ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

เรื่องกล้วยๆ ช่วยคุณได้

                                 


Oh!! Bananas


         กล้วย..คือ
ผลไม้ที่หลายคนมักมองข้าม โดยเฉพาะสาวๆที่ส่วนใหญ่จะสนใจแต่พวก แอปเปิ้ล
เชอรี่ บูลเบอรี่ สตรอเบอรี่ ราสเบอรี่ (ตระกูลรี่ๆเนี่ยชอบกันจัง)
จนลืมคิดไปว่าผลไม้ที่ดูบ้านๆนั้นมัประโยชน์มหาศาลขนาดไหน
มากกว่าภาพลักษณ์ที่แสนจะธรรมดาของมันหลายเท่า ถ้ากล้วยไม่เจ๋งจริง พ่อ
แม่คงไม่ใช้บดแล้วป้อนเรามาตั้งแต่แบเบาะหรอก
(เรียกได้ว่าเป็นซีรีแล็ครุ่นออริจินอลเลยก็ว่าได้) เอาเป็นว่า
เดียวเราไปทำความรู้จักเจ้ากล้วยผลไม้พื้นบ้านไทยเรามากกว่านี้ดีกว่า
รับรอง..ถ้าได้อ่านสรรพคุณแล้ว ทุกคนจะต้องวิ่งไปหลังบ้าน(สวนกล้วย)
ใช้มีดพร้าตัดลงมาเสว่ยกันแน่นอน
ถึงจะมีมดคันไฟสร้างรังอยู่ตกลงมากัดจนหน้าบวมก็ไม่หวั่น
ขอแค่ได้สุขภาพที่ดีก็ดีแล้วล่ะ เอามาทำกล้วยบวชชีก็ไม่เลวนะเออ..



                 สายพันธุ์กล้วยที่เรารู้จักส่วนใหญ่จะมีอยู่ 3 สายพันธุ์ ที่เราคุ้นชื่อกันดี เช่น





                                              


      1.) กล้วยหอม


           
ขอเริ่มต้นด้วยกล้วยใบใหญ่ที่กินแค่ใบเดียวอาจถึงกับจุก
(คนกระเพาะไม่ใหญ่) "กล้วยหอม" เรียกได้ว่าเป็นราชากล้วยเลยก็ว่าได้
เชื่อว่าหลังบ้านทุกคน ที่เราใช้ใบของมันมาทำกระทงอ่ะ อันนั้นแหล่ะ
กล้วยหอมเป็นผลไม้ที่เต็มเปี่ยมได้วยพลังงาน
เพราะได้รับการวิจัยออกมาแล้วว่า กล้วยหอม 2 หวี
สามารถให้พลังงานเพียงพอนานถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง (ว้าวๆๆๆ
เหมาะกับสาวไดเอตเอาเป็นเอาตายอย่างเรา) ด้วยองค์ประกอบที่มีน้ำตาลอยู่ 3
ชนิด คือ ซุคโตส ฟรุคโตส และกลูโคส รวมถึงเส้นใยอาหารอีกมากมาย
ทุกอย่างคือพลังงานที่ร่างกายสามารถเอาไปใช้ได้ทันทีหรือใครที่เสี่ยงจะเกิด
ปัญหาสุขภาพ ควบคุมน้ำหนัก
กล้วยหอมยังมีสารอาหารที่มีทีเด็ดมาฝากเป็นเคล็ดลับอีกด้วย



      โรคซึมเศร้า - จาก
การส่มตัวอย่าง พบว่าผู้ป่วยที่มีอาการซึมเศร้า
จะรู้สึกสดชื่นเมื่อได้กินกล้วยหอม เพราะมันมีกรดอะมิโนโปรตีนชนิดหนึ่ง
ที่แปลงเป็นสารกระตุ้นทำให้ร่างกายผ่อนคลาย
(ใครที่อกหักแนะนำให้กินซักใบอาจรู้สึกดีขึ้น ลืมหน้าแฟนไปได้ทันที 555+)



