8 ส่วนผสมหลัก...ปรุงรส “ชีวิตรัก” ให้กลมกล่อม ถ้าพูดถึงสิ่งของชิ้นหนึ่ง “ความใหม่” ย่อมสร้างความตื่นเต้น และความหวงแหนให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก แต่เมื่อสิ่งของชิ้นนั้นผ่านช่วงเวลานานพอสมควร เห็นจนชินตาบ่อยขึ้น ทำให้ความรู้สึกที่มี ไม่เหมือนกับครั้งแรกที่ได้มา แต่กลับเห็นเป็นเรื่องปกติ และชินชา จนวันหนึ่งต้องหาสิ่งที่ใหม่ และดีกว่ามาทดแทนความเก่าของสิ่งของชิ้นนั้น เหมือนกันกับ “ชีวิตคู่” ที่เมื่อครั้งเจอรักแรกพบ ทุกสิ่งบนโลกนี้ก็เปลี่ยนเป็นสีชมพูขึ้นมาทันที เกิดอาการหัวใจเต้นถี่ขึ้นทุกครั้งที่พบเจอ หรือแม้กระทั่งได้พูดคุยกัน แต่พอตัดสินใจแต่งงานใช้ชีวิตร่วมทางกันแล้ว ความหวานฉ่ำในตอนแรกอาจเปลี่ยนไป นั่นเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับกัน แต่ไม่ใช่ยอมแพ้ เพราะวันนี้ทีมงาน Life and Family มีเครื่องปรุงรสให้ชีวิตรักมีรสชาติที่กลมกล่อมมาฝากกัน เพื่อนำไปเป็นส่วนผสม ปรุงความรักให้ยืนยง และมีความสุขตลอดไป 1. ใส่ความสุขเต็มร้อยเข้าบ้าน เมื่อเกิดความเครียดเรื่องงาน หรือเรื่องอื่นๆ ไม่ควรใส่เข้าบ้าน แต่ควรตักทิ้งออกให้หมด และนำความสุขกลับเข้ามาใส่แทน ด้วยการทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น รับประทานอาหารร่วมกัน ดูโทรทัศน์ด้วยกัน (แต่ไม่ควรเป็นเรื่องการเมืองนะครับ ควรเป็นละคร หรือรายการทั่วไป) หรือเล่นวีดีโอเกมร่วมกันก็ได้ (ถ้าทั้งสองมีความชอบเหมือนกัน 2. ใส่ความเมตตา-ปรารถนาดีต่อกัน คำว่า “คู่ชีวิต” คงต้องมีบ้าง ที่คนทั้งสอง ย่อมมีความคิด และความเข้าใจที่แตกต่างกัน เพราะเป็นเรื่องปกติที่คนเราไม่สามารถรับรู้ความคิดเห็นของฝ่ายตรงข้ามได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น สิ่งสำคัญขอให้ใส่ความเมตตา ความปรารถนาดี และการให้อภัยแก่กัน เพราะเป็นเครื่องปรุงที่จะช่วยลดความแตกแยกที่เกิดจากความแตกต่างลงได้ นี่คือหลักธรรมข้อสำคัญที่จะช่วยอุ้มชีวิตรักให้ยั่งยืน 3. ใส่หัวใจพี่น้อง และเพื่อนสนิทให้กัน นอกจากจะอยู่ในฐานะคู่รักกันแล้ว ชีวิตคู่ต้องสวมบทบาท และใส่หัวใจของความเป็นพี่น้อง และความเป็นเพื่อนสนิทให้แก่กันด้วย เพราะจะแสดงถึงความรักที่เอ็นดู คุยได้กันทุกเรื่องในแบบฉบับของเพื่อน และมีความห่วงใย แบ่งปัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในแบบฉบับของพี่น้อง ทั้ง 2 สิ่งนี้จึงจำเป็นต้องปรุงรสให้เข้ากับชีวิตรักด้วย จะช่วยให้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข 4. ใส่ใจการดูแล และเอาใจใส่คู่รัก