ท่องนิวยอร์ค ในมุมมองนักปั่นจักรยาน   Create Date : 16 มิถุนายน 2555     0 comment Last Update : 16 มิถุนายน 2555 23:15:24 น.     Counter : 2272 Pageviews.   Share Tweet

สุดเจ๋ง รีมิกซ์เสียงหมาเห่า เป็นเพลงได้อย่างลงตัว   Create Date : 16 มิถุนายน 2555     0 comment Last Update : 16 มิถุนายน 2555 23:14:28 น.     Counter : 3147 Pageviews.   Share Tweet

Sauber F1 Team จัดหนักผ่ารถ F1 ขาดครึ่ง อวดเครื่องใน   Create Date : 16 มิถุนายน 2555     0 comment Last Update : 16 มิถุนายน 2555 23:13:10 น.     Counter : 1579 Pageviews.   Share Tweet

7 สิ่งก่อสร้างสุดสันโดษที่ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริง เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก oddee.com บางครั้งเราอาจจะเคยอ่านนิยายหรือดูภาพยนตร์ที่มีบ้านเดี่ยวสุดสยองตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลหรือป่าลึกตามลำพัง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร เพราะมันเป็นเพียงแค่เรื่องสมมุติเท่านั้น แต่ใครจะคิดล่ะว่า ชีวิตจริงจะมีคนรักความเงียบสงบมากพอจะไปใช้ชีวิตสันโดษในที่ห่างไกลผู้คนและความเจริญอย่างบ้าน 7 หลังที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งจะมีบ้านแบบไหนบ้างนั้น ลองไปดูกันเลย 1. บ้านเดี่ยวบนเกาะ Elliðaey             เกาะ Elliðaey นั้นเป็นหนึ่งในเกาะของหมู่เกาะ Vestmannaeyjar ประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งไม่มีใครอยู่และมีบ้านเพียงหลังเดียวเท่านั้น ซึ่งบ้านนี้สร้างขึ้นเพียงเพื่อใช้เป็นที่เก็บของหลังล่าสัตว์ของผู้ปกครองเมืองท้องถิ่นเท่านั้น ไม่มีใครอาศัยอยู่ ทั้งนี้ ในอดีตนายกรัฐมนตรีของไอซ์แลนด์เคยจะมอบเกาะแห่งนี้ให้เป็นรางวัลแก่ Björk นักร้องสาวที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศด้วย แต่สุดท้ายโครงการนี้ก็ต้องล้มเลิกไปเพราะเสียงคัดค้านของประชาชน 2. กระท่อมบนภูเขาแมตเตอร์ฮอร์น             หลาย ๆ คนอาจอยากมีบ้านบนภูเขาที่เงียบสงบไว้ให้ตัวเองได้พักผ่อนใกล้ชิดกับธรรมชาติบ้าง แต่คงมีน้อยคนที่ฝันอยากได้บ้านแบบนี้แน่ โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคกลัวความสูง เพราะบ้านซึ่งสมาคมเทือกเขาเอลป์สร้างขึ้นหลังนี้ อยู่บนภูเขาแมตเตอร์ฮอร์นซึ่งเป็นภูเขามีชื่ออยู่ในเทือกเขาเอลป์ที่หนาวจนแทบขาดใจ แถมตัวบ้านยังอยู่สูงถึง 4,003 เมตร บนหินชันน่าหวาดเสียวที่ต้องอาศัยทักษะการปีนเขาดี ๆ อีกต่างหาก (กว่าจะปีนกลับบ้านได้คงเหนื่อยน่าดู) 3. บ้านกลางแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์             ดูท่าเจ้าของบ้านหลังนี้จะรักความสงบและธรรมชาติมากจริง ๆ จึงได้เลือกสร้างบ้านไว้กลางแม่น้ำแบบนี้ เพื่อจะได้ผ่อนคลายเต็มที่โดยปราศจากเสียงรบกวน และชมวิวสวย ๆ ได้ทุกวัน ซึ่งเขาก็ได้ตั้งชื่อบ้านว่า "Just Room Enough" หรือที่หมายความว่าขนาดพอเหมาะนั่นเอง ที่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อของบ้านก็สมกับขนาดกะทัดรัดอย่างที่เราเห็นจริง