ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

"อินมาร์แช็ต" ดาวเทียมผู้เฉลยบทสรุป MH370 จมมหาสมุทรอินเดีย





MH 370


และแล้วบทสรุปการหายสาปสูญของเที่ยวบินปริศนา MH 370 มาเลเซีย แอร์ไลน์ส ก็มาถึงบทสรุป เมื่อนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ผู้นำมาเลเซีย ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา เที่ยวบินดังกล่าวพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือจมดิ่งลงสู่มหาสมุทรอินเดีย

บริษัทดาวเทียมอินมาร์แซ็ท (Inmarsat) ซึ่งสามารถตรวจสอบเส้นทางของเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 โดยคำนวณความเคลื่อนไหว (Doppler effect) ของสัญญาณ Ping ที่ถูกส่งจากเครื่องบินไปยังดาวเทียมในแต่ละชั่วโมง จนสามารถวิเคราะห์ได้ว่า ผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน ที่ขาดการติดต่อไปตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. ได้ตกลงในเขตร่องน้ำลึกห่างไกลแผ่นดินใหญ่ ทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากชายฝั่งเมืองเพิร์ธ ทางตะวันตกของออสเตรเลีย ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 2,260 กิโลเมตร

อินมาร์แซ็ต คือบริษัทเอกชนให้บริการดาวเทียมสื่อสารโทรคมนาคม และวางโครงข่ายเชื่อมต่อทางโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ทจากอังกฤษ ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2522

นายคริส แมคลาฟลิน รองประธานอาวุโสของอินมาร์แซ็ต กล่าวโดยรวมว่า ทีมงานได้ข้อสรุปจากการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวบินในทุกเส้นทางของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 777-200 เป็นพาหนะ โครงสร้างและสมรรถภาพพื้นฐานของเครื่องบินรุ่นนี้ โดยเปรียบเทียบกับเครื่องบินพาณิชย์ทุกรุ่นที่ยังมีการใช้งานอยู่บนโลก

นอกจากนี้ ทีมงานยังใช้ข้อมูลจากระดับความถี่ของเรดาร์ระบบสื่อสารที่เครื่องบินส่งโต้ตอบกับเรดาร์ภาคพื้นดินโดยอัตโนมัติด้วย แมคลาฟลินอธิบายว่า สัญญาณเรดาร์ที่เครื่องบินส่งมาทุกครั้งมีความสำคัญมาก เนื่องจากสามารถใช้ในการคำนวณความเร็วและทิศทางของเครื่องบินในเวลานั้นได้ เพื่อหาความเปลี่ยนแปลงของความถี่และความยาวคลื่น ตามหลัก "ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์" จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้การทำงานของอินมาร์แช็ตใช้เวลาค่อนข้างนาน

ทั้งนี้ แมคลาฟลินให้เหตุผลถึงการมั่นใจว่า เที่ยวบินเอ็มเอช 370 ไม่ได้เดินทางขึ้นเหนือนั้น ไม่ใช่ผลการวิเคราะห์สัญญาณเรดาร์เพียงอย่างเดียว แต่มาจากการที่ระบบเรดาร์ทหารของอินเดียและปากีสถานนั้นมีศักยภาพสูงมาก หากเครื่องบินลำนี้เดินทางผ่าน เรดาร์ของประเทศใดประเทศหนึ่งต้องจับสัญญาณได้ แต่ทั้งสองประเทศยืนยันว่าไม่พบความผิดปกติ

แมคลาฟลินยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ถือเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้าใจอย่างยิ่ง โดยส่วนตัวเขาหวังว่า ในอนาคตจะมีการคิดค้นระบบที่สามารถติดตามเครื่องบินได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพกว่านี้



ข้อมูลจาก เดลินิวส์และเมเนเจอร์





Create Date : 25 มีนาคม 2557
Last Update : 25 มีนาคม 2557 22:26:49 น. 0 comments
Counter : 1514 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sitcomthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add sitcomthai's blog to your web]