เวลาที่เครียด หรือมีปัญหาในเรื่องต่างๆ ควรใช้คำพูดที่ฟังแล้วสบายใจ เช่น “ไม่ต้องกังวลไปนะครับ เราต้องผ่านมันไปด้วยกัน ไว้ใจผมนะ” หรือ “วันนี้พี่/คุณ ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ฉันอุ่นนมร้อนๆ ไว้ให้คุณดื่มอยู่ในห้องครัวค่ะ” เป็นต้น คำพูดที่แสดงถึงความเป็นห่วง และเอาใจในลักษณะนี้ จะช่วยให้ชีวิตรักของคุณมีความสุขมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกอย่างการให้สิ่งของเนื่องในโอกาสพิเศษจะช่วยให้เขา และเธอมีความสุขไม่น้อย 5. ใส่ใจสุขภาพกาย-ใจของกันและกัน มีคนเคยบอกว่า “สุขภาพกาย” เป็นเรื่องสำคัญ และเชื่อมโยงไปสู่ทุกส่วนของร่างกาย ถ้าสุขภาพกายไม่ดี จะส่งผลให้สุขภาพใจไม่ดีตามไปด้วย ทำให้เกิดความหงุดหงิดง่าย ไม่มีอารมณ์ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว ทางที่ดีควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ วันละนิดจิตแจ่มใส ทำให้ใจเย็น ไม่ใจร้อนหรือวู่วามกระทำการใดๆ ที่ทำให้เกิดการแตกหัก รวมถึงการดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ ไม่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนทรุดโทรม เพื่อให้คู่รักมองแล้วสบายใจ และมีความสุขทุกครั้งที่สัมผัส 6. ใส่ความละเอียดอ่อนก่อนขึ้นเตียง ทั้งสองคน ควรสร้างความประทับใจให้กับคู่รักก่อนเข้านอนทุกครั้ง เช่น ทำตัวให้มีกลิ่นหอมเวลานอน คู่รักจะได้รู้สึกสดชื่น หรือไม่ก็สื่อสารกันด้วยภาษารักก่อนนอน เช่น “ฝันดีนะครับ” “ฝันดีนะค่ะ” ในส่วนของเสื้อผ้า ก็มีส่วนสำคัญเหมือนกัน โดยเฉพาะผู้หญิง ควรเลือกชุดที่ใส่แล้วเซ็กซี่ น่าชวนมอง และดึงดูดความสนใจของคนรัก เป็นต้น 7. ใส่ความรู้สึกที่ดี และความเชื่อใจต่อกัน วันใดที่คู่รักมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เช่น คำพูดไม่หวานเหมือนแต่ก่อน กลับบ้านดึก หรือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรบ่อยครั้ง ในฐานะที่เป็นคู่รัก ไม่ควรตีโพยตีพายไปก่อน แต่ควรจะดูพฤติกรรมไปเรื่อยๆ เพราะบางที เขาอาจจะมีงานด่วนจริงๆ ก็ได้ แต่ถ้าเป็นบ่อยจนผิดวิสัย ขอให้ใช้คำถามที่แสดงถึงความเป็นห่วง หรือให้กำลังใจกับเขา เช่น “อาทิตย์นี้คุณกลับบ้านดึกเกือบทุกวันเลย งานเยอะหรอค่ะ มีปัญหาอะไร บอกฉันได้ทุกเรื่องนะค่ะ” อย่าบ่น หรือใช้เสียงสูงใส่กัน แต่ขอให้เชื่อใจกัน เพราะเมื่อมีคำว่า “รักเรา” เข้าแทรกในชีวิตแล้ว ความเชื่อใจกันเท่านั้น ที่จะลดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นได้ 8. ใส่ความอบอุ่นด้วยสัมผัสรัก (Touch