ๆ นั่นแหละ 4. อาศรม San Colombano             โดยอาศรมที่ตั้งอยู่ในแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี แห่งนี้ มีอายุเก่าแก่เกือบ 700 ปี และอยู่บนหุบเขาเลโนที่ความสูง 120 เมตร โดยตั้งชื่อตามชื่อของนักบวชชาวไอริช ซึ่งมีตำนานเล่าขานว่าแต่เดิมที่ตรงนี้เป็นหุบเขาที่มังกรอาศัยอยู่และจับเด็ก ๆ ไปกินจนชาวบ้านเดือดร้อนกันไปทั่ว ซึ่งภายหลังนักบวชก็ได้ฆ่ามังกรตัวนี้เพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน ประชาชนจึงได้สร้างอาศรมแห่งนี้ตามชื่อของเขาขึ้นแทนที่ถ้ำมังกรเพื่อเป็นการขอบคุณ ซึ่งถ้าใครสนใจอยากจะไปเยียมชมอาศรมแห่งนี้สักหน่อย ก็สามารถเข้าไปได้จากการเดินขึ้นบันไดหินที่สลักเอาไว้ 5. อารามศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 ของประเทศกรีซ อารามศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 นี้ เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างของ Meteora อารามศักดิ์สิทธิ์ดั้งเดิมของประเทศกรีซ โดยสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1476 บนภูเขาสูงถึง 400 เมตร ซึ่งในอดีตเคยใช้วิธีเดินทางด้วยการใช้บันไดตาข่ายปีนข้ามไป แต่ในปัจจุบันได้มีการสลักบันไดหินให้นักท่องเที่ยวใช้กันแล้ว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันที่นี่ไม่อาจเรียกว่าสมบูรณ์เหมือนสมัยก่อนได้ เพราะมีทรัพย์สินมากมายหายไป หลังถูกขโมยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 6. บ้านกลางเกาะเมืองสวีเดน             ถ้าคุณเป็นคนรักสงบที่อยากได้บ้านพักตากอากาศริมทะเลสวย ๆ สักที่ คุณคงต้องอิจฉาเจ้าของบ้านหลังนี้แน่นอน เพราะเขาเป็นเจ้าของบ้านซึ่งมีอยู่หลังเดียวบนเกาะใกล้เมืองสต๊อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ซึ่งบ้านหลังนี้มีทุกอย่างครบพร้อมสำหรับการพักผ่อน ทั้งวิวสวย ๆ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนั่งแขก ห้องเซาว์น่า และอีกมากมาย ในพื้นที่ 137 ตารางเมตร เรียกได้ว่า สมบูรณ์แบบจริง ๆ 7. Katskhi Pillar โบสถ์แห่งแรกในรัฐจอร์เจีย             หลังจากที่รัฐจอร์เจีย ได้ประกาศให้ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำรัฐในศตวรรษที่ 4 ก็ได้ดำเนินการสร้างโบสถ์แห่งแรกเป็นลำดับต่อมาในศตวรรษที่ 7 ซึ่งนั่นก็คือ โบสถ์ Katskhi Pillar แห่งนี้นั่นเอง โดยโบสถ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนเขารูปร่างคล้ายตะบองของยักษ์ซึ่งมีความสูงถึง 40 เมตร ซึ่งถ้าสาว ๆ คนไหนอยากลองไปเที่ยวสักครั้งก็คงต้องเสียใจด้วย เพราะที่นี่ไม่อนุญาติให้ผู้หญิงขึ้นมาบนเขาจ้ะ พออ่านดูแล้วก็รู้สึกว่าการสร้างบ้านแบบที่ห่างไกลผู้คนก็ดีไปอีกแบบ เพราะช่วยให้ความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบดี แต่ก็ต้องทนกับการเดินทางที่แสนลำบากด้วยเหมือนกัน ดังนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนแล้วล่ะว่าชอบบ้านในเมือง หรือบ้านแบบสันโดษมากกว่ากัน   Create Date : 16 มิถุนายน 2555     0 comment Last Update : 16 มิถุนายน 2555 23:11:15 น.     Counter : 2696 Pageviews.   Share Tweet

