ซอลินเล่าอีกว่า ต่อมามีคนเอาผ้ามาผูกปิดตา แล้วก็ให้ใส่เสื้อผ้า เขาถูกขู่ว่าถ้าไม่รับสารภาพก็จะถูกฆ่าตายด้วยการถ่วงด้วยหินแล้วโยนทิ้งทะเล เขาได้รับการบอกเล่าว่าเพื่อนๆ ที่ถูกจับมาพร้อมกันนั้นถูกเจ้าหน้าที่ส่งกลับประเทศพม่าไปแล้วและจะไม่มีใครรู้ว่าเขาถูกฆ่าตาย หากเขายอมรับสารภาพก็จะติดคุก 4-5 ปี มีคนพูดกับเขาว่าจะติดคุกหรืออยากจะถูกฆ่าตาย
ต่อมาเขาถูกถีบที่หน้าอก ถูกตบ ชกที่หน้าหลายครั้ง จนปากแตกและเลือดไหล ในระหว่างที่ถูกทรมานและบังคับให้สารภาพ เขาได้ยินเสียงของคนไทยพูดคุยกับล่าม บางครั้งก็ไม่ใช่เป็นการแปลแต่เป็นล่ามพูดเอง บางครั้งก็จะเป็นการแปลภาษาจากภาษาไทย
ในที่สุดซอลินบอกว่า เขาทนความเจ็บปวดไม่ไหวและยอมบอกไปว่าจะรับว่าได้ฆ่าฝรั่ง
ซอลินถูกจับช่วงเช้าตรู่คือ 01.00 น.ของวันที่ 2 ต.ค. เจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นการจับกุมโดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ถือว่าเป็นบุคคลที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยทนายจำเลยได้ระบุว่าซอลินมีหลักฐานการเข้าเมืองโดยถูกกฎหมายพร้อมหนังสือเดินทาง ระหว่างการควบคุมตัวพบว่าไม่มีการทำบันทึกสอบสวนในฐานความผิดพ.ร.บ.คนเข้าเมืองดังกล่าว แต่ได้จัดทำเป็นบันทึกสอบสวนพยาน โดยมีการบันทึกในทำนองว่า ซอลินได้สารภาพว่ากระทำความผิดข้อหาฆ่าและข่มขืนนักท่องเที่ยว ทางฝ่ายทนายจำเลยได้ซักถามนายซอลินในชั้นศาลพบว่า ในระหว่างที่มีการเข้าจับกุม ผู้ถูกจับไม่ได้รับแจ้งสิทธิ ไม่มีการระบุข้อหา และในระหว่างการสอบสวนก็ไม่มีทนายไปนั่งฟังการสอบสวน รวมทั้งขณะที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งพิมพ์เอกสารซึ่งให้นายซอลินลงชื่อนั้นก็ไม่มีการสอบถามใดๆ เพียงแต่ให้นายซอลินนั่งลง แล้วล่ามและตำรวจก็พูดคุยกัน พิมพ์เอกสารจนเสร็จแล้วให้นายซอลินลงลายมือชื่อโดยไม่ได้อ่านและไม่ได้แปลให้ฟังแต่อย่างใด