Love) คำพูดบางคำ อาจไม่สามารถให้ความรู้สึกที่ดีเยี่ยม ได้ดีเท่ากับการสัมผัสร่างกาย ดังนั้นการสัมผัสกันบ่อยๆ จะช่วยให้ชีวิตรักมีไออุ่น และมีความสุขมากขึ้น เช่น การกอด การหอมแก้ม หรือการจับมือ เช่น ทุกๆ เช้าก่อนไปทำงาน และหลังจากทำงาน ถ้าลองได้กอด และหอมแก้มกันแล้ว จะช่วยให้มีกำลังใจ และสานสัมพันธ์รักได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ต้องกล้าที่จะแสดงออก ไม่ใช่ปากบอกว่ารัก แต่ไม่เคยทำให้เขาและเธอไม่เคยรู้สึกถึงคำว่า “รัก” เหมือนกับที่ปากบอกเลย นี่คือส่วนผสมที่จะปรุงรักหลังแต่งให้กลมกล่อม ถึงแม้ว่าช่วงเวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหน ถ้าหากปรุงรสชาติให้ชีวิตรักกลมกล่อมอยู่เสมอ นั่นจะทำให้คุณกับเธอ หรือคุณ กับเขา มีความสุข และจดจำช่วงเวลาเหล่านั้นไปได้ตลอด ความรู้สึกชินชาในของเก่า และมุ่งหน้าเดินไปลิ้มลองของใหม่ ก็จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป เพราะของเก่า ได้กลายของเก่าแก่ที่น่าสะสม และหวงแหนสำหรับเจ้าของแล้วนั่นเอง ที่มา .. ผู้จัดการออนไลน์   Create Date : 02 มิถุนายน 2552     0 comment Last Update : 2 มิถุนายน 2552 22:18:53 น.     Counter : 1520 Pageviews.   Share Tweet

สาวฉลาดช่ำชองเรื่องบนเตียง สาวสวยช่วยให้หนุ่มที่ควงแขนสามารถเดินเชิดหน้าได้ แต่สาวฉลาดจะช่วยให้สาวเจ้านั่นเองมีความสุขกับเรื่องบนเตียง นักวิจัยพบว่า ผู้หญิงที่มี "ความฉลาดทางอารมณ์" คือ สามารถสื่อสารแสดงออกถึงความต้องการของตัวเอง และเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น จะมีความสุขทางเพศมากกว่าสาวที่เก็บกดความรู้สึก งานวิจัยพบว่า สาวที่ปลดปล่อยอารมณ์อย่างเต็มที่สามารถถึงจุดสุดยอดได้บ่อยครั้งกว่าสาวที่กดกลั้นตัวเองถึงสองเท่า ผลวิจัยนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการให้คำปรึกษาแก่ผู้หญิงประมาณ 40% ซึ่งแทบไม่เคยถึงจุดสุดยอดเลยในชีวิต นักวิจัย ทิม สเปกเตอร์ แห่งคิงส์คอลเลจ ลอนดอน บอกว่า การเป็นคนไวต่อการสัมผัสและเก็บรับความรู้สึกได้ดี เป็นประโยชน์กับเรื่องบนเตียง ศาสตราจารย์ สเปกเตอร์ได้สอบถามคู่แฝดหญิง 2,000 คน อายุระหว่าง 18-83 ปี เกี่ยวกับเรื่องทางเพศของคนเหล่านี้ และขอให้พวกเธอให้คะแนนแก่การถึงจุดสุดยอดของตัวเองแบ่งเป็น 7 อันดับ ตั้งแต่ "ไม่เคย" จนถึง "ทุกครั้ง" อาสาสมัครยังได้กรอกแบบสอบถามซึ่งวัดความฉลาดทางอารมณ์ และตรวจสอบอุปนิสัยต่างๆ เช่น การแสดงออก ความเข้าอกเข้าใจ และความพึงพอใจ รายงานซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Sexual