เพื่อสุขภาพช่องปาก ต้องรู้จักใช้แปรงสีฟันอย่างถูกวิธี เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม เรื่องของการแปรงฟัน ถือเป็นสุขอนามัยอีกประการหนึ่งของคนเราที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากไม่ดูแลฟันให้สะอาดอย่างดีแล้ว จะส่งผลด้านแย่ ๆ ตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพฟัน ปัญหาช่องปากต่าง ๆ รวมถึงเรื่องของกลิ่นปากที่ถ้ารุนแรงมาก ๆ อาจจะไม่มีใครอยากคบกับคุณอีกเลยก็เป็นได้ ถ้าไม่อยากให้เรื่องแย่ ๆ เหล่านั้นเกิดขึ้นกับคุณ เรื่องของการใช้แปรงสีฟันอย่างถูกวิธี ก็จำเป็นอย่างมากที่ต้องใส่ใจพอสมควร ด้วยเหตุนี้เราจึงขอแนะการใช้แปรงสีฟันที่ถูกวิธีมาฝากให้คุณผู้อ่านให้รับทราบกัน ซึ่งจะต้องแปรงยังไงให้ถูกวิธีนั้น เลื่อนเม้าส์ตามมาอ่านกันได้เลยครับผม.. แปรงฟันอย่างน้อย 2 - 3 นาทีต่อครั้ง หากตามหลักทั่วไปแล้ว คนเราควรแปรงฟันอย่างน้อยครั้งละ 2 - 3 นาที แต่บางครั้งด้วยไลฟ์สไตล์ที่รีบเร่ง ก็ทำให้เราลดเวลาแปรงกันเหลือเพียง 1 นาทีหรือครึ่งนาที อย่างเช่นในตอนเช้าที่หลายคนรีบไปทำงาน ก็จะรีบแปรงฟันเพื่อจะได้ไปทำอย่างอื่นได้ต่อ แต่ความจริงแล้ว ในตอนเช้าควรเป็นเวลาที่เราควรทำความสะอาดฟันให้มากที่สุด เพราะมีแบคทีเรียสะสมอยู่ในช่องปากตลอดทั้งคืนที่เรานอน และเพื่อสร้างความสดชื่น มั่นใจต้อนรับวันใหม่ ๆ ด้วย ไม่แปรงฟันบ่อยจนเกินไป หลายคนเข้าใจผิดว่า การแปรงฟันบ่อย ๆ จะทำให้ฟันสะอาดและมีสุขภาพดีมากขึ้นกว่าเดิม แต่ความจริงแล้ว ผู้ใหญ่หรือแม้กระทั่งเด็กก็ควรแปรงฟันวันละ 2 ครั้งคือ ตอนเช้าและก่อนเข้านอน จะเหมาะสมกว่า เพราะการแปรงฟันบ่อย ๆ อาจส่งผลกระทบต่อรากฟัน ซึ่งนำมาสู่อาการระคายเคืองผิวฟันได้ เลือกขนาดแปรงสีฟันให้เหมาะสม การเลือกแปรงสีฟันให้เหมาะกับช่องปากของเราเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คุณควรพิจารณาว่า แปรงสีฟันแบบไหน รุ่นใด ที่จะเหมาะกับขนาดปากของคุณ หรือ ควรพิจาณาด้ามแปรงที่จับได้ถนัด ๆ อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้น ได้มีการผลิตแปรงสีฟันไฟฟ้าวางขายตามท้องตลาด นั่นก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้คุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เปลี่ยนแปรงสีฟันใหม่ทุก ๆ 3 - 4 เดือน แปรงสีฟันเป็นสิ่งที่คนเราต้องใช้เป็นประจำทุกวัน และทุกครั้งหลังใช้เสร็จ เราต้องมีการทำความสะอาดอย่างถูกวิธี เพราะไม่เช่นนั้น แปรงสีฟันของคุณอาจเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคที่จะเข้าสู่ร่างกายคุณได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ควรมีการเปลี่ยนแปรงสีฟันใหม่ทุก ๆ 3 - 4 เดือน หรืออาจจะก่อนหน้านั้นก็ได้ หากคุณเห็นว่าขนแปรงของคุณเริ่มเสื่อมสภาพ เลือกขนแปรงที่เหมาะสม การเลือกขนแปรงสีฟันก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน หากขนแปรงแข็งเกินไป จะทำให้สุขภาพเหงือกแย่ลง อาจมีเลือดออกตามไรฟันได้ง่าย ดังนั้น ควรใช้แปรงสีฟันชนิดที่มีขนอ่อนนุ่ม ขนแปรงปลายมน และแน่นอนว่าสามารถแทรกซอนลึกทำความสะอาดเศษอาหาร คราบแบคทีเรียบนผิวฟันได้ทั่วถึงและสะอาดหมดจด โดยไม่กระทบกระเทือนต่อสุขภาพฟัน เรียนรู้การแปรงฟันที่ถูกวิธี หลายคนมองว่า การแปรงฟันเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ทุกคนก็ทำได้ แต่ทำได้และทำถูกวิธีนั้นต่างกัน ทุกวันนี้คุณแน่ใจหรือไม่ว่าคุณแปรงฟันถูกวิธีแล้ว ดังนั้นการศึกษาขั้นตอนการแปรงฟันที่ถูกวิธีเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามได้เช่นกัน เพราะการแปรงฟันแรงเกินไปหรือแปรงฟันไม่ถูกวิธีนั้น เป็นสาเหตุให้เกิดโรคเหงือกและฟันได้ง่าย ซึ่งมีผลมาจากการแปรงฟันที่ไม่ทั่วถึงและไม่ซอกซอนทำความสะอาดได้เพียงพอนั่นเอง แปรงฟันให้ทั่วถึงทั้งช่องปาก บางครั้งหากเราแปรงฟันด้วยความรีบเร่งมากเกินไป อาจทำให้เราทำความสะอาดฟันได้ไม่ทั่วถึง แม้เพียงการละเลยการแปรงในบางส่วนไป จะก่อให้เกิดการฝังลึกของเศษอาหารและคราบแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุให้ลมหายใจไม่สดชื่นหรือมีกลิ่นปากนั่นเอง ทำความสะอาดแปรงสีฟันทุกครั้งหลังใช้เสร็จ หลังจากแปรงฟันทุกครั้ง ต้องบ้วนปากและล้างแปรงด้วยน้ำเปล่าให้สะอาดอยู่เสมอ เพราะเชื้อแบคทีเรียสามารถเติบโตได้ในแปรงสีฟันที่ไม่ได้รับการล้างทำความสะอาดอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ยังช่วยล้างเศษอาหารที่ติดอยู่กับขนแปรงออกไปเตรียมพร้อมสำหรับการใช้ครั้งต่อไปด้วย เลือกยาสีฟัน การเลือกยาสีฟันก็เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องด้วยปัจจุบันมียาสีฟันที่ผลิตออกมามากมายหลากหลายสูตรและมีส่วนผสมต่าง ๆ ที่ให้ผู้ใช้ได้เลือกหาให้เหมาะกับสภาพปากของเรา ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสมจากวิตามินซี และชาเขียว ช่วยให้สุขภาพฟันของคุณแข็งแรง หรือสูตรผสมเกลือ ลดอาการเสียวฟัน ต่าง ๆ นานา ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็ต้องดูให้เหมาะสมว่า สุขภาพปากและฟันของเราตอนนี้ต้องการยาสีฟันสูตรไหนที่ใช้แล้วลงตัว ทำให้สุขภาพเหงือกและฟันของเราแข็งแรง ทำความสะอาดลิ้นเป็นประจำ ปัจจุบันมีแปรงสีฟันที่ออกแบบมาเพื่อทำความสะอาดฟันควบคู่ไปกับลิ้นด้วย เพราะถึงแม้เราจะทำความสะอาดฟันสะอาดเท่าไหร่ก็ตาม แต่อาจมีเชื้อแบคทีเรียหรือเศษอาหารฝังอยู่ที่ลิ้น นี่เองก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีกลิ่นปากได้โดยไม่รู้ตัว รู้วิธีการใช้แปรงสีฟันอย่างถูกวิธีแบบนี้แล้ว ใครที่ยังแปรงผิด ๆ อยู่ หรือละเลยเรื่องสุขภาพช่องปากเป็นประจำก็ลองนำไปปรับใช้กันสักหน่อยนะครับ อย่างน้อย ๆ ก็เพื่อให้ช่องปากของคุณสะอาด และสามารถพูดกับคนอื่น ๆ ได้อย่างมั่นใจเต็มร้อยต่อไปนะครับ   Create Date : 16 มิถุนายน 2555     0 comment Last Update : 16 มิถุนายน 2555 23:10:41 น.     Counter : 2498 Pageviews.   Share Tweet