      อาการก่อนมีประจำเดือน - ผู้หญิง
หลายคนคงซึ้งดีว่า..ก่อนวันมามากมักเกิดความรู้สึกหงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน
ไม่อยากเจอหน้าแฟนเลย ยิ่งหน้าแฟนไม่หล่อยิ่งอยากอ้วกใส่ตรงนั้น 555+
สภาวะในร่างกายเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันทั้งปวดท้อง ปวดหัว ปวดหลัง
ลองกินกล้วยหอมดูสิ แล้วจะรู้ว่ายาแก้ปวดไม่ได้สำคัญอะไรเลย



       โรคโลหิตจาง - ธาตุ
เหล็กในกล้วยหอมสามารถกระตุ้นร่างกายให้ผลิตฮีโมโกลบินในกระแสเลือด
ซึ่งจะช่วยเบรกภาวะโลหิตจางได้ ยิ่งถ้ากินครั้งละคำสองคำทุกสองชั่วโมง
จะช่วยลดการอยากกินขนมจุกจิก
ขนมพวกนี้ซึ่งเป็นเพื่อนรักที่เดินควบคู่มากับความอ้วนได้



       ความดันโลหิต - ด้วย
ความที่กล้วยหอมมีเกลือโปแตสเซียมเหลืองผสมอยู่พอสมควร
ซึ่งจะเป็นตัวช่วยลดความดัน อ๊ะ !! อันนี้ไม่ได้มั่วนะ
เพราะขนาดองค์การอาหารและยาหรือ (อ.ย) ของอเมริกาเขายังการังตีเลย



       เพิ่มพลังสมอง - ถ้า
กำลังรู้สึกหัวสมองตื้อๆตันๆ นับวันจะเหมือนคนโง่
ที่ประเทศอังกฤษเค้าทดสอบแล้ว
และยังมีนักเรียนจำนวนเป็นร้อยยืนยันอีกว่า...ที่พวกเขาสอบผ่านเพราะได้รับ
การกินกล้วยหอมเป็นอาหารเช้า และหม่ำเสริมอีกนิดหน่อยในตอนเที่ยง
เพียงเท่านี้ก็ทำให้รอยหยักในสมองตื่นตัวได้แล้วล่ะ



       โรคท้องผูก - อย่าง
ที่รู้ๆกันว่าในกล้วยหอมมีเส้นใยอาหารมหาศาล
แล้วจะมั่วนั่งเบ่งให้หน้าเขียวก็ไม่ออกอยู่ทำไม
คนที่จะเข้าห้องน้ำต่อจากเธอเขาคงถีบประตูเร่งเธอจนหน้าเสียเลยล่ะ 555+
(พูดซะเห็นภาพเชียว) กล้วยหอมสักลูกสิ แก้ปัญหานี้ได้ ปัญหาท้องผูกท้องเสีย
จัดการได้



       โรคในช่องท้อง -
เพราะกล้วยหอมมีสารกรดตามธรรมชาติ เพราะฉะนั้น
มันจะช่วยลดอาการจุกเสียดแน่นท้องได้เป็นอย่างดี
แถมเส้นใยต่างๆก็จะช่วยเคลือบผิวกระเพาะ
ลดการเป็นแผลในลำไส้และกระเพาะได้อีกด้วย ราวกับกินอีโน






                                                          


       2.) กล้วยไข่


            
ส่วนเจ้ากล้วยที่ดูด้อยค่าอย่าง "กล้วยไข่"
จะบอกให้ว่าประโยชน์ของมันไม่ได้เล็กตามขนาดไปด้วยหรอก
เพราะในกล้วยไข่อัดแน่นไปด้วยสารอาหาร
โดยเฉพาะแคโรทีนและวิตามินซีที่พบในแครอท
ผักต่างๆ ซึ่งจะช่วยปกป้องกันมะเร็งบางชนิด
แถมยังมีแคลเซียมมากพอที่จะป้องการโรคกระดูกพรุน ยังไม่หมด
กล้วยไข่ยังมีโปรตีน ฟอสฟอรัส เหล็ก และวิตามินเอ
ป้องกันอาการเลือดออกตามไรฟัน และช่วยไม่ให้ท้องผูก
ยิ่งถ้าที่บ้านมีคุณตาคุณยาย
พวกท่านจะรู้ดีว่าชาวบ้านมักใช้ยางก้านกล้วยมาห้ามเลือดหรือถ้าใช้รากกล้วย
ไข่มาหั่นแล้วตากแห้ง ชงกินครั้งละ 1 ช้อนชา วันละสองเวลาเช้า-เย็น
ก็จะช่วยป้องการโรคโลหิตจางได้อีกด้วย






                                                       





       3.) กล้วยน้ำว้า


           
กล้วยสายพันธุ์นี้จะหอมมากเป็นพิเศษ
พันธุ์นี้แหล่ะที่เขานิยมเอาไปทำกล้วยบวชชี
อาหารหวานไทยๆที่ให้ฝรั่งตาน้ำข้าวชิมจนต้องร้อง โอ้!! อเมซิ่ง
นอกจากความอร่อยแล้ว แต่ในขณะเดียวกัน
ทุกคนคงคิดว่ากล้วยน้ำว้าคงสู้ประโยชน์เท่ากล้วยหอมไม่ได้ อ๊ะๆๆ ผิดล่ะค่ะ
มา จะบอกให้ กล้วยน้ำว้าเนี่ย มีทั้งแคลเซียม วิตามิน ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส
(และอื่นๆอีกมากมายที่ไม่อาจสาธยายหมด) ซึ่งประโยชน์ไม่แพ้กล้วยหอมเลยนะ
มีสรรพคุณทางยาทั้งผลดิบและสุก สำหรับผลดิบ แน่นอน มันมีรสฝาด
แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือมีสารแทนทิน ใช้รักษาอาการท้องเสีย ขั้นตอนก็ง่ายๆ
แค่นำมาหั่นทั้งเปลือกแล้วเอาไปตากแห้ง
เสร็จแล้วก็บดเป็นผงเพื่อชงกับน้ำร้อน หรือจะปั้นเป็นเม็ดก็ได้ ส่วนผลสุก
ใครที่มีปัญหาขับถ่าย ให้กินวันละ 2-3 ผล วันละสองเวลาเช้า-เย็น (ตามเดิม)
แต่ต้องกินต่อเนื่องเป็นเวลา 7-10 วันนะ
รับรองว่าจะช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี และในผลสุกยังมีสารเพคติน
ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารให้หายดีเร็วขึ้น
ยิ่งถ้ากินเป็นประจำจะช่วยบำรุงกระดูก ลดอาการเลือดออกตามไรฟัน
ลดอาการเจ็บคอ เจ็บหน้าอก เพราะอกหัก (เกี่ยวไหมเนี่ย)
บำรุงผิวพรรณให้ดูสวยเปล่งปลั่ง
(เคยได้ยินว่ากินกล้วยน้ำว้าก่อนแปลงฟันทุกวันจะช่วยให้ไม่มีกลิ่นปาก
จริงหรือเปล่าอ่ะ ไม่รู้สิ เดียวลิลลี่ลองเอาไปทำดูนะ แล้วจะมาบอก)






       
เมื่อเห็นประโยชน์มากมายของผลไม้เหลืองๆนี้แล้ว
คงทำให้หลายคนที่เคยคิดว่า...กล้วยเป็นอาหารคนจน ไร้รสนิยม บร้า ใครบอก
ถ้าคุณแก่แล้วฟันหล่นไม่เหลือสักซี่ จะรู้ซึ้ง ว่ามันดีขนาดได้
ลองกินดูนะค่ะ



Create Date : 02 มีนาคม 2555
Last Update : 2 มีนาคม 2555 15:33:04 น. 0 comments
Counter : 1464 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

tukdee
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 51 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add tukdee's blog to your web]