะโมโลไก Molokai
5.เกาะเมาวี่ Maui
6.เกาะคาไว Kauai
7.เกาะนิเฮา Nihau
8.เกาะคาโฮลาวี่ Kaholawi
เกาะสุดท้ายนี้เป็นเกาะที่ไม่มีในตำรา เป็นเกาะที่อเมริกาใช้เป็นที่ทดลองอาวุธสงคราม
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ไม่มีคนอาศัยที่นี่ เพราะยังมีระเบิดหลงเหลือ
เป็นเกาะที่คนพื้นเมืองช้ำใจมากที่สุด ถ้าเล่าแล้วเล่ายาวเลยนะ
ไม่อยากโม้เรื่องเครียดๆละวันนี้เอาไว้ตอนต่อไปก็แล้วกันนะค่ะ
คุณดารุถามว่าที่นี่ปลูกพืชผักของไทยๆมีไหม ตอบว่ามีค่ะ
ที่นี่จะมีตลาดนัดที่เกษตรกรนำพืชผลมาขาย สัปดาห์ละครั้ง
ที่นี่จะมีตลาดนัดทุกวันพุธ เริ่มขายตอนบ่ายสามโมง จะวางขายกับพื้นบ้าง
วางบนโต๊ะชั่วคราวบ้าง เรียกว่า ตลาดนัดซันไชด์ หรือ Farmer market
ส่วนมากราคา หนึ่งเหรียญ สองเหรียญ ไม่ว่าจะเป็น โหระพา พริกเขียว พริกแดง
พริกขี้หนู กระเพรา ผักกาด ผักสลัด กะหลำปลี มะเขือเทศ ถั่วงอก มะรุม ฟักทอง
ฟักเขียว แตงกวา หอมหัวใหญ่ หอมแดง กระเทียม แตงโม มะละกอ กล้วยน้ำหว้า
กล้วยหอม มะนาว ผักชี ต้นหอม บางครั้งก็มี ลำใย ลิ้นจี่ ปลูกที่นี่ได้ทั้งนั้น
สองอย่างหลังราคาจะแพงหน่อย ใส่ถุงพลาสติคเล็กๆราคาประมาณ ห้าเหรียญ
คนท้องถิ่นส่วนมากจะมาซื้อโดยตรงที่ตลาดนัดที่นี่จะประหยัดกว่าไปซื้อที่ห้างหลายเท่าตัว
ต้องแย่งกันบ้างละ คนซื้อที่นี่น่ารัก ส่วนมากจะเตรียมตระกร้า ถุงผ้า
หรือ ถุงพลาสติค ไปใส่ของกันเอง เป็นการอนุรักษ์ทรัพยากร และ รักษาสิ่งแวดล้อม
ลดขยะไปได้มาก
บางตรั้งมีคำนวณว่าวันนี้ไปซื้อของที่ตลาดนัดเข้าบ้านหมดเงินไปเท่าไหร่
ไอ๊หยาถ้าคูณเป็นเงินไทย ไปซื้อผักผลไม้ที่ตลาดไท หรือ ตลาดสี่มุมเมืองที่บ้านเรา
เอารถกระบะไปขนได้เลย แต่ที่นี่ได้แค่สองถุงหิ้วเข้าบ้านเท่านั้นเอง
พุทโธ พุทธัง ธัมโม สังโฆ บ่นเป็นคนแก่เข้าไปแล้ว
เงินทองเป็นของนอกกายไม่ตายก็หาได้ ใช่ไหมจ้ะลุงติวปิ๊ด
วันนี้โม้แต่เรื่องภักษาหาร มังสาหาร นึกอยากอีกแล้ว อยากินโรตีใส่ไข่
เหลือบไปเห็นนมข้นที่เปิดไว้ยังเหลืออยู่ เจอแผ่นแป้งทอเทีย หลงเหลืออยู่ในตู้เย็น พร้อมเนย
แฮ่ๆได้การละ พรุ่งนี้เช้าอาหารเช้าก็คือโรตีใส่ไข่ ใส่นมข้น พร้อมกาแฟ
หอบเสื่อไปทานที่ชายหาดเคเลีย นี่คือโครงการในอนาคตของวันพรุ่งนี้นะ


โม้ไปโม้มาจะเที่ยงคืนวันอังคารแล้ว ราตรีสวัสดิ์ค่ะ













โดย: ประชาชนชาวเกาะ IP: 4.65.60.64 17 สิงหาคม 2548 16:47:26













 

Create Date : 17 สิงหาคม 2548    
Last Update : 17 สิงหาคม 2548 18:16:56 น.
Counter : 580 Pageviews.  

1  2  3  

smartupid
Location :
New York United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




กรุณาตรวจตราสิ่งของก่อนลงจากรถไป แค่ลืมหัวใจไว้ในรถ คนขับก็สดชื่น.... โอ่เค้
Please check your belongings before leaving my cab, just leave your heart here ...Thank You
Friends' blogs
[Add smartupid's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.