ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

น้ำประปาดื่มได้... แต่ทำไมไม่กล้าดื่มอ่ะ!!




                                มื่อตอนที่เจ้าของกระทู้ยังเรียนอยู่ประถม(โอ้ยย นานมาก) สโลแกน "น้ำประปาดื่มได้" ก็
เริ่มผุด และก็ยิงยาวมาจนถึงทุกวันนี้ แต่เชื่อว่าหลายคนไม่ว่าจะเด็ก
หรือผู้ใหญ่ก็คงมีความรู้สึกเดียวกันว่า ถ้าเลือกได้ก็ไม่กิน
ยอมเสียตังค์ไปซื้อดีกว่า ด้วยหลายเหตุผลว่าไม่กล้ากินเพราะมีคลอรีน
หรืออาจจะกลัวไม่สะอาด 



                              


                        ถ้า
ย้อนไปช่วงน้ำท่วม ที่น้ำเปล่าขาดตลาด จนไม่รู้จะไปเอาน้ำที่ไหนมากินแล้ว
หลายฝ่ายก็ออกมาหาวิธีแก้ไข ทำให้เราได้ยินกับประโยคที่ว่า "น้ำประปาดื่มได้" อีก
ครั้ง แต่สภาพน้ำประปาในกรุงเทพตอนนั้น ทั้งมีสี มีกลิ่น
เรียกได้ว่าทำคนใช้จิตตกไปเลยก็มี
แค่จะอาบน้ำแปรงฟันก็รู้สึกไม่กล้าใช้แล้ว จะกินลงได้ยังไง
แต่เค้าก็ยังยืนยันมาอยู่ดีว่า น้ำที่ผลิตออกมา
ได้มาตรฐานองค์การอนามัยโลกเหมือนเดิม
(ปัจจุบันสภาพน้ำประปากลับมาเป็นปกติแล้ว)
แต่เชื่อว่าหลายคนก็ยังมีคำถามค้างคาใจมานาน ว่าจริงๆ
แล้วน้ำประปาที่เค้าว่ามันดื่มได้เนี่ย ดื่มได้จริงมั้ย
สะอาดและปลอดภัยจริงๆ รึป่าว

           ถ้าสงสัยกันขนาดนี้ลองไปดูขั้นตอนการผลิตน้ำประปากันเลยดีกว่า



                                 


                                 


               น้ำ
ประปาที่ผลิตจากการประปานครหลวงมีหลายขั้นตอน
จนทำให้น้ำที่ออกมาได้มาตรฐานน้ำดื่มขององค์การอนามัยโลก ขั้นตอนที่ว่านั้น
เริ่มตั้งแต่
               1.การสูบน้ำดิบจากแหล่งน้ำธรรมชาติ น้ำ
ดิบที่ว่าไม่ใช่ว่าจะไปเอาน้ำเน่าจากคลองที่ไหนมาก็ได้นะ
เพราะแหล่งน้ำดิบที่ว่าจะมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ หรือแหล่งน้ำที่จัดหาไว้
และจะควบคุมคุณภาพน้ำดิบอยู่เสมอ
                2.ขั้นตอนปรับปรุงคุณภาพน้ำดิบ เป็น
ขั้นตอนการตกตะกอน กำจัดพวกจุลินทรีย์และสิ่งปนเปื้อนออกไป
ด้วยการใส่สารส้มและปูนขาว ขั้นตอนนี้จะทำให้ตะกอนเล็กๆ
ไม่สามารถเนียนไปกับน้ำได้ น้ำด้านบนจึงเป็นน้ำที่ใสสะอาด
ซึ่งสารส้มและปูนขาวยังช่วยปรับค่าความเป็นกรด-ด่างของน้ำดิบได้อีกด้วย
               3.กรองอีกครั้ง เอาสิ่งปนเปื้อนที่เล็กมากๆๆๆๆ ออกอีกครั้ง ด้วยทรายกรอง และกรวดกรอง ที่นี้ก็จะได้น้ำที่ใสสะอาดจริงๆ แล้ว                4.ฆ่าเชื้อโรคด้วยการใส่คลอรีน ซึ่ง
จะใส่ในปริมาณที่พอเหมาะ
ยืนยันมาแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายด้วย
หลังจากนั้นก็จะมีการควบคุมคุณภาพน้ำประปาอีกครั้งก่อนแจกจ่ายมาให้พวกเรา
ใช้ ดังนั้นจึงรับรองได้ว่าสะอาด ปลอดภัยแน่ๆ
           
              
สรุปแล้วในทุกๆ
ขั้นตอนผู้ผลิตใส่ใจในเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยมากทีเดียว
คอยตรวจสอบทั้งสารเคมี คลอรีน
หรือพวกเชื้อโรคที่อาจจะมาเจือปนอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว
หุหุ



                







อย่างประเทศสิงคโปร์เป็นอีกประเทศที่น้ำเปล่าแพงมาก
ดังนั้นเค้าก็กินน้ำประปากัน ประหยัดค่าใช้จ่าย
ส่วนคนไทยไม่ค่อยกล้ากินน้ำประปา ปัญหาหลักอย่างนึงคือ น้ำไม่แพง
หาซื้อง่าย เลยไม่ลำบากอะไร อีกอย่างนึง คือ กลัวคลอรีน
เพราะไม่รู้ว่าจะอันตรายแค่ไหน
             
แม้คลอรีนจะเป็นสารที่มีกลิ่นแรงจนน่ากลัว แต่ในกระบวนการผลิตน้ำประปา
คลอรีนเป็นสารฆ่าเชื้อที่นิยมใช้ทั่วโลก เพราะฆ่าเชื้อโรคได้ดี
ที่สำคัญการผลิตน้ำประปาจะใช้คลอรีนในปริมาณที่น้อยมาก
(อย่าไปนึกคลอรีนในสระว่ายน้ำ)
ดังนั้นจึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ค่ะ


                             
               แต่
ถ้าใครกลัวเรื่องกลิ่นแรงๆ ก็แก้ไขได้ง่ายสุด แค่เอาไปต้มให้เดือด
หรือใช้เครื่องกรองก็ได้ แต่ถ้าใครยังคิดว่ายังยุ่งยากอยู่
ก็เปิดออกจากก๊อกแล้วตั้งทิ้งไว้ 15 นาที
 แค่นี้กลิ่นคลอรีนก็หายไปแล้ว สามารถดื่มได้เหมือนน้ำเปล่าปกติเลยค่ะ เริ่ดมาก


                                         


               เห็นขั้นตอนการผลิตน้ำ
ประปาขนาดนี้แล้วก็เชื่อแล้วล่ะค่ะว่า "น้ำประปาดื่มได้"
จริงๆ เดี๋ยวไปบอกแม่ให้รองน้ำมากินมั่ง จะได้ประหยัดตังค์ที่บ้าน ฮ่าๆ     แต่เพื่อนๆในโพสท์จังเนี่ย  คิดอย่างไงกะน้ำประปาบ้านเรากันมั่ง   เล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ



                                      


ข้อมูลดีๆจาก......เด็กดี.คอมฯค่ะ


Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2555 18:00:26 น. 1 comments
Counter : 4345 Pageviews.  

 
เข้ามาเยี่ยมชมครับ ^^


โดย: Sahassa วันที่: 18 มีนาคม 2555 เวลา:6:09:51 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

tukdee
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 51 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add tukdee's blog to your web]