ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก (ยุคโบราณ)





7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก หรือ Seven Wonders of the World คือสิ่งที่ก่อสร้างที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ มีความโดดเด่น ซึ่งแบ่งเป็นยุคโบราณ ยุคกลางและยุคใหม่

สำหรับสิ่งก่อสร้างที่ยอมรับกันว่าเป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์สมัยโบราณ จะอายุตั้งแต่ 5,000 ปีก่อนคริสต์กาล - ค.ศ. 500 ประมวลและจัดโดยนักปราชญ์กรีก ชื่อ แอนติเพเตอร์(Antipater) แห่งไซดอน (Sidon) ในศตวรรษที่สองก่อนคริสตกาล และเหตุที่จัดใว้ 7 อันดับ ก็เพราะ เลข 7 นั้นกรีกถือว่าเป็นเลขที่ศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง

สิ่งมหัศจรรย์ของโลก 7 อย่าง สมัยโบราณเป็นผลงานของมนุษย์ทางด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรมและศิลปะชวนพิศวง จากยุคสมัยแรกเริ่มอารยธรรมของโลกในแถบลุ่มแม่น้ำไนล์ ในอียิปต์ ถึงยุคความรุ่งเรืองของ อารยธรรมกรีกโบราณ และยุคสมัยอาณาจักรโรมันเรืองอำนาจ ซึ่งทั้งหมดนี้ปัจจุบันเหลือเพียงพีระมิดของอียิปต์เท่านั้นที่คงสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ในขณะที่อีก 6 สิ่งนั้นแทบไม่เหลือให้เห็นแล้ว

สิ่งมหัศจรรย์ของโลกสมัยโบราณ ได้แก่


พีระมิดแห่งเมืองกิซา


1.พีระมิดแห่งเมืองกิซา (The Great Pyramid of Egypt)
ของกษัตริย์คูฟู อยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ในอียิปต์ มีอายุราว 2,690 ปีก่อนคริสตกาล หรือ 4,600 ปีมาแล้ว สิ่งก่อสร้างขนาดมหึมาสำหรับเป็นที่เก็บศพกษัตริย์อียิปต์โบราณตามความเชื่อเรื่องการฟื้นคืนชีพ นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เก่าแก่ที่สุด และยังคงปรากฏอยู่จนปัจจุบันและมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์


มหาวิหารอาร์เทมีส


2.มหาวิหารอาร์เทมีส (The Temple of Artemis (Diana))
วิหารหินอ่อนที่เมืองเอเฟซุสในเอเชียไมเนอร์ หรือประเทศตุรกีปัจจุบัน สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษก่อนคริสตกาลที่ 4 มีเนื้อที่ถึง 54,720 ตารางฟุต ตัวอาคารมีความกว้างถึง 400 ฟุต บริเวณโดยรอบวัดแห่งนี้กินเนื้อที่เกือบ 2 เอเคอร์ ภายในโบสถ์เป็นที่ประดิษฐานเทพเจ้าชื่อว่า อาร์ทิมีส หรืออีกชื่อหนึ่งว่า ไดอาน่า (เทพเจ้าแห่งดวงจันทร์ของกรีก) ผู้มาจากสวรรค์ ผู้ช่วยชาวเมืองให้พ้นจากหายนะและภัยพิบัติได้ ภายหลังถูกทำลายโดยพวกโกธส์จากเยอรมันที่บุกเข้ามาโจมตี เมื่อปี พ.ศ. 805 ปัจจุบันพอเหลือซากอยู่บ้าง


สุสานของกษัตริย์โมโซรุส


3.สุสานของกษัตริย์โมโซรุส (The Mausoleum at Halicarnassus)
ที่ฮาลิคาร์นัสซัสในเอเชียไมเนอร์ หรือประเทศตุรกีปัจจุบัน สร้างโดยพระราชินีอาร์เทมิเซีย เป็นอนุสรณ์สถานแก่กษัตริย์มอโซลุสแห่งคาเรียที่สวรรคตเมื่อ 353 ปีก่อนคริสตกาล ปัจจุบันนี้เหลือแต่ซากปรักหักพังบางส่วนบางส่วนเพราะเกิดแผ่นดินไหวในศตวรรษที่ 12 - 13 ชิ้นส่วนที่เหลือถูกนำไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์ของประเทศอังกฤษชื่อ บริทิช มิวเซียม