Medicine สรุปว่า คนที่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองดีที่สุดจะถึงจุดสุดยอดได้มากที่สุด หัวหน้าทีมวิจัย นักจิตวิทยา แอนเดรีย เบอรี แห่งคิงส์คอลเลจ บอกว่า ความฉลาดทางอารมณ์มีผลต่อกิจกรรมทางเพศของผู้หญิง คือ ช่วยเสริมความสามารถในการสื่อสารเกี่ยวกับความคาดหวังและความปรารถนาทางเพศ ของพวกเธอให้คู่รักได้ทราบ และช่วยให้เธอมีจินตนาการขณะอยู่บนเตียง ดร. แพม สเปอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ บอกว่า เป็นเรื่องยาก แต่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ ที่จะละวางการเก็บกลั้นอารมณ์ ต้องมีการเอาจริงในการเรียนรู้ที่จะสื่อสาร เปิดใจกายรับการสัมผัสใกล้ชิด และปลดปล่อยอารมณ์ของตนเองออกมา งานวิจัยอีกชิ้นสรุปว่า การเล้าโลมก่อนร่วมรักไม่ได้ช่วยเพิ่มความหฤหรรษ์ทางเพศแก่ผู้หญิงนัก การร่วมรักจริงๆ ต่างหากที่สำคัญ ซึ่งขัดแย้งกับความเข้าใจที่มีมานานว่าฝ่ายชายต้องค่อยเป็นค่อยไป งานชิ้นนี้สอบถามผู้หญิง 2,300 คนในประเด็นต่างๆ เช่น ช่วงเวลาในการเล้าโลม และความถี่ที่ผู้หญิงเหล่านี้ถึงจุดสุดยอด นักวิจัยสรุปว่า เราควรให้ความสำคัญมากขึ้นกับคุณภาพและระยะเวลาของการร่วมรักมากกว่าการเล้าโลมเป็นเวลานาน. ที่มา ... ไทยโพสต์   Create Date : 02 มิถุนายน 2552     0 comment Last Update : 2 มิถุนายน 2552 22:16:43 น.     Counter : 2705 Pageviews.   Share Tweet

พักร้อนสุดเซ็กซี่แบบประหยัด การได้ลาพักร้อนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต ใครก็ต้องการเวลาปลีกตัวจากงานไปพักผ่อนคลายสมองบ้าง แต่ และยิ่งถ้าต้องจ่ายจนกระเป๋าฉีกละก็ แทนที่จะได้หย่อนใจกลายเป็นต้องมาเครียดกับรายจ่ายเสียนี่ ดังนั้นขอเสนอแนวทางการพักร้อนที่ไม่ต้องจ่ายหนักแถมยังทำให้เซ็กส์ฮ๊อตระเบิดอีกด้วย แคมปิ้ง เคล็ดลับที่ทำให้แคมปิ้งเป็นเรื่องสนุกและเซ็กซี่คือเราต้องรู้ว่าตัวเอง กำลังจะทำอะไร การนอนในเต้นท์ที่อยู่ใกล้แหล่งแมลงหรือยุงชุกชุมถือว่าเป็นฝันร้ายและทำลาย การพักร้อนให้ย่อยยับ หากไม่เคยแคมปิ้งมาก่อนขอแนะนำให้ลองติดสอยห้อยตามไปกับคนที่มีประสบการณ์มา ก่อน เมื่อเรียนรู้กลเม็ดเคล็ดลับต่างๆมาเรียบร้อยแล้ว ค่อยพากันออกไปผจญภัยกันสองต่อสอง เพื่อให้แคมปิ้งได้อย่างเซ็กซี่อย่าลืมทำตัวกลมกลืนไปกับธรรมชาติ อันนี้ไม่ได้หมายความว่าให้บรรเลงเพลงรักกันภายใต้แสงดาวดารดาษ เพราะเรือนร่างอันเปลือยเปล่าอาจดึงดูดบรรดาแมลงให้เข้ามาจู่โจมได้ ขอแนะนำให้ชื่นชมธรรมชาติรอบตัว การนั่งมองทะเลสาบก็ทำให้รู้สึกเป็นสุขและสงบ ดังนั้นทำตัวผ่อนคลาย ถ้าเราได้อยู่กับคนที่เรารัก คงอดไม่ได้ที่จะโอบกอดอีกฝ่ายไว้ในวงแขน หรือพากันจูงไปเดินเล่น พยายามชี้ชวนให้ดูสิ่งละอันพันละน้อยอันสวยงาม การทำตัวกลมกลืนไปกับธรรมชาติทำให้สภาพจิตใจดีแถมยังทำให้อารมณ์ฮ๊อตขึ้นมา ได้หลายองศา โรงแรมชั้นดี มีเหตุผลดีๆหลายข้อที่สมควรไปใช้บริการโรงแรม เหตุผลข้อหนึ่งที่ปฎิเสธไม่ได้คือ การมีลูกที่เริ่มโตอยู่ในบ้าน ซึ่งมักจะเป็นตัวขัดจังหวะทำให้ชีวิตรักสะดุดติดขัดเสมอ เหตุผลอีกข้อคือ ถึงแม้ไม่มีลูกก็ยังอยากเปลี่ยนบรรยากาศ หรือเปลี่ยนสถานที่ให้แปลกหูแปลกตา ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกับการที่คนเราเดินทางไปต่างบ้านต่างเมืองก็เพื่อความ แปลกใหม่ ดังนั้นการขับรถไปหาโรงแรมดีๆที่อยู่ไม่ไกลบ้านนักจะสร้างความแตกต่างให้ ชีวิตรักได้ แปลงบ้านให้เป็นสวรรค์สุดเซ็กซี่ บางคนอาจมีงบน้อย ไม่สามารถเดินทางไปพักผ่อนไกลๆได้ แล้วทำไมไม่พักร้อนที่บ้านเสียเลย นอกจากประหยัดเงินแล้วยังสามารถทำกิจกรรมอื่นๆได้ตามสบายอีกด้วย เช่น ปั้นหม้อ หรือวาดรูป และในกรณีที่ทำงานมาทั้งวัน ก็อย่าปล่อยเวลายามค่ำคืนให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะถึงอย่างไรก็ยังอยู่ในช่วงพักร้อน ทำไมไม่ลองทำอะไรกุ๊กกิ๊กกันเพื่อความแปลกใหม่ดังต่อไปนี้ แต่งตัวให้สวยเริ่ดสำหรับดินเนอร์ที่บ้านหรือไม่ก็เปลือยกายดินเนอร์เสียเลย จุดเทียนหอมไว้ในห้องนอน อาบน้ำด้วยกันสองคน ซื้อที่ปัดฝุ่นที่ทำจากขนนุ่มๆมาใหม่แล้วเอามาเล่นกันบนเตียง เอาสีที่ล้างออกได้มาเขียนบนเนื้อตัวกันและกัน ป้ายวิปป์ครีมลงบนเรือนร่างของกันและกันแล้วผลัดกันเลียเป็นของหวาน พอได้แนวทางฮ๊อตๆไปลองใช้กันบ้างแล้วนะคะ ข้อสำคัญอย่าเผลอเอางานมาทำตอนพักร้อน เดี๋ยวคนข้างๆจะเซ็งไปด้วยนะเออ. ที่มา ... msn.co.th   Create Date : 02 มิถุนายน 2552     0 comment Last Update : 2 มิถุนายน 2552 22:15:40 น.     Counter : 1583 Pageviews.   Share Tweet

จับสัญญาณเกย์ คำถาม คบกับแฟนมานาน แต่ว่าเค้าไม่เคยล่วงเกินเลยสักครั้งเดียว ไม่ทราบว่าแฟนจะเป็นเกย์หรือเปล่า และจะดูอย่างไรว่าแฟนเป็นเกย์...จาก สาวน้อยไร้เดียงสา คำตอบ ปกติ คนเป็นแฟนกันไม่น่าจะต้องสงสัยอะไรในกันและกัน แต่เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มสงสัยบางอย่างในตัวแฟนของคุณ แสดงว่าเริ่มมีประเด็นแล้วครับ เพราะไม่อย่างนั้นคุณก็ไม่สงสัย ซึ่งความสงสัยในบางครั้งมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่จะถูกต้องตามที่สงสัย แต่บางทีก็มีผิดพลาดได้เหมือนกัน