ใครเคยเป็นกันบ้าง? อยากจะนอนก็นอนไม่หลับ พลิกซ้ายพลิกขวา เปิดเพลงฟังก็แล้ว นับแกะจนหมดฝูงก็ยังนอนไม่หลับ ทำยังไงก็ไม่หลับ แถมตื่นขึ้นมาตอนเช้ายังปวดหัว ปวดเมื่อยเนื้อตัว เพราะร่างกายไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ปัญหาการนอน ไม่หลับแม้จะเป็นภาวะที่ไม่ได้สร้างความเจ็บปวด แต่ก็ส่งผลเสียต่อร่างกายไม่น้อย หากเป็นบ่อยๆ อาจทำให้มีปัญหาสุขภาพตามมาได้

วันนี้แอดมินพี่หมอรามมีเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยให้นอนหลับดีหลับง่ายขึ้น โดยที่ไม่ต้องพึ่งยานอนหลับมาฝาก...
 

1. สร้างบรรยากาศห้องนอนใหม่ ห้องนอนที่ดีควรเงียบไม่มีเสียงรบกวน อุณหภูมิห้องต้องเย็นพอดีและอย่าใช้แสงสว่างจ้าจากหลอดไฟยามดึก เลี่ยงการใช้มือถือหรือแท็บเล็ตก่อนนอน เพราะแสงสีฟ้าจะทำให้ระดับเมลาโทนินลดลงไปอยู่ระดับเดียวกับช่วงกลางวัน ซึ่งจะทำให้ตาสว่างและนอนหลับยาก
    
2. ผ่อนคลายตัวเองก่อนนอนสัก 1-2 ชั่วโมง ลองผ่อนคลายกล้ามเนื้อโดยการหายใจเข้ายาวๆ ลึกๆ และค่อยๆ ปล่อยลมหายใจออกอย่างช้าๆ พยายามให้สติกำหนดอยู่กับลมหายใจ เลิกคิดถึงปัญหา เลิกเรื่อยเปื่อย บอกกับตัวเองว่านี่คือเวลานอนพักผ่อน
    
3. ทานอาหารที่มีแมกนีเซียมสูง ลองทานอาหารที่มีแมกนีเซียมสูงอย่างเช่น ถั่ว เมล็ดธัญพืชต่างๆ อะโวคาโด กล้วย นมถั่วเหลือง เต้าหู้ และปลาทูน่า เพราะถ้าร่างกายขาดแมกนีเซียมจะส่งผลต่อระบบประสาทและสมองที่ช่วยในการนอนหลับ งดทานเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนนอน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม เพราะจะทำให้ระบบประสาทตื่นตัวและนอนไม่หลับ
    
4. แช่เท้าในน้ำอุ่นก่อนนอน วิธีธรรมชาติและเสริมสุขภาพที่ดี เพียงแช่เท้าในน้ำที่อุณหภูมิประมาณ 40-50 องศาเซลเซียส แล้วใช้ฝ่ามือถูนวดบริเวณเท้าไปด้วยเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดก็จะช่วยคลายความอ่อนล้า ลดภาวะเครียดของสมอง ทำให้หลับสบายขึ้น
    
5. กลิ่นลาเวนเดอร์ช่วยบำบัด กลิ่นหอมจากสมุนไพรธรรมชาติที่สกัดออกมาเป็นน้ำมันหอมระเหย จะช่วยให้รู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย ลดปฏิกิริยาทางกายที่มีต่อความเครียด น้ำมันหอมระเหยมีหลายชนิดให้เลือกใช้ตามความต้องการ แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับ แนะนำให้ใช้น้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ ซึ่งช่วยให้นอนหลับง่าย ปรับอารมณ์ให้เกิดความสมดุลและจิตใจสงบ
    
6. ปรับอุณหภูมิและเครื่องฟอกอากาศ เพื่อให้การนอนหลับมีความสบายมากขึ้น ควรปรับอุณหภูมิห้องให้อยู่ระหว่าง 17-25 องศาเซลเซียส อีกทั้งการใช้เครื่องฟอกอากาศในห้องนอนจะช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้สมดุล และยังช่วยกำจัดสารก่อภูมิแพ้ที่มีอนุภาคเล็ก ซึ่งเป็นอีกวิธีที่จะทำให้นอนหลับลึกได้ต่อเนื่อง
    
7. นอนให้เป็นเวลา พยายามนอนให้เป็นเวลาเดียวกันทุกคืนจนเป็นกิจวัตร ร่างกายก็จะปรับตัวและเคยชินจนทำให้หลับได้ตามเวลานั้นๆ

หวังว่าเคล็ดลับดีๆ เหล่านี้จะช่วยให้คุณนอนหลับง่ายขึ้นไม่มากก็น้อยนะครับ เพราะยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่ทำให้นอนหลับยาก แต่ถ้าใครที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับมากๆ แนะนำให้ลองไปปรึกษาคุณหมอดีกว่า เพราะบางครั้งการที่นอนไม่หลับอาจมีสาเหตุมาจากโรคที่แอบแฝงอยู่ก็ได้...