ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

คืบหน้า! พ.ต.ท.บรรยินมอบตัวกองปราบ-ฝากขังศาลฯทันที ค้านประกันตัว

คืบหน้า! พ.ต.ท.บรรยินมอบตัวกองปราบ-ฝากขังศาลฯทันที ค้านประกันตัว

ข่าวอาชญากรรม จากกรณีนายชูวงษ์ หรือ เสี่ยจืด แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน และประธานกลุ่มวิทยาตลาดทุนกิจการเพื่อสังคม (วตท.) รุ่นที่ 20 เสียชีวิต ขณะที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ และอดีต รมช.พาณิชย์ ขับรถยนต์เล็กซัส สีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กรุงเทพมหานคร ไปส่งนายชูวงษ์กลับบ้านพัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา

     ต่อมาญาตินายชูวงษ์ ได้เข้าร้องเรียนกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.เพื่อขอรื้อคดีขึ้นมาสอบสวนใหม่ เนื่องจากยังติดใจการเสียชีวิตในหลายประเด็นนั้น รวมทั้งร้องเรียนกับทางกองบังคับการปราบปรามให้ช่วยจรวจสอบ หลังจากพบการโอนหุ้นของเสี่ยจืด มูลค่ารวมเกือบ 300 ล้านบาท ให้ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล พริตตี้สาว และ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์สาวคนสนิทก่อนเสียชีวิต

     นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่าเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ในการทำธุรกรรมโอนหุ้นนั้น ไม่ใช่เบอร์ของนายชูวงษ์ แต่เป็นเบอร์ที่จดในนามบริษัทของคนใกล้ชิด พ.ต.ท.บรรยิน ก่อนที่เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 4 ราย ประกอบด้วย พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 52 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.560/2558 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หรือรับของโจร, น.ส.ศรีธรา พรหมา อายุ 52 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.561/2558 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร , น.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว วชิรกุลฑล อายุ 26 ปี ตามหมายจับอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.562/2558 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และ น.ส.กัญฐณา หรือน้ำตาล ศิวาธนพล อายุ 26 ปี ตามหมายจับอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.563/2558 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หรือรับของโจร

     ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 สิงหาคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.ท.บรรยิน พร้อมนายบัญชา ชัยจำ ทนายความส่วนตัว เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รองผบก.ป. พ.ต.อ.สรายุทธ สงวน รองผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป.พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ เกิดเอี่ยม พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ กก.1 บก.ป .เพื่อมอบตัว รับทราบข้อกล่าวหา

     พ.ต.ท.บรรยิน เปิดเผยก่อนเข้ามอบตัวว่า คดีนี้ตนทราบจากสื่อมวลชนว่าถูกพนักงานสอบสวน บก.ป.ออกหมายจับ ซึ่งไม่ได้เกินไปกว่าความคาดหมายตั้งแต่แรก อย่างไรก็ดี ตนพร้อมจะต่อสู้คดีจนถึงที่สุดและยืนยันปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยเรื่องของการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ นั้น ยืนยันว่าเป็นการดำเนินการของนายชูวงษ์ เอง ซึ่งตนไม่ได้ประโยชน์อะไร และอยากตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อมีผู้มาแจ้งความร้องทุกข์ ทาง บก.ป.ก็เร่งรีบอายัดหุ้นทันที แล้วก็มารวบรวมพยานหลักฐานมันก็เป็นปัญหา ดังนั้นตนขอเรียนให้ทราบว่าวันนี้สิ่งที่เกิดขึ้น พยานที่ให้ปากคำในคดีนี้เป็นพยานฝ่ายเดียว เป็นพยานที่พนักงานสอบสวนเป็นฝ่ายรวบรวม แต่พยานฝ่ายตนยังไม่ได้มาให้การ ยังไม่มาเป็นพยานในคดีเลย

     พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวต่อว่า สิ่งที่สำคัญตนจะมาให้การในประเด็นสำคัญ คือ นายชูวงษ์ ก่อนตายได้โอนหุ้นตั้งแต่วันที่ 8-26 มิถุนายนที่ผ่านมา ตนอยากจะสอบถามว่าทำไมนายชูวงษ์ ไม่เคยออกมาโวยวายเลยว่ามีการปลอมเอกสารนี่คือประเด็นสำคัญ แล้วอีกอย่างในวันเกิดเหตุ หากตนเป็นผู้ที่ไปปลอมแปลงเอกสาร แล้วเขาจะไปตีกอล์ฟกับตนหรือไม่ นี่คือเรื่องที่พนักงานสอบสวนจะต้องให้คำตอบ ซึ่งก็จะมาสอบถามว่าพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาตนด้วยเหตุผลอะไร นี่คือสิ่งที่จะต้องพิสูจน์ แล้วตนจะให้การด้วยพยานหลักฐานต่างๆ เพราะเดิมที ตนได้เคยเตือนพนักงานสอบสวนไปแล้วว่าการจะออกหมายจับใคร มีพยานหลักฐานเพียงพอแล้วหรือไม่ ทั้งนี้ตนเตรียมหลักทรัพย์มาประกันตัวแล้ว เป็นโฉนดที่ดิน และเงินสดจำนวนหนึ่ง