และเมื่อคนเราเริ่มจะสงสัย ความสงสัยมักจะขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ จนดูอะไรมันก็หลักฐานไปได้หมด และถ้าให้คำนิยาม “เกย์” คือ ผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกัน ในความเป็นจริงคนที่เป็นเกย์ก็ไม่น่าจะมาจีบผู้หญิงจริงไหมครับ เพราะ ว่าไม่ใช่ของที่เค้าชอบหรือว่าถ้ามาจีบก็อาจจะเข้ามาเพื่อเจตนาบางอย่าง ซึ่งในปัจจุบันหมอว่าคนที่เป็นเกย์ก็พอดูกันออก หรือถ้าเป็นเกย์ที่ปกปิดตัวเองจริง ๆ ดูยังไง๊ยังไงก็ดูไม่ออก สำหรับ การจะดูว่าเป็นเกย์หรือเปล่า ก็สามารถลองสังเกตจากพฤติกรรมทั่ว ๆ ไปของแฟนดูว่า เค้ามีเพื่อนที่เป็นเกย์หลาย ๆ คนหรือเป็นเกย์หมดหรือเปล่า เวลาถามก็ตอบว่าตัวเองไม่ใช่เกย์ ซึ่งอันนี้คงแปลกแล้ว เพราะผู้ชายส่วนใหญ่จะไม่คบกับเกย์ จะคบกับผู้ชายด้วยกัน บางคนก็บอกว่าดูจากสไตล์เพลงที่ฟัง ถ้าชอบฟังเพลง Maria Carey หรือเปิดเพลง I will survive แล้วโยกตัวตามทันทีก็ใช่แน่ ๆ หรือ ดูจากการแต่งกาย ดูจากการจัดบ้านกะของแต่งบ้านก็พอจะบอกได้ เพราะว่าจะเนี้ยบกว่าผู้ชายปกติทั่วไป หรือน่าสงสัยว่า หน้าตาก็ดี ฐานะก็ดี แต่ ไม่เคยมีแฟนเลย มามีเราเป็นแฟนคนแรก ก็ชวนให้สงสัย หรือไปสืบค้นดูเว็บไซต์ที่เขาเข้าว่ามีเว็บเกย์บ้างไหม เอาชัวร์ ๆ เค้าว่าต้องพาไปให้เพื่อนที่เป็นเกย์ช่วยดูครับ เพราะได้ยินว่าเค้ามีหลักการ ผีย่อมเห็นผี เกย์ย่อมเห็นเกย์ว่าเป็น “ชาวเรา” ด้วยกันหรือไม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่มีอะไรมาช่วยวินิจฉัยให้ได้เลยนะครับ ซึ่งสุดท้ายก็ต้องลองคบกันไป จะได้รู้ว่าเป็นอย่างไร ผู้หญิง บางคนบอกว่ามีแฟนเป็นเกย์ ดีกว่ามีแฟนเจ้าชู้ เพราะอย่างน้อย ๆ เราไม่ต้องเสียแฟนให้หญิงอื่น (แต่เป็นชายอื่น) หรือบางคนก็บอกว่าดี เพราะจะได้มีเพื่อนหญิงเพิ่มอีกคนหนึ่ง หรือบางคนบอกว่าผู้ชายเป็นเกย์เค้าเรียบร้อย เค้าเนี้ยบกว่าเรา จัดแจงอะไรได้ดีกว่าเรา ก็อยู่กันไปมาช่วยเติมส่วนที่เราขาดได้ และ มีผู้หญิงหลายคนที่รู้ว่าแฟนเป็นเกย์แต่ก็ไม่เลิก อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขก็มี หมอว่าต่อให้รู้หรือไม่รู้อาจจะไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นคือคุณมีความสุขมั้ยกับการคบหากัน ใช้ชีวิตร่วมกัน ถ้ามีความสุขก็อย่าไปสงสัยอะไรมาก พอใจในความสุขของคุณต่อไป ส่วน การที่แฟนคุณไม่เคยล่วงเกินคุณเลย เค้าอาจจะเป็นคนที่ดีมาก เป็นสุภาพบุรุษตัวจริงคุณธรรมสูงส่ง เก็บรักษาพรหมจารีไว้หลังแต่งเท่านั้น หรือเค้าอาจจะมีความกังวลสูง