สวนลอยแห่งกรุงบาบิโลน


4.สวนลอยแห่งกรุงบาบิโลน (The Hanging Gardens of Babylon)
สร้างโดยพระเจ้าเนบูคาดเนสซาร์ที่ 2 เมื่อประมาณ 600 ปีก่อนคริสกาล เป็นสวนที่สร้างอยู่เหนือพื้นดินบนพื้นที่กึ่งทะเลทราย พระเจ้าเนบูชัดเนซซาร์ ทรงสร้างให้พระมเหสีซึ่งเป็นเจ้าหญิงแห่งมีดส์ ตามตำนาน พระราชินีเซมีรามิส องค์นี้ทรงอาลัยอาวรณ์ ภูมิประเทศที่เป็นเทือกเขาเปอร์เซีย อันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนและไม่โปรดความราบเรียบของนครบาบิโลน ดังนั้นจึงมีการสร้างสวนลอยขึ้นเป็นภูเขาซึ่งสร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ ปัจจุบันไม่ปรากฏหลักฐานหรือซาก แต่คาดว่าน่าจะอยู่บริเวณเดียวกับกรุงบาบิโลนในประเทศอีรัก


เทวรูปเทพเจ้าซีอุส


5.เทวรูปเทพเจ้าซีอุส (The Statue of Zeus at Olympia)
ที่เมืองโอลิมเปีย ประเทศกรีก สร้างเมื่อประมาณ 2,400 ปีก่อน ระหว่งปีค.ศ. 53 - 111 เป็นรูปสลักเทพเจ้าซีอุสนั่งบนบัลลังก์สีทอง ตามตำนานที่จารึกไว้ได้ระบุว่าเทวรูปทำจากงาช้างสูง 58 ฟุต มีขนาดใหญ่กว่าคนปรกติถึง 8 เท่า พระหัตถ์ซ้ายทรงคทา พระหัตถ์ขวารองรับ รูปปั้นแห่งชัยชนะ (A small figure of Victory) มีเครื่องประดับประดาด้วยทองคำล้วน ชาวโรมันเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า จูปีเตอร์ ชาวกรีกได้เรียกเทวรูปนี้ว่า ซุส ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นผู้นำแห่งเทพเจ้า ภายหลังถูกไฟไหม้เสียหายจนหมดสิ้น


เทวรูปเทพเจ้าเฮลิออส หรืออะพอลโล


6.เทวรูปเทพเจ้าเฮลิออส หรืออะพอลโล (The Colossus of Rhodes)
เกาะโรดส์ ประเทศกรีซ รูปหล่อทองสัมฤทธิ์ของเทพเจ้าเฮลิออส หรือ อพอลโล สูงถึง 105 ฟุต หรือ 32 เมตร หนัก 295 ตัน ในท่ายืน ตัวเทวรูปตั้งอยู่บนฐานทั้งสองข้างของปากอ่าว องค์เทวรูปยืนถ่างคร่อมปากอ่าว ให้เรือลอดไปมาได้ มีกระจกบานใหญ่ติดอยู่บนอกทำให้เรือที่แล่นออกจากอียิปต์มองเห็นได้ชัดเจน รูปปั้นโคลอสซัสมีอายุเพียง 56 ปีเท่านั้น เนื่องจากแผ่นดินไหวเมื่อ 224 ปีก่อนศริสกาลทำให้รูปปั้นมหึมาพังทลายลงมาระเนระนาด


หอประภาคารโรส


7.หอประภาคารโรส The Lighthouse of Alexandria (Pharos)
แห่งอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ สร้างในสมัยพระเจ้าปโตเลมีที่สองของอียิปต์ช่วงปี 270 ปีก่อนคริสตกาล สร้างด้วยหินอ่อนสีขาวสลีกลวดลาย วิจิตรงดงาม ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียน ท่าเรือของ เกาะฟาโรส ถูกทำลายโดยสิ้นเชิงเมื่อแผ่นดินไหวในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 ปัจจุบันมีป้อมขนาดเล็กอยู่บนซากที่เหลือ






Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2557 21:39:35 น. 0 comments
Counter : 3252 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sitcomthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add sitcomthai's blog to your web]