     “สิ่งที่ผมพูดว่าเหตุใด คุณชูวงษ์ รับรู้รับทราบเรื่องการโอนหุ้นแล้วทำไมถึงไม่แจ้งว่ามีคนมาปลอมเอกสาร หากรู้แล้วทำไมไม่ดำเนินการ วันนี้ผมจะให้การในฐานะผู้ต้องหา ก็จะให้พนักงานสอบสวนนั้นไปสอบสวนพยานเหล่านี้ หากไม่ดำเนินการ สิ่งที่ท่านได้ทำในวันนี้ถือว่าท่านได้กระทำการบกพร่องหรือไม่ โดยเฉพาะในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันนี้คือสิ่งที่จะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย” พ.ต.ท.บรรยิน กล่าว และว่า ส่วนผู้ที่แจ้งความดำเนินคดีตนนั้น ในฐานะที่เป็นผู้แจ้ง ท่านก็ต้องพร้อมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น หากต่อมาพิสูจน์ได้ว่ากรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องจริง ท่านต้องรับผิดชอบในข้อหาแจ้งความเท็จเช่นเดียวกัน

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ให้สัมภาษณ์ พ.ต.ท.บรรยินได้นำปากกาที่ซื้อมาจากร้านบีทูเอส (B2S) จำนวนหลายด้าม ก่อนที่จะนำมาเขียนลงในกระดาษ พร้อมใช้ยางลบที่ปลายด้ามปากกา ลบรอยออก เพื่อแสดงให้สื่อมวลชนเห็นว่าปากกาดังกล่าวสามารถเขียนและลบได้ในด้ามเดียวกัน ทั้งยังกล่าวยืนยันว่า ปกตินายชูวงษ์มักจะใช้ปากกาลักษณะนี้ในการทำธุรกรรมเป็นประจำ และขณะที่มีการเขียนและลบข้อความจากจำนำหุ้น เป็นโอนหุ้นนั้น ตนนั่งอยู่กับนายชูวงษ์เพียง 2 คนเท่านั้น จึงไม่มีบุคคลใดรู้เห็นด้วย

     อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า นายชูวงษ์ซึ่งเป็นนักธุรกิจใหญ่ ไม่น่าจะใช้ปากกาดังกล่าวในการทำธุรกรรมแต่อย่างใด

     ขณะที่นายบัญชา กล่าวว่า วันนี้ตนพาพ.ต.ท.บรรยิน เข้ารับทราบข้อหา โดยยืนยันว่าพ.ต.ท.บรรยินไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และเป็นผู้บริสุทธิ์ ทั้งนี้ไม่มีการหลบหนีแน่นอน จะสู้คดีให้เต็มที่ อย่างไรก็ตามยังไม่ได้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนของการประกันตัว แต่ยอมรับว่าเห็นจากข่าวว่าตำรวจอาจจะไม่ให้ประกันตัว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของตำรวจ

     ด้านพล.ต.ต.อัคราเดช เปิดเผยว่า วันนี้พ.ต.ท.บรรยินเดินทางเข้ารับทราบข้อหา เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหา พร้อมสอบปากคำ ทั้งนี้ในเรื่องจะให้ประกันตัวหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาตามองค์ประกอบ 3 ข้อ คือจะมีพฤติการณ์หลบหนีหรือไม่ หรือหากให้ประกันตัวแล้วจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไม่ หรือมีพฤติการณ์ข่มขู่พยานหรือไม่ อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้ ต้องสอบปากคำให้แล้วเสร็จจึงจะพิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ในส่วนผู้ต้องหาอีก 3 รายที่เหลือ คือน.ส.กัญฐณา น.ส.อุรชา และน.ส.ศรีธรา แม่ของน.ส.อุรชา นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อเข้ามอบตัวแต่อย่างใด

     ต่อมาเวลา 11.20 น. นางวันเพ็ญ ธนธรรมศิริ นายกันต์ แซ่ตั้ง และนายเอนก คำชุ่ม ทนายความได้เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อคัดค้านการประกันตัวของผู้ต้องหาทั้ง 4 คน เนื่องจากเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 น่าจะมีการเตรียมความพร้อมเพื่อขอประกันตัว

     นายเอนกกล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องมาก่อนว่า พ.ต.ท.บรรยิน ให้การว่า นายชูวงษ์มีการใช้ปากกาที่ลบได้ ซึ่งตนเชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำงานตามข้อเท็จจริง เอกสารทุกฉบับที่มีการแก้ไข แสดงให้เห็นถึงข้อเท็จจริงอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการเสียชีวิตนั้น ทางครอบครัวมีการติดใจมาตั้งแต่ต้น เพียงแต่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งนี้พวกตนได้ขอความอนุเคราะห์ไปยังศูนย์โตโยต้าให้ช่วยตรวจสอบอีกทางหนึ่ง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ โดยเช้าวันที่ 26 สิงหาคมจะเดินทางไปติดตามเรื่องดังกล่าวที่ศูนย์โตโยต้า รพ.สิรินธร และนิติเวช เพื่อพบแพทย์ที่ชันสูตรนายชูวงษ์ต่อไป

     รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับปากการลบได้เป็นที่นิยมที่ประเทศญี่ปุ่น และเป็นที่แพร่หลายในประเทศไทยในขณะนี้ สาเหตุที่ปากกาลบได้นั้น เนื่องจากการใช้น้ำหมึกพิเศษที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาร่วมกัน ตามอุณหภูมิที่เกิดจาการการเสียดสี ระหว่างสารประกอบ 3 ชนิด คือ สีหมึก สารที่ทำให้หมึกเกิดสี และสารที่ทำให้สีเปลี่ยนตามอุณหภูมิที่เกิดจากการเสียดสี

     โดยหลักการทำงานก็คือ ในอุณหภูมิปกติหมึกที่เขียนออกมาจะเกิดขึ้นจากการผสมกัน ระหว่างสีหมึก และสารที่ทำให้เกิดสี โดยสารที่ทำให้สีเปลี่ยนตามอุณหภูมิ จะไม่เกิดปฏิกิริยาใดๆ เมื่ออยู่ในอุณหภูมิปกติ แต่เมื่อเราใช้ยางลบที่ปลายปากกาลบได้ ซึ่งเป็นยางที่มีคุณสมบัติทนต่อความร้อนได้เป็นพิเศษ ลบหมึกที่เขียนไปก็จะทำให้เกิดความร้อนจากการเสียดสีขึ้น และเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น สารที่ทำให้สีเปลี่ยนตามอุณหภูมิ ก็จะทำการแยกสีหมึก และสารที่ทำให้เกิดสี ออกจากกัน ทำให้สีหมึกนั้นเปลี่ยนเป็นสีหมึกที่โปร่งแสงและไม่เห็นข้อความ

     หลังจากการเข้ายื่นหนังสื่อคัดค้านการประกันตัว ประมาณ 20 นาที นางวันเพ็ญ กล่าวว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.บรรยินกล่าวว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำเอกสารนั้น วันนี้ก็ได้ชี้ชัดแล้วว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ทางครอบครัวสงสัยมาตลอดหลังจากพบว่าเอกสารการโอนหุ้นมีพิรุธ ตอนนี้ทางครอบครัวต้องการต่อสู้เพื่อกู้ชื่อเสียงของครอบครัวและตัวนายชูวงษ์ด้วย ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม พร้อม พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนที่ช่วยติดตามหาข้อเท็จจริง

     ทั้งนี้ขอขอบคุณชาวนครสวรรค์ ที่ช่วยกันส่งกำลังใจและข้อมูลต่างๆอีกด้วย ส่วนกรณีการใช้ปากกาอะไรในการเซ็นเอกสารนั้น เชื่อว่าคนใกล้ชิดและพนักงานในบริษัทรู้ดีอยู่แล้ว เอกสารๆเก่าสามารถนำมาเปรียบเทียบและยืนยันได้ ยืนยันว่าไม่ได้ใช้ปากกาชนิดที่พ.ต.ท.บรรยินกล่าวอ้างแน่นอน

     (ต่อ) เวลา 13.30 น.วันเดียวกัน ทางพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน มาพิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติอาชญากร ที่บริเวณด้านหน้าห้องขัง บก.ป.โดยทาง พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวว่า ตนคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าพนักงานสอบสวนจะไม่ให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน ซึ่งไม่ได้รู้สึกเครียดอะไร เพราะเตรียมตัวมาก่อนแล้ว ส่วนเรื่องหลักทรัพย์ที่ใช้ในการยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลนั้น คงต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลที่จะพิจารณาหลักทรัพย์ อย่างไรก็ดี ตนได้เตรียมเงินสดจำนวน 1 แสนบาท และโฉนดที่ดินอีกส่วนหนึ่ง

     จากนั้นเวลา 14.30 น.ภายหลังสอบปากคำเสร็จสิ้น โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ทางพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน ไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ทันที

     ด้าน พล.ต.ต.อัคราเดช กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากเกรงว่าหากให้ประกันตัวผู้ต้องหาแล้ว อาจจะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานต่างๆ ในคดีส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.บรรยิน ระบุถึงกรณีการใช้ปากกาที่ลบออกได้นั้น พนักงานสอบสวนดำเนินการตามผลตรวจของกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ไม่ได้ให้น้ำหนักกับกรณีที่ พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวถึงแต่อย่างใด และไม่ได้รู้สึกกังวลใจในการพิจารณาดำเนินคดี ทั้งนี้ ทาง พ.ต.ท.บรรยิน ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมกันนั้นได้ระบุว่าจะนำเอกสารมาชี้แจงเพิ่มเติมในภายหลัง

     พล.ต.ต.อัคราเดช กล่าวอีกว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังคงมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ ว่ามีความแน่นหนาเพียงพอที่จะสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้


//news.thaiza.com/




Create Date : 26 สิงหาคม 2558
Last Update : 26 สิงหาคม 2558 8:21:45 น. 0 comments
Counter : 1302 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sitcomthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add sitcomthai's blog to your web]