อย่างเช่นผู้ชายบางคนที่มีปัญหาทางเพศประเภทหลั่งเร็ว ทำให้ไม่อยากยุ่งกับผู้หญิงในแง่ทางเพศ ไม่อยากโชว์ให้เสียฟอร์ม เค้าเลยไม่อยากมีความสัมพันธ์ไปถึงขั้นที่ต้องมีอะไรกัน เพราะ กลัวผู้หญิงจะรู้ว่าไม่มีความสามารถในเรื่องทางเพศ หรือการคบหากันไม่ได้ส่งสัญญาณว่า “พร้อมแล้วนะที่จะxxx” ถ้าเป็นแบบนี้เป็นไปได้ว่าต้องส่งสัญญาณว่า “พร้อมแล้วจ้ะ” ให้อีกฝ่ายรู้ ถ้าเป็นแฟนคบหากันจริงจัง การที่ผู้หญิงจะ เป็นฝ่ายเริ่มก่อนก็ไม่ได้น่าเกลียด เพราะถือว่าเป็นแฟนกันแล้วก็ต้องสื่อสารกัน คงไม่ต้องสื่อสารแบบหันไปบอกเค้าว่า “คืนนี้มาลุยกันเลย” นะครับ แต่สื่อในลักษณะเป็นภาษากาย ซึ่งหมอเชื่อว่าคนเป็นแฟนกันก็น่าจะพอรู้ หรือบางทีก็ถามกันไปตรง ๆ อัน นี้ขึ้นอยู่กับระดับความสัมพันธ์ แต่อย่าเพิ่งเดาว่าถ้าเค้าไม่ยุ่งกับเรา ไม่ทำอะไรเราเลย แล้วเค้าเป็นเกย์แน่ ๆ นะครับ เพราะมีสาเหตุอื่นที่มีความเป็นไปได้อีกเยอะแยะครับ... ที่มา .. สนุก   Create Date : 02 มิถุนายน 2552     0 comment Last Update : 2 มิถุนายน 2552 22:14:36 น.     Counter : 1572 Pageviews.   Share Tweet

เลิกรักอย่างไรให้ใสสะอาด "รักไม่ช่วยอะไรเลย ฉันไม่ยอมเปลี่ยน เธอไม่ยอมเปลี่ยน ยังคงทำตัวเหมือนเคยๆ ปรับความเข้าใจกันไปมันก็ซ้ำเก่า ทั้งๆ ที่รักกันแต่เรา เข้ากันไม่ได้เลย... เมื่อเราต่างไม่เคยจะยอมลด ก็ควรจะลา..." เพลงนี้อาจกำลังโดนหรือกำลังตรงกับชีวิตของคุณเข้า เมื่อคุณและเขาจะต้องเลิกลาต่อกัน แบบเพลงของนัท มีเรีย หรือจะด้วยสาเหตุใดๆ ก็ตาม แต่เมื่อคุณได้ตัดสินใจไปแล้วว่าจะเลิก คุณจะต้องทำได้อย่างนั้นจริงๆ นะ วิธีที่จะทำให้คุณสามารถเลิกรักเขาได้และกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง 1. สร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง เลิกคิดถึงเค้า ลบเบอร์ดทรศัพท์ของเค้าทุกเบอร์ออกจากมือถือซะ อย่าลืมว่าคุณต้องเลิกกับเค้าเพราะอะไร คุณต้องเสียใจ เป็นทุกข์แค่ไหน เค้าไม่ได้มาเดือดร้อนกับเราด้วยเลย ลองคิดถึงผลที่จะเกิดขึ้นหากคุณไม่ได้เลิกกับเขา เขาจะทำให้คุณเป็นอย่างไรบ้าง เขาให้อะไรกับคุณบ้าง ลองตั้งคำถามกับตัวเอง แล้วจะได้คำตอบว่า "ฉันควรจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้" ทำบ่อยๆ ยิ่งทำคุณจะยิ่งรู้สึกดีที่เลิกกับเขา รู้สึกว่าคุณทำถูกที่สุดแล้ว มันเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว 2. อยู่ห่างจากเขาให้ได้ หาสถานที่ที่คุณสามารถพักผ่อนสภาพจิตใจได้ ลองคุยกับเพื่อนหรือคนในครอบครัวหรือใครก็ได้เมื่อคุณได้ระบายความรู้สึกออก มา คุณจะรู้สึกดีขึ้น 3. ต่อสู้กับตัวเองให้ได้ เมื่อคุณเพิ่งเลิกกับเขา มันก็ย่อมที่จะมีความรู้สึกคิดถึง เหงา อยากโทรไปหาเขา จนแทบจะกลับไปขอคืนดีกับเขาเลย แต่ขอบอกว่าอย่าทำเช่นนั้นเชียวนะ เพราะคุณค่าในตัวคุณจะหายไปในทันที และเค้าก้จะไม่เห็นคุณค่าคุณอีกต่อไป จะทำเหมือนคุณเป็นของตาย แบบนี้คุณจะรับได้ไหม วิธีแก้อาการกระวนกระวาย ว้าวุ่นใจนั้นก็ทำได้ง่ายๆ คือพยายามสร้างความรู้สึกที่ดีต่อตัวเอง เช่น ไปเดินเล่น เล่นกีฬากับเพื่อนๆ ลองให้โอกาสดีๆ กับตัวเองในการทำสิ่งที่คุณอยากทำมานานแต่ไม่ได้ทำซะที (อาจเพราะเค้าเนี่ยแหละที่ทำให้คุณไม่มีเวลามาทำ) ลุกขึ้นมาทำตัวคุณเองให้ดูดี สวยงามอยุ่เสมอ จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น และเมื่อเวลาผ่านไป คุณจะเห็นว่าเค้าก้ยังเป็นเหมือนเดิม คุณก็จะรู้ว่าคุณคิดถูกแล้วที่ตัดสินใจเลิกกับเค้า และเค้าเองเมื่อเห้นคุณดูดีขึ้นเค้าก็จะเสียดายเองที่ปล่อยให้คุณไป (แบบนี้สะใจกว่าเยอะ ^ ^) 4. อย่าตกหลุมพลางของเขา ถ้าคุณคิดว่าเขาจะมาง้อคุณ มาขอโทษคุณ แล้วกลับตัวกลับใจซะใหม่ พูดคำหวาน ทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้คุณกลับไป ตอนนี้แหละที่คุณต้องระวังให้มากๆ เพราะเค้าสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อที่จะได้คุณกลับไปแล้วเค้าก็จะเห็นคุณ เป็นของตายอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตามที่เค้ามาทำแบบนี้นั้น ตัวคุณเองเท่านั้นที่รู้ดีว่าควรกลับไปหรือไม่ ลองคิดอย่างมีสตินะ ควรจำไว้ว่า ยิ่งถ้าคุณปล่อยให้ความสัมพันธ์ยืดเยื้อยาวนานมากเท่าไหร่ คุณก็จะสูญเสียเวลาในชีวิตไปเท่านั้น ลองถามตัวคุณเองว่า ถ้าเขายังเป็นเช่นเดิมไปอีก ไม่ยอมแก้ไขอะไร คุณจะยอมคบกับเขาที่เป็นแบบนี้ได้หรือไม่ คุณจะมีความสุขหรือไม่ที่จะต้องอยู่กับคนแบบนั้น 5. ประคับประคองความรู้สึกของตนเองให้ได้ อันดับแรก คุณต้องแสดงความยินดีกับตัวเองว่าได้ทำในสิ่งที่ต้องการหรือควรจะทำมานาน แล้ว และถ้าอยากจะร้องไห้ก็ร้องออกมาได้เลย แม้ว่าคุณจะเจ็บปวดขนาดไหนพึงระลึกเสมอว่าความเจ็บปวดนั้นจะไม่อยู่กับคุณไป ตลอด ซักวันมันก็จะค่อยๆ หายไปตามเวลาเอง และคุณก็จะรู้สึกดีขึ้น แล้วคุณจะรู้สึกว่าคุณแข็งแกร่งขึ้น และสามารถอยู่ได้ โดยที่ไม่มีเขาในชีวิตแล้ว คุณเป็นคนใหม่แล้วล่ะ เก็บชีวิตที่เหลือๆ ทำให้ดีจะได้ไหม.. แล้วไม่นานจิตใจจะเต็มเหมือนเดิม..... ที่มา ... สยามดารา   Create Date : 27 พฤษภาคม 2552     2 comment Last Update : 27 พฤษภาคม 2552 22:18:43 น.     Counter : 1427 Pageviews